DC Comic : Aquaman 19 : Hidden Agenda
เรื่อง : Geoff John
ภาพ : Paul Pelletier
วางจำหน่าย: 1 พฤษภาคม 2013
สำนักพิมพ์ : DC Comics
ในขณะที่ Arthur พยายามเต็มที่ในการทำให้สถานการณ์ของ Atlantis และโลกเบื้องบนสงบลง คนรอบตัวของเขาก็กำลังวางแผนการอยู่ลับหลังเขา
และในเวลาเดียวกันนั้นศัตรูทั้งจากโลกเบื้องบนและจากอดีตอันห่างไกลต่างก็กำลังเตรียมการโจมตีครั้งต่อไปต่ออาณาจักรของเขา
เปิดฉากมาในอาณาจักร Atlantis
เหล่าข้าราชบริพารกำลังรอราชาให้ออกว่าราชการอยู่ในท้องพระโรง
แต่ในตอนนั้นราชาแห่ง Atlantis กำลังอยู่หน้าหุบเหวใต้ทะเลไม่ห่างจากตัวเมืองนัก
เขาหยิบแตรเปลือกหอยอันหนึ่งขึ้นมาเป่า
แล้ว “สิ่งหนึ่ง” ก็ผุดขึ้นมาจากหุบเหว
Arthur : สวัสดีโทโป
สิ่งนั้นคือ “อสูรทะเล” ที่ใหญ่มหึมาราวกับภูเขาทั้งลูก!!
ทหาร : พวกนั้นหาตัวองค์ราชาพบแล้วครับ
Urn : แล้วพระองค์อยู่ที่ไหน?
ทหาร : พระองค์ใช้แตรเรียกอสูรทะเลขึ้นมา
Urn : อะไรนะ? ไปเรียกกองทหารมาเดี๋ยวนี้เลย ถ้าหากว่าโทรจิตขององค์ราชาควบคุมเจ้าสัตว์ร้ายนั่นไม่อยู่ล่ะก็…
ทหาร : ว่ากันว่าแม้แต่โทรจิตขององค์ราชาอาเธอร์ยังไม่สามารถควบคุมมันได้เลยล่ะท่านเอิร์น
ทหาร : มันฉลาดเกินกว่าจะถูกควบคุมได้
แล้ว Arthur ก็ว่ายขึ้นไปหาอสูรทะเล
Arthur : ไม่เจอกันนานเลยนะสหาย มันนานสำหรับช่วงเวลาของฉันไม่ใช่ของนายน่ะนะ
Arthur : ฉันจากที่นี่ไป กลับไปบนพื้นดิน มันไม่ดีขึ้นเท่าไหร่นัก
Arthur : แต่ฉันต้องการความช่วยเหลือจากนายนะโทโป
Arthur : ฉันอยากให้นายตามหาใครบางคนให้ฉัน เป็นชาวเบื้องบนที่ครอบครองอาวุธของแอตแลนติสอยู่
Arthur : มันเรียกตัวเองว่า “สการ์เวนเจอร์” (นักเก็บซาก)
Arthur : มันมักจากทำงานด้วยเรือดำน้ำของรัสเซียที่ร่วมมือกับมัน
Arthur : ที่ฉันขอให้นายช่วยเพราะนายจะสามารถรับมือมันได้ เพราะถ้าเป็นพวกมนุษย์อาจได้รับอันตรายได้
Arthur : โทโป?!
ทันใดนั้นเอง อสูรทะเลก็เคลื่อนตัวกลับลงไปในหุบเหวตามเดิม ทิ้ง Arthur ไว้เบื้องหลัง
ในขณะเดียวกันที่อีกฟากหนึ่งของท้องทะเล
ทหารของ Atlantis 2 คนกำลังตามรอยของ Scarvenger อยู่ ทว่า…พวกเขาไม่รู้เลยว่าพวกมันจงใจทิ้งร่องรอยเพื่อล่อให้พวกเขาตามมา…
ตัดมาที่เรือนจำ Bell Reve สถานคุมขังสำหรับอาชญากรอันตรายพิเศษ
Orm Marius อดีตราชาแห่ง Atlantis กำลังถูกคุมขังอยู่ที่นี่
Orm : ฝนกำลังตกอยู่งั้นสินะ
ทนาย : ผมคิดว่านะ แต่ก็…
Orm : ข้าได้ยินอย่างชัดเจน
ทนาย : จากที่นี่เนี่ยนะ?
Orm : มันช่างวิเศษจริงๆ อาจเป็นสิ่งดีๆอย่างเดียวที่ข้าได้พบเจอที่โลกเบื้องบนนี้…เสียงของเม็ดฝนที่กระทบลงบนหลังคา
ทนาย : ผมว่าคุณยังไม่เข้าใจว่าสถานการณ์ของคุณมันร้ายแรงขนาดไหนนะโอเชี่ยนมาสเตอร์
Orm : ข้าไม่ได้ชื่อโอเชี่ยนมาสเตอร์ ชื่อของข้าคือออร์ม
ทนาย : ออร์ม…คุณกำลังเจอโทษประหารอยู่นะ…
ทนาย : …และทางอัยการก็จะใช้รูปถ่ายทุกรูปที่อยู่ตรงนี้ในการพิจารณาคดี…ทุกชีวิตที่ต้องสูญเสียไปจะถูกแสดงต่อหน้าลูกขุน รวมทั้งครอบครัวของคนเหล่านั้นก็จะขึ้นให้การด้วย เว้นแต่ว่าคุณจะยอมรับผิดในอาชญากรรมเหล่านี้ พวกนั้นจะไม่ยอม…
Orm : อาชญากรรมงั้นเรอะ?!
Orm : ชาวแอตแลนติสก็สูญเสียชีวิตไปเช่นกัน แต่ในการพูดคุยไม่จบไม่สิ้นนี้กลับไม่มีใครถามถึงพวกเขาเลยแม้แต่น้อย และข้ากำลังเห็นว่าความสำคัญมันไม่ใช่จำนวนคนที่ตายไปหรือแม้แต่ว่าพวกนั้นเป็นเด็กหรือไม่ มันคือการที่หากว่าชีวิตเหล่านั้นไม่ใช่ “ชาวอเมริกัน” ล่ะก็ พวกนั้นก็ไม่มีค่าแม้แต่จะพูดถึงต่างหาก
Orm : ออกไปให้พ้นหน้าข้าซะ หรือไม่ก็รับความเสี่ยงต่อการเป็นที่ระบายความรำคาญของข้าที่แทบจะสุดทนต่อวิสัยทัศน์อันคับแคบของโลกของพวกเจ้าเต็มทีแล้ว
ทนาย : วิสัยทัศน์อันคับแคบงั้นหรือ? คุณไม่รู้ด้วยซ้ำว่าวัฒนธรรมของเราเป็นอย่างไร อย่าว่าแต่กฎหมายเลย
Orm : ข้าอ่านหนังสือตัวบทกฎหมายของพวกเจ้าทุกเล่มไปเรียบร้อยแล้ว และพวกเจ้าก็กำลังคิดจะฆ่าข้าด้วยการช็อตไฟฟ้า, ฉีดสารพิษ หรือด้วยอากาศที่เป็นพิษบางอย่าง ซึ่งเจ้าก็ควรจะให้แน่ใจว่ามันจะได้ผลด้วยล่ะ
Orm : ไปได้แล้ว ก่อนที่ข้าจะทำร้ายเจ้า
ทนาย : คุณ…คุณไม่ควรจะข่มขู่ผมแบบนี้นะ เพราะตอนนี้ผมคือเพื่อนคนเดียวที่คุณมีอยู่
Orm : เป็นอีกครั้งที่เจ้าคิดแต่ในมุมมองของพวกชาวเบื้องบนนะ เจ้าทนายเอ๋ย
Orm : ข้าน่ะมีเพื่อนอยู่มากมายเลยละ
ตัดมาที่ย่านรกร้างนอก Atlantis
Tula : ทำไมซวัตต์ถึงมาอยู่ในเมืองเก่านี่ล่ะเมิร์ค?
Murk : เพราะหมอนั่นชอบความเป็นส่วนตัวน่ะสิธูล่า ที่ข้างนอกนี่เจ้าจะมาหรือจะไปก็ได้ตามใจ และนั่นก็คือสิ่งที่ซวัตต์ทำล่ะ
Tula : เขาไม่อยู่นี่
Murk : ถ้างั้นเราก็จะไปรอเขาอยู่ข้างใน
Tula : เจ้ากำลังจะบุกรุกเข้าไปในบ้านของเขานะ! เมิร์ค?!
Murk : เราต้องรออยู่ข้างในเท่านั้น เพราะถ้าซวัตต์เห็นข้าล่ะก็ เขาก็จะหนีไปทันที และเราก็ไม่มีเวลาจะเสียแล้ว งานนี้มีชีวิตขององค์ราชาออร์มเป็นเดิมพัน
ว่าแล้ว Murk ก็เปิดประตูบ้านของ Swatt แล้วทั้งสองก็เข้าไปข้างใน
Murk : ทางนั้น
Murk : เราจะไปรออยู่ข้างบนนั้นกัน
เมื่อทั้งสองขึ้นมาที่ชั้นบน ก็พบว่าที่นี่มีอากาศ และเต็มไปด้วยของจากโลกเบื้องบนเต็มไปหมด?!
Tula : ที่นี่มันอะไรกัน?
Murk : ดูขยะพวกนี้ซะสิ เจ้าซวัตต์มันทำเรื่องน่าอับอายจริงๆ
Tula : อะไรนะ?
Murk : แม้องค์ราชาออร์มจะมีรับสั่งห้ามเอาไว้ เขาก็ยังแอบขึ้นไปที่โลกเบื้องบนทุกเมื่อที่มีโอกาส
Tula : ทั้งหมดที่อยู่ที่นี่ถูกนำมาจากโลกเบื้องบนงั้นหรือ?
Murk : ข้าเดาว่าอย่างนั้น
Tula : แล้วเขาทำแบบนี้ทำไมกัน?
ตอนนั้นเอง Tula ก็หยิบกล้องถ่ายรูปขึ้นมาแล้วกดชัตเตอร์จนแสงแฟลชวาบจ้าไปทั่ว
แต่ทันใดนั้นก็มีอีกเสียงพูดขึ้น
Swatt : นี่พวกเจ้าทำอะไรกัน?
แล้วทั้ง Tula และ Murk ก็โดนไฟฟ้าช็ิอต
Swatt : พวกเจ้าไม่ควรจะมาอยู่ที่นี่
Murk : ก็แล้วนั่นไม่ใช่สิ่งที่เจ้าพวกข้างบนนั้นมันพูดกับเจ้าหรือยังไงล่ะซวัตต์?
Swatt : ข้านึกว่าเราตกลงกันไว้แล้วนะเมิร์ค เจ้าเก็บความลับให้ข้า และข้าก็เก็บความลับให้เจ้า
Swatt : ข้าไม่ยอมให้เจ้ามาพังบ้านของข้าแน่
ขณะที่ Swatt กับ Murk กำลังฟัดกัน Tula ก็เข้าล็อคคอของ Swatt เอาไว้
Tula : เราแค่ต้องการมาคุยกับเจ้าเท่านั้นเอง
Swatt : เมิร์คน่ะมันรู้จักแต่การตะโกนใส่เท่านั้นแหละ และถ้าเจ้ามาเพื่อจับกุมข้าล่ะก็นะธูล่า…
Tula : ก็แล้วเราจะมาทำแบบนั้นไปทำไมกันล่ะ?
Swatt : ก็เพราะสิ่งที่ข้าเป็นในตอนนี้น่ะสิ
ว่าแล้ว Swatt ก็ช็อต Tula จนปล่อยมือจากคอของเขา
ตอนนั้นเอง Murk ก็เข้ามาดึงหน้ากากของ Swatt ออก เผยให้เห็นใบหน้าที่แท้จริงของเขา!!
แล้ว Murk ก็จับหน้าของ Swatt กดลงในน้ำ
Tula : นั่นเจ้าทำอะไรน่ะ?
Murk : ทำให้เจ้านี่มันสงบลงไงล่ะ มันเป็นชาวแอตแลนติสคนเดียวที่ไม่อาจหายใจในน้ำได้
Murk : เว้นแต่มันจะสวมหน้ากากนั้นเอาไว้
เมื่อได้ยินเช่นนั้น Tula ก็รีบร้องห้าม Murk ทันที
Tula : เมิร์ค หยุดนะ!!
Tula : พอได้แล้ว เมิร์ค! เจ้ากำลังจะทำให้เขาจมน้ำตายไปซะก่อนนะ!!
ทันทีที่ Murk ปล่อยมือ Swatt ก็ขอบใจด้วยการยิงไฟฟ้าช็อตใส่อีกรอบ
Tula : เขาเป็นชาวโลกเบื้องบนหรือ?
Murk : ถ้าไม่มีหน้ากากมันก็ไม่ต่างกันหรอก
Swatt : อย่ามาพูดจาดูถูกข้าแบบนั้นนะ
Murk : ดูถูกงั้นรึ? ถ้าเจ้ารู้สึกถูกดูถูกจริงๆล่ะก็ ทำไมเจ้าถึงขึ้นไปอยู่ข้างบนกับเจ้าพวกนั้นล่ะ?
Tula : เจ้าเป็นแบบนี้ได้ยังไงกัน?
แต่ Swatt ไม่ตอบคำถามของ Tula แล้วเอาสวมหน้ากากกลับเข้าไป
Swatt : ถ้าเจ้าทำร้ายข้าอีกล่ะก็ข้าฆ่าเจ้าแน่นะเมิร์ค
Murk : ข้าไม่สนหรอกว่าเจ้าจะขึ้นไปที่โลกเบื้องบน หรือจะละเมิดกฎหมายของแอตแลนติสยังไง เจ้าก็อย่าได้ปฏิเสธว่าไม่ได้ทำเชียวล่ะ
Swatt : ข้าไม่ได้ปฏิเสธสิ่งใดๆที่ข้าทำทั้งนั้น
Murk : ใช่แล้ว เพราะอย่างนั้นจึงไม่มีใครรู้จักโลกเบื้องบนดีเท่าเจ้า ยกเว้นอาเธอร์เท่านั้น เพราะงั้นเราจึงต้องการให้เจ้าช่วย
Murk : เราจะไปช่วยองค์ราชาออร์มกัน
Swatt : เจ้ากำลังพูดถึงการเป็นขบถต่อราชาองค์ปัจจุบันนะ
Murk : ข้ากำลังพูดถึงการช่วยชีวิตของหนึ่งในผู้ปกครองที่ยิ่งใหญ่และเป็นที่รักที่สุดของแอตแลนติสต่างหากล่ะ เจ้าจะช่วยเราไหม?
ทันใดนั้นก็มีการติดต่อมาถึง Tula
ทหาร : ท่านธูล่า?
Tula : มีอะไรรึ?
ทหาร : องค์ราชาอาเธอร์เรียกหาท่านและหน่วยกระแสน้ำทุกคนให้ออกไปกับท่าน
ตัดมาที่กลางทะเลทางใต้ของแหลม Florida
เรือลำหนึ่งกำลังเผชิญกับพายุรุนแรงที่มาอย่างกะทันหัน
และมันก็ยิ่งแปลกประหลาดยิ่งขึ้น…เมื่อเริ่มมีหิมะตก…ที่ทะเลเขตร้อนเนี่ยนะ?!
ท่ามกลางพายุหิมะ เหล่าลูกเรือเห็นเงาร่างหนึ่งยกอะไรบางอย่างขึ้น แล้วกระแทกลงไปบนตัวเรือ!!
หลังจากนั้น Mera ก็รู้สึกตัวขึ้นแล้วมองไปรอบตัวแล้วเห็นร่างคนลอยอยู่ในน้ำ
แต่ก่อนที่เธอจะกระโจนลงไปช่วยพวกเขา ก็มีมือเย็นเยียบคว้าแขนของเธอไว้
??? : พวกมันตายไปเรียบร้อยแล้วล่ะ เจ้าอยู่บนเรืออย่างนี้แหละดีแล้ว
??? : เราจะลงไปพร้อมกับเรือ นั่นคือวิธีเดียวที่จะผ่านเขตแดนของสามเหลี่ยมเบอร์มิวด้าไปได้
??? : ข้าออกแบบมันให้ดูดกลืนเรือลงไปทั้งลำ
Mera : แกเป็นใครกัน?
??? : ข้าคือราชาของเจ้ายังไงล่ะ
??? : จงคุกเข่าให้กับข้าซะ
Mera : ฉันจะไม่คุกเข่าให้ราชาองค์ไหนทั้งนั้น
แต่ก่อนที่ฝ่ายใดจะได้ทำอะไรเรือทั้งลำก็ถูกดูดลงไปใต้น้ำ ผ่าน “เขตแดน” เข้าสู่สถานที่ซึ่ง Mera คุ้นเคยอย่างยิ่ง?!
ตัดมาทางด้าน Arthur
เขานำกองกำลังมายังสถานที่ซึ่งทหาร 2 คนที่ตามรอยเรือดำน้ำของ Scarvenger ขาดการติดต่อไป
แต่ขณะที่พวกเขาแยกย้ายกันไปค้นหานั่นเอง Arthur ก็สังเกตุว่ามีอะไรปนมากับน้ำ และเมื่อเขารู้ว่ามันคือ “น้ำมัน” เขาก็รีบสั่งให้ทุกคนถอยออกจากบริเวณนั้นทันที
เกิดระเบิดอย่างรุนแรงขึ้นใต้น้ำ แรงระเบิดส่ง Arthur และพวกทหารลอยขึ้นไปบนชายหาด แต่ตรงนั้นเองเขาก็พบกับซากเรือดำน้ำของ Scarvenger ลำหนึ่ง
พวกเขาเข้าไปสำรวจและพบศพของทหาร 1 ใน 2 คนที่หายไป และเมื่อค้นหาเข้าไปข้างในเรือก็พบอีกคนหนึ่ง เขายังมีชีวิตอยู่ แต่มีแผลขนาดใหญ่ที่ถูกเย็บไว้ลวกๆที่สีข้างของเขา ราวกับว่าเขาเพิ่งถูกผ่าตัดอะไรสักอย่าง?!
Arthur รีบสั่งให้พาเขากลับ Atlantis ทันที
ตัดไปทาง Mera
เธอกำลังว่ายอยู่ท่ามกลางซากเรือนับไม่ถ้วนที่ถูก “เขตแดน” ดูดลงมา ที่นี่ก็คือ “บ้านเดิม” ของเธอ เขตจองจำภายในสามเหลี่ยมเบอร์มิวด้า…ที่อยู่ของชาว Atlantis ที่ถูกขับไล่ Xebel!!
ทันใดนั้นก็มีเสียงหนึ่งพูดขึ้น
Xebel1 : องค์หญิงเมร่า?
Xebel2 : นั่นนางจริงๆรึ?
Xebel1 : ต้องใช่แน่นอน
Mera : เนเรอัสอยู่ที่ไหน? ข้าต้องการพบเขาเดี๋ยวนี้
ตอนนั้นเองก็มีอีกเสียงพูดขึ้น
Nereus : ในที่สุดเจ้าก็กลับมา
Nereus : ข้านึกว่าเจ้าตายไปแล้วด้วยซ้ำนะเมร่า ข้านึกว่าภรรยาของข้าตายไปเสียแล้ว นี่เจ้าไปอยู่ที่ไหนมากันน่ะ?
(หา? ภรรยา?! นี่หมายความว่าก่อนที่ Mera จะพบกับ Arthur เธอเคยแต่งงานกับตาหนวดนี่มาก่อนงั้นเรอะ?!)
เจ้าปีศาจน้ำแข็งที่อ้างตัวเป็นราชาผู้นั้นมีธุระอะไรกับชาว Xebel ที่อยู่ที่นี่? แล้วแผนการช่วยเหลือ Orm ของพวก Tula จะส่งผลอย่างไร? แล้วยังเรื่องของ Scarvenger อีก?
เรื่องราวมันขมวดปมมากขึ้นเรื่อยๆแล้ว
ตอนต่อไป : การกลับมาของกลุ่ม The Others!!
เล่มนี้สนุก ผูกปมได้สุดยอด น่าติดตาม
เขร้!! น้องเมร่า
ชาวโลกนี่ก็เนอะ สงครามสูญเสียกันทั้งคู่ เเต่จะลงโทษ Orm อย่างเดียวเลย
ทีทำน้ำมันไหลลงไปไหนทะเล ยังไม่จ่ายค่าชดเชยให้ Atlantis เลย …………ถุ๋ยย ไม่ใช่ล่ะ
ภาพปกนี่มัน Lich king นี่นา
สนุกมาก ขอบคุณครับ
อืม น่าสนใจครับ
ชาวโลกอย่าใจร้ายกับออร์มได้ไหม จะเอาแต่ประหารออร์มอย่างเดียว
เมร่า แต่ก่อนแต่งกับตาลุงนี่เหรอ แล้วตาลุงนี่ใครหว่า ==;