Earth-2 #12 : The Tower of Fate : Part 3 : The Man Who Was Fate (ชายหนุ่มผู้เคยถูกลิขิตดวงชะตา)
เรื่องโดย: James Robinson | ภาพ : Nicola Scott | วางจำหน่าย : 1 พฤษภาคม 2013
สำนักพิมพ์ : DC Comics
Doctor Fate ถือกำเนิดขึ้นโดยสมบูรณ์และบัดนี้สงครามมหาเวทย์ของเขาและ Wotan กำลังจะเริ่มขึ้น ในขณะที่เรื่องของ Steppenwolf ก็กำลังจะถูกเปิดเผย!
.
กลางท้องฟ้าเมือง Boston เกิดสิ่งที่มหัศจรรย์ขึ้น และผู้คนกำลังมุงดูมันอยู่ รวมไปถึงมีนักข่าวสาวมาทำการออกข่าวด้วย
Lee : โลกใบนี้ได้เห็นสิ่งต่างๆมามากมาย…จาก 5 ปี หรือหลายปีที่ผ่านมา
“ระลอกแรกของความมหัศจรรย์นั่นก็คือ Wonder Woman, Superman, Batman และคนอื่นๆ”
“จากนั้นยังมีสงครามกับพวก Apokolips และผลกระทบที่ตามมา…”
“ทั้งหลุมบ่อเพลิง, การเผาพวก Parademon หุ่นยนต์สัตว์ร้ายที่หมดสภาพไปแล้วในเขต Dead Zone, โรคระบาด และสายฟ้าฟาดที่มีชีวิต”
“จากนั้นเหล่าความมหัศจรรย์ก็ยังทยอยปรากฏตัวออกมา อย่าง Grundy สัตว์ประหลาดผู้บ้าคลั่งที่พยายามจะทำลายโลกใบนี้ แต่ยังไงก็ตามหลังการจากที่มันพ่ายแพ้สิ่งต่างๆก็กลับมางดงามอีกครั้ง”
“และหลังจากเรื่องเหล่านั้น ฉันก็คิดถึงสิ่งที่มันอาจจะเชื่อมโยงมาถึงที่บอสตันในวันนี้ บนท้องฟ้าสีครามที่สว่างไสว”
“…มีคน 2 คนกำลังเข้าปะทะกัน พวกเขายิ่งคลื่นพลังงานบางอย่างเข้าใส่กัน หรืออะไรก็ตามที่ดูคล้ายแบบนั้น”
“มันช่างมหัศจรรย์จริงๆ ใช่แล้วมันต้องเป็นแบบนั้น… มันคือสิ่งที่พวกเราไม่เคยรับรู้ถึงมันมาก่อน ซึ่งฉันไม่สงสัยเลยว่า เหล่าผู้ที่กำลังรับชมสิ่งที่เกิดขึ้นอยู่นี้ ทั้งที่บอสตัน…หรือจากการรับชมผ่านทางสถานีโทรทัศน์ทั่วโลกในตอนนี้”
“…จะรับรู้ได้ว่า นี่คือสิ่งที่ไม่เคยพบเคยเห็นมาก่อนเลยสำหรับพวกเขา”
“…เพราะมันคือศึกมหาเวทย์!”
“และทั้ง 2 คนที่กำลังปะทะกันอยู่นั้น พวกเรารับรู้ในชื่อ”
“Doctor Fate และ Wotan”
“และตอนนี้มันคือสงครามแห่งมนตราและคำสาป”
เหนือน่านฟ้า Doctor Fate เข้าปะทะกับ Wotan ศึกของทั้งคู่หวนกลับคืนมาอีกครั้งแล้ว
“และมันก็อีกหลายนาทีถัดมา กว่าพวกกองกำลังโลกหน่วยทหารอากาศจะมาถึงเพื่อควบคุมสถานการณ์ไว้…”
“…และก็ต้องพบเข้ากับฮีโร่คนอื่นๆที่กำลังคุ้มกันพวกเขา”
“The Green Lantern…”
“และ The Flash…”
“2 คน ผู้ที่ช่วยกันจัดการ Grundy ลงได้ ที่ตอนนนี้พวกเราคิดว่าเขากำลังร่วมทีมกับ Doctro Fate…”
“…ถึงแม้เราจะไม่รู้พวกเขาตกลงกันอย่างไรก็ตาม”
ย้อนกลับไปยัง 1 ชั่วโมงก่อน ภายในหอคอยแห่งชะตากรรม
Khalid ในคราบของ Doctor Fate กลับมาช่วย The Flash ไว้
Jay : นี่นายพร้อมแล้วแน่นะ คาลิด เจ้าโวตันนั่นมันไม่ใช่คนที่จะเอาชนะได้ง่ายๆเลยนะ ในตอนที่ฉันเผชิญหน้ากับมัน ก็เหมือนกับว่ามันกำลังจะทำลายจิตวิญญาณของฉัน และฉีกกระชากร่างกายของฉันเป็นเสี่ยงๆ
Fate : ฉันพร้อมแล้ว เจย์ ถึงแม้ฉันคิดว่าตัวเองจะต้องเรียนรู้ถึงขีดจำกัดของพลังของตัวเองอีกซัก… ไม่ล่ะ ฉันพร้อมแล้ว และเมื่อฉันสวมหมวกเกราะใบนี้… เมื่อฉันใช้ร่างกายและสติปัญญาร่วมกันกับนาบู ขอให้เรียกฉันว่า ด็อกเตอร์ เฟท
Fate : ฉันต้องการให้มันเป็นแบบนั้นน่ะ เพื่อความสงบในจิตใจของฉัน
Jay : เข้าใจแล้ว
Fate : งั้นก็ถึงเวลาไปช่วยแม่ของนายกันแล้วล่ะ
Jay : ขอบใจมากจริงๆ และฉันก็รู้ว่านี่มันไม่ง่ายสำหรับนายเลยด้วย ที่จะยอมรับชะตากรรมนั่นที่อาจจะทำให้นายสูญเสียจิตใจไป
Fate : ใช่ แต่มันก็คือสิ่งที่ฉันเลือกแล้ว ฉันอาจจะรู้สึกถึงความปั่นป่วนในจิตใจ และต้องขอบใจนายจริงๆที่ปรากฏตัวออกมา และบอกให้ฉันได้รู้ว่าฮีโร่ที่แท้จริงต้องเป็นยังไง… สิ่งที่ฉันควรจะเป็นมันคือแบบไหน
Jay : ก็นะ แต่ตอนนี้ “ฮีโร่” ที่นายพูดถึงน่ะ สภาพดูไม่ได้เอาซะเลย ลองดูชุดของฉันสิ นายพอจะช่วยใช้ “เวทมนต์”ของนายจัดการกับมันได้มั้ย
Fate : ไม่หรอก เจย์ สิ่งนั้นมาจากพลังของนายเอง ชุดนั่นมาจากจิตใต้สำนึกของนาย
และ Jay ก็คิดถึงการแก้ไขชุดของเขา
Jay : โอเค นายพูดถูกจริงๆ
Fate : เอาล่ะ งั้นมาจบเรื่องนี้กันเถอะ
ที่ด้านนอก Wotan ที่รับรู้ถึงพลังของ Nabu ก็หัวเราะร่าต่อความสำเร็จของเขา จน แม่ของเจย์ งงว่าเขาจะหัวเราะไปทำไม เพราะ Nabu จะเคยโค่นเขามาแล้ว Wotan จึงบอกว่านั่นมันเมื่อ 100 กว่าปีที่แล้ว และตอนนั้นเขายังหนุ่มสาวเกินไป แต่ตอนนี้มันไม่ใช่แล้ว
Fate : โวตัน! ฉันมาแล้ว
Wotan : ฮ่า! แกทำตามที่ข้าบอกจริงๆคาลิด… แกนำเอาพลังของนาบูมาให้ข้า
Fate : มันจะไม่มีวันเป็นของแก โวตัน นี่คือพลังของฉัน… ชะตากรรมของฉัน …ส่วนแกจะต้องพินาศไป
“จงระวังไว้ คาลิด โวตันเป็นตัวอันตราย จงเชื่อฟังคำพูดของข้าหากเจ้าต้องการจะรอดชีวิตจากศึกนี้”
“ถ้าการที่เลือกสวมหมวกเกราะใบนี้มันจะให้อะไรกับฉันแล้วละก็ “โอ นาบูผู้ยิ่งใหญ่” มันก็คือฉันเลือกที่จะเลิกฟังท่านแล้วไงล่ะ”
“และถ้า ฉันคือผู้ที่เป็นผู้ถูกเลือกของท่าน ที่จะเป็น Doctor Fate แล้วละก็”
“ถ้างั้น… ก็ให้มันเป็นไปตามนั้นเถอะ”
Doctor Fate เข้าปะทะกับ Wotan และพลังของทั้งคู่ในตอนนี้ดูจะสูสีกันมาก จนกินกันไม่ลง ส่วน The Flash ก็เข้าไปช่วยแม่ของเขา แต่ก็ยังเป็นห่วง Doctor Fate ที่ดูจะเป็นมือใหม่ไม่ต่างจากเขา
Fate : ฉันไม่เป็นไรหรอก แฟลช ฉันรู้สึกว่า… ฉันมีพลังที่ฉัน…
Wotan : พลังน่ะอาจจะใช่ แต่ข้าเองก็ฝึกฝนทักษะมามากขึ้น จากหลายศตรวรรษที่ผ่านมา
“ฟังข้า คาลิด ถือว่าข้าขอร้อง พลังเวทมนต์ของอียิปต์นั้น คือการเรียกขานต่อเทพเจ้าของมัน”
“เงียบก่อนสิ นาบู”
“จงใช้พลังเวทมนต์ของ wadjet เทพีผู้พิทักษ์ มันจะสามารถ…”
Wotan จู่โจมใส่ Doctor Fate ซึ่งไม่รู้การใช้พลังที่ถูกต้องจน ม่านบาเรียที่สร้างไว้แตกออก
“เห็นหรือยังคาลิด ว่าเจ้าต้องฟังข้า ไม่งั้นเจ้าต้องพ่ายแพ้เป็นแน่”
“จงอย่าได้ภาคภูมิใจ… ในความภาคภูมิใจอันโง่เง่านั่น จงใช้พลังเวทมนต์อย่างที่ข้าบอกเจ้าไป จงเรียกขานเทพเจ้า”
Jay : คาลิดให้ฉันช่วย…
Fate : ไม่ เจย์ ฉันจะเป็นคนจัดการโวตันเอง ถ้าฉันต้องทำแบบนั้น… และเป็นในสิ่งนี้… ก็สมควรที่จะให้ฉันได้ทำมันเอง
“มันอยู่ในดินแดนแห่งนี้นานมากแล้ว จนมันดูดกลืนพลังเวทในสถานที่แห่งนี้ไปมากมาย ตอนนี้พลังของมันกล้าแข็งขึ้นมากกว่าที่ข้าเคยปะทะด้วย…”
“มันแข็งแกร่งเกินไปกว่าเจ้าด้วย ถ้าพวกเจ้ายังอยู่ที่นี่ต่อไป จงใช้พลังเวทมนต์ของ Min เทพเจ้าแห่งการเดินทาง …และนำพาการต่อสู้กลับไปที่โลก!”
Doctor Fate ใช้พลังของเวทมนต์ รั้งตัว Wotan ไว้และเปิดประตูมิติเพื่อออกไปจากที่นี่ The Flash จึงไม่พลาดที่จะอุ้มแม่ของเขาออกไปด้วยทันที
มาเก๊า, ประเทศจีน หนึ่งชั่วโมงก่อนหน้า
Hawkgirl กับ Alan Scott มาถึงยังท่าเรือที่วางโกดังสินค้าต่างๆไว้ และ Alan ก็ชมเชย Hawkgirl เพราะเพียงแค่ไม่กี่ชั่วโมง เธอก็สามารถค้นพบสิ่งต่างๆได้มากกว่านักสืบทั้งหมดที่พ่อของแซมจ้างมาหาซะอีก แต่เธอก็ไม่คิดอะไรมาก และบอกว่าหนึ่งในคอนเทนเนอร์นี้มีบางสิ่งที่เป็นความลับ และเกี่ยวโยงถึงการสังหาร Sam อยู่ และเมื่อทั้งคู่งัดมันออกมา มันก็คือกองศพของ Parademon ที่ตายมานานแล้ว ตั้งแต่สงคราม Apokolips เมื่อ 5 ปีก่อน ทั้งคู่ต่างตกตะลึงว่ามันคืออะไร และเกี่ยวกับโยงกับฆาตรกรผู้สังหาร Sam อย่างไร
เธอจึงคิดว่าพวกเขาควรจะกลับไปหาเจ้าหัวหน้าแก๊งก่อนหน้านี้ที่ชื่อ Eddie Kai Lung เพราะเขาจะต้องรู้อะไรแน่ๆ และถึงแม้เธอจะไม่อยากช่วยเขาไขคดีเกี่ยวกับคนรัก แต่เธอก็รักพวกปริศนาและความลับต่างๆจนทิ้งมันไม่ลง แต่ก่อนที่ทั้งคู่จะได้ไปไหน พลังในตัวของ Alan ก็บอกให้เขามุ่งหน้าไปยัง America และมันคือสิ่งที่เขาหลีกเลี่ยงไม่ได้ เขาต่อต้านมันไม่ได้ และจำใจต้องทิ้งให้ Hawkgirl หาเงื่อนงำต่อไปคนเดียว
Downtown Boston
Wotan และ Doctor Fate เข้าปะทะกันกลางอากาศ The Flash ส่งแม่ของเขาลงที่พื้น และหาทางที่จะขึ้นไปด้านบนเพื่อช่วยเหลือ Doctor Fate
“นั่นไงล่ะ ม่านพลังงาน ที่เกิดจากพลังเวทมนต์ของวัดเจต”
“แล้วตอนนี้เจ้าเห็นหรือยัง ว่าเมื่ออยู่ที่นี่ เจ้าแข็งแกร่งขึ้นจนพอจะสามารถต่อกรกับ Wotan ได้แล้ว”
“และถ้าจะมีใครรู้จักเหล่าเทพบรรพกาลแล้วละก็ มันก็คือเจ้าไงล่ะ คาลิด จงใช้พวกเขา…จงใช้พลังของพวกเขา”
และ Green Lantern ก็มาถึงพอดี
Alan : แฟลชนั่นนายเหรอ แล้วมันเกิดอะไรขึ้นเล่ามาให้ไวเลย
Jay : เอางั้นก็ พ่อมดตัวสีดำทองนั่นเป็นคนดี ชื่อ ด็อคเตอร์ เฟท… ส่วนเจ้าตัวเขียวนั่นคือ โวตัน พ่อมดผู้ชั่วร้าย มันเป็นการต่อสู้ของพวกเขา ที่พวกเราต้องทำก็คือ จัดการสิ่งที่จะรบกวนทั้งคู่
Alan : สิ่งที่จะรบกวน แล้วมันอะไรล่ะนั่น
และในตอนนั้นก็คือการมาของ World Army
“ก็พวกนั้นไง”
Alan : โอเค นายพูดได้เข้าใจง่ายดีนี่ งั้นฉันจัดการด้านบนเอง
Jay : ส่วนฉันจัดการที่ด้านล่างนี่เอง
และกลับมาที่การต่อสู้ของสองมหาเวทย์
“ให้ใช้พลังของเทพพระเจ้างั้นเหรอ? ก็ได้เอาสิ ฉันจะทำตามที่นายบอก”
“เซท คือเทพแห่งการแปรเปลี่ยน…”
Doctor Fate ใช้พลังเวทย์ของเทพ set แปรเปลี่ยนตราของ Wotan ให้กลายเป็นของเขา
“…และ ทาร์ คือ เทพแห่งงานช่าง”
และคราวนี้พลังของเขาทำให้ระเบียงเหล็กมามัดตัว Wotan ไว้ ทางด้าน Green Lantern กับ The Flash ก็กำลังยื้อพวกกองกำลังโลกไว้
แต่พลังของ Doctor Fate ก็ยังหยุด Wotan ไม่ได้ และมันใช้พลังเวทที่ทำให้ร่างกายของมันลอดผ่านสิ่งต่างๆได้
Wotan : แกทำได้แค่นี้งั้นเหรอ คาลิด แกไม่เห็นหรือไงว่าแกฆ่าข้าไม่ได้ และไม่มีวันด้วย ข้ารู้สิ่งต่างๆมากกว่าเจ้า!
“เม็นฮิต เทพพีแห่งการทำลายล้าง”
Fate : …ถ้างั้นก็จงป้องกันร่างกายของแกที่จะฟื้นคืนจากการถูกสาปซะ
พลังของ Menhit เข้าเล่นงาน Wotan เต็มๆและมันได้ผล ร่างกายของมันกำลังแตกสลายเป็นชิ้นๆ
Wotan : ไม่! นี่มันไม่จริง ข้าไม่สมควรจะถูกโค่น…อีกครั้ง!
ม่ายยยยยยยยยย!
Fate : และจงสาบสูญไปด้วย ฮอรัสเทพแห่งสงคราม!
อินทรีเทพ Horus จู่โจมซ้ำใส่ Wotan จนร่างกายของมันสลายเป็นเถ้าถ่าน
ทางด้านกองกำลังโลกที่เห็นแบบนั้น ก็ตรึงกำลังไว้ไม่ลงมือผลีผลาม
Jay : ให้ตายสิ นั่นมันดูรุนแรงจริงๆ นี่นายฆ่าหมอนั่นไปแล้วจริงๆเหรอ?
Fate : ไม่ ฉันไม่คิดแบบนั้น ฉันคิดว่าส่งมันไปยังโลกใต้พิภพ หรือโลกต่างมิติ ที่ไหนสักแห่ง ถ้าฉันได้เรียนรู้เกี่ยวกับพลังของฉันมากกว่าก็คิดว่าน่าจะตอบคำถามของนายได้นะ
Alan : นี่พวก เก็บเรื่องที่จะคุยไว้ก่อน แล้วค่อยมาคุยกันหลังจากที่ไม่มีพวกกองกำลังโลกมายุ่งจะดีมั้ย…
Fate : ฉันสามารถพาพวกเราออกไปจากที่นี่ได้
Alan : เยี่ยมงั้นเอาเลย
Jay : แม่ครับมาทางนี้
แล้ว Doctor Fate ก็ใช้พลังวาร์ปพวกเขาทั้งหมดออกไป
4 ชั่วโมงต่อมาที่ สำนักงานใหญ่ของ Global Broadcasting Company
(และบ้านของ Alan Scott), New York
Alan : เอาล่ะ ผ่อนคลายกันได้แล้วทุกๆท่าน ทุกๆอย่างถูกซ่อมแซมหมดแล้ว
Alan : และเมื่ออยู่ที่นี่ ฉันขอกำจัดตัวตนของฉันทิ้งไปก่อนนะ… พวกนายน่าจะรู้มั้ง… บุคคลสาธารณะที่เป็นเหมือนเครื่องจักรคนนั้นน่ะ
Jay : ใช่ ผมคิดว่าคุณคือ อลัน สก๊อตต์… และตอนที่รู้ว่าคุณเป็นใครจริงๆที่แทบทำเอาผมใจหายเลยทีเดียว
Alan : ช่างมันเถอะ ตอนนี้ที่ต้องทำก็คือ ต้องทำให้สื่ออยู่ข้างเรา เหมือนกับตอนวันเดอร์วูแมนหรือเหมือนกับซุปเปอร์แมนแล้วแบบนั้นจะทำให้พวกรัฐบาลไม่กล้ายุ่งกับเรา
Jay : แบบนั้นก็ดีนะคุณสก๊อตต์ เพราะตอนนี้ที่ฉันรู้ก็คือ บ้านของฉันพัง และกลายมาเป็นคนที่ทางการต้องการตัวอีก ไม่มีใครรู้ว่าคุณเป็นใคร แต่ทุกๆคนดันรู้ว่าเจย์เป็นแฟลช และฉันคือแม่ของเขา…
Jay : แม่ผมพูดถูกนะ คุณอลัน ตอนนี้คุณน่ะเป็นคนที่รวยมากเลยทีเดียว
Alan : ฉันเข้าใจ นายกับแม่อยู่ที่นี่ได้ ฉันมีห้องพักสำหรับส่วนของแขกอยู่ด้านล่างอพาร์ทเม็นของฉัน และมันก็เพียงพอสำหรับ นาย, แม่ของนาย, ด็อคเตอร์ เฟท… โอ้ ใช่และ ฮอร์คเกิร์ลด้วย หลังจากที่ฉันกลับไปรับเธอที่เมืองจีนล่ะนะ
Fate : ไม่ คุณจะไม่ได้ไปที่นั่น
Alan : ว่าไงนะ?
Fate : นายจะได้กลับไป แต่ไม่ใช่ในตอนนี้ ฉันได้เห็นอะไรบางอย่างเมื่อครู่นี้ มันคือคำพยากรณ์ เปิดทีวีดูสิ
“…ขอขัดจังหวะข่าวสักครู่ ด้วยข่าวด่วนนะคะ เป็นที่แน่ชัดแล้ว สเต๊พเพ่นวูฟ นั้นตอนนี้อยู่ดิวเรน ประเทศที่ตอนนี้เขาสถาปนาตัวเองขึ้นเป็นผู้ปกครองที่นั่น และกองกำลังโลกก็เตรียมที่จะประกาศสงครามกับที่นั่นแล้ว และจากการวิเคราะห์ของเรา การจู่โจมกำลังจะเริ่มขึ้นในเร็วๆนี้…”
Fate : และนั่นทำให้ฉันคิดว่า เมืองจีนคงต้องรอไปก่อน
สงครามระหว่าง Steppenwolf กับเหล่าฮีโร่และโลกใบนี้กำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว
เล่มหน้า
สงคราม เพลิงโหม Captain Steel และ Batman
และเพิ่มเติมสำหรับบรรดาเทพในเล่มนี้
Wadjet : วัดเจต เทพผู้มีรูปร่างเหมือนงูเห่า คอยพิทักษ์ปกป้ององค์ฟาโรห์
Set : ในคอมมิคบอกว่าเป็นเทพแห่ง transformation (การเปลี่ยนแปลง) แต่จากที่ค้นหามาเขาว่ากันว่าเป็นเทพแห่งพายุ และภายหลังกลายมาเป็นเทพแห่งความชั่วร้าย และถูกยกย่องเป็นเทพแห่งสงคราม
Ptah : บ้างก็ว่าเป็นเทพแห่งความมืดมิด เทพที่คุ้มครองชีวิตหลังความตาย แต่ก็อีกแหล่งที่บอกว่าเป็นเทพผู้อุปถัมภ์การช่าง และเชื่อว่าเป็นผู้ที่ให้ชื่อแก่สรรพสิ่งต่างๆ
Menhit : ถูกเรียกขานเป็นเทพีแห่งสงคราม
Horus : เรียกขานหลายชื่อเป็นทั้งเทพแห่งท้องฟ้า เทพแห่งแสงสว่างหรือแม้แต่เทพแห่งปัญญา (ไม่เหมือนกันซักที่) มีดวงตาที่มองรู้แจ้งเห็นจริง บางที่ก็บอกว่าเป็นผู้ที่มอบอาวุธ (อำนาจ) ให้แก่ฟาโรห์ และมีการนับถือเป็นเทพแห่งสงครามด้วย
<———————————————————>
เผยแพร่ครั้งแรกที่ : Bank-Comics For Fun
มันส์มาก