X-Men #1
เรื่องโดย : Brian Wood | ภาพโดย : Oliver Coipel | วางจำหน่าย : 29 พฤษภาคม 2013
สำนักพิมพ์ : Marvel Comics
พบกับการกลับมาของ Jubilee และทารกตัวน้อย ที่จะพาเรื่องยุ่งๆ และมหันตภัยร้ายมาสู่โลก และตอนนี้มีเพียง X-Men เท่านั้นที่จะหยุดมันได้
.
บนชั้นบรรยากาศ อุกกาบาตกำลังลุกไหม้และพุ่งลงมาบนโลก
“ก่อนที่จะถึงจุดกำเนิดของชีวิต มันมีแบคทีเรียที่เป็นญาติกันอยู่ 2 ตัว”
และชายคนหนึ่งก็กำลังขับรถไปยังสถานที่แห่งหนึ่งอย่างเร่งรีบ
“มันเป็นคู่ที่สมบูรณ์แบบ แต่มันก็ยังตกเป็นทาสของธรรวมชาติของมันเอง การจำลองตัวเอง การปกครอง และการเอาตัวรอด”
แล้วมันก็พุ่งลงไปยังมหาสมุทร
“แต่แล้วหนึ่งในนั้นก็ถูกบังคับให้ต้องจากไป ให้วิวัฒนาการด้วยตัวเธอเอง ให้ค้นพบสถานที่ของตัวเองในจักรวาลที่ถือกำเนิดใหม่ ส่วนอีกตัวหนึ่ง ผู้ที่ได้รับชัยชนะ ก็ได้มายังโลกเพื่อรับในสิ่งที่มันสมควรจะได้”
“และเมื่อหลายช่วงชีวิตได้ผ่านมาและผ่านไป เผ่าพันธุ์ที่มีอยู่นิดน้อยกลับเติบโตขึ้นมาเป็นเผ่าพันธุ์ที่ยอดเยี่ยม และมันล่วงเลยมาเป็นเวลากว่าพันล้านช่วงชีวิต”
“… และนั่นทำให้เธอผู้โดดเดี่ยวนี้ ถูกลืมเลือนไป”
จากนั้นบนท้องถนน รถคันหนึ่งกำลังวิ่งด้วยความเร็วสูงที่สุดเพื่อไปยังที่หมาย
“แม้แต่กับสิ่งมีชีวิตโบราณกาลที่สุด เวลากว่าหลายล้านปีนั้นก็ใช่ว่าจะไม่สำคัญอะไรเลย แต่กลับตรงกันข้าม มันแทบจะไม่น่าเชื่อจริงๆ ว่า Siblings ทั้งคู่นั้นจะเจริญเติบโตและขึ้นสู่จุดรุ่งโรจน์”
“ชายและหญิง ที่ทิ้งขว้างเธอออกมา”
“เธอไม่เคยลืมเลือนสิ่งนั้น และฝังมันไว้ลงไปยังส่วนที่ลึกที่สุด รหัสพันธุกรรมของเธอเอง เป็นปัจจัยสำคัญที่สี่”
“การล้างแค้น”
เมืองแห่งหนึ่งเกิดการระเบิดอย่างรุนแรง และมีชายคนหนึ่งที่เฝ้ามองดูทุกอย่างที่เกิดขึ้น
Sofia, สนามบินนานาชาติของ Bulgaria
Jubilee อยู่กับเด็กน้อยคนหนึ่งที่สนามบินแห่งนี้
“จูบิลเลชั่น ลี เธอเป็นเด็กกำพร้า มีเพื่อนอยู่เพียงเล็กน้อย และเธอทำตัวเป็นคนไร้ที่อยู่อาศัยที่ทางตอนใต้ของรัฐแคลิฟอร์เนีย…”
“…เธอได้รับการช่วยเหลือโดยเหล่า X-Men ซึ่งสำหรับเธอแล้ว ชีวิตที่ครั้งหนึ่งช่างน่าอดสูและเต็มไปด้วยขวากหนามที่รายล้อม… ได้เปิดออกกลายมาเป็นชีวิตที่เต็มไปด้วยความเป็นไปได้อันไร้ขีดจำกัด เธอได้กลายมาเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวอีกครั้ง”
แต่ในขณะที่เธอทำกำลังทำเรื่องต่างๆในสนามบิน ก็มีสายตาหนึ่งจ้องมองมายังเธอ เขาคือชายที่ลงมาจากชั้นบรรยากาศคนนั้น และเขาใช้ชื่อว่า Caselli ดูเหมือนว่าเขากำลังตามเธออยู่
“มิวแทนส์ มันคือคำที่มีความหมายที่สื่อถึง ความหวาดกลัวและความเกลียดชัง…”
“…ความคุ้มคลั่งและความอคติ…”
“…สงครามและการแตกแยก…”
“…ความผิดปกติ, ความอัปยศ, ความโดดเดี่ยว…”
“…ความรุนแรง และการสังหาร…”
“…แต่สำหรับ จูบิลี่ แล้ว เธอมีเพียงคำเดียวที่สามารถอธิบายถึงเอ็กเม็นซ์ได้ และมันคือ”
“บ้าน”
X-Men #1 : Primer Part 1 of 3
ที่โรงเรียนจีนเกรย์
เด็กสาว 2 คนเกิดการทะเลาะกัน และก็มีผู้ที่เข้ามาห้ามไว้
??? : นี่เด็กๆ
Rachel : บลิง และ เมอร์คิวรี่ ถอยออกมา ส่วนคนอื่นๆ คาบแรกกำลังจะเริ่มแล้วนะ
Rachel : แล้วทีนี้บอกมาได้แล้ว มันเกิดอะไรขึ้นที่นี่?
Mercury : ไม่มีอะไรค่ะ อาจารย์ ราเชล
Storm : เมอร์คิวรี่ เธอไปได้แล้ว เราจะมาคุยกันทีหลัง
Rachel : แต่ โอโรโร่ ฉันแน่ใจว่าเธอคือคนที่…
Storm : ฉันรู้ แต่ฉันอยากจะคุยกับบลิงก่อน ร็อกซี่ บอกฉันมาว่ามันเกิดอะไรขึ้น
Bling : หนูไม่อยากจะพูดถึงเรื่องนั้น
Rogue : เฮ้ ราเชล ดูท่าพวกเราจะมีปัญหาแล้วล่ะ
และที่สถานีรถไฟ Grand Central
Jubilee : ฉันไม่มีเวลาที่จะมาอธิบายนะ แต่ฉันกำลังจะไปหาพวกเธอ
“เดี๋ยวก่อนจูบิลี่ อยู่ตรงนั้นก่อน อยู่ในที่ที่มันมีฝูงชน แล้วพวกเราจะไปหาเธอ…”
Jubilee : ฉันไม่รู้ว่าเขาเป็นใคร หรือเขาคิดจะทำอะไร ดังนั้นฉันจะขึ้นรถไฟขบวนถัดไป เพื่อไปหาพวกเธอ ไปยังที่ที่พวกเราจะปลอดภัยมากกว่านี้
“พวกเราเหรอ? หมายความว่าไง จูบิลี่ เธออยู่กับใคร…”
แต่แล้วเธอก็วางสายไปซะก่อน และเมื่อเธอเดินจากไป นาย Caselli ก็เดินมาที่โทรศัพท์ และกดปุ่มทำการโทรซ้ำ และนั่นทำให้เขารู้ว่าเธอโทรหาใคร และกำลังจะไปที่ไหนนั่นเอง
และในขณะที่รถไฟกำลังวิ่งอยู่ Storm, kitty และ Rogue ก็ยกกันมาที่นี่ โดยไม่รอ Jubilee
Storm : เธอแน่ใจกับเรื่องนี้แน่นะ คิตตี้? นี่มันไม่ใช่ของชิ้นเล็กๆเลยนะ… มันเป็นรถไฟที่วิ่งอยู่และเต็มไปด้วยผู้คนนะ
Kitty : แต่คุณก็ได้ยินที่เธอพูดนี่ มันมีอย่างผิดปกติ และถ้าเธอต้องการความช่วยเหลือ ฉันก็อยากจะไปช่วยเธอให้เร็วที่สุด ก่อนที่มันจะสายไป
Storm : ถ้างั้นพวกเราก็ควรจะทำมันให้รอบคอบและเร็วที่สุดนะ คิตตี้ ลงไปในนั้นและตรวจดูสิ่งต่างๆให้เร็วที่สุด
Kitty : โอเค ตามนั้น
Rogue : ต้องขอบใจ นอร์ทสตาร์จริงๆ ที่ทำให้ฉันสามารถปรับความเร็วให้เข้ากับรถไฟได้ง่ายแบบนี้ เอาล่ะจับไว้นะ…
Kitty : ระวังหน่อยนะ โร๊ก
Rogue : แหม ผ่อนคลายหน่อยเถอะน่า มันออกจะหายากนะที่ฉันจะได้โอกาสที่จะได้ออกบินในภารกิจแบบนี้น่ะ ให้ฉันได้สนุกกับมันหน่อยเถอะ …แต่ตอนนี้เธอต้องปล่อยแขนของฉันได้แล้ว คิตตี้
จากนั้น Kitty ก็ผ่านเข้าไปในรถไฟได้สำเร็จ
Kitty : ถึงเวลาของฉันแล้ว เอาล่ะ โอเค ฉันเข้ามาได้แล้ว ฉันจะลองค้นหาดูจากท้ายขบวนไปข้างหน้าเรื่อยๆนะ ส่วนพวกเธอก็ค้นดูจากครึ่งขบวนแรกแล้วกัน
“พวกเราเข้ามาแล้ว และยังไม่เจออะไรเลย พวกเรากำลังจะเดินไปหาเธอนะ”
Kitty : ทราบแล้ว
แต่แล้วกลับเป็นเธอที่ถูกพบเข้าซะก่อน
Jubilee : คิตตี้? นี่เธอมาทำอะไรที่นี่เนี่ย?
Kitty : จูบิลี่ และ โอ้แม่เจ้า… เด็กคนนี้ใครกัน เธอมาทำอะไรกับเด็กคนนี้เนี่ย?
และที่หน้าโรงเรียน มีเฮลิคอปเตอร์ลำนึงบินลงมาจอด พร้อมชายคนที่เราเห็นเดินลงมา
Rachel : ที่นี่เป็นสถานที่ส่วนบุคคล! และเป็นโรงเรียนสำหรับเด็กๆ! ฉันไม่รู้ว่าคุณเป็นใคร แต่ฉันขอยืนยันว่านี่มัน…
“ราเชลฉันกำลังโดนจับตาดูอยู่ เธอมองไม่เห็นผู้ชายคนนั้นเหรอ?”
“เขาคือ จอร์น ซับไบล์ม ขอเตือนให้เธอและเด็กๆเข้าไปในโรงเรียนเดี๋ยวนี้ แล้วฉันจะพาคนที่มีพลังโทรจิตระดับสูงสุดสองคนไปจัดการเขาก่อนที่เขาจะเข้าใกล้…”
Rachel : “เดี๋ยวก่อน…”
Sublime : ที่นี่คือโรงเรียนของเอ็กเม็นซ์ใช่มั้ย ฉันยอมแพ้ ด้วยใจจริงและไม่มีกลลวงใดๆทั้งนั้น พวกเราพอจะพุดคุยกันได้มั้ย? ตอนนี้เวลาเป็นสิ่งที่สำคัญมากนะ
Rachel : “จัดเตรียมห้องในโรงเรียนให้หน่อยสิ เอาให้ไกลจากเด็กๆ และมีการรักษาความปลอดภัยที่ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ ฉันต้องการห้องขัง ไซลอค ห้องขังที่พอจะขังเจ้าหมอนี่ได้”
Psylocke : เข้าใจแล้ว
Jubilee : ฉันถูกสะกดรอยตามนะ
Rogue : ที่นี่ บนรถไฟขบวนนี้น่ะเหรอ
Jubilee : ไม่รู้สิ แต่ฉันคิดอย่างนั้น แต่ที่ชัดเจนก็คือ ตอนที่ฉันอยู่ที่ยุโรป และอีกทีก็สนามบิน ซึ่งฉันแน่ใจว่าหมอนั่นจะต้องอยู่บนเครื่องด้วยแหงๆเลย และมันทำให้ฉันค่อนข้างกลัวจริงๆ ฉันหมายถึง หมอนี่เป็นใคร? เขารู้จักฉันงั้นเหรอ?
Storm : นี่มันเกี่ยวกับทารกตรงนั้นหรือเปล่า แล้วใครเป็นผู้ปกครองเด็กคนนี้ จูบิลี่?
Jubilee : ดูท่าจะเป็นฉันนี่แหละ แต่ขอบอกไว้ก่อนว่าฉันไม่ได้ลักพาตัวเขามานะ สตอร์ม เขาเป็นเด็กกำพร้า ฉันช่วยเขาไว้ จากการระเบิดของพวกผู้ก่อการร้ายน่ะ… แต่ก็มีบางคนบอกว่ามันมีอุกกาบาตตกลงมา ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน เรื่องมันยาวน่ะ…
Jubilee : ฉันอยากจะช่วยพาเขาไปหาเหล่า เอ็กเม็นซ์ เหมือนกับที่พวกเธอช่วยฉันไว้ ฉันก็แค่อยากจะกลับบ้าน และให้เขาได้กินอาหารอุ่นๆ มีเตียงให้ได้นอนพักผ่อน เพราะฉันคิดว่าเขาคงจะใช้ชีวิตแบบเด็กกำพร้ามาได้สักพักแล้วล่ะ แล้วฉันก็อยากจะให้ ด็อกเตอร์เรเยสได้ตรวจสอบร่างกายเขาด้วย ว่าเขาสบายดีหรือเปล่า
แต่แล้วจู่ๆ เจ้าหนูที่กำลังเล่นกับ Kitty และ Rogue ก็เกิดทำหน้าตาแปลกๆ และร้องลั่นออกมากลางรถไฟ
Baby : อุ แว๊ววววววววววววววววววววววววว
Rogue : จู่ๆก็เป็นอะไรขึ้นมาล่ะเนี่ย
Jubilee : มันไม่มีอะไรหรอก อย่าร้องนะ…
Kitty : เมื่อกี๊เขายังดีๆอยู่เลยนะ
Jubilee : นี่เขา ร้องไห้หนักกว่าที่เคยมากเลยนะ
Kitty : ดูท่าเด็กคนนี้จะเกลียดฉันเข้าให้แล้วสิ
Jubilee : เขาก็แค่ต้องการแม่ของเขาน่ะ หรือไม่ก็อยากจะแตะลำโพงอันนั้น แต่อย่าแตะนะ มันสกปรก
Baby : ต๊า
แล้วนิ้วของเด็กที่เฉียดใกล้ลำโพงก็เกิดประกายสายฟ้าเล็กๆขึ้นในชั่วพริบตาหนึ่ง
และในขณะที่สาวๆกำลังพูดถึงเรื่องที่ Jubilee พาเด็กมาโดยให้เขาอยู่ในเป้สัมภาระของเธอซึ่งนั่นก็ดูเป็นเธอดี ก็เกิดเรื่องบางอย่างขึ้นกับรถไฟ พลังงานบางอย่างจู่โจมไปยังส่วนหน้าของขบวนรถ จนทำให้มันเบรกอย่างรุงแรงจนคนอื่นเสียหลัก
(ดูเหมือนจะเป็นพลังของเด็กคนนี้)
Jubilee : ต้องเป็นเขาแน่ๆ ผู้ชายที่ตามฉันมา มันต้องเป็นเขาแน่ๆ
Storm : คิตตี้ ไปตรวจดูห้องเครื่องยนต์
แล้วจู่ๆรถไฟก็เปลี่ยนเส้นทางออกไปยังเลนด้านข้าง
Storm : โร๊ก เธอพอจะช่วยให้พวกเราช้าลงหน่อยได้มั้ย
Rogue : เอ่อ นี่รถไฟกำลังมุ่งหน้าไปคนละทิศทางแล้วนะ สตอร์ม พวกเรากำลังขึ้นเหนือทั้งๆที่อยู่บนรถไฟสายใต้นะ
Storm : พวกเราจะต้องพาทุกๆคนออกไปจากรถไฟขบวนนี้
Jubilee : พวกเธอทำไม่ทันหรอกน่า…
และนอกจากรถไฟจะมุ่งหน้าไปผิดทิศทางแล้ว ประตูต่างๆยังล็อกเองอีกด้วย
Storm : นี่มันจะอะไรนักหนาเนี่ย
Jubilee : พวกเราติดกับดักอะไรหรือเปล่า?
Rogue : นี่ขอทีเถอะ… นี่มันก็แค่รถไฟที่กำลังขึ้นเหนือ มันไม่ใช่รถถังซักหน่อยนะ อีกอย่างมันถูกสร้างขึ้นมาในปี 70 อีกต่างหาก
เปรี้ยง!
พูดจบ Rogue ก็ถีบประตูลอยออกไป เหมือนถีบเต้าหู้ จากนั้นก็ปีนขึ้นไปด้านบนขบวนรถ
Rogue : สตอร์ม พาคนอื่นไปอยู่ที่ท้ายขบวน …แล้วดูแลจูบิลี่ด้วยล่ะ
และที่ห้องเครื่อง Kitty ก็พบกับบางอย่างเข้าแล้ว
Kitty : ข่าวร้ายล่ะ สาวๆ คนขับทั้ง 2 คนตายแล้ว และดูเหมือนจะเป็นเพราะกระแสไฟฟ้าที่ผิดปกติบางอย่าง และโร๊ก เธอมองเห็นไอ้นี่มั้ย
Rogue : หมายถึงรถไฟที่กำลังมุ่งหน้ามาทางนี้น่ะเหรอ แน่นอนสิ ฉันไม่พลาดอยู่แล้ว สตอร์ม บอกฉันมาสิ ว่าอย่างน้อยๆเธอจัดการเคลียร์คนไป 3 โบกี้แล้วนะ
“เรียบร้อยแล้ว”
Rogue : งั้นเธอออกไปจากที่นั่นให้ไวเลย คิตตี้
หลังจากที่ Rogue คิดแผนออก และทุกอย่างก็เตรียมการเสร็จสิ้นแล้ว เธอก็ทำการจับตัวบันไดไว้ให้แน่น และยื่นขาข้างหนึ่งลงไปเพื่อเป็นฐานสำหรับยืนพื้น
และด้วยพลังที่เธอได้รับมาจาก northstar ทำให้เธอสามารถยกขบวนรถไฟ 3 โบกี้ลอยขึ้นมาได้ และเขวี้ยงมันออกไปข้างหน้า เพื่อหยุดยั้งการปะทะกันของรถไฟทั้ง 2 ขบวน ซึ่ง Kitty ก็ออกมาได้อย่างเฉียวฉิวพอดี
Kitty : ว้าว โร๊ก นั่นเป็นการช่วยเหลือที่ยอดมาก และจริงๆฉันก็อยากจะอยู่ด้วยในตอนที่ Wolverine ต้องปิดตัวรับส่งเมลล์ พร้อมเบิกเช็คจ่ายค่าเสียหายน่ะ
“หนึ่งในพวกเธอ ฉันคาดว่า เธอเป็นผู้ดูแลเจ้าร่างเนื้อนั่น”
Rachel : งั้นเธอก็คือปืน ที่พร้อมจะเหนี่ยวไกเข้าที่หัวของนาย ถ้านายยังพูดบ้าๆแบบนั้นอยู่ เธอจะช๊อตสมองนายแน่ๆ
Sublime : นี่ ฉันจะขอพุดอีกครั้ง ว่าฉันยอมแพ้แล้วจริงๆ
Sublime : “พวกเธอก็รู้ว่าฉันไม่มีอาวุธในมือ และไม่มีแผนใดๆที่คิดจะใช้ออกมา รวมไปถึงเบาะแสหรืออะไรก็ตามที่จะสร้างปาฏิหาริย์ในตอนนี้ด้วย แต่ฉันต้องการความช่วยเหลือจากพวกเธอ และการยอมแพ้ของฉันก็คือสิ่งเดียวที่จะพิสูจน์ความเชื่อใจได้ดีที่สุด”
Sublime : 3 อาทิตย์ก่อน พี่สาวของฉันได้กลับมาสู่โลกนี้ หลบซ่อนตัวมาพร้อมกับอุกกาบาตขนาดเล็ก เธอเป็นสายพันธุ์แบคทีเรียที่แข็งแกร่งเป็นอย่างมาก ซึ่งแตกต่างกับฉันอย่างสิ้นเชิง
Sublime : เธอคือเอเลี่ยนที่พัฒนาตัวเองได้ และจากที่ฉันสังเกต ฉันได้รับรู้ว่าเธอเกี่ยวพันธุ์กับสิ่งที่เป็นเทคโนโลยีต่างๆ แต่สำหรับขีดจำกัดของเธอนั้นเป็นสิ่งที่ฉันไม่เคยรับรู้ถึงมันเลย และบางทีเธออาจจะไม่มีสิ่งนั้นก็เป็นได้
Psylocke : จะบอกว่าเธอครอบงำเครื่องจักร ในขณะที่นายครอบงำผู้คนงั้นเหรอ
Sublime : นั่นอาจจะเป็นการสรุปเรื่องราวของพวกมนุษย์ แต่ถูกต้องแล้ว มันเป็นแบบนั้น เมื่อหลายล้านปีก่อน พวกเราก่อสงครามกัน และฉันคือผู้ชนะ และขับไล่เธอออกไปยังสถานที่ที่คาดว่าจะไม่สามารถมาแตะต้องโลกใบนี้ได้อีก
“แต่ฉันพลาด ตอนนี้เธอกลับมาแล้ว…”
ที่โรงเรียนด้านนอก เหล่านักเรียนต่างมาต้อนรับการกลับมาของ Jubilee และเด็กน้อยผู้แสนน่ารัก
Kitty : เรียกพวกเราได้เสมอนะ ถ้าเธอต้องการอะไร พวกเราพร้อมที่จะจัดการให้ แม้แต่แฮ๊งค์ก็ด้วย และฉันคิดว่าเขาเองก็คงอยากจะเห็นหน้าเด็กคนนี้เหมือนกันเมื่อเขาเสร็จงานที่แลบ
Sublime : “เธอจะมาที่นี่เพื่อเติมเต็มปัจจัยทางชีวะภาพของเธอ และมันจะไม่มีอะไรที่จะหยุดยั้งเธอได้ เธอจะมาเพื่อแพร่เชื้อโรคของเธอและยึดครองโลกใบนี้ ชื่อของเธอคือ อาร์เคีย (Arkea)”
Sublime : “เธอกำลังจะมาถึงในไม่ช้า และมันก็ใกล้แล้ว”
Sublime : “เพียงแค่ฉันคนเดียวหยุดเธอไม่ได้ แต่พวกเธอ เอ็กเม็นซ์ เป็นศัตรูที่ร้ายกาจที่สุดเท่าที่ฉันเคยต่อกรด้วย”
Kitty ทิ้งมือถือไว้กับ Jubilee และดูเหมือนเธอจะเอามันให้เด็กคนนี้เล่น
Sublime : ดังนั้นฉันจะขอพูดอีกครั้ง ฉันต้องการความช่วยเหลือจากพวกเธอ นี่มันเป็นช่วงเวลาแห่งความเป็นตายของพวกเราทุกๆคนเลยนะ
Psylocke : มันอาจจะฟังดูบ้าบอคอแตก แต่เขาไม่ได้โกหก เพราะจากที่ฟังมาทั้งหมดนี่ เขาพูดความจริง
Sublime : ถ้างั้น เธอพอจะช่วยฉันได้มั้ย คุณ แบรดด็อก
Psylocke : โฮ่ แล้วมันอะไรกันล่ะ?
และในตอนนั้นที่เด็กคนนั้นได้ทำการแตะมือถือ และทำการโทรออกไปหา Hank ซึ่งมันติดไปยังมือถือของเขาที่เสียบอยู่กับ Computer พอดี
“หนึ่งในพวกคุณ เธอกำลังเดินทางมาที่นี่ด้วยรถไฟ หญิงสาววัยรุ่น”
Rachel : นี่นายรู้ได้ยังไง?
Psylocke : เขารู้ราเชล เพราะฉันมองเห็นจูบิลี่ในความคิดของเขา เขาแอบไล่ตามเธอมา
Rachel : “แต่ สตอร์ม เพิ่งส่งข้อความมาหาฉัน ว่าจูบิลี่อยู่ที่นี่แล้วนะ”
Sublime : “อยู่ที่นี่ ภายใต้การปกป้องและคุ้มครองของพวกเธองั้นเหรอ? ถ้างั้นฉันก็หวังว่าพวกเธอจะทำแบบนั้นกับเด็กทารกด้วยนะ”
Rachel : “เดี๋ยวสิ “ปกป้อง” และ “คุ้มครอง” เหรอ ทำไมต้องทำแบบนั้นกับจูบิลี่ด้วยล่ะ เธอไม่ได้มี…”
Sublime : ไม่ ฉันหมายถึงเด็กทารก! กันตัวเด็กทารกไว้! มันจะฆ่าพวกเราทุกคน!
แต่มันสายไปแล้ว ในห้องที่ทำการเก็บร่างของ Omega Sentinel : Shapandar Karima ไว้เกิดความผิดปกติ พลังงานสีเขียวบางอย่างพุ่งออกมาจากห้อง จน Beast สังเกตได้
Beast : ใครอยู่ในนั้น?
บัดนี้ร่างกายของ Omega Sentinel ถูกยึดครองแล้ว
Arkea : ฉัน คือ อาร์เคีย ไพร์ม ฉันกลับมาแล้ว และร่างกายนี้ก็เหมาะสมเหลือเกิน
ศัตรูบุกถิ่นแล้ว พวก X-Men จะทำอย่างไรต่อไปเมื่อต้องรับมือกับศัตรูที่แม้แต่ Sublime ไม่สามารถเอาชนะได้
โปรดติดตามตอนต่อไป
เล่มหน้า
การต่อสู้ในโรงเรียน!
เพิ่มเติมเล็กน้อย
John Sublime คือ ร่างโฮสของแบคทีเรีย Sublime (แบคทีเรีย1 ใน 2 ตัวนั้น) และเขาคือวายร้ายในช่วง New X-Men ที่ Grant Morrison แต่งเรื่องครับ
เขามีพลังในการเข้าควบคุมจิตใจมนุษย์ แต่สำหรับพวก Mutant นั้น เขากลับทำอะไรไม่ได้ จึงเป็นเหตุให้เขามองเห็นพวก Mutant เป็นขวากหนามและพยายามกำจัดทิ้ง
อ่านเพิ่มเติมได้ที่ : comicvine
Omega Sentinel Karima Shapandar เคยเป็นนักสืบสาวชาวอินเดีย ก่อนที่จะโดนเปลี่ยนร่างกายเป็น Prime Sentinel อาวุธที่ใช้ตามล่า Mutant และได้รับการติดตั้งโปรแกรม Omega Sentinel ไว้ ซึ่งเธอพยายามที่จะมีสติของตัวเอง และปกป้องทั้งมนุษย์และมิวแทนส์ด้วยพลังที่เธอได้รับมา
และในช่วงหลังเธอก็ได้เข้าร่วมกับ X-Men ทีม Cyclops และในช่วงอีเวนต์ Salvage โปรแกรมตามล่ามิวแทนส์ของเธอทำงาน โดยที่เธอไม่สามารถควบคุมได้ เธอเข้าเล่นงานเหล่า X-Men เพื่อนของเธอ แม้แต่กับ Hope ด้วย และในท้ายที่สุดเธอขอร้องให้ Hellion จัดการกับเธอในขณะที่เธอยังคงมีความเป็นมนุษย์อยู่ ซึ่งนั่นทำให้เธอยุติการทำงานไป และ Cyclops ก้ได้ตรวจสอบออกมาแล้วพบว่า สมองของเธอได้ตายไปแล้ว
อาวุธและพลังต่างๆของเธอเป็นรูปแบบเดียวกับ Sentinel และมีบางอย่างที่มากกว่าพวกนั้น แต่ที่แน่ๆคือเธอแข็งแกร่งกว่ามาก ทั้งจากประสบการณ์และเรื่องราวต่างๆที่ได้พบเจอ
อ่านเพิ่มเติมได้ที่ : Comicvine
<————————————————>
เผยแพร่ครั้งแรกที่ : Bank-Comics For Fun
น่าจะเปลี่ยนหัวเป็น x-woman xกันทั้งแก๊ง
ตอนเห็นภาพเรื่องเซลล์ แล้วคิดถึง เกม Parasite Eveของ Capcom(ดักแก่ไปป่าวหว่า)
ใครลอกใครหนิ 555
@ยชูวาแห่งอัสซีซี Parasite Eve ของ Square Enix ไม่ใช่เหรอครับ
เริ่มเรื่องก็มันส์ละ ในรูปเป็นแบคทีเรียนนะครับ ไม่ใช่ปรสิต
@T-T ขอบคุณมากครับ ตอนแปลดันไปคิดถึงปรสิต เลยกลายเป็นใช่ครับนั้นเฉยเลย เดี๋ยวจัดการปรับแก้ใหม่ครับ
โรงเรียนนี้มันเป็นฮาเร็มของเฮียวูลฟ์ชัดๆ
เรื่องนี้ภาพช่างงามจริงๆ ให้ตายเถอะ
เนื้อเรื่องก็สนุก เหล่า X-Woman ก็แจ่มมากๆ
ปล.โล่งอก เด็กนั่นไม่ใช่ลูก Jubilee ฮ่าๆๆ
ภาพงามๆ ตามอ่านอยู่ครับ ขอบคุณครับ