Wrath of The First Lantern : Green Lantern 20

DC Comic: Wrath of The First Lantern : Green Lantern 20 : จุดสิ้นสุดแห่งการเริ่มต้น
เรื่อง : Geoff Johns
ภาพ : Doug Mahnke, Dan Jurgens
วางจำหน่าย: 22 พฤษภาคม 2013
สำนักพิมพ์ : DC Comics

Event Wrath of The First Lantern มาถึงตอนจบแล้ว ในเล่มใหญ่พิเศษที่มีความหนาถึงกว่า 60 หน้านี้!!

เ้หล่า Lantern จะสามารถหยุดยั้งความบ้าคลั่งของ First Lantern และปกป้องประวัติศาสตร์ของจักรวาลจากปีศาจร้ายตนนี้ได้่หรือไม่?

.
.
.
เปิดฉากมาในอนาคตอันแสนไกล
ที่ Oa ดาวหลักของ Green Lantern Corps
เหล่า Green Lantern มือใหม่กำลังกล่าวคำปฏิญาณในพิธีจบการศึกษา

“ในวันอันสว่างไสว ในคืนอันมืดมิด”
“ไม่มีความชั่วร้ายใดรอดพ้นสายตาของข้าไปได้”
“ให้เหล่าผู้บูชาอำนาจแห่งความชั่วร้าย”
“จงระวังพลังของข้า”
“แสงแห่งกรีนแลนเทิร์น”

ทันทีที่จบพิธี Green Lantern Snow ก็มุ่งหน้าไปยังสถานที่แห่งหนึ่ง

Snow : ในที่สุดเวลานี้ก็มาถึง

Snow : ท่านบรรณารักษ์!

Snow : ผมได้เป็นสมาชิกขององค์กรอย่างเต็มตัวแล้วครับ

Bookkeeper : ข้าทราบแล้วแลนเทิร์นสโนว์

Snow : ผมอยากจะฟังเรื่องราวนั้น เรื่องราวของ…

Bookkeeper : ข้ารู้ว่าท่านต้องการฟังเรื่องราวอะไร เพราะมันคือเรื่องราวที่แลนเทิร์นรุ่นใหม่ทุกคนที่มายังหอสมุดกลางนี้ต้องการจะฟัง

ที่ภายในหอขนาดใหญ่นั้น คือที่เก็บ The Book of OA หนังสือที่รวบรวมเรื่องราวทั้งหมดของ Green Lantern Corps เอาไว้

Bookkeeper : ท่านต้องการจะฟังเรื่องราวของฮาล จอร์แดน

Bookkeeper : หนังสืออันเก่าแก่เล่มนี้ถูกต่อชีวิตไว้ด้วยเหล่าเรื่องราวที่ไม่มีวันตาย แต่มีผู้ที่รู้มันอย่างแท้จริงเพียงน้อยนิดเท่านั้น

Snow : ผมรู้สึกเป็นเกียรติ์จริงๆท่านบรรณารักษ์

Bookkeeper : ข้าขอเริ่มจากตอนที่มันเริ่มต้น…เวลาที่อาบิน เซอร์ผู้เป็นตำนานประสบเหตุยานตกและเสียชีวิตบนดาวเคราะห์โลก ฮาล จอร์แดนได้กลายมาเป็นชาวโลกคนแรกที่ได้เข้าร่วมกับกรีนแลนเทิร์นคอร์ป

Bookkeeper : และการผจญภัยของเขาก็เริ่มขึ้นตั้งแต่นั้น

Bookkeeper : ฮาลรับใช้องค์กรด้วยดีตลอดหลายปีหลังจากนั้น แม้จะมีนอกลู่นอกทางไปบ้าง

Bookkeeper : แต่วันเวลาเหล่านั้นก็ต้องจบลงเมื่อฮาลไม่สามารถปฏิบัติตามคำสาบานขององค์กรได้

Bookkeeper : เมื่อครั้งที่เมืองที่เขาเรียกว่าบ้านถูกทำลาย ฮาล จอร์แดนถูกครอบงำโดยความโกรธ, ความสิ้นหวัง และเหนืออื่นใด ความกลัว

Bookkeeper : เขายอมให้ความกลัวนั้นเข้าบดบังตาของเขา…ความชั่วร้ายนั้นได้หลุดรอดสายตาของเขาไป

Bookkeeper : ในห้วงเวลาที่เขาอ่อนแอที่สุดนั้นเอง ร่างอวตารแห่งความกลัว…ที่ถูกรู้จักในนามว่าพาราแล็กซ์ได้เข้ายึดกุมวิญญาณของฮาล

Bookkeeper : ในตอนนั้นกรีนแลนเทิร์นก็ตายไป

Bookkeeper : และปีศาจร้ายก็ถือกำเนิดขึ้น

Bookkeeper : เมื่อตอนที่ถูกสิ่งสู่โดยพาราแล็กซ์ ฮาล จอร์แดนได้กลายเป็นศัตรูต่อองค์กรและเพื่อนๆของเขาเอง แต่เขาก็ยังต่อสู้อยู่ภายในตัวของเขา

Bookkeeper : และด้วยความช่วยเหลือของเหล่าเพื่อนๆของเขา เขาก็เอาชนะการครอบงำของพาราแล็กซ์และขับมันออกไปจากร่างของเขา

Bookkeeper : นี่คือเวลาที่ฮาล จอร์แดนได้เกิดใหม่เป็นครั้งแรก ไม่เพียงทางร่างกาย แต่รวมไปถึงจิตใจด้วย

Bookkeeper : ฮาล จอร์แดนต่อสู้กับพวกแมนฮันเตอร์

Bookkeeper : เขาเสี่ยงชีวิตเข้าช่วยเหล่ากรีนแลนเทิร์นที่สิ้นศรัทธาในตัวเขา

Bookkeeper : แต่เมื่อตอนที่แลนเทิร์นขบถซิเนสโตรเข้ารุกรานจักรวาลพร้อมกับองค์กรของเขาเอง ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป

Bookkeeper : ฮาลนำเหล่ากรีนแลนเทิร์นไปสู่ชัยชนะ และได้รับความเชื่อมั่นกลับมา

Bookkeeper : สงครามแห่งแสงเกิดขึ้นตามมาจากนั้น…และฮาลก็ต้องเผชิญกับสิ่งที่เขาไม่เคยแม้แต่จะจินตนาการไปถึง

Bookkeeper : อย่างเช่นอโตรซิตัส และเหล่าเรดแลนเทิร์นที่โกรธเกรี้ยวของเขา…

Bookkeeper : และลาฟลีซผู้ครอบครองพลังแห่งแสงสีส้มแต่เพียงผู้เดียว

Bookkeeper : ต่อจากสงครามแห่งแสง ก็เกิดเหตุที่เหล่าคนตายลุกขึ้นมาจากหลุมศพ

Bookkeeper : เหล่าองค์กรแลนเทิร์นอื่นๆทั้งสตาร์แซฟไฟร์, บลูแลนเทิร์นและอินดิโกไทร์ปต่างเข้าร่วมกับฮาลในการต่อกรกับเนครอนและกองทัพผีดิบแบล็คแลนเทิร์นของมัน

Bookkeeper : หลังจากนั้นฮาล จอร์แดนก็ต้องเข้าร่วมเป็นพันธมิตรกับซิเนสโตร ที่ได้กลับมาเป็นกรีนแลนเทิร์นอีกครั้ง

Bookkeeper : พวกเขาต่อสู้กับองค์กรของซิเนสโตรเอง ที่เข้ายึดครองสิ่งเดียวที่ซิเนสโตรให้ความสำคัญเหนืออื่นใด…ดาวบ้านเกิดของเขา โครูก้า

Bookkeeper : ทั้งฮาลและซิเนสโตรร่วมมือกันปลดปล่อยโครูก้าได้สำเร็จ…

Bookkeeper : …และได้ค้นพบแผนของพวกการ์เดี้ยนที่คิดจะทำลายกรีนแลนเทิร์นคอร์ป

Bookkeeper : พวกการ์เดี้ยนที่บ้าคลั่งจากการที่ปราศจากอารมณ์ความรู้สึก ได้ใช้แบล็คแลนเทิร์นนามแบล็คแฮนด์เพื่อสังหารฮาลและซิเนสโตร…

Bookkeeper : พวกเขาถูกดูดไปในแหวนสีดำของแบล็คแฮนด์ วิญญาณของพวกเขาติดอยู่ในเดดโซน

Bookkeeper : กรีนแลนเทิร์นชาวโลกอีกคน…ไซม่อน บาซ…ได้พยายามจะช่วยเหลือฮาล

Bookkeeper : แต่ซิเนสโตรกลับใช้ประโยชน์จากบาซ และเป็นคนที่ได้ออกไปเสียเอง

Bookkeeper : ในขณะที่ฮาลพยายามหาทางอื่นที่จะหนีออกไป จักรวาลก็ต้องเผชิญกับความบ้าคลั่งของแลนเทิร์นคนแรก…บุคคลลึกลับที่มีนามว่าวอลธ์ธูม

Bookkeeper : เมื่อฮาลได้รับรู้ถึงความพินาศของโครูก้าจากฝีมือของแลนเทิร์นคนแรก เขาก็ตัดสินใจว่าจะไม่รอการช่วยเหลืออีกต่อไป…

Bookkeeper : …เขาจึงกระโดดไปสู่ความตาย

Bookkeeper : แล้วฮาล จอร์แดนก็ตายไปอย่างแท้จริง

แล้วก็ตัดมาที่ปัจจุบัน

Hal Jordan ได้ตัดความเชื่อมโยงสุดท้ายกับโลกของคนเป็นไป…

ขณะเดียวกันนั้น
ที่เศษซากที่หลงเหลือของ Korugar

Sinestro ที่ตอนนี้สูญสิ้นทุกสิ่งก็กำลังจะทำในสิ่งที่เหมือนกับการฆ่าตัวตาย…

เขาถอดแหวนพลังสีเขียวของเขาเองออก?!

ตอนนั้นเอง แหวนพลังสองวงในต่างสถานที่ก็เข้าหาพวกเขา

แหวนพลังสีดำลอยเข้าหา Hal Jordan

[ฮาล จอร์แดนแห่งโลก]
[จงตื่นขึ้น]

พร้อมกับที่แหวนพลังสีเหลืองลอยออกจากตะเกียงพลังสีเหลืองตรงหน้าเข้าหา Sinestro

[ธาลล์ ซิเนสโตรแห่งโครูก้า]
[เจ้ามีความสามารถในการปลูกฝังความกลัวให้ผู้อื่น]

ขณะเดียวกันที่ Maltus ดาวเคราะห์บ้านเกิดของพวก Guardians
เหล่า Hidden Ones ได้มาเพื่อค้นหา “หัวใจ” สิ่งที่เก็บรักษาอารมณ์ความรู้สึกของพวก Guardians เอาไว้ เพื่อจะใช้มันส่งมอบคืนอารมณ์ความรู้สึกให้กับเหล่าพวกพ้องที่บ้าคลั่งไปแล้วของพวกเขา…แต่ทว่า…

Hidden : เรามาสายเกินไป “หัวใจ” ถูกเอาไปแล้ว

Hidden : วอลธ์ธูมเอามันไป!!

Hidden : และนั่นก็ทำให้เราเสียโอกาสที่จะช่วยเหลือพี่น้องของเราไปแล้ว

ตัดไปที่ OA ดาวหลักของ Green Lantern Corps
First Lantern และพวก Guardians ก็มาถึง

First Lantern : ในที่สุดพวกเจ้าก็กลับมาถึงบ้านแล้ว ซึ่งตอนนี้มันเป็นของข้า

Ganthet : มันจะเป็นการฉลาดกว่าถ้าเจ้าจะหยุดการทำลายล้างมิติแห่งความเป็นจริงและปล่อยเราออกไปเดี๋ยวนี้นะวอลธ์ธูม!

Ganthet : เจ้าได้ดึงเอาพลังแห่งแสงทั้งเจ็ดด้วยเจตนาเพื่อใช้มันย้อนกลับเข้าไปในประวัติศาสตร์และเปลี่ยนแปลงมันเพื่อความต้องการอันบิดเบี้ยวของเจ้าเอง

First Lantern : ถูกต้องแล้ว

Guardian : แต่จำได้ไหมว่าโครน่าก็เคยพยายามจะไขความลับจุดกำเนิดของเวลาและเขาก็ถูกสาปไปตลอดการเพราะเหตุนั้น

First Lantern : โครน่าน่ะถูกสาปโดยพวกเจ้าเพราะเขากล้าที่จะค้นหาความจริงที่เราต่างก็ตั้งคำถามถึงมัน : ความหมายของชีวิตคืออะไร?

First Lantern : พวกเจ้ากลัวคำตอบที่อาจจะได้นั้น ไม่สิ…พวกเจ้ากลัวว่ามันจะไม่มีคำตอบให้พวกเจ้าต่างหาก

Ganthet : เราไม่กลัวอะไรทั้งนั้น วอลธ์ธูม

First Lantern : ตอนนี้เจ้าอาจจะไม่กลัว แต่มันก็ไม่ใช่อย่างนั้นมาตั้งแต่ต้น อย่าลืมสิว่าข้าก็อยู่ที่นั่นตอนมันเกิดขึ้นนะการ์เดี้ยน

First Lantern : ข้าเป็นสักขีพยานในตอนที่พวกเจ้าเลือกทอดทิ้งหัวใจของเจ้าเอง

First Lantern : ข้าเดินทางข้ามจักรวาลและย้อนไปในกลาลเวลา และได้เป็นสักขีพยานในการสร้างตะเกียงพลัง…ที่มันได้กลายมาเป็น “หัวใจ”

First Lantern : และเมื่ออารมณ์ความรู้สึกของพวกเจ้าถูกดูดไปใส่ไว้ในตะเกียงพลัง ด้วยพลังที่ควบแน่นอยู่ในพายุแห่งพลังงานนั้น แหวนพลังวงแรกก็ถือกำเนิดขึ้น!

First Lantern : แหวนที่ทรงพลังยิ่งกว่าวงไหนๆ

First Lantern : แต่พลังของมันเกินกว่าที่มนุษย์อันต่ำต้อยจะครอบครอง

First Lantern : ข้าถูกเปลี่ยนแปลงไปตลอดกาล

First Lantern : ข้าถูกรวมเข้ากับพลังงานอารมณ์ความรู้สึกของพวกเจ้าที่ถูกควบแน่นจนทรงพลังนั้น

First Lantern : นั่นก็คือ “หัวใจ” ที่อยู่กับข้านี้

First Lantern : มันคือตะเกียงพลังดวงแรกนี้

ทันใดนั้น First Lantern ก็ส่งพลังที่ดึงมาจาก “หัวใจ” เข้าใส่พวก Guardians?!

First Lantern : แต่หัวใจอันเหี่ยวแห้งของพวกเจ้าจะได้เต้นอีกครั้ง!

First Lantern : เพราะข้าอยากให้พวกเจ้ารู้สึกถึงทุกอย่างที่กำลังจะเกิดขึ้น

ว่าแล้ว First Lantern ก็ล้วงมือเข้าไปในปากของ Ganthet?!

First Lantern : ทีนี้ก็จงคืนสิ่งที่เจ้าขโมยไปจากข้าเมื่อนานมาแล้วได้ซะทีล่ะนะกานเธท สิ่งที่มันช่วยให้เจ้ายังคงรักษาจิตใจของเจ้าเอาไว้ได้ในขณะที่พวกคนอื่นๆสูญเสียมันไป!

First Lantern : ใช่แล้ว! แหวนพลังวงแรกนี้ไง

Ganthet : ข้า…ข้ารู้สึกเสียใจเหลือเกิน

Guardian : และรู้สึกอับอายยิ่งนัก!

Guardian : นี่วอลธ์ธูมมันทำอะไรกับพวกเรา?!

First Lantern : ข้าได้อนุญาติให้พวกเจ้าได้รับรู้อย่างชัดเจนขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบหลายล้านปียังไงล่ะ

First Lantern : ที่นี้จงรออยู่ที่นี่ในระหว่างที่ข้าแก้ไขจักรวาลของเจ้าให้ซะเถอะ

แล้ว First Lantern ก็ไปยัง Central Power Battery

First Lantern : แบตเตอร์รี่ศูนย์กลางนี้จะทำหน้าที่เป็นจุดเชื่อมต่อให้ข้ากลับไปยังอดีต

First Lantern : และจากนั้นทุกสิ่งทุกอย่างก็จะอยู่ในความครอบครองของข้า!

แต่พริบตานั้นเอง ก็ปรากฎโซ่ที่สร้างจากแสงสีเขียวเข้ายึดกุม First Lantern เอาไว้?!

First Lantern : อะไรกัน?!

??? : อย่าได้เข้าใจผิดกับการที่แกโดนมัดด้วยโซ่เชียวล่ะ พรรคพวก

Green Lantern Corps มาแล้ว!!

Guy : เพราะแกไม่ได้กำลังถูกจับกุมอยู่หรอกว่าเจ้านักฝัน แกน่ะกำลังจะโดนอัดจนน่วมต่างหาก

First Lantern : โอ้ เจ้ายังไม่รู้สินะกาย การ์ดเนอร์? ข้าน่ะกลับสู่สภาพสมบูรณ์เต็มที่แล้ว ข้าไม่ต้องใช้ความฝัน หรือภาพลวงตา หรือเรื่องสมมุติของทางเลือกในอดีตอีกแล้ว ตอนนี้ความเป็นจริงทั้งหมดเป็นของข้าที่จะทำอะไรก็ได้ตามใจชอบ

First Lantern : ที่จะสร้างทุกสิ่งที่ข้าต้องการ…และต่างกับพวกเจ้า…

First Lantern : …สิ่งที่ข้าสร้างขึ้นนั้นมีตัวตนจริงๆ

ตัดมาที่ Dead Zone ดินแดนแห่งคนตาย

Tomar-Re : เมื่อไม่มีแหวนพลังสีดำแล้ว แบล็คแฮนด์ก็ไม่มีสิ่งที่จะช่วยคงสภาพร่างกายของเขาไว้ได้อีก

ทั้ง Hal และ Tomar-Re มองดูร่างของ Black Hand สลายเป็นเถ้าถ่าน…สลายเป็นส่วนหนึ่งของ Dead Zone อย่างสมบูรณ์

Hal : ขี้เถ้าสู่ขี้เถ้า ธุลีสู่ธุลีสินะ

Tomar-Re : นายทำได้ยังไงกันน่ะฮาล? นายเอาแหวนพลังของเขามาใช้งานได้ยังไง?

Hal : ฉันใช้พลังความมุ่งมั่นของฉันควบคุมมัน

Tomar-Re : แต่แม้จะใช้แหวนวงนั้นได้ก็ตาม นายจะหนีไปจากโลกหลังความตายนี้ได้ยังไงกัน?

Hal : ก็ด้วยความช่วยเหลือจากเพื่อนไงล่ะ

ตัดไปที่ดาวเคราะห์ Nok ดาวหลักของ Indigo Tribe

ตัดมาที่ Oa
สถานการณ์กำลังย่ำแย่

Guy : บ้าเอ๊ย เรามีแลนเทิร์นตายมากขึ้นเรื่อยๆแล้ว อดทนไว้นะเพื่อน อดทนไว้…

ทันใดนั้น Guy ก็รู้สึกถึงกระแสพลังสีแดงที่ร้อนแรงแผ่ออกมาจากข้างหลังเขา?!

ผู้ที่มาคือ Atrocitus และ Red Lantern Corps ของเขา!!

Atrocitus : วอลธ์ธูม เจ้าเล่นสนุกกับชีวิตของข้าด้วยเจตนาจะทำลายข้าและองค์กรของข้า

Atrocitus : ข้าจะทำลายใครก็ตามที่บังอาจทำร้ายเหล่าแลนเทิร์นของข้า!

ว่าแล้ว Atrocitus ก็หักคอของ First Lantern จนหน้ามันหันมาข้างหลัง!!

Atrocitus : การล้างแค้นนี้เป็นของข้า

แต่ทว่า…

First Lantern : เจ้าคิดว่าจะจัดการข้าได้ง่ายๆเหมือนกับพวกสิ่งมีชีวิตชั้นต่ำที่ห้อมล้อมเจ้าอยู่งั้นรึอโตรซิตัส?

First Lantern : ช่างโง่เขลานัก

Guy : ไปกันเร็วพรรคพวก! กลับเข้าไปร่วมวง…

Zillius Zox : ข้าบอกพวกแกไปแล้วไง! ท่านอโตรซิตัสต้องการจะจัดการวอลธ์ธูมด้วยตัวเอง!

ตอนนั้นเองก็มี “สิ่งก่อสร้าง” รูปสุนัขขนาดใหญ่เข้างับ Zillius Zox?!

Guy : ใครกันน่ะ?

เมื่อ Guy เห็นคนที่มาก็พบว่าเขาคือ Green Lantern อาวุโสซึ่งหายไปจากองค์กรไปเนิ่นนานแล้วนั่นเอง

Guy : กนอร์ท? ในที่สุดนายก็กลับมาจนได้นะ

G’nort : มาช้าก็ยังดีกว่าไม่มาแหละน่า

ขณะเดียวกันนั้นก็มีการติดต่อผ่านมาทางแหวนของ Guy

Kyle : พวกเราก็เหมือนกัน

Kyle : ฉันพาพวกบลูแลนเทิร์นกับสตาร์แซฟไฟร์มากับฉันด้วยนะกาย

Saint Walker : และข้าก็เห็นว่าโมโกกลับมาแล้วด้วย

Guy : ต้องขอบใจจอห์นกับแฟนเขาน่ะนะวอล์คเกอร์ เรากำลังมีพวกเรดแลนเทิร์นยั้วเยี้ยอยู่ข้างล่างนี้ด้วย รีบลงมาข้างล่างนี้เลย ฉันมีแผนแล้ว

Carol : กายเนี่ยนะมีแผน?

แล้ว Guy ก็เข้าไปหา Atrocitus

Guy : ถ้าแกไม่อยากให้หัวแกมีรูล่ะก็ฟังที่ฉันพูดซะอโตรซิตัส เราจะต้องร่วมมือกันถ้าอยากจะชนะศึกนี้

Atrocitus : ข้าเห็นด้วย ข้าเชื่อเจ้าการ์ดเนอร์

Guy : แกเชื่อฉันงั้นรึ?

First Lantern : นี่พวกเจ้าคิดจะทำอะไรกัน?

Atrocitus : ผู้ที่เป็นเรดแลนเทิร์นไปแล้วครั้งหนึ่ง…ก็จะเป็นเรดแลนเทิร์นไปตลอด

แล้วเหล่า Lantern ก็ส่งพลังแสงขึ้นไปบนฟ้า…ไปหา Mogo!!

แล้ว Mogo ก็ทำการควบแน่นพลังงานอันมหาศาลนั้นและทำการเล็งเป้าหมาย!

แล้วยิงลงไปหาเป้า!!

พลังทำลายอันมหาศาลได้ทำให้พวก Lantern กระเด็นไป ทว่ามันก็ได้ผล! First Lantern มีท่าทีได้รับความบอบช้ำอย่างชัดเจน!!

First Lantern : ข้าเดินทาง…ไปจนถึงจุดเริ่มต้นของเวลา และข้าก็ได้เห็นชะตากรรมของข้า

First Lantern : พวกเจ้าก็แค่…ประวิงเวลาไปอีกนิดหนึ่งเท่านั้น

ทันใดนั้นก็มีตะเกียงพลังสีเหลืองอันหนึ่งตกลงมาจากบนฟ้า?!

Sinestro มาแล้ว!!

Sinestro : ถ้าจะมีอะไรที่มันถูกประวิงเวลามานานเกินไปแล้วมันก็คือความตายของแกนั่นแหละวอลธ์ธูม

Sinestro : แต่ก่อนที่แกจะตาย…ฉันจะต้องขอเห็นความกลัวในแววตาของแกเสียก่อน

First Lantern : ข้าไม่อายที่จะยอมรับว่าข้ามีความรู้สึกกลัวหรอกนะซิเนสโตร

Sinestro : อึ๊ก!

First Lantern : แต่เจ้าจะอับอายเกินกว่าจะยอมรับว่าเจ้ายอมให้ความกลัวที่สุดของเจ้ามาครอบงำตัวเจ้าเองหรือเปล่าล่ะ?

First Lantern : โครูก้าพินาศไปแล้ว และรวมไปถึง…

ทันใดนั้นพวก Indigo-Tribe ก็ปรากฎตัวขึ้น?!

Sinestro : เจ้านี่มันเป็นเหยื่อของฉันนะอินดิโก

ตอนนั้นเอง Indigo-1 ก็เริ่มดึงเอาพลังแห่งสีดำออกมาใช้?!

First Lantern : เจ้าคิดว่าการเอาพลังของแหวนดำมาใช้จะหยุดข้าได้งั้นรึ?

Indigo-1 : เราไม่ได้ดึงเอาพลังนี้มาเพื่อทำอะไรเจ้าหรอกวอล์ธธูม

Indigo-1 : เราทำเพื่อช่วยเหลือเพื่อนของพวกเรา…

ทันใดนั้นก็มีวังวนสีดำปรากฎขึ้นที่เบื้องหน้า First Lantern

Indigo-1 : …ผุ้ที่จะมาช่วยเหลือเราทั้งหมด

Carol : คุณพระช่วย…

Hal : แบล็คแลนเทิร์นทั้งหลาย! วอลธ์ธูมเป็นของพวกเจ้าแล้ว!

Carol : ฮาล?!

Kyle : เขาเป็นแบล็คแลนเทิร์นไปแล้ว?

Carol : คุณสามารถใช้แสงสีขาวทำให้เขากลับมาได้ ใช่ไหมไคล์?

Kyle : ผมรักษาผู้คนได้นะแครอล แต่ผมคืนชีพคนตายไม่ได้หรอก

Hal : ตอนนี้ที่แกต้องรับมือไม่ใช่เพียงแค่ฉันแล้ววอลธ์ธูม

Hal : แต่เป็นวิญญาณทุกดวงที่แกเคยฆ่าไป

Sinestro : นี่แกทำอะไรลงไปกันจอร์แดน?

Hal : ก็สิ่งที่ฉันจำเป็นต้องทำไงล่ะ โครูก้าพินาศไปเพราะนายจะทำทั้งหมดนี้ตามลำพัง ฉันจะไม่ยอมให้…

Sinestro : แกกล้ากล่าวโทษฉันงั้นเรอะ?!

ขณะที่ Hal กับ Sinestro กำลังตีกันเองอยู่ ทางด้าน First Lantern ก็ใช้พลังแสงทุกสีที่มันมีอยู่สลายพวก Black Lantern ไปจนหมด!!

First Lantern : กองทัพวิญญาณร้ายของเจ้ามันไม่มีความหมายหรอก

แล้ว First Lantern ก็ห่อหุ้มตัวมันกับ Hal ไว้ในม่านพลัง แล้วมันก็ดึงเอาอดีตในชีวิตของ Hal ออกมา!

First Lantern : ดูช่วงเวลาต่างๆในชีวิตของเจ้านี่สิ เจ้าได้ทำการตัดสินใจที่ทำให้เจ้าได้รู้จักตัวเองมากขึ้น แต่กระนั้นแก่นแท้ของเจ้าก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปเลย…

ที่ด้านนอก พวก Lantern คนอื่นๆพยายามจะฝ่าม่านพลังเข้าไปแต่ก็ไม่สำเร็จ

First Lantern : ข้าต้องการช่วงเวลาในชีวิตของเจ้าที่ข้าสามารถใช้ประโยชน์ได้ จุดหนึ่งในช่วงเวลาที่เจ้าถูกครอบงำด้วยความกลัว

Hal : พ…พารา…

First Lantern : ไม่หรอก ไม่ใช่ตอนที่เจ้าโดนพาราแล็กซ์สิงสู่ ข้าต้องการสิ่งที่บริสุทธิ์ยิ่งกว่านั้น

Carol : นี่มันเป็นไปไม่ได้

ด้วยพลังที่สามารถสร้างสิ่งที่เป็นจริงขึ้นมาได้ First Lantern ได้สร้างตัวของ Hal ในตอนเด็กขึ้นมา!!

นี่คือตัว Hal ในตอนที่พ่อของเขาตายในอุบัติเหตุเครื่องบินตก เวลาที่เขาสับสนและหวาดกลัวที่สุดในชีวิต

และเจ้าปีศาจสีรุ้งก็เริ่มล่อลวงเด็กน้อย มันใช้เรื่องของพ่อของเขาเป็นเหยื่อล่อ และให้เขาอธิษฐานอย่างสุดหัวใจ…

แล้วมันก็ได้สิ่งที่มันต้องการ

ซึ่งจากการที่ Hal วัยเด็กนั้นก็เป็นสิ่งที่มีจริงเช่นกัน ความเชื่อมโยงนั้นจึงทำให้สิ่งที่ First Lantern ทำนั้นส่งผลถึง Hal ด้วย

First Lantern : แบตเตอร์รี่ศูนย์กลางนั้นคือศูนย์รวมพลังแห่งความมุ่งมั่นที่ข้ามองหาอยู่…

First Lantern : …แต่ตัวเจ้าก็เป็นจุดเชื่อมต่อของพลังความมุ่งมั่นนั้นเช่นกันนะฮาลเอ๋ย ว่าไปแล้วเจ้าอาจจะเป็นจุดรวมพลังที่ดีกว่าเปลือกโลหะนั่นเสียอีก

First Lantern : ความปราถนาของเจ้า…ประกายแสงที่อยู่ภายในตัวเจ้า…มันจะคือเสียงสะท้อน…เสียงสะท้อนของประกายแสงแรกที่เริ่มต้นทุกสิ่ง ประกายแสงแห่งการสร้างสรรค์!

First Lantern : จักรวาลนี้เป็นของข้าที่จะสร้างขึ้นใหม่ตามใจชอบแล้ว

Kyle : อ๊าค

Kyle : ม…ไม่ว่าวอลธ์ธูมจะกำลังทำอะไรอยู่ก็ตาม ฉันรู้สึกว่าทุกสิ่งกำลังสลายไป เหมือนกับสายใยถูกตัดขาดลง มันกำลังทำลายสายใยแห่งชีวิตลง

Kyle : ประวัติศาสตร์กำลังจะพินาศ

ขณะเดียวกันนั้น Sinestro ก็ไปยัง Central Power Battery ของ Sinestro Corps ที่ถูกนำมาไว้บน Oa

Sinestro : ฉันรู้ว่าแกอยู่ข้างในนั้น

Sinestro : และฉันก็ขอสั่งให้แกทำตามความต้องการของฉัน!

แล้ว Sinestro ก็เริ่มกล่าวคำปฏิญาณขึ้น!

“ในวันอันมืดมิด ในคืนอันสว่างสไว”

แต่ในขณะที่ Sinestro กำลังกล่าวคำปฏิญาณนั้นเอง!

Simon : สัตว์ประหลาดของวอล์ธธูมกำลังไปหาซิเนสโตรแล้ว!

Kyle : ซิเนสโตรไม่ใช่พวกเดียวกับเรานะไซม่อน ไม่ว่าเขากำลังทำอะไรก็ตาม..

Simon : ไม่ว่าเขาจะทำอะไร มันก็จะเป็นการช่วยเหลือเรา เขาก็ต้องการจะจัดการวอลธ์ธูมมากพอๆกับเรา

แล้ว Simon ก็ช่วย Sinestro เอาไว้จนเขาสามารถกล่าวคำปฏิญาณจนจบได้

“จงระวังความกลัวของข้าที่แปรเปลี่ยนเป็นแสงสว่าง”
“ให้เหล่าผู้ที่คิดจะหยุดสิ่งที่ถูกต้อง”
“จงลุกไหม้เหมือนพลังของข้า”
“พลังแห่งซิเนสโตร!”

และทันทีที่ Sinestro กล่าวจบ ก็มีสัตว์รูปร่างประหลาดออกมาจาก Central Power Battery
มันคือ Parallax ร่างอวตารแห่งแสงสีเหลือง!!

Sinestro : ว่าไงล่ะเจ้าตัวประหลาด?

Sinestro : แกจะมัวรออะไรอยู่อีก?

แล้ว Parallax ก็เข้าไปในร่างของ Sinestro!

Sinestro : อัคร์!! ก…อาจจะควบคุมร่างทรงคนก่อนๆของแกได้นะพาราแล็กซ์

Sinestro : แต่ไม่ใช่ฉัน

อึดใจต่อมา ม่านพลังของ First Lantern ก็ถูกพลังงานมหาศาลกระแทกอย่างรุนแรง!

Sinestro : ตอนนี้ฉันควบคุมพาราแล็กซ์ไว้ได้แล้ว

Sinestro : ฉันควบคุมความกลัว

Sinestro : ทั้งหมด

Sinestro ที่บัดนี้กลายเป็นร่างทรงของ Parallax ทำลายม่านพลังของ First Lantern อย่างง่ายดาย และเสียบมือของเขาเข้าไปในอกของมัน!!

ด้วยพลังของ Parallax ที่เป็นร่างที่เป็นตัวแทนแห่งพลังของแสงสีเหลืองแห่งความกลัว ทำให้ Sinestro สามารถดึงเอาพลังของแสงสีเหลืองที่อยู่ในตัวของ First Lantern ออกมาได้!! บัดนี้มันสูญเสียพลังแห่งแสงสีเหลืองไปแล้ว!!!

และอิทธิพลของ Parallax ก็ส่งผลถึงพวก Guardians จนรู้สึกถึงความหวาดกลัวด้วยเช่นกัน

Sinestro : แกคิดว่าแกครอบครองพลังแห่งแสงทั้ง 7 ได้จริงๆงั้นรึวอลธ์ธูม? แกมันไร้หัวใจ และพวกที่ปราศจากหัวใจก็จะไม่มีทางเข้าใจพลังของมันอย่างแท้จริงได้

First Lantern : เจ้ายังคิดว่าข้าเป็นแค่แลนเทิร์นดาดๆทั่วไปอยู่งั้นเรอะ? ข้าคือแลนเทิร์นคนแรกนะ!!

First Lantern : ข้าคือพระเจ้า!!

แม้จะสูญเสียพลังแสงไปสีหนึ่งแต่ First Lantern ก็ยังมีพลังเหลืออยู่อีกมากมาย!!

First Lantern : เจ้ามันไม่มีค่าอะไรเลย

First Lantern : พวกเจ้ามันคงอยู่แค่ชั่วพริบตาก่อนจะสูญหายไปชั่วนิรันดร์

ในขณะที่ First Lantern กำลังอาละวาด Hal ก็คอยปกป้องตัวเขาในวัยเด็กเอาไว้ และรู้ว่าเขาจำเป็นต้องทำอะไร..

Hal : ฉันจะต้องไป…ฉันจะต้องกลับไปที่นั่น

แล้ว Hal ก็กลับไปที่ Dead Zone อีกครั้งหนึ่ง

ซึ่งที่นั่นเขาก็ได้พบกับพ่อของเขา Martin Jordan

Martin : ฮาล?

Hal : พ่อครับ? ผม…ผมไม่ได้มาที่นี่เพื่อช่วยพ่อ ผม…

Martin : พ่อรู้

Hal : พ่อครับ…

Martin : พ่อรู้ว่าลูกมาที่นี่เพื่ออะไร แต่พ่ออยากให้ลูกรู้ว่าพ่อภูมิใจในตัวลูกมาก

Martin : ทั้งพ่อและแม่ต่างก็ภูมิในในตัวลูก

Martin : สิ่งที่ลูกตามหาอยู่ที่ตรงนั้น

เมื่อชี้ทางให้ลูกชายของเขาแล้ว ร่างของ Martin ก็หายวับไป

Hal : พ่อครับ…

ที่เบื้องหน้าของ Hal คือประตูขนาดใหญ่ที่มีชื่อสลักไว้ว่า “Nekron”

Hal : เอาละเนครอน

Hal : จงตื่นขึ้น

Nekron ผู้นำแห่ง Black Lantern Corps จ้าวแห่งความมืดและความตายกลับมาอีกครั้ง!!!!!

Guy : นั่นมัน?

Kyle : จ้าวแห่งความตายกลับมาแล้ว

John : ฮาลใช้แหวนสีดำเรียกเนครอนมางั้นรึ?

Hal : เอาละเจ้าตัวอัปลักษณ์ โจมตีแลนเทิร์นคนแรกซะ!

Nekron : ข้าต่างหากที่เป็นคนควบคุมเจ้า แลนเทิร์นคนตายเอ๋ย เจ้าไม่มีอำนาจควบคุมข้า

Nekron : ข้าคือความมืดที่มีอยู่มาตั้งแต่ก่อนจะมีแสงสว่าง จักรวาลนี้เป็นของข้าก่อนที่จะเป็นของพวกเจ้า

Hal : ฉ…ฉันเอาแกกลับมา ครั้งนี้ฉันเป็นผ…ผู้ควบคุม แกต้องทำตามที่ฉันบอก!

ว่าแล้ว Nekron ก็ย่างสามขุมเข้าหา First Lantern

First Lantern : นี่มันอะไรกัน?

Sinestro : เอาเลยจอร์แดน

Sinestro : ฆ่ามันซะในระหว่างที่เรายังมีโอกาส!

Hal : ถ้าเราฆ่ามันมันก็จะเกิดปฏิกริยาลูกโซ่ที่สามารถทำลายล้างจักรวาลของเราได้

Hal : พลังงานแห่งแสงทั้งหมดจะต้องถูกขับออกไปจากร่างของมันก่อน

ว่าแล้ว Hal ก็ใช้พลังแห่งความมืดจากแหวนสีดำในการขับเอาพลังแห่งแสงออกไปจากร่างของ First Lantern ซึ่งจากการที่พลังแห่งแสงของมันขาดแสงสีเหลืองไปก็ทำให้พลังของมันไม่สมบูรณ์จน Hal ทำได้ง่ายขึ้นไปอีก!

First Lantern : ไม่

Hal : จนกระทั่งมันเป็นเพียงเปลือกว่างเปล่า

Hal : ตอนนี้มันกลับไปเป็นมนุษย์แล้ว

First Lantern : ไม่! ข้าเป็นยิ่งกว่ามนุษย์ ข้าคือทุกสี่งทุกอย่าง!

Nekron : เจ้ามันไม่ใช่อะไรทั้งนั้น…นอกจากแค่วิญญาณธรรมดา!!

First Lantern : อ๊าคคคค!!!!!

ด้วยการตวัดเคียวเพียงครั้งเดียวของจ้าวแห่งความตาย Volthoom ก็สลายไปอย่างไร้ร่องรอย!

Guardian : เราเป็นอิสระแล้ว
Guardian : เราได้รับโอกาสครั้งที่สอง!
Guardian : วอลธ์ธูมถูกขจัดไปแล้ว
Ganthet : และแหวนที่แปดเปื้อนของเขาก็ถูกส่งกลับไปยังจักรวาลของเขา
Ganthet : ในขณะที่แหวนอีกวงหนึ่งก็ตามหาผู้ช่วยเหลือพวกเรา
[ค้นหาผู้ครอบครองคนใหม่]

เมื่อทุกอย่างจบลงแล้ว Hal ก็เข้าไปหาตัวเขาในวัยเด็ก

Hal : มันจบแล้วล่ะ

Young Hal : ย…อย่ามายุ่งกับผม!

Hal : ฉันรู้ว่านี่มันน่ากลัว แต่ทุกอย่างจะต้องเรียบร้อยแน่นอน

Hal : ฉันสัญญา

Young Hal : พ่อครับ?

Young Hal : นั่นพ่อใช่ไหมครับ?

แล้ว Hal ทั้งสองก็สวมกอดกันและกัน

Young Hal : ผมคิดถึงพ่อมากเลย

Young Hal : ผมกลัวจริงๆ

ท่ามกลางแสงสว่าง Hal ทั้งสองคนก็รวมกันเป็นหนึ่ง

พร้อมกับที่แหวนพลังวงหนึ่งก็พบผู้เหมาะสมที่จะครอบครองมันคนใหม่

[ฮาล จอร์แดนแห่งโลก]
[เจ้ามีความสามารถในการสยบความกลัว]
[เจ้าได้รับเลือกแล้ว]

[ขอต้อนรับสู่กรีนแลนเทิร์นคอร์ป]

Hal : อาเมน กลับไปยังหลุมศพของแกตามเดิมได้แล้วเนครอน

(เมื่อไม่มีสื่อที่จะยึดเหนี่ยวมันไว้ในโลกของคนเป็น Nekron ก็ต้องกลับไปยังโลกของคนตายตามเดิม)

Hal : ในวันอันสว่างสไว…ในคืนอันมืดมิด ไม่เคยเป็นจริงกว่านี้มาก่อนเลย ว่าไหมล่ะแหวนเอ๋ย?

[ยืนยัน]

ตอนนั้นเองก็มีเสียงพูดที่ Hal โหยหามาตลอดดังขึ้น

Carol : ไฮบอล?

Hal : แซฟไฟร์

แล้วทั้งสองก็สวมกอดกันด้วยความยินดีสุดชีวิต

Guy : ทีนี้ ผู้ชนะก็คือกรีนแลนเทิร์นคอร์ป!

Artocitus : แล้วก็เรดแลนเทิร์นด้วยกาย การ์ดเนอร์ ทีนี้จงมอบตัวพวกการ์เดี้ยนมาให้ข้าซะ!

ทันใดนั้นเองก็มีเสียงดังกระหึ่มขึ้น?!

Hal : พื้นดิน มิอะไรบางอย่างเคลื่อนไหวอยู่ข้างใต้…

พวก Sinestro Corps ที่ก่อนหน้านี้ถูกหยุดการทำงานลงได้ตื่นขึ้นมาแล้ว?!

Hal : ซิเนสโตรปลุกองค์กรของเขาขึ้นมาแล้ว!

Kyle : เขาต้องการฉวยโอกาสนี้จัดการพวกเราซะ

Hal : ไม่หรอกไคล์ พวกนี้มันเป็นแค่ตัวล่อเท่านั้น เป้าหมายของซิเนสโตรคือพวกการ์เดี้ยน

Kyle : ตอนนี้เขามีพลังของพาราแล็กซ์อยู่นะฮาล ทั้งนายและฉันต่างก็รู้ดีว่ามันทำอะไรได้ขนาดไหน ถ้าเขาไปถึงตัวพวกการ์เดี้ยนได้ล่ะก็เขาฆ่าพวกนั้นแน่

John : ตามซิเนสโตรไปซะฮาล เราจะรับมือลูกน้องของเขาให้เอง

ว่าแล้ว Hal ก็บินไปที่หอประชุมของพวก Guardians และเขาก็พบ Sinestro ยืนอยู่ที่นั่น

Hal : ซิเนสโตร! ฉันไม่ยอมให้นายฆ่าพวกการ์เดี้ยนแน่!

Sinestro : แม้จะมาถึงขั้นนี้แล้ว แกก็ยังเชื่อในตัวพวกมันอีกเรอะ?

Sinestro : ดูท่าว่านี่จะเป็นจุดจบที่เหมาะสมแล้วล่ะนะ!

ทั้งสองคนต่อสู้ขับเคี่ยวกันมานับครั้งไม่ถ้วน แต่นี่จะเป็นครั้งสุดท้ายแล้ว

Hal : ไม่ใช่หรอก มันต้องไม่จบลงแบบนี้

Sinestro : ต้องใช่สิจอร์แดน พวกการ์เดี้ยนมันอยู่เบื้องหลังเรื่องร้ายทั้งหมดนี้ ตั้งแต่แมนฮันเตอร์ไปจนถึงพวกกองทัพที่สาม

Sinestro : แกคิดว่าจะสามารถควบคุมจิตใจของพวกมันแบบพวกอินดิโกไทร์ปได้งั้นรึ?

Sinestro : แกคิดว่าพวกมันยังคู่ควรที่จะช่วยเหลืออีกรึ?

Hal : ฉันไม่สนใจเรื่องการช่วยพวกการ์เดี้ยนหรอกซิเนสโตร

Hal : ฉันต้องการที่จะช่วยนายต่างหาก

Hal : นายยังสามารถหันหลังกลับได้ นายยังสามารถก้าวข้ามความกลัว, ความโกรธแค้น และความเจ็บปวดของนายได้! ฉันรู้ว่านายสามารถเป็นกรีนแลนเทิร์นที่ยอดเยี่ยมขนาดไหนได้

Hal : และนั่นก็คือเหตุผลที่ฉันจะไม่ยอมหมดหวังในตัวนาย!

Sinestro : ที่โครูก้าถูกทำลายมันเป็นเพราะพวกการ์เดี้ยนนะจอร์แดน!

Sinestro : ฉันหมดสิ้นทุกสิ่งทุกอย่างแล้ว!

Sinestro : พวกมันสมควรตายแล้วสำหรับความผิดที่พวกมันก่อขึ้น

ขณะเดียวกันนั้น ก็มีใครบางคนเดินเข้าไปหา Atrocitus ที่กำลังสู้กับพวก Sinestro Corps อยู่ เขาคือ Arkillo 1 ในกลุ่ม New Guardians นั่นเอง?!

Arkillo : อโตรซิตัส

Arkillo : ท่านซิเนสโตรเหลือพวกมันไว้ให้เจ้าตัวหนึ่ง

ตัดมาทางพวก Hal เมื่อเขาเห็นหยดน้ำตาในดวงตาของ Sinestro เขาก็รู้สึกสังหรณ์ใจบางอย่างขึ้นมา

Hal : “สมควรแล้ว” งั้นรึ?

Sinestro : มันสายไปแล้วจอร์แดน

Sinestro : ฉันฆ่าพวกมันไปเรียบร้อยแล้ว

Sinestro : พวกมันกำลังอ่อนแรงจากสิ่งที่วอลธ์ธูมทำกับพวกมัน พวกมันอยู่ในสภาพที่ไร้การป้องกันอย่างสิ้นเชิง

Sinestro : โอกาสเช่นนี้อาจไม่มาถึงอีกแล้ว

Sinestro : ทีละคนๆ

Sinestro : ฉันทำลายเจ้าพวกสารเลวไร้หัวใจพวกนั้น

Sinestro : แม้แต่กานเธท

ย้อนไปเมื่อไม่กี่นาทีก่อน Ganthet ยืนรอชะตากรรมของตัวเองด้วยสีหน้าที่สงบ

Sinestro : แกจะไม่ร้องขอชีวิตเหมือนกับพวกคนอื่นๆงั้นรึ? แกจะไม่แม้แต่จะต่อสู้ขัดขืนเลยรึไงกานเธท?

Ganthet : ต่อให้ตอนนี้ข้ามีพลังสมบูรณ์เต็มที่ก็ตามนะซิเนสโตร ข้าก็ไม่รู้จะทำไปทำไมแล้วล่ะ

Ganthet : หลังจากความพินาศที่เกิดขึ้นเพราะพวกเรา หลังจากความตายมากมายเหลือคณานับนั่น…ข้าสูญเสียหัวใจของข้าเอง…ข้าสูญเสียเซย์ดสุดที่รักของข้า

Ganthet : ข้าไม่มีอะไรเหลืออีกแล้ว

Sinestro : มันจะต้องจบลง จอร์แดน

Sinestro : ดังนั้นฉันจึงลงมือทำให้มันจบ

Sinestro : เพื่อพวกเราทุกคน

Sinestro : จักรวาลนี้ไม่มีสิ่งใดที่ฉันต้องการอีกต่อไปแล้ว แต่องค์กรนี้จะอยู่ในการดูแลของแก

Sinestro : และอาจจะพวกนั้นด้วย

Hidden : ไม่นะ

Hidden : เราเดินทางไปที่มาลตัส ด้วยหวังว่าจะสามารถเอา “หัวใจ” มาช่วยเหลือพี่น้องของเราได้

Sinestro : พวกมันน่ะสายเกินกว่าจะช่วยแล้ว แต่พวกเจ้าไม่ใช่

Hal : ฉัน…ฉันปล่อยนายไปทั้งแบบนี้ไม่ได้

Sinestro : ก่อนที่ฉันจะปลดปล่อยพาราแล็กซ์ไป ฉันจะใช้พลังของมันพาฉันไปให้ไกลจากที่นี่ ฉันจะไม่กลับมาพบกับแกอีก

Sinestro : แต่ก่อนจะทำแบบนั้น….ฉันยังสงสัยอยู่เรื่องหนึ่ง เมื่อตอนที่เราอยู่บนไรอัท เมื่อตอนที่แกคิดว่าเราทั้งคู่ไม่มีทางรอดแน่แล้วนั่น แกพยายามจะถามอะไรบางอย่างกับฉัน

Sinestro : แต่แกก็ไม่เคยได้พูดมันออกมา

Sinestro : บอกหน่อยซิว่าตอนนั้นแกจะถามว่าอะไร?

Hal : เราเคยเป็นเพื่อนกันจริงๆบ้างหรือเปล่าน่ะ?

Sinestro : นั่นคือสิ่งที่น่าเศร้าที่สุดของทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นนั่นแหละจอร์แดน…ฮาล

Sinestro : เราสองคนเป็นเพื่อนกันตลอดมานั่นแหละ

Bookkeeper : แล้วจากนั้นซิเนสโตรก็หายวับไป

Bookkeeper : เขาได้มอบหมายให้อาร์คิลโล นักรบที่เขาไว้ใจที่สุดเป็นผู้นำองค์กรคนใหม่ ซึ่งก็ได้นำพวกสมาชิกของซิเนสโตรคอร์ปทุกคนจากไปสู่ห้วงลึกของอวกาศ

Bookkeeper : อโตรซิตัสและเรดแลนเทิร์นของเขาก็จากไปหลังจากนั้นไม่นาน

Bookkeeper : ในขณะที่บลูแลนเทิร์น, อินดิโกไทร์ป และสตาร์แซฟไฟร์อยู่ต่อเพื่อช่วยเหลือในการสร้างโออาร์ขึ้นมาใหม่

Bookkeeper : และเหล่าพวกที่ถูกเรียกภายหลังว่า “เทมพลาร์การ์เดี้ยน” ก็ได้รับการต้อนรับจากสมาชิกในองค์กร ด้วยความช่วยเหลือของฮาล จอร์แดน

Bookkeeper : เหล่าเทมพลาร์การ์เดี้ยนยังคงทำงานรับใช้องค์กรของเราด้วยดีจนถึงทุกวันนี้ พวกเขามีเมตตา เปี่ยมไปด้วยความหวัง, ความรัก และความกล้าหาญ

Snow : มันยากที่จะนึกภาพผู้นำของเราเป็นอย่างอื่นนอกจากที่กล่าวมานั้น

Bookkeeper : เราโชคดีที่มันกลายเป็นเช่นนั้นแล้วล่ะแลนเทิร์นสโนว์ เพราะอารมณ์ความรู้สึกนั้นไม่ใช่วิถีทางของพวกการ์เดี้ยนในยุคก่อนหน้านี้

Bookkeeper : เอาละเราพอแค่นี้แล้วกัน…นี่มันก็ดึกมากแล้ว และหนังสือเล่มนี้ก็จำเป็นต้องได้รับการบันทึกเพิ่มเติมด้วย

Bookkeeper : เพราะเรื่องราวของกรีนแลนเทิร์นคอร์ปจะดำเนินต่อไปชั่วนิรันดร์

Snow : เดี๋ยวก่อนครับ!

Snow : แล้วทุกคนเป็นยังไงต่อครับ? ผมหมายความว่าหลังจากจบศึกใหญ่ครั้งนั้นแล้ว? หลังจากนั้นทุกคนเป็นยังไงบ้างครับ?

Bookkeeper : ท่านอยากทราบอนาคตของพวกเขางั้นรึ?

Snow : ใช่แล้วครับ

Bookkeeper : ท่านอยากทราบว่าพวกเขาตายยังไงงั้นหรือ?

Snow : ก็ไม่เชิงครับ แต่ผมอยากรู้ชีวิตของพวกเขาหลังจากนั้นว่าเป็นยังไงน่ะครับ?

Bookkeeper : หลังจากวันคืนที่ยากลำบากที่สุดของพวกเขางั้นสินะ?

Snow : ใช่ครับ หลังจาก “หน้ากระดาษแห่งการกำเนิดใหม่”

Bookkeeper : ถ้างั้นข้าก็จะเปิดหนังสือแห่งโออาร์อีกครั้ง…และข้าก็จะให้ท่านได้รับรู้…

Bookkeeper : แม้แต่ในตอนนี้หากท่านอยู่ในบาร์ไหนสักแห่ง ในเขตอวกาศไหนสักแห่ง ท่านก็อาจจะได้พบกับเขา

Bookkeeper : ท่านอาจได้ยินทหารเก่าที่ผ่านศึกมาโชกโชนผู้นั้นเล่าขานเรื่องราวในวันเก่าๆถึงเรื่องของ “สงครามซิเนสโตรคอร์ป” และ “คืนอันมืดมิด”

Bookkeeper : “กาย การ์ดเนอร์”

Bookkeeper : “นักรบผู้แกร่งกล้า”

Bookkeeper : เพื่อนสนิทของกาย การ์ดเนอร์ได้กลับไปยังดาวเคราะห์โลก

Bookkeeper : แต่เขาก็ไม่ได้กลับไปเพียงลำพัง

Bookkeeper : ไม่นานหลังจากนั้นไม่นานเขาก็ได้เป็นสมาชิกวุฒิสภา

Bookkeeper : และแม้วันเวลาที่เขาเป็นกรีนแลนเทิร์นนั้นจะยังถูกจดจำเอาไว้ แต่บทบาทของเขาที่ถูกจดจำได้มากที่สุดคือสิ่งที่เขาทำในฐานะผู้นำของดวงดาวของเขา

Bookkeeper : “จอห์น สจ๊วต”

Bookkeeper : “บุรุษผู้สร้างสะพานเชื่อมต่อทุกผู้คน”

Bookkeeper : มันจะมีเวลาที่ท่าน หรือคนที่ท่านรักเจ็บป่วยไข้ หรือบาดเจ็บหนัก แล้วท่านก็จะมองขึ้นไปบนท้องฟ้า

Bookkeeper : และท่านก็จะเดินทางไปยังดาวที่ส่องสว่างที่สุดบนนั้น

Bookkeeper : แล้วท่านก็จะรอคอยการสัมผัสจากเขาเช่นเดียวกับคนอื่นๆ

Bookkeeper : เขาช่วยเหลือคนไปนับล้านก่อนที่เขาจะใช้พลังแสงสุดท้ายที่เขามี

Bookkeeper : แล้วแสงของเขาก็จะดับไป

Bookkeeper : แต่เขาก็ไม่เคยนึกเสียใจแม้แต่นิดเดียว

Bookkeeper : “ไคล์ เรย์เนอร์”

Bookkeeper : “ผู้ถือคบเพลิง”

Bookkeeper : ส่วนแลนเทิร์นชาวโลกอีกผู้หนึ่งก็ได้รับอนุญาตให้เก็บแหวนพลังของเขาไว้ได้ แม้มันจะถูกสร้างขึ้นโดยซิเนสโตรก็ตาม

Bookkeeper : เขาได้เป็นผู้รับผิดชอบการฝึกสอนกรีนแลนเทิร์นหญิงชาวโลกคนแรก “เจสซิก้า ครุซ” ผู้ที่ได้รับแหวนพลังของเธอในยามที่จัสติสลีกส์สูญสิ้น

Bookkeeper : แล้วเขาก็ได้คอยผลักดันคนรอบข้างเขาให้สามารถก้าวข้ามขีดจำกัดของตัวเองขึ้นไปได้อยู่เสมอ

Bookkeeper : เขาได้ปลุกความสามารถที่แอบซ่อนอยู่ในตัวผู้คนในทุกที่ที่เขาไปถึง

Bookkeeper : และเขาก็แสดงให้เราเห็นถึงความสามารถที่แท้จริงของแหวนพลัง

Bookkeeper : “ไซม่อน บาซ”

Bookkeeper : “ผู้สร้างปาฏิหารย์”

Bookkeeper : เหล่าเรดแลนเทิร์นก็ยังคงกระหายการล้างแค้นต่อเหล่าคนบาปอยู่

Bookkeeper : แม้ว่าผู้นำของพวกเขาจะเรียนรู้ว่าความเจ็บปวดจากการสูญเสียนั้นไม่มีวันจางหายไปก็ตาม

Bookkeeper : “อโตรซิตัส”

Bookkeeper : “ผู้ถูกสาป”

Bookkeeper : ผู้ดูแลแหวนสีส้มนั้นสามารถหาครอบครัวของเขาจนพบในที่สุด…และยอมแม้แต่จะแลกด้วยทุกสิ่งที่เขามีเพื่อปลดปล่อยพวกนั้นให้เป็นอิสระ…

Bookkeeper : …แต่ไม่นานนักเขาก็กลับไปสู่วิถีทางเดิมๆของเขา นั่นก็คือการแย่งชิงทุกสิ่งที่เขาสามารถเอื้อมมือไปถึง”

Bookkeeper : “ลาฟลีซ”

Bookkeeper : “นักสะสม”

Bookkeeper : ด้วยความศรัทธาที่ฟื้นฟูกลับขึ้นมาใหม่ บลูแลนเทิร์นคอร์ปได้เพิ่มจำนวนสมาชิกขึ้นจนเกือบจะเท่ากับกรีนแลนเทิร์นเลยทีเดียว

Bookkeeper : และผู้นำของพวกเขาก็ส่องสว่างยิ่งกว่าที่เคย

Bookkeeper : เขาได้พบรัก สร้างครอบครัวใหม่ และได้มอบความหวังให้กับทุกเขตอวกาศในจักรวาล

Bookkeeper : “เซนต์วอล์คเกอร์”

Bookkeeper : “ผู้เชื่อมั่น”

Bookkeeper : และในขณะที่ความหวังแผ่ขยายออกไป เหล่าอินดิโกไทร์ปก็ยังคงตามหาเหล่าผู้ที่ถูกเชื่อว่าเกินกว่าจะช่วยเหลือได้แล้วต่อไป

Bookkeeper : ในที่สุด สมาชิกคนแรกของอินดิโกไทร์ปก็ถอดแหวนพลังของเธอออก…พิสูจน์ให้เห็นว่าไม่จำเป็นต้องใช้มันเพื่อปลุกความเมตตาในตัวของเธออีกต่อไป

Bookkeeper : เธอได้กลายมาเป็นหนึ่งในผู้ที่มีเมตตาและเป็นที่รักที่สุดในจักรวาล

Bookkeeper : “ไอโร๊ค”

Bookkeeper : “ผู้ไถ่บาป”

Bookkeeper : และในที่สุดเราก็มาถึงจุดสิ้นสุดของเรื่องราวของเรา

Bookkeeper : ในตอนที่แหวนสีเขียวและสีม่วงถูกแลกให้แก่กันและกัน

Bookkeeper : ในตอนที่ชีวิตใหม่เริ่มขึ้น…

Bookkeeper : …และชีวิตใหม่ถือกำเนิดขึ้น

Bookkeeper : พวกเขาใช้ชีวิตที่มีความสุขร่วมกัน โดยปราศจากซึ่งความกลัวและเต็มไปด้วยความรัก

Bookkeeper : “ฮาล จอร์แดน และ แครอล เฟอร์ริส”

Bookkeeper : “กรีนแลนเทิร์น และ สตาร์แซฟไฟร์”

Bookkeeper : และนั่น…ก็คือที่ๆเรื่องราวควรจะจบลงได้แล้วล่ะนะ

Snow : แต่ว่า…ท่านลืมใครบางคนไป

Bookkeeper : งั้นหรือ? ใครกันล่ะ?

Snow : ซิเนสโตร เกิดอะไรขึ้นกับซิเนสโตรครับ?

Bookkeeper : ซิเนสโตรงั้นหรือ?

Bookkeeper : เราคงไม่มีวันรู้ได้แล้วล่ะนะ แลนเทิร์นหนุ่มเอ๋ย

Bookkeeper : ข้าเผา…หน้ากระดาษที่บันทึกเรื่องราวเหล่านั้นไปจากหนังสือแห่งโออาร์ตั้งแต่เมื่อนานมาแล้ว…

Bookkeeper : …และนั่นก็ดีที่สุดแล้วล่ะ

ในสถานที่แห่งหนึ่ง

Sinestro : แกเอาสิ่งที่ฉันขอมาด้วยหรือเปล่า?

Lafleeze : ใช่แล้วซิเนสโตร

Lafleeze : แต่ข้าต้องการของแลกเปลี่ยนที่คู่ควรด้วยนะ! ต้องให้มันดีกว่านั้นด้วย!

ตอนนั้นเองก็มีอีกเสียงหนึ่งพูดขึ้น?!

Ganthet : ทำไมลาฟลีซถึงมาอยู่ที่นี่?

Ganthet : และทำไมเจ้าถึงได้ไว้ชีวิตข้า?

Sinestro ไม่ตอบคำถามของ Ganthet แต่กลับหันไปพูดกับ Lafleeze

Sinestro : เราตกลงกันไว้แล้วนะลาฟลีซ

Lafleeze : ได้

แล้ว Lafleeze ก็เปิดถุงที่แบกมาและเผยให้เห็นสิ่งที่อยู่ภายใน

Ganthet : เซย์ด?

Sayd : กานเธท?!

Ganthet : ข้านึกว่าท่านตายไปแล้วเสียอีก

Sinestro : พวกเจ้าสองคนจงทิ้งองค์กรไปซะกานเธท เจ้าจงไปให้ไกลจากทุกสิ่งทุกอย่าง และจงใช้ชีวิตที่เหลืออยู่ร่วมกัน

Ganthet : ทำไม? ทำไมเจ้าถึงได้ช่วยเหลือเรากันล่ะซิเนสโตร?

Sayd : ทำไมเจ้าถึงยอมทำถึงขนาดนี้?

Sinestro : เพราะว่าฉันรู้ดีว่าการสูญเสียทุกสิ่งทุกอย่างมันเป็นอย่างไรไงล่ะ

Lafleeze : ข้าไม่อยากรับรู้เรื่องแบบนั้นแน่ ทีนี้ข้าจะได้อะไรจากงานนี้กันล่ะเยลโล่วแลนเทิร์น?

Sinestro : แกจะได้ความลับไงล่ะ…ความลับที่มีค่าที่สุดในจักรวาล : กานเธทกับเซย์ดรอดชีวิตไปได้

Lafleeze : ฮึ่ม ความลับมันไม่อร่อยเท่ากับวาฟเฟิ่ลสอดใส้หนูราดชีสหรอกนะ

Bookkeeper : สิ่งที่ซิเนสโตรทำในตอนท้ายนั้นมันไม่สำคัญหรอก

Bookkeeper : นี่คือเรื่องราวของฮาล จอร์แดน…กรีนแลนเทิร์นที่ยิ่งใหญ่ที่สุด

Bookkeeper : ซึ่งแรงบันดาลใจที่เขาเหลือไว้ก็ยังคงสุกสว่างโชติช่วงต่อไป

Bookkeeper : เขาคือประกายแสง…

Bookkeeper : ที่จุดเปลวไฟที่จะส่องสว่างไปชั่วนิรันดร์

The End

และนี่คือจุดสิ้นสุดของงานเขียนที่ยาวนาน 9 ปีของ Geoff Johns ผู้ซึ่งได้ทำการเปลี่ยนแปลงโลกของ Green Lantern ให้กลายมาเป็นซีรี่ย์แถวหน้าของ DC Comics และถ้าหากไม่มีเขา เราก็คงไม่มีองค์กรแลนเทิร์นทั้ง 7 อย่างในทุกวันนี้

ขอขอบคุณอีกครั้งครับ Geoff Johns ถ้าไม่ได้อ่านผลงานของคุณในช่วง Blackest Night ผมก็คงไม่ได้มานั่งเขียนสปอยแปลคอมมิคคลอดหลายปีมานี้แน่

ปล.ซีรีย์ Green Lantern จะยังคงดำเนินต่อไปภายใต้นักแต่งเรื่องคนใหม่ และ Geoff John ก็จะไปทุ่มเทเวลาของเขาให้กับซีรีย์ Justice League แทน

ปล.2 คนเขียนเรื่องของเล่มอื่นๆในซีรีย์อีก 3 เล่มก็จะหมดหน้าที่ไปเช่นเดียวกัน โดยพวกเขาจะเขียน Epilogue อีกคนละตอน แล้วจากนั้นก็จะให้นักเขียนใหม่มารับผิดชอบต่อไป

33 thoughts on “Wrath of The First Lantern : Green Lantern 20

  1. genesis

    สุดยอดที่สุดแล้วครับเล่มนี้ ใช้ทุกๆอย่างที่ Geoff John เขียนมาหมดเลย เป็นอะไรที่สุดยอดมากๆ มันเป็นการปิดฉากที่ดูสมบูรณ์แบบที่สุดแล้ว

    และต้องขอบคุณ Geoff John กับ Blackest Night เช่นกัน ถ้าไม่มีเขาและอีเวนต์นี้ผมก็คงจะไม่ได้มาสนใจนั่งอ่านคอมมิค หรือแปลคอมมิคอยู่ตอนนี้แน่ๆ

    *ที่ต่างประเทศมีแซวว่า นี่คือครั้งแรกที่ Batman พูดกับฮาลดีๆ (ตอนที่ Batman ชมลูกของทั้งคู่ ว่าเขาน่ารักมาก)

  2. Starshutter055

    สุดยอดเลยครับ ขอบคุณที่แปลให้อ่านครับ

  3. BXS

    ขอบคุณจริงๆครับ ทุกผู้เขียน และผู้สปอยล์

  4. stillenigma

    เหมือนจะจบแบบไม่มีต่อเลยนะเนี่ยT-T

  5. Tatoo

    จบได้สุดยอดมาก Hal Jordan คือบุรุษที่ทรงพลังที่สุดในจักวาลจริงๆ เเกเป็นเเทบจะทุกอย่างเเล้ว ตั้งเเต่ฮีโร่ยันวายร้าย จุดสูงสุดหรือต่ำสุดของชีวิตเเกผ่านมาหมดเเล้ว
    ชอบคาเเรคเตอร์ตัวละคร Hal มากที่มีความเป็นมนุษย์สามารถจับต้องได้ ต่างจาก ซุปเปอร์เเมน หรือ เเบทเเมน
    เล่มนีใส่มาเต็ม Max เลยทั้ง Parallax เเละ Nekron ตอนสู้ครั้งสุดท้ายต้องเฮีย Sinestro นี่เเหละคลาสสิกมากคู่ปรับตลอดกาล
    ปล. Bookkeeper นี่คือเฮีย Sinestro ใช่มั้ย คิคิ
    Sayd ยังไม่ตายนี่เเถจริงๆ อ่าน Side Story ของ Lafleeze พี่เเกยังมาเป็นวิญญาณสีส้มมาตบเกรียน Lafleeze อยุู่เลย 555
    สุดท้ายล่ะ ขอบคุณมากครับ Geoff Johns ขอบคุณสำหรับทุกๆสิ่งทุกๆอย่าง ที่ทำให้ Green Lantern กลายมาเป็นฮีโร่เเถวหน้า DC เเละเป็นฮีโร่อันดับ 1 ในดวงใจของผม ขอบคุณครับ

  6. @bankkung

    เศษทราก >> เศษซาก
    แม้จะมีนอกลู่นอกทางไปบ้าง” > อนุญาต
    อธิฐฐาน >> อธิษฐาน
    ม…ไม่ว่าวอลธ์ธธู >> ม…ไม่ว่าวอลธ์ธธูม
    ฮาลใช่แหวนสีดำ >> ฮาลใช้แหวนสีดำ
    “มันจะมีเวลาที่ท่าน << มีเครื่องหมาย " โผล่มาตอนต้นประโยค
    ส่วนแลนเทิร์นชาวโลกอีกผู้หนึ่งก็ได้รับอนุญาติ << อนุญาต
    ผู้ถูกสาบ << ผู้ถูกสาป

  7. ezkore

    บุ้คคีปเปอร์นั่นซิเนสโตรแน่ ๆจบหล่อ ๆงี้กราบขอบคุณเลยครับ

  8. phongpisit

    ซึ้งมาก ถึงจะชนะง่ายไปหน่อยก้อเถอะ จบแล้วซินะครับ ตั้งแต่อ่านblackestnignt ถึงตอนนี้ รู้สึกว่าปลื้มพวกแลนเทิร์นมากขึ้นเยอะเลย
    อยากรู้จัง ในnew 52 จะทำให้lantern ทั้งหลายยิ่งใหญ่ได้ขนาดนี้มั้ยนะ?

  9. longjunt

    จบแบบนี้ คนรับไม้ต่อกลุ้มเลย ต่อยังไงละนี่

  10. น้ำหมึึกกลับด้าน

    สุดยอดจนไม่รู้จะบรรยายยังไง

  11. nodoop

    ขอบคุณมากครับ ประทับใจจนอยากให้จบไปตลอดกาลไม่เขียนต่อเลย
    แต่ผมสงสัยนิดหน่อย ที่ซิเนโตรพูดว่า
    เมื่อตอนที่เราอยู่บนไรอัท เมื่อตอนที่แกคิดว่าเราทั้งคู่ไม่มีทางรอดแน่แล้วนั่น แกพยายามจะถามอะไรบางอย่างกับฉัน
    นี่ตอนไหนรึครับ

  12. hometown03

    คนจะเอาไปทำต่อนี้งงกันเลย ยังกับจบตำนานของLanternไปแล้วเลยนะนี้

  13. com

    อ่านจบเเล้วมันตื้นตันใจจริงๆ อยากให้จบเเบบนี้ตลอดไปจัง เพิ่งติดตาม Comics ได้ไม่นานไม่ค่อยรู้จักฮีโร่เท่าไหร่ รู้จักเเต่ที่มีหนังออกมา Spiderman x men batman เเต่่ตอนนี้ Green Lantern กลายเป็นฮีโร่อันดับ 1 ในดวงใจไปเเล้ว

  14. seventoon

    ซาบซึ้งมากครับ สำหรับระยะเวลาหลายปี ที่ติดตามมา สุดยอดครับ

  15. Pongz

    ขอบคุณครับ ถ้าหนังมันสนุกถึงครึ่งของหนังสือคงดีแฮะ

  16. Senkawa

    สุดยอดมากเลยเล่มนี้
    แต่แอบสงสารคนทำต่อจัง เจองานหินเข้าแล้วไง

  17. Ekaraj

    จบอย่างสง่างาม
    คนรับไม้ต่อเครียด

    ปล. White Lantern ไม่ค่อยมีบทบาทอะไรเลยแหะในศึกสุดท้ายนี้

  18. Sh@d0W_F[i]GuRe

    Epic End! อ่านไปน้ำตารื้นไป 😉 (แอบขำนิดหน่อยตรงขึ้น The End แล้วโดนขัดจังหวะ 55 :D)
    ถ้ามีบทสรุปของ Star Saffire ที่เหลือ (นอกจาก Fatality กับ Carol)ด้วย จะจบสมบูรณ์แบบไม่มีข้อสงสัยอะไรอีกเลย
    ถึงยากมหาโหดยังไง ก็หวังว่าคนที่รับงานต่อจะแต่งเรื่องได้สุดยอดไม่แพ้กันนะครับ

  19. GEnGSERK

    เป็นตอนจบที่สุดยอดมากๆครับ มันตื้นตันจริงๆ

  20. saint running

    ซิเนสโตรนึกว่าใส่โกลด์ครอสซะอีก เยี่ยมมาก

  21. NetNN Post author

    @bankkung:

    ขอบคุณมากครับ แก้ไขเรียบร้อย

    @nodoop:
    เป็นช่วง Rage of The Red Lantern ครับ เป็นบทเปิดตัว Red Lantern Corps อย่างเป็นทางการ

  22. DOL

    เป็นตอนที่อ่านแล้ว ซึ้งมากๆ ครับ เพราะมันจบได้สมบูรณ์แบบสุดๆ
    ที่สำคัญ Hal ได้คู่ Carol ซักที โอ๊ย น้ำตาจะไหล

    ขอบคุณ คุณ NetNN มากๆ นะครับ ที่สปอยเรื่องนี้มาตลอดหลายปี T^T

  23. jojomoofy

    จัสติกลีกจะล่มสลาย จะมีแลนเทิร์นหญิงคนใหม่ ไม่มีใครสนใจประเด็นนี้เลยแฮะ

  24. pc3310

    เท่มากเลยฮาล จากนี้ไปก็เลิกงอแงกลับเข้าลีกซะนะ X))

    ฮาลกับซิเนสโตรตอนนี้กลบพวกไคล,กาย,ไซม่อน,อาโตร ซะมิดเลยแฮะ

  25. Zop

    In Brightest day, in darkest night, no evil shall escape my sight. You who worship evil’s might,
    beware my power, ……..green lanterns light !!!!!

  26. G

    จบได้สุดยอดมากครับ มันใช่มากๆเลย

  27. RaYKZ

    อะไรๆก็โอเคนะ แต่ทำไมเจ้าไคล์มันตายอยู่คนเดียวฟะ!!? คนอื่นแต่งงาน มีลูกมีเมีย ได้เป้นนายก เจ้าไคล์ แล้วแสงของเขาก็จะดับไป แต่เขาก็ไม่เคยนึกเสียใจแม้แต่นิดเดียว ขี้โกงชิบ คนแต่งเกลียดอะไรเจ้าไคล์รึป่าวเนี่ย เหอ เหอ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *