INFINITY #1

Infinity #1

อนันตภัยมหาสงครามเอกภพ 

เรื่อง : Jonathan Hickman

ภาพ : Jim Cheung

วางจำหน่าย : 14 สิงหาคม 2013

สำนักพิมพ์ : Marvel Comics

   

 

จักรวาลตกอยู่ในอันตราย ในยามที่พวกเขาแข็งแกร่งที่สุด

โลกกำลังจะถูกทำลาย ในยามที่พวกเขาไม่ทันตั้งตัว

มหาสงครามกำลังจะประทุขึ้น

 

 

ก่อนหน้านี้

 

“ทุกอย่างได้ตายลง”



“อาณาจักรล่มสลาย”

“ราชาล่วงหล่น และมนุษย์ถูกล้างบาง”



“โลกทั้งหลายต่างจบสิ้นลง”

 

 

เหล่า Illuminati และ Black Swan กลับมายังโลกของตน

Black Panther ถืออุปกรณ์เตรียมกดปุ่มระเบิดดาว

แต่ Black Panther กลับยืนนั่ง ไม่ยอมกดปุ่มระเบิดวงดาว

 

Namor:  มัวโอ้เอ้อะไรอยู่ฟระ?

   

Black Panther:  ชั้นไม่ได้โอ้เอ้

Black Panther:  …..ชั้นแค่กำลังจดจำตัวตนที่ชั้นเป็นในตอนนี้เอาไว้

   

 


คลิ๊ก



   

บรึ้มมมมมมมมมมมมมมมม!!



มันคือ

Avengers World

 


มันเป็นจุดเริ่มต้นของหลายๆ สิ่ง


   





Marvel Comics

    ภูมิใจเสนอ

 

 

 

INFINITY

 อนันตภัยมหาสงครามเอกภพ



 

  

 

 

   

 

 

 

บทที่ 1

 

Constructing Apocalypse

กำเนิดวันพิพากษา

    

 

 

  

 

ที่จักรวาลอันไกลโพ้น หกหมื่นปีแสงจากโลก

ณ.  Golden Galaxy

ดาว Galador

   กำลังถูกโจมตีจากศัตรูที่ไม่ทราบฝ่าย

   

หุ่น Curator  กำลังคำนวณสถานการณ์

โดยมี Caretaker (ของโลกนี้) กำกับดูแล

   

Curator:   >>เครื่องบิน, หมายเลข 002 และ 004<<

Curator:   >>กำลังบินคลุมรอบโลก<<

 

Curator:   >>เป้าหมาย: เพื่อขัดขวาง<<

Curator:   >>กระจายพลัง<<

 

Curator:   >>การรับมือ<<

Curator:   >>เปลี่ยนเป้าหมายของ Aleph<<

 

Caretaker:   ความยุ่งยากที่ไม่เคยเห็นมาก่อนขอรับ Builder

Caretaker:   ดาวดวงนี้ต่อต้านขอรับ

   

 

 

สิ่งที่อยู่ตรงหน้าของทั้งคู่คือเผ่าดึกดำบรรพ์ที่ยังมีชีวิต

เหล่า Builder นั่นเอง!!

เขามาพร้อมกับ Aleph และ Ex Nihilo หญิง!?

   

Builder:   พวกมันทุกตนล้วนต่อต้านอยู่แล้วนี่นา


 

เหล่า Builder นั้นเรียกได้ว่าเป็นเผ่าที่อยู่ยาวนานยิ่งกว่าบรรพกาลซะอีก

เป็นอารยธรรมที่เก่าแก่ที่สุดในจักรวาล เป็นเผ่าผู้หล่อหลอมและสร้างระบบแห่งจักรวาลขึ้นมา

เป็นทั้ง ผู้สร้าง (Creator) และ วิศวกล (Enginees)



Builder:   พวกมันควรทำเช่นนั้นแล Creator

Builder:   เผ่าพันธุ์หนึ่งจะทำอะไรมากไปกว่าการดิ้นรนต่อต้านล่ะ

 

 

ตลอดหลายพันล้านปีที่ผ่านมานี้ พวกเขาได้บ่มเพาะจักรวาลนี้

ปลูกฝังเมล็ดแห่งอารยธรรมและผลักดันในอารธรรมเหล่านั้นวิวัฒนาไปข้างหน้า

พวกเขาเป็นเผ่าที่มิอาจโค่นล้ม ดูราวว่าพวกเขาจะคงอยูไปชั่วกาลนาน

   

 

Builder Creator:   ช่วยอรรถาธิบายให้ที Caretaker

Builder Creator:   โปรดระบุอุปสรรคให้ชัดเจนด้วย

   

   

 

Caretaker:   โลกใบนี้

Caretaker:   มีฮีโร่ขอรับ

 

 

ตัดมาดูที่ดาว Galador กันบ้าง

เหล่า Aleph เครื่องจักรสังหารผู้เคยกระทืบ Avengers จนยับมาแล้ว

กำลังเผาไหม้เมืองที่เจริญรุ่งเรืองทั้งทางด้านวัฒนธรรมและเทคโนโลยีลง

และยังคร่าชีวิตเหล่าประชาชนบนดาว Galador ลงอย่างเลือดเย็นอีกมากมาย

เสียงกรีดร้องที่ดังไปทั่วบริเวณก่อนจะเงียบหายไป



 

 

จนมาถึงหญิงชายคู่หนึ่ง

 

ชาย:   ไม่นะ

 

Aleph A:   วัตถุประสงค์: ดูความยืดหยุ่นต่อเวลา

Aleph A:   เป้าหมาย: ล้างโลกใหม่

 

Aleph B:   คำเตือน: มีมวลพลังงานกำลังใกล้เข้ามา

Aleph B:   ผิดพลาด: หาทางรับ…

   



บรึ้มมมมมมมมมมมมมมม!!

แซ่ดดดดดดดดดดดดดดดด

   



เหล่า Aleph โดนระเบิดจนเละ

   

      

พวกเขาก็คือเหล่า Spaceknigh

 

เหล่าอัศวิน (Knight) แห่ง Galador ที่ครั้งหนึ่งก็เคยมีร่างกายและเนื้อหนัง

แต่บัดนี้พวกเขาไม่มีอีกต่อไป พวกเขาได้สละร่างกายของตนเพื่อสิ่งที่ดีกว่า

    

กายเนื้อของพวกเขาถูกแทนที่ด้วยเทคโนโลยีสงคราม

พวกเขาจึงเป็นกลุ่มผู้ปกป้องที่แข็งแกร่งที่สุดในโลกของพวกเขา

   

เป้าหมายของเหล่าอัศวินมีเพียงหนึ่งเดียว

ปกป้องโลกของพวกเขาเอาไว้

  

 

เหล่า Spaceknight ประกอบไปด้วย (ซ้ายไปขวา)

 

Terminator , Pulsar,

Starshine (Landra) , Firefall (Karas)

   

  

Starshine:  ยานแม่ของผู้บุกรุกหยุดการเคลื่อนไหวแล้ว

Starshine:  พวกเราเรียกร้องความสนใจพวกมันได้ซักทีนะ

 

Firefall:  พวกเราเองก็ควรจะอัพเกรดปืนใหญ่พิเศษที่ทางกองพันทหารได้ติดตั้งไว้ไปเลยดีกว่า

Firefall:  ปืนมันอาจจะไหม้พวกเราเป็นจุลแต่ยังไง Galador ก็ยังคงอยู่

 

และสมาชิกคนสุดท้าย Ikon สหายของ Gladiator  ผู้นำแห่งอาณาจักร Shi’ar

กำลังดูแลคนเจ็บทั้งสอง

 

Ikon:  ลุกขึ้นมาได้แล้วค่ะ ประชาชนของเรา

Ikon:  ทำใจให้สบายได้เลย

 

Ikon:  พรุ่งจะยังคงมีกลางฟ้าใสกับกลางคืนฟ้าหม่นแน่นอน

Ikon:  ไม่มีอะไรต้องกลัวแล้ว

 

Ikon:  เดี๋ยวเรื่องนี้พวกเราจะจัดการเอง

   

   

????:  ดูนั่นสิ Sanno

????:  ดาวทั้งดวงบนฟ้ายังเจิดจรัดไม่เท่าพวกเค้าเลย

 

Sanno:  จริงด้วยเนอะ Kiru

Sanno:  เหล่า Spaceknight ต้องช่วยพวกเราไว้ได้แน่ๆ

 

Sanno:  พวกเค้าช่วยพวกเราเสมอมา

   


   

“แต่ไม่ใช่ครั้งนี้”



 

อยู่เจ้าแม่จักรวาลก็โผล่ขึ้นมาซะดื้อๆ

   

Captain Universe:   ทุกสิ่งจะตายลง

Captain Universe:   แม้แต่กับสิ่งที่เธอคิดว่าไม่มีทางตาย

 

Sanno:  คุณคือ…..

 

Captain Universe:   เราคือจักรวาล

Captain Universe:   เราอยู่ที่นี่ต้งแต่มันเริ่มเกิดขึ้น

Captain Universe:   เพื่อดูว่าทุกอย่างจะจบลงเช่นไร

 

Sanno:  ถ้างั้น….คุณก็มาเสียเที่ยวล่ะ

Sanno:  เพราะจะไม่มีสลายไปทั้งหนั้นแหล่ะ

 

Sanno:  พ่อของพ่อผมน่ะเคยเป็นอัศวินมาก่อน

Sanno:  ท่านได้ต่อสู้ในสงครามที่เรียกว่า Wraith War

Sanno:  เคยยืนหยัดต่อสู้กับกองทัพเงานับไม่ถ้วนมาแล้ว

   

 

 


เขาก็เหมือนพวกเขา ดีและทรงเกียรติ ต่อสู้เพื่อสิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่าตัวเขาเอง



เขาต้องชนะ เพราะความพ่ายแพ้หมายถึงการสูญเสียทุกสิ่งที่เขาเชื่อมั่น



พวกเขาจะต้องเอาชนะกลับมาเพราะพวกเขาจะต้องทำให้ได้

รู้แล้วรึยังว่า พวกเขาไม่ดีแค่กล้าหาญและทรงพลัง

แต่พวกเขายังมีความชอบธรรมที่จะคว้าชัยมาด้วย



พวกเขาแกร่งที่สุดบนโลกใบนี้

พวกเขาเป็นบุตรและธิดาของ Galador!

   

   

   


  

Captain Universe:   เรื่องนั้นไม่ช่วยอะไรหรอก

 

Sanno:  ทำไมกัน!?

Sanno:  ทำไมคุณถึงมั่นใจขนาดนัน!?

 

Captain Universe:   นั่นก็เพราะ….

   


 

….บัดนี้

ลูกของเราอยู่ที่นี่แล้ว


 


ทั้ง Sanno และ Kiru ต่างตกตะลึงกับสิ่งที่อยู่เบื้องหน้า

   

      


  

  

ท่ามกลางหมอกควันไฟแห่งความสิ้นหวัง

มีปากกระบอกปืนของยาวที่ใหญ่แทรกเข้ามา

  

และมันกำลังเริ่มทำงาน




   

 

 

 

 

  

“ทำเหมือนไม่เคยมีพวกมันอยู่ตรงนั้นก็แล้วกัน”




พรึ่บ



 

 

 

 

 

ลำแสงแห่งความตายกวาดล้างทุกสรรพสิ่งให้หายไปในชั่วพริบตา

ไม่ว่าจะเป็นเหล่า Spaceknight, สองชายหญิงผู้โชคร้ายอย่าง Kriu กับ Sanno

หรือแม้แต่เจ้าแม่จักรวาลก็สลายกลายเป็นผง

จบอารยธรรมที่เจริญมากว่าหลายพันปีลงภายในเวลาเพียงไม่กี่นาที



 

 

 

 

 

 

เจ้าแม่เหลือแต่เพียงเศษพลังงาน

ที่กำลังโบยบินไปสถานที่บางแห่ง





 

 

 

 

บทที่ 2

 

Orbital

วงโคจรอวกาศ


 

 

 

 

เหนือฟากฟ้าของโลก

 

The Peak

 

ศูนย์บัญชาการทางอวกาศของ S.W.O.R.D. หรือ

Sentient World Observation and Response Division

   

จนท. S.W.O.R.D. ทีมจู่โจมถึงพื้นที่เป้าหมายแล้วครับ จนท. Beand

จนท. S.W.O.R.D.:  …..ผมยังหน่วยกักกันของ S.H.I.E.L.D. เตรียมพร้อมไว้ด้วย

จนท. S.W.O.R.D.:  หน่วยที่หนึ่งพร้อม รอรับคำสั่งครับ

 

Abigail Brand:  แล้วเราแน่ใจแล้วนะว่านี่มันแค่งานไล่จังแมงกลิ้งอึน่ะ

Abigail Brand:  เพราะถ้าไม่ใช่ล่ะก็….

 

จนท. S.W.O.R.D.:  จากข้อมูลของผู้อพยพลี้ภัยคนอื่นเชื่อถือได้ครับ

จนท. S.W.O.R.D.:  แล้วพวกนั้นก็ถูกกักบริเวณไว้นานพอจะขอของประทังชีวิตแลกกับข้อมูลครับ

จนท. S.W.O.R.D.:  แล้วก็การอ่านรูปแบบทางกายภาพก็ให้ผลสอดคล้องกัน

 

Abigail Brand:  โอเค เยี่ยมเลย

Abigail Brand:  งั้นก็ให้หน่วยหนึ่งจัดการเลย

   

 

 

ณ. กรุงปาแลร์โม

ประเทศอิตาลี

 

 

Abigail Brand:  กัปตัน Koenig

Abigail Brand:  นี่ศูนย์บัญชาการ S.W.O.R.D. พูดนะ….

 

Abigail Brand:  …เปลี่ยนภารกิจนิดหน่อยค่ะ

Abigail Brand:  อิชั้นอยากให้คุณและทีมอย่าเพิ่มทำอะไรทั้งสิ้น

 

Koenig:  แต่พวกเรามาถึงที่หมายแล้วนะครับ

Koenig:  ข้อมูลที่มีก็น่าเชื่อถือได้ แล้วพวกเราก็พร้อมจะบุกเข้าไปแล้ว

 

Koenig:  ทำไมถึงไม่ให้พวกเราบุกเข้าไปล่ะครับ

 

Abigail Brand:  อิชั้นเรียกมืออาชีพมาจัดการแทนแล้วค่ะ

   

 

 

มืออาชีพมาถึงที่หมายแล้ว

   

Cap:  Hawkeye

Cap: ช่วยจัดการกับพลเรือนตรงนั้นที

 

Hawkeye จึงบอกประชาชนที่เปิดประตูออกมาเป็นภาษาอิตาลี่ว่า

 

Hawkeye:  Porta la tua famiglia dentro e chiudere la porta.

Hawkeye:  (พาครอบครัวคุณเข้าไปในบ้านซะ แล้วปิดประตูให้มิดชิดด้วยนะครับ)

Hawkeye:  per favore andate ora.

Hawkeye:  (ช่วยกรุณารีบหลบเข้าข้างในซะนะครับ)

   

 

Cap:  สถานการณ์เป็นไงบ้างพลทหาร

 

Koenig:  ทุกอย่างเคลียครับ Captain

Koenig:  ไม่มีฝูงชนในบริเวณนี้แล้ว

 

Koenig:  เป้าหมายประมาณหกถึงแปดคนในนั้น

Koenig:  แล้วนี่พวกคุณมากันแค่สองคนเองรึครับ?

 

Hawkeye:  โอ้ แค่นี้ก็สบายแล้ว…

Hawkeye:  แต่พวกเราก็มีกองหนุนอยู่ด้วยในกรณีที่เกิดเหตุไม่คาดคิดอ่ะนะ

 

ข้างนอกนั้นมีทั้ง Thor และ Hyperion รอดูสถานการณ์อยู่

 

Hawkeye:  ….เอาล่ะ แล้วประตูล่ะ?

       

 

ตูมมมมมมมมมมมม!!

ว่าแล้วทั้งหมดก็พังประตูเข้าไปโล้ด!

  

 

 

ข้างหน้าของทั้งคู่คือชายสี่คนกำลังทานพิซซ่ากันอยู่ แถมแมวตัวนึงด้วยอ่ะ

 

นายหงอก:  เอิ่ม…ว่าไงครับ?

 

Cap:  ทางคุณมีของเล่นให้ใช้ใช่มั๊ย กัปตันKoenig

 

Koenig:  อยู่นี่ครับ

 

Cap:  งั้นก็จัดการเลย

 

ว่าแล้ว Koenig ก็เปิดเครื่องส่งสัญญาณของเขา

   

   

นายหงอก:  เรากำลังกินข้าวกันอยู่นะครับเนี่ย

นายหงอก:  อยากจะชิมซัก…..

    

ว่าแล้วร่างของชายทั้งสี่และแมวอีกหนึ่งเผยร่างที่แท้จริงออกมา

พวกเขาน่าจะเป็นพวก Skrull ที่หนีอพยพหนีมาที่โลกตอน Avengers #15 นะ

   

นายSkrull:  …..ชิ้น….มั๊ย?

 

Cap:  พวกแกเลือกเอาล่ะกัน

Cap:  ว่าอยากจะจบเรื่องนี้แบบไหน?

   


จนท. S.W.O.R.D.อีกคน:  เป้าหมายปะทะกับ Avengers แล้วครับ

 

Abigail Brand:  งั้นข้อมูลกับเครื่องแสกนก็พูดถูก

Abigail Brand:  พวก Skrull อีกแล้ว

 

จนท. S.W.O.R.D.:  ใช่แล้วครับ

 

จนท. S.W.O.R.D.:  ถ้ารวมกลุ่มที่เราได้เจอก่อนหน้าที่จะเข้าสู่ชั้นบรรยากาศด้วยก่อนหน้านี้

จนท. S.W.O.R.D.:  ครั้งนี้เป็นครั้งที่เจ็ดแล้วนะครับ ในรอบสองสัปดาห์มานี้

 

เหล่า Avengers สองคนและทหารอีกหลายนายกำลังรุมยำพวก Skrull ผู้โชคร้ายอย่างสนุกสนาน

 

Abigail Brand:  เริ่มตามสืบจากช่องทางดาวในวงโคจรอื่นๆ ด้วย

Abigail Brand:  โอ้ แล้วก็หาทางแฮคเข้าระบบฐานข้อมูลทางทหารของพวก Shi’ar กับ Kree ด้วย

   

Abigail Brand:  ชั้นอยากจะรู้ให้ไปถึงต้นตอเลยว่า….

 

 

 

 

  

Abigail Brand:  มันเกิดบ้าอะไ……บ้าอะไรเนีย?

 

  

อยู่ๆ แสงมากมายก็โผล่มารอบๆ ตัวของ Brand

แล้วจากนั้นก็……

 

 

 

  

ตัดกลับมาที่ทาง Cap

ในอีกไม่กี่นาทีต่อมา

   

Abigail Brand:  Captain ช่วยรายงานสถานการณ์หน่อย

 

Cap:  ขอหนึ่งนาทีนะ จนท.Beand

     


เปรี้ยง!

แอ๊ฟ!

    

 

ป๋า Cap ชกปาก Skrull ตัวสุดท้ายจนสลบเหมือดไป

   

Cap:  โอเค ตัวสุดท้ายโดนเป่าสลบไปละ

 

Hawkeye:  งานนี้มันไม่สมเหตุสมผลเลยอ่ะ

Hawkeye:  กลุ่มนี้ไม่มีพวกทหารอยู่ด้วยเลยแม้แต่ตัวเดียว

 

Hawkeye:  สถานการณ์เรียบร้อยแล้ว Abigail

Hawkeye:  แต่ชั้นว่าบางอย่างมันพิลึกว่ะ

   

 

Abigail Brand:  ใช่

Abigail Brand:  พิลึกมากจริงๆ

 

Abigail Brand:  พวกนายรีบมาที่ฐานนอกโลกให้ไวที่สุดเท่าที่จะไวได้เลย

   

 

เพราะอยู่ๆ เจ้าแม่จักรวาลมาโผล่ที่ The Peak

ต่อหน้าต่อตา Abligail และเจ้าหน่าที่ S.W.O.R.D.


 


 

 

 

บทที่ 3

  

What was hidden, Now  uncover

เปิดกรุความลับที่สะเทือนนภา


 

 

 

   

Attilan

 

บ้านของเหล่า Inhuman

ที่บัดนี้กำลังลอยตัวอยู่เหนือแมนแฮตตัน

   

?????:  แกได้ยินข่าวลือบ้างมั๊ยวะ Kirren

 

?????:  เขาลือกันว่าท่าน Black Bolt กับบรรดามเหสีของท่านแยกห้องนอนกันน่ะ

?????:  องค์ราชากับบรรดาราชินีกำลังทำสงครามประสาทกัน

?????:  โอ้ย! ไอ้เรื่องความขัดแย้งกันกับเรื่องชวนเวียนพวกนี้

?????:  ลางไม่ดีเลยว่ะ

 

Kirren:  นี่ Tolos …..แกเคยฉุกคิดหรือสงสัยบ้างมั๊ยว่า

Kirren:  ทำไมแกถึงได้มาเปลี่ยนยามเอาช่วงที่เฮงซวยสุดแบบนี้

 

Tolos:  ไม่รู้สิ

 

Kirren:  หยุดพูดมากแล้วก็หัดใช้สมองเอาไปคิดซะบ้างนะว้อย!!

 

ขณะที่ยามทั้งสองกำลังคุยกันอยู่ Outrider ลูกน้องของ Thanos แอบย่องอยู่ข้างหลัง

  

 

 

 

เฉกเช่นสัตว์ร้ายตนอื่นของ Thanos

เหล่า Outrider ต่างก็เป็นนักฆ่าที่เหี้ยมโหด

   


 

Karnak:  ชั้นชักเริ่มเครยดแล้วว่ะ Gorgon

Karnak:  พฤติกรรมแบบนี้มันทำให้บ้านเราเองแตกแยกนะ

Karnak:  ชั้นเห็นจุดอ่อนที่เกิดขึ้นเต็มไปหมด

 

Karnak:  แล้ว Medusa ได้พูดอะไรบ้างมั๊ย

 

Gorgon:  เธอไม่พูดอะไรเลย, Karnak ญาติของเรา

Gorgon:  นอกจากบอกว่าป่วยเท่านั้น

   


 

ด้วยความสามารถย่องทะลวงกำแพง

ต้านแรงโน้มถ่วง กลืนตัวเองเป็นเหมือนเงา

ทำให้ Outrider กลายเป็นนักฆ่าที่น่าเกรงขามมากตนหนึ่ง


 

 

 


 

แต่ความสามารถที่แท้จริงของเจ้าสัตว์ร้ายนั้น

เป้าหมายแท้จริงในการดำรงชีพของมันนั้น

คือการเก็บรวบรวมข้อมูลที่ถูกซ่อนเร้น



Outrider คือนักล้วงความลับ



ขอเพียงให้เวลามันมาก

ทุกความลับจะถูกมันค้นพบแน่นอน

   

   


  

   

 

Outrider:   เอาล่ะ..ราชาแห่ง Inhuman เอ๋ย

Outrider:   จงเอาสิ่งที่ข้าต้องการมาให้ข้า

 

Outrider:   เอามาให้ข้าทั้งหมด!

 

Outrider เอามือสัมผัสที่หัวของ Black Bolt ราชาแห่งเหล่า Inhuman

ความลับทุกอย่างกำลังไหลเข้าสู่ Outrider

   


 

 

 

นั่นไง ความทรงจำข้อเท็จจริงแรกที่ฝังอยู่ร่าง

   

หนึ่งล้านปีก่อน เหล่า Inhuman คืองานทดลองของพวก Kree

   

การทดลองดังกล่าว การทดลองที่ใช้ Terrigen Mist

ทำให้พวกเขาค้นพบตัวตนที่แท้จริงของตน


    

  

องค์ราชาถือกำเนิดขึ้นอย่างราชา

Black Bolt ถือกำเนิดจาก Terrigen Mist

ด้วยพลังเสียงที่สามารถฉีกสวรรค์ให้เป็นเสี่ยงๆ ได้



บุตรแห่งคำพยากรณ์

องค์ราชาแห่งรัตติกาลมีมเหสีอยู่ห้าองค์

Medusa คือมเหสีคนแรก และคนอื่นๆ

ก่อกำเนิด Universal Inhuman ขึ้นมาภายใต้การปกครองของเขาเอง

   

เขารักภรรยาคนหนึ่ง เกลียดคนหนึ่ง

ส่วนที่เหลือสนใจเพียงเล็กน้อย



 

 

 

 

น้องชายของเขา Maximus The Mad (ผู้คุ้มคลั่ง)  มีแผนบางอย่างซ่อนอยู่อย่างลับๆ

ซึ่งแผนนี้ถูกประพันธ์ขึ้นโดยตัวเอง Black Bolt เอง

 


มันสร้างความแตกแยกระหว่างเขาและคนอื่นๆ ในครอบครัว


 

 

“อ้า นั่นไงจุดอ่อน”


“แต่นั่นไม่ใช่จุดอ่อนที่ข้าต้องการ!”


 

Outrider ยังคงขุดลึกลงไป

   

 

 

The Peak

   

Ex Nihilo เดินทางมาดูพระแม่ของเขา

 

Ex Nihilo:   นานเท่าไรแล้ว?

 

Abigail Brand:  Captain Universe เป็นอย่างนี้มา

Abigail Brand:  ตั้งแต่ตอนที่เธอรวมร่างตนเองบนศูนย์บัญชาการแล้ว

 

Cap:  นี่ x Nihilo นี่เธอ….

 

Ex Nihilo:   กำลังสร้างและฟื้นฟูตัวเองอยู่ครับ

Ex Nihilo:   พระแม่ท่านจะไม่เป็นไรครับ

   

 

 

 

Cap:   เธอเดินทางหายไปเมื่อสัปดาห์ก่อน

Cap:   เดินทางไปอีกฟากหนึ่งของจักรวาล

   

Iron Man:   เที่ยวบอกคนอื่นไปเรื่องว่าจุดจบกำลังใกล้เข้ามาอยู่นั่น

 

Ex Nihilo:   นั่นน่ะคือคำประกาสิทธิ์นะ Anthony Stark

Ex Nihilo:   คำที่ควรเอาใจใส่สนใจ

 

Ex Nihilo:   ท่านรู้อะไรหลายอย่าง

 

Abigail Brand:  แจ่มเลย หวังว่าเธอจะรีบๆ ตื่นไวๆ นะ

Abigail Brand:  เพราะทางเราน่าจะขอให้เธอเติมเต็มเรื่องที่ชั้นอยากให้พวกคุณดู

 

Abigail Brand:  ทางเราตรวจจับสัญญาณภาพของ Kree

Abigail Brand:  จากค่ายทหารหนึ่งในส่วนลึกของจักรวาลได้

 

Iron Man:   สัญญาณแจ้งเหตุที่เปิดให้ให้คนอื่นรับได้เนี่ยนะ?

Iron Man:   ปกติพวกนั้นไม่ทำแบบนั้นนี่นา?

   

   

 

Abigail Brand:  ไม่ ปกติก็ไม่ทำหรอก

Abigail Brand:  เอาภาพขึ้นจอใหญ่สิ

 

ภาพที่เจอคือภาพของกองทัพ Kree ที่กำลังถูกโจมตี

 

Kree Soldier:  แซ่ดดด—  ช้าเกินไป —แซ่ดดดด–

Kree Soldier:  —แซ่ดดดด– ไม่เห็น พวกมันมาจากใจกลางของระบบสุริยะ

Kree Soldier:  เราไม่เจอพวกมันจนพวกมันมาอย่เหนือเราแล้ว —แซ่ดดดด–

Kree Soldier:  —แซ่ดดดด– บังดวงอาทิตย์จนมิด กองกำลังที่มีไพร่พลมหาศาล

Kree Soldier:  ทัพมันใหญ่มาก…



เปรี้ยงงงงงงงงง!!

อ๊ออออออคคคคค!!


ทหารผู้โชคร้ายดนAleph จับหักคอจนดับไป

แล้วตรงนั้น Gardener ตนหนึ่งก็โผล่มา

    

Gardener:  —แซ่ดดดด–…..อย่าได้วิตกไป นี่แหล่ะคือสิ่งที่มันต้องเป็นไป —แซ่ดดดด–

Gardener:  —แซ่ดดดด–งานของเราพร้อมแล้ว ถ้าพวกเจ้าเห็นพวกเรา

Gardener:  ก็ควรรีบหนีไปให้ไกลซะ

Gardener:  อาจจะยังพอมีพวกเราบางคนที่ใจดี

Gardener:  ปล่อยให้พวกเจ้ามีชีวิตอยู่ต่อ…….—แซ่ดดดด–

   

 

 

 

Cap:   ดูคุ้นหน้าคุ้นตามากเลยนะ

Cap:   นายว่ามั๊ย?

 

Ex Nihilo:   เหล่า Builder เหรอ!?

Ex Nihilo:   นี่มัน…..นี่มันแปลกๆ แล้วนะ!

 

Abigail Brand:  คืออย่างนี้นะ

    

  

 

 

 

 

ทางเราได้จับยานบินที่บินมาจากดาวหนึ่งของพวก Skrull ได้

   

เมื่อรวมตำแหน่งของฐานทัพที่ไม่ค่อยจะลับของพวก Kree นี้อีกล่ะก็

พอเรานำมาพลอตจุดเรียงจากวงโคจรจักรวาลของเราแล้ว

ช่วยเราพอจะระบุจุดหมายที่….กองพัน Builder จะไป

   

ไม่ว่าจะประเมินยังไงก็ตาม

ตำแหน่งของมัน….



Ex Nihilo:   ผมไม่อยากจะเชื่อเลยจริงๆ

 

 

   

 

 

 

Abigail Brand:  ….ล้วนมีโลกอยู่ตรงจุดนั้นทั้งสิ้น

 

 

Abigail Brand:  พวกมันกำลังมุ่งหน้ามาหาพวกเรา!



 

 

 

Attilan

 

Outrider กำลังค้นหาความลับในหัวของ Black Bolt

   

Outrider:   บางสิ่งที่ซุกซ่อนอยู่…

 

Outrider:   บางสิ่งที่เป็นความลับ

 

    


Outrider:   กลุ่มภราดรที่ Black Bolt อยู่

Outrider:   เหล่า Illuminati ครอบครองเหล่า Infinity Gem เอาไว้



Outrider:   ไม่นะ!

   

Outrider:   เหล่า Gem สุญสลายไปแล้ว

   

Outrider:   ความตาย

Outrider:   ความตายที่หอมหวาน

Outrider:   ลอยอยู่เต็มใบหน้าของพวกมัน

   

  

Outrider:   ต้องลึกไปอีก ย้อนกลับไปไกลกว่านั้น

Outrider:   นั่น นั่นไง! สิ่งที่ข้าค้นหา

 

Outrider:   เหล่าราชาที่ถูกซ่อนเร้น

Outrider:   และองค์ราชินีผู้สูญหาย!

 

Outrider:   ….อยู่ที่….


 

 

 

 

 

 

 

ออกไปจากหัวชั้น”


 

 

 

 

Outrider:   เหหหหหหห!!!!

 

  

ด้วยความเมพพี่ Black Bolt พี่แกจึงจัดการพูดสวน Outrider ในหัวของเขา

ไม่ใช่แค่นั้นพี่เขายัง




แคว๊กกกกกกกก!!

กว๊ากกกกกกกกก!!


  


กระชากแขนของ Outrider ที่กำลังทิ่มหัวเขาอยู่ จนขาดสะบั้น

   

 

Outrider เผ่นหนีออกมาทางเดิม ทำให้ Gorgon กับ Karnak พบเข้า

   


 

“Karnak, พวกนักฆ่านี่นา!”



Karnak พุ่งไปจัดการกับ Outrider

แต่ Outrider ก็แปลงเป็นควันหลบหนีการโจมตีได้

ป๊าดดด เมพ ขริงๆ

   

   



“กดสัญญาณเตือนเร็ว!”



ทางด้านของ Black Bolt ก็แสดงความเมพอีกรอบด้วยพลังใส่เสื้อโคตรไว (ฮา)

จากนั้นก็เหลือไปดูแขนที่เขาเพิ่งกระชากขาดไป

   

 

 

 

Gorgon ทำการกระทืบพื้นจน Outrider ที่กำลังหนีจนเสียหลัก

แต่ด้วยความชำนาญมันใช้โอกาสนี้พกระเด็นไปที่ทางออก

ซึ่งตรงนั้นมีเหล่ายามที่เป็นตัวละครใหม่ทั้งสองยืนอยู่

 

 

Tolos: ระวังนะ Kirren

 

Kirren: ชั้นไม่กลัวมันอยู่แล้ว Tolos!

   

 

ทางด้าน Black Bolt เอาแขนที่ขาดของ Outrider ไปให้ Lockjaw หมาน้อยของเขาดม

   

   

 

 

ฉัวะ! แคว๊ก!

 

อ๊ากกกกกกกก!!

อั่คคคคค!



Outrider ทำการคร่าชีวิตของยามหน้าใหม่ทั้งสอง

ด้วยกงเล็บที่แสนคนของมัน

(โถ่โผล่มาเล่มแรกก็ตายตาม Kiru กับ Sanno ไปซะละลูกเอ๊ย)

    

ส่วน Black Bolt ก็ให้ Lockjaw วาร์ป…..

   


   



“มันกำลังจะหนีไปแล้ว!!”



Outrider ทำการกระโดดเตรียมหนี

ประจวบเหมาะกับทาง Black Bolt ก็วาร์ปมาพอดี

ซึ่ง Black Bolt เห็นว่า Outrider ท่าจะเหนื่อยน่าจะพักดื้มน้ำอาบท่าซักหน่อย

พี่แกเลยพูดออกไปอย่าง “อ่อนโยนและนุ่มนวล” ว่า….


 


หยุด

 



บรึ้มมมมมมมมมมมมมมมมมม!!

แอร๊ยยยยยยยยยยยยยยยยยยย!!!


 

 

Outrider ซาบซึ้งในน้ำใจของ Black Bolt จนไส้แทบแตก!!

   

   

 

 

ร่างของ Outrider ร่วงหล่นสู่พื้….เอ๊ะ เอ๋!

ไม่ยักกะตกพื้นวุ้ย!



ที่แท้ตรงนั้นมันคือยานของ Outrider นั่นเองครับ

ส่วนเหล่า Inhuman ต่างยืนงงเต้กอยู่หน้าระเบียง
Black Bolt คงคิดในใจว่า “อ้าว เวร ตรูดันช่วยให้มันหนีได้ซะงั้น”

 

  


และแล้ว Outrider ก็บินจากไป


 

 

Attilan: อาณาจักรที่สร้างขึ้นมาจากความลับ


 

แต่ถ้าหากความลับทุกอย่างถูกเปิดเผย

องค์ราชาจะครองบัลลังอยู่ได้เช่นไร


 

 

   

   

 

 

บทที่ 4

 

Outbond

ทะยานสู่นอกนภา



 

  

 

The Peak

 

เหล่า Avengers รวมตัวกันครบ

   

 

 

Captain Marvel:  เอาล่ะ ทุกคนฟังให้ดี…



   

   

 

Captain Marvel:  ไม่กี่ชั่วโมงตั้งแต่ทางเราได้รับสัญญาณภาพ

Captain Marvel:  จากดวงจันทร์ที่ถูกทำลายไม่เหลือทราบของอาณาจักร Kree  ไปแล้ว

Captain Marvel:  ทาง S.W.O.R.D. ได้จับพบสัญญาณทางการทหารเพิ่มขึ้นเป็นดอกเห็ดจากทั้ง….

 

Captain Marvel:  ….เอิ่ม ก็นะ…..จากทั้งอาณาจักรยักษ์เกือบจะทุกอาณาจักร

Captain Marvel:  รวมถึงสมาพันธอาณาจักรและพื้นที่ที่ปกครองโดยผู้นำทหารในท้องที่นั้นด้วย

Captain Marvel:  รวมๆ แล้วก็คือเหล่าอาณาจักรสมาชิกปัจจุบันของสมาพันธ์อวกาศ Galactic Council ทุกอาณาจักรนั่นแหล่ะ

 

Captain Marvel:  แต่เพราะพวกเรามีสมาชิกของเราเป็นราชองครักษ์ของอาณาจักร Shi’ar ด้วย

Captain Marvel:  พวกเราจึงยังยืนยันไม่ได้ว่าดาวอื่นๆ นั้นมีการเคลื่อนพลยังไงบ้าง

 

Captain Marvel:  Smasher ว่าไงบ้าง?

 

Smasher:  เรื่องจริงค่ะ

Smasher:  ท่าน Gladiator ผู้นำแห่งอาณาจักร Shi’ar

Smasher:  ทรงออกคำสั่งฉุกเฉินและเรียกตัวองรักษ์ทุกคนรวมถึงตัวช้านกลับโดยด่วน

 

Smasher:  ท่านยังได้สั่งให้เหล่า Subguardian ทุกนายเตรียมตัวให้พร้อม

Smasher:  เพื่อแทนที่เหล่าราชองครักษ์ทุกคนที่อาจตายในการต่อสู้ได้

 

Smasher:  เขาจะทำเรื่องแบบนี้

Smasher:  เฉพาะในยามที่พวกเขาคิดว่าจะต้องเกิดการสูญเสียชีวิตครั้งใหญ่จริงๆ เท่านั้น

   

   

 

  

Cap:  นั่นแหล่ะที่มาเข้าเรื่องของเรา

Cap:  เข้าใจให้ตรงกันนะ ทุกๆ คน

Cap:  งานนี้ของจริง มันกำลังพุ่งตรงมาทางเรา

Cap:  แล้วมันก็น่ากลัวพอที่จะทำให้บรรดาอาณาจักรทั้งหลายต้องหาทางเตรียมพระมากันให้วุ่นกันเลย

 

Cap:  Ex Nihilo คนพวกนี้คือพวก Builder ของพวกนาย

Cap:  คนที่สร้างนายกับ Abyss น้องสาวของนายขึ้นมา

 

Cap:  ถ้าคนพวกนี้มาถึงโลก พวกเรามีโอกาสรอดแค่ไหน

 

Ex Nihilo:   Captain จากที่คาดคะเนความเป็นไปได้ของคำถามนี้….

Abyss:   คำตอบคือ ไม่มีเลย

 

Abyss:   หากกองทัพนั้นมาถึงระบบสุริยของโลกแล้วล่ะก็

Abyss:   วิวัฒนาการก้าวต่อไปของมนุษยชาติก็คือ การสูญพันธุ์ แน่นอน



 

Iron Man:  ก็นะ คำตอบมันก็ไม่ได้เหนือความคาดหมายเท่าไร

 

Cap:  นั่นแปลว่าพวกเราไม่มีทางเลือกแล้ว

Cap:  พวกเราจะต้องต่อสู้กับพวกมัน

Cap:  ต่อสู้เคียงข้างกับโลกใบอื่นๆ

 

Starbrand:  โลกใบอื่นหรอครับ?

Starbrand:  แต่ Starbrand เป็นระบบปกป้องดาวเคราะห์

Starbrand:  ซึ่งนั่นแปลว่าเป็นระบบไว้ปกป้องโลก….

Starbrand:  แล้วแบบนี้ผมควรจะไปกับพวกคุณด้วยจะดีเหรอ?

 

Sunspot:   เย็นไว้น่า พ่อคุ๊ณ

Sunspot:   งานนี้มันระเบิดแน่พระยะค่ะ!

 

Sunspot:   ก็เหมือนหนัง Star Wars อ่ะ

Sunspot:   เพียงแต่งานนี้พระเอกของเรื่องมันหน้าหล่อกว่าอิลุ๊คหลายขุมอ่ะคร้าบ!

 

Sunspot:   บอกเขาไปดิ Sam

 

Cannonball:   อวกาศน่ะ

Cannonball:   แหล่มเฟี้ยวเลยล่ะ

   

 

Iron Man:  อวกาศน่ะ

Iron Man:  เป็นคำที่คนฉลาดมีสติปัญญาหลายคนได้ยินแล้วคงต้องสะอึกอ่ะนะ

Iron Man:  แต่พวกนายในที่นี่ทุกคนคือโอกาสที่ดีที่สุดที่พวกเรามีในการหยุดเรื่องพวกนี้

 

Iron Man:  ชั้นอยากไปกับพวกนายด้วยจริงๆ

 

Cap:  งานของ Iron Man คือการอยู่ดูแลพวกเราอยู่เบื้องหลัง

Cap:  ช่วยวางแผนที่พอใช้รับมือและนำทีมโลกเข้าต่อสู้ในกรณีที่พวกเราทำไม่สมเร็จ

 

Cap:  หน้าที่ของพวกเราคือ

Cap:  ช่วยให้ Iron Man เขวี้ยงงานตัวเองทิ้งลงถังซะ

 

Cap:  เราจะเคลื่อนพลในอีกหนึ่งชั่วโมง

   

 

ช่างเครื่อง S.W.O.R.D.:  ไฟเขียวแล้วครับ เริ่มปลดตัวล๊อคแล้ว

ช่างเครื่อง S.W.O.R.D.:  Quincruiser พร้อมออกบินแล้วครับ

 

Captain Marvel:  ทางเราเองก็พร้อมแล้วเหมือนกัน Cap

 

Cap:  โอเค

Cap:  ขอให้โชคดีมีชัยกันทุกคน

Cap:  แล้วก็ Tony เตรียมพร้อมรับมือเผื่องานเข้าด้วยล่ะ

   



Iron Man:  เอาเป็นว่าพวกนายจัดการให้เสร็จไปเลยดีกว่า

Iron Man:  ชั้นเองก็เอียนกับไอ้เรื่องจุดจบของโลกอะไรนี่จนแทบอ้วกล่ะ

 

Iron Man:  โชคดีนะ Steve



“ชนะกลับมาให้ได้ล่ะ”

   


เหล่า Avengers ทะยานขึ้นสู่อวกาศเพื่อไปจัดการกับเหล่า Builder ผู้บ้าคลั่ง



 

อีกด้านหนึ่ง

 

ดาว Titan

  

ยานของ Outrider ตกลงมาบนพื้นดาวพอดี

ร้อนถึงทหารของ Thanos ต้องมาตรวจเช็ค

   

ทหารA:   ลางร้าย!

ทหารA:   มีของตกลงมาบนดวงจันทร์ที่ไร้ชีวิตนี้

 

ทหารB:   อุว้าว! ดูนี่สิ

ทหารB:   ตัวมันเละแล้วอวัยวะหายไปซะด้วย

 

ทหารB:   เน่าเฟะ แล้วกำลังจะตาย

ทหารB:   อยู่ได้อีกไม่นาน

 

ทหารB:   เรื่องลางเอาไว้ก่อน

ทหารB:   Outrider ต้องอยู่ในที่ที่มันควรอยู่

 

ทหารA:   งั้นก็เร็วๆ

ทหารA:   เอาให้ไวเลย…

 

ทหารB:   ทุกคนกำลังรออยู่

 

ทหารของ Thanos โยนร่างของ Outrider ไปหาผู้สร้างของมัน

   

  

Outrider:   สำ…..สำเร็จแล้วขรับ

 

Corvus Glaive:   ข้ารู้แล้ว สัตว์น้อยเอ๋ย

Corvus Glaive:   เจ้าได้ส่งสัญญาณการมาของเจ้าแล้ว

 

Corvus Glaive:   แล้วข้อความของเจ้าจะไม่ถูกเพิกเฉย

Corvus Glaive:   จงเงยหน้าขึ้นมา

Corvus Glaive:   เห็นหรือไม่ว่านายเหนือผู้น่าหวาดหวั่นนั้นมิได้มาเพียงผู้เดียว

Corvus Glaive:   แต่มากันถึงห้าท่านด้วยกัน

 

Corvus Glaive:   บัดนี้ Black Order ได้มารวมตัวกันครบแล้ว

   

   

 

 

Proxima Midnight

 

Black Dwarf

 

The Ebony Maw

 

Supergiant

   

   

 

 

Corvus Glaive:   เอาล่ะ บอกมาได้แล้ว

Corvus Glaive:   ที่ไหน?

 

Outrider:   ที่ Attilan

Outrider:   บนโลก

Outrider:   อยู่กับ…ราชาแห่ง Inhuman

Outrider:   มันรู้ว่าของที่ท่าน Thanos ตามหาอยู่ไหน

 

Corvus Glaive:   ตามนั้น

Corvus Glaive:   เจ้าทำได้ดีมาก Outrider

Corvus Glaive:   เจ้าจักได้รางวัลตามที่เจ้าถวิลหา

 

Corvus Glaive:   หากเจ้าต้องการละก็

Corvus Glaive:   เจ้าจักได้ในสิ่งที่เจ้าปรารถนาในทันที

   

 

Outrider:   ข้าต้องการขรับ

 

Corvus Glaive:   งั้นก็จงรับรางวัลไปซะ

Corvus Glaive:  รางวัลที่ส่งตรงจากพระเจ้าของเจ้า

 

ว่าแล้ว Glaive ก็บั่นหัวของ Outrider ออกไป

 

Corvus Glaive:   ทุกอย่างล้วนเป็นไปอย่างที่มันควรจะเป็น

Corvus Glaive:   เรื่องนี้ไม่ทำให้ท่านพอใจรึ ท่านเหนือหัว?

   

  

 

Thanos:   ไม่เลย

Thanos:   ต้องโลกเท่านั้น ที่พอใจข้า

 

เมื่อได้ยินคำพูดนั้น ก็ทำเอาเหล่าหาญใจฝ่อกันถ้วนหน้า

 

ทหารC:   โลกเหรอ?

ทหารD:   บ้าไปแล้ว

ทหารD  โลกน่ะ แม้วางแผนได้เยี่ยมแค่ไหนก็ล้มเหลวสลายไปได้

ทหารE:   โลกน่ะแม้ภัยมืดที่สุดก็พลันสว่างได้

ทหารF:   โลกน่ะ สถานีสุดท้ายในชีวิตของพวกโง่

 

Corvus Glaive:   ก็เออ…พวกเราต่างก็รู้ดีว่าโลกคืออะไร

Corvus Glaive:   แต่นี่….โลกครานี้นั้นน่าถวิลหากว่าที่เราคุ้นเคย

Corvus Glaive:   เพราะโลกเปลี่ยนไปแล้ว…





Corvus Glaive:   พวกเราได้รับข้อมูลมาว่า

Corvus Glaive:   เกิดความขัดแย้งกันในหมู่ Inhuman

Corvus Glaive:   เกิดการแตกแยกกันของเหล่า X-Men

 

Corvus Glaive:   และบัดนี้ข่าวที่ยินดีที่สุดในบรรดาข่าวทั้งหมด….

 

ที่แท้แล้วอีตาลุงช่างเครื่องของ S.W.O.R.D คือสายของ Glaive นั่นเอง!

 

Corvus Glaive:   พี่น้องของข้าทั้งหลายเอ๋ย

Corvus Glaive:  โปรดทำความสะอาดและขัดเขี้ยวของพวกท่านให้คม

Corvus Glaive:   เตรียมพร้อมสวาปามอาหารจานเลิศในครานี้ได้เลย

 

Corvus Glaive:   เพราะโลกที่พวกท่านรู้จัก….บัดนี้…..



   

 

 

 

“….ไม่มี Avengers คอยปกป้องแล้ว!”




Thanos แสยะยิ้ม

เขาเริ่มจะพอใจแล้ว!

   

 

 

 

INFINITY #2

    

  

มหาสงครามได้ระเบิดขึ้น

ความลับของ Thanos คืออะไร?

   

 

 


 

ลำดับเหตุการณ์ของ INFINITY

 

สามารถติดตามเนื้อเรื่องต่อไปนี้ได้ที่

 

 

ศึกในอวกาศ

Avengers #18 —> Infinity #2

 

ศึกบนโลก

New Avengers #9 —> Infinity #2

 

 

 

 

จบแล้วคร้าบ

 

สุดท้ายนี้หากใครใช้ App Marvel AR อยู่

  แล้วเอาไปส่องกับรูป Thanos ยิ้มแฉ่งในตอนสุดท้าย

 

คงจะเข้าใจแล้วนะครับว่าทำไมฟัน Thanos ถึงได้ขาวจัง ฮ่าๆๆ


 

11 thoughts on “INFINITY #1

  1. Yollove

    เฮือกกกก….มันส์มาก….อีเวนต์นี้น่าติดตาม สุดๆ ขอขอบคุณผู้แปลด้วยครับ…..

  2. ramzanaja

    ผมอ่านแล้วรู้สึกว่าอีเว้นท์นี้วางโครงเรื่อง ลำดับ แต่งมาได้ดีที่สุด(ต้องบอกว่าเริ่มต้นได้ยอดเยี่ยม)ในช่วงปีสองปีอีเว้นท์ใหญ่ของ Marvel ที่ผ่านมาเลย

  3. genesis

    เรียกได้ว่าสมการรอคอยเลยทีเดียว ทุกๆอย่างถูกปูเนื้อหามาตั้งแต่แรก แล้วยังต่อยอดจากเหตุการณ์ต่างๆก่อนหน้านี้ด้วย อยากอ่านเล่มต่อไปเร็วๆเลยแบบนี้

  4. thetum

    ยาสีฟัน Titan ขาวจริงๆ แปรงด้วยถุงมือเมพ ยิ่งข๊าวขาว 555

  5. doc holliday

    กร๊ากกก กรอบสุดท้ายใช้ app Marvel AR ส่องดู
    กลายเป็นธานอสโฆษณายาสีฟัน Titan ฮาเสื่อมหมดศักดิ์ศรีวายร้ายสุดๆ 😀

  6. longjunt

    Black bolt นี่โอกาสได้ออกโรงบู๊น้อย ออกมาแต่ละทีระเบิดเถิดเทิงดีแท้
    แตไหงบทส่งให้เสียท่าชาวบ้านบ่อยๆก็ไม่รู้

  7. tearfire

    อืมหืม สงครามสองด้าน

    สงสัยภาคนี้ dr.oct จะได้โชว์ความโหดเต็มพิกัด 😀

  8. mr robot

    ว่าแต่พวก Space Knight มาเป็นแค่ตัวประกอบเองเหรอ?(แถมดีไซน์โบราณโคตร)

  9. DMZzE

    ผมสัมพัสได้ถึง Deadpool ครับ น้่าสุดท่าทายอะ

    555555

  10. seventoon

    – -*ขอบคุณสำหรับ คลิปครับ มิน่าถึงฟันขาว 555+

    ผมไม่มีสมาร์ทโฟน

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *