Hawkeye #6
เรื่อง : Matt Fraction
ภาพ : David Aja, Matt Hollingsworth, Chris Eliopoulos
วางจำหน่าย : 19 ธันวาคม 2012
สำนักพิมพ์ : Marvel Comics
Merry X’Mas!!
“โอเค… นี่มันห่วยแตก”
“ชั้นไม่รู้จะเอายังไงกับมันแล้ว”
“มันพันกันมั่วไปหมดแล้ว บ้าเอ๊ย”
ณ วันที่ 18 ธันวาคม เวลา 19.00 น. Clint Barton (Hawkeye) และ Tony Stark (Iron Man) กำลังหน้านิ่วคิ้วขมวดกับสายไฟที่พันกันยุ่งเหยิงตรงหน้า
Tony : เอาเลย คลินท์
Clint : ชั้นว่าจะตัดเส้นสีเขียวว่ะ
Tony : ตัดเหรอ
Clint : ทำไมรึ
Tony : มันมีวิธีที่ดีกว่านั้นน่า
Clint : ก็ยังหาวิธีที่ดีกว่าไม่เจอเลยนี่หว่า
พูดจบคลินท์ก็จับคีมจ่อเตรียมตัดสายเขียวทันที
Tony : เอาจริงดิคลินท์
ยิ่งพูดยิ่งเครียด ทั้งโทนี่และคลินท์เริ่มเหงื่อแตกพลั่กๆท่วมหัวแล้ว ในที่สุดคลินท์ก็ตัดสินใจ
ฉับ!
Tony : นายทำบ้าอะไรเนี่ย มันก็แค่สายพันกันแค่นั้นเอง
Clint : งั้นทำไมไม่มาแก้เองล่ะครับ ไอ้พ่อคุณอัจฉริยะอภิมหาโคตรเศรษฐี
Tony : อืม ชั้นว่านายทำถูกแล้วล่ะ ตัดมันทิ้งไปเลย ดูแล้วคงไม่มีอะไรในโลกมาแก้มัดสายไฟอันนี้ได้หรอก
Clint : ก็นายไง ไม่งั้นชั้นจะเรียกนายมาทำหอกอะไร
เครียดกันแทบตาย ที่แท้ก็เรื่องสายไฟพันกัน โธ่
วันที่พฤหัสบดีที่ 13 ธันวาคม
คลินท์กำลังออกปฏิบัติการกวาดล้างกลุ่ม A.I.M. ร่วมกับสมาชิก Avengers อีก 2 คน นั่นคือ Peter Parker (Spider-Man) และ Logan (Wolverine)
แต่พี่แกดันโดนลำแสงอีกฝ่ายจนตัวลอย ร่วงลงมาสลบเหมือดซะงั้น
Clint : ชั้นรู้สึกแย่มากเลย รู้สึกเหมือนเข้าไปโดนเขายำใน NFL เลย ยังรู้สึกไม่ค่อยจะมีสติสตังอยู่เลย
Peter : ไปพักผ่อนซะบ้างสิ นี่มันช่วงเทศกาลนะ ดังนั้นไปใช้มันให้เต็มที่ซะ
Clint : อา นั่นสินะ พักผ่อน รีแลกซ์ นอนแช่แป้งดูทีวี
Logan : เออใช่ พูดถึงทีวี เมื่อคืนได้ดู Dog Cops ตอนจบไหม
Peter : มันจ๊อดมากเลย!!
Clint : อ๊าก สปอยล์ สปอยล์ หยุดพูดเดี๋ยวนี้เลยนะ
Clint : ชั้นอัดไว้ในเครื่อง DVR ทั้งซีซั่นเลย รู้ไหมนั่นหมายความว่าไง
Clint : พวกนายพูดถูก ชั้นน่าจะใช้วันหยุดไปกับการพักผ่อน มีแค่ชั้นและด็อก ค็อป แค่นั้นจนถึงวันปีใหม่ ไว้เจอกันอีกทีที่ Avengers Tower นะพวก
Peter : ขอให้สนุกล่ะไอ้เกลอ
วันอังคารที่ 18 ธันวาคม
Tony : คลินท์ เดี๋ยวเราจะออกไปซื้อของข้างนอกกัน ชั้นจะซื้อสายไฟใหม่ให้นายเอง เมอร์รี่คริสต์มาส
Clint : ไม่ต้องหรอก ชั้นมีตังค์น่า
Tony : ชั้นรู้ว่านายมีเงิน ชั้นหายถึง…
Clint : ม่ายๆ ชั้นมีตังค์นะตอนนี้ แบบว่า… ใช่ ตังค์นั่นละ
Tony : นายได้เงินมาจากไหน
Clint : ที่ไหนน่ะเหรอ
Tony : “ที่” ของนายนี่มันที่อะไร แบบ Wallstreet รึเปล่า ที่ที่ผู้คนเขาหาเงินกันน่ะ
Clint : ช่ายๆ แบบวอลล์สตรีทนั่นล่ะ
โทนี่ไม่เชื่อที่คลินท์พูดเอาสักเท่าไร เลยนิ่งเงียบ ทำหน้าบึ้งตึงใส่ ส่วนคลินท์ก็ยิ้มเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น โทนี่ก็ทำหน้าบึ้งกดดันต่อไป ในที่สุดคลินท์ก็ต้องยอมแพ้
Clint : ชั้นโม้เองแหละ ชั้นไม่รู้จักวอลล์สตรีทอะไรนั่นหรอก
Tony : นายเป็นทั้งนักแสดงโชว์ ทั้งโจร นายต้องโยนไอ้ของพวกนี้ทิ้งไปซะ แล้วซื้อใหม่ซะ นายจะได้ดูด็อก ค็อปได้ซะที จะว่าไปตอนที่จ่าหนวดแมวไปเจอเด็ก…
Clint : หุบปากไปเลย! หยุดสปอยล์แล้วก็หยุดบ่นเรื่องของๆชั้นได้แล้ว ชั้นรู้ว่ามันทั้งพันกัน ทั้งเก่า แต่มันเป็นของๆชั้น
Clint : แล้วนายก็จะช่วยแก้ให้ไม่ใช่รึไง นายจะทำให้มันใช้ได้ไม่ใช่เหรอ
วันจันทร์ที่ 17 เมษายน เวลา 22.07 น. คลินท์กำลังรื้อข้าวของของเขาออกมา แต่ระหว่างนั้นก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้น
(โคตรชอบลูกศรที่วาดมาคู่กันกะตอนควงมีดเลย)
Clint : สวัสดีครับ Simone กับ ซิโมนน้อยสินะ
Simone : เรามีปัญหาค่ะ คุณคลินท์
Clint : คุณ? อะไร นี่ผมเองนะ
Simone : ดิชั้นมีปัญหากับอพาร์ทเมนท์ ซึ่งมันเป็นตึกของคุณ ดังนั้นมันก็เป็นปัญหาของคุณด้วย
(ใช่ครับ กรรมสิทธิ์ตึกนี้เป็นของคลินท์ เพราะคลินท์ซื้อตึกไปตั้งแต่ # 1 แล้ว)
Simone : เคเบิลมันไม่ทำงาน และช่างก็บอกเราว่าเขาจะไม่ซ่อมมัน รายการคริสต์มาสรายการโปรดของลูกๆดิชั้นกำลังจะฉายอาทิตย์หน้านี้แล้ว ถ้าพวกเขาไม่ได้ดู พวกเขาต้องเป็นบ้าตายแน่ๆ
Clint : แล้วทำไมเขาถึงไม่ซ่อมล่ะ
Simone : ก็ถามเขาดูสิคะ
ช่าง : ไม่เด็ดขาด
Clint : ทำไมล่ะ นี่มันงานของคุณน่ะ
ช่าง : มันอยู่บนทางบันไดหนีไฟ ซึ่งตรงนั้นมันดูไม่ปลอดภัย นอกจากนี้ผมยังอ้วนและก็ขี้เกียจ แถมข้างนอกยังมีหิมะตกอีก ดังนั้นผมจะไม่ปีนไปทางบันไดหนีไฟเด็ดขาด
(ข้ออ้างนี่ช่างน่าตบกะโหลกจริง)
Clint : นี่มันงานของคุณนะ
ช่าง : ไม่ครับ มันไม่ใช่
Clint : ทำไมจะไม่ใช่ล่ะ
“ผมซ่อมอุปกรณ์ที่มีปัญหา แต่จานอันนี้มันเสียหาย ถ้าอุปกรณ์เสียหาย มันก็ไม่ใช่งานของผม”
Clint : มันมีอะไรบางอย่าง อืม ลูกธนูติดอยู่ที่จานงั้นเหรอ โธ่ ลูกธนู ท่าทางจะเป็นของผมแล้วล่ะ เอาเป็นว่าคุณช่วยเอาจานอันใหม่มาให้ผมหน่อยละกัน ไว้ผมจะจัดการที่เหลือเอง
วันศุกร์ที่ 14 ธันวาคม ณ งานชุมนุมบนดาดฟ้าอพาร์ทเมนท์ Grill นำ DVR ที่อัดด็อก ค็อปไว้ทั้งซีซั่นมาให้คลินท์
Clint : นี่มีทั้งซีซั่นเลยใช่ไหม
Grill : ช่าย แค่ต่อสายแล้วก็เอ็นจอยได้เลย นายเหยี่ยว
Clint : นายเหยี่ยวเหรอ
Grill : อย่ามาแกล้งทำเป็นว่านายไม่ใช่นายเหยี่ยวสิ
Clint : เอ่อ ก็ไม่ใช่น่ะสิ ชั้นไม่ใช่ แต่ว่า เดี๋ยวนะ นายเหยี่ยว (Hawkguy)หรือ ตาเหยี่ยว (Hawkeye) นะ
Grill : นายคือนายเหยี่ยวไง
Clint : ตาตะหาก
Grill : อือ
Clint : ดูนี่ ตา ตา
Grill : ก็นายไง นายเหยี่ยว
Clint : ตาเหยี่ยว
Grill : อารมณ์แบบว่าประสมคำแบบในซีรีย์ M*A*S*H สินะ
Clint : ถั่วต้ม
Grill : นายเหยี่ยว
(M*A*S*H เป็นซีรีย์ฝรั่งตั้งแต่สมัยคนแปลยังไม่เกิด โดยเรื่องจะเกี่ยวกับแพทย์ทหารในสงครามเกาหลีครับ โดยตัวเอกของเรื่องคือ Benjamin Franklin Pierce มีฉายาว่า Hawkeye ครับ ว่าแต่คลินท์อธิบายขนาดนี้เอ็งก็ยังไม่เข้าใจเลยใช่ไหมฟระ)
ในที่สุดก็มีคนมาขัดจังหวะ Aimee เมสเซนเจอร์สาวผู้ร่วมอพาร์ทเมนท์เดียวกันนั่นเอง
Aimee : นายรู้จักเจ้าพวกถือไม้เบสบอลข้างล่างไหม
คลินท์ได้ยินดังนั้นจีงให้เอมมี่พาไปชี้ตัวจากขอบดาดฟ้าทันที และก็เป็นแก๊งค์สามเส้นนั่นเอง
ฟุ่บ! ลูกธนูวิ่งไปปักไม้เบสบอลแก๊งสามเส้นกระเด็นออกจากมือไปหนึ่งคนทันที คลินท์ บาร์ตันมาแล้ว
คลินท์ : ไสหัวออกไปจากตึกของชั้นซะ
Clint : ชั้นพูดไม่เคลียร์พอรึไง คิดว่าหนุ่มน้อยใส่หมวกซานต้าจะไม่ทำอะไรเลยเพียงเพราะว่าเขาพึ่งจะสนุกกับการสังสรรค์มารึไง
สามเส้น : น้องชาย นายโง่มาก
Clint : ไม่มั้ง ที่โง่น่ะแกตะหาก พี่ชาย
และจู่ๆก็มีรถตู้สองคันวิ่งมาล้อมคลินท์ทันที ที่แท้ในรถตู้ขนพวกมาซะเต็มรถเลย
“โอเค… ชักจะไม่สนุกแล้วสิ”
ณ เวลา 19.15 น. คลินท์ บาร์ตันกำลังถูกรุมยำ จนลูกธนูที่คลินท์ง้างไว้เตรียมยิงก็ยิงวืดไปปักจานดาวเทียมข้างบนแทน
(นี่สินะ สาเหตุที่ครอบครัวซิโมนดูทีวีไม่ได้)
และหวังว่าทุกคนคงจำได้ ว่านี่มันคอมมิคมนุษย์ธรรมดา ไม่ใช่คอมมิคซุปเปอร์ฮีโร่ เจอรุมแบบนี้จะให้สู้ไหวได้ไงค้าบ
ในที่สุดคลินท์ก็ถูกฟาดสลบ และโดนถุงยัดหัวพามายังสถานที่แห่งหนึ่ง
วันเสาร์ที่ 15 ธันวาคม ณ เวลา 00.00 น. คลินท์ถูกเอาถุงคลุมหัวออกซะที และสิ่งที่คลินท์เห็นตรงหน้าก็คือ…
Clint : เยี่ยม
Clint : เล่นพรรคเล่นพวกนี่หว่า
เป็นล้านครับ เยอะกว่าเดิมอีก
ทันใดนั้น ชายผู้หนึ่งในกลุ่มก็พูดออกมา ดูจากชุดและการแต่งตัวที่ไม่เหมือนคนในแกงค์แล้ว ก็คงจะไม่พ้นหัวหน้าแกงค์แหละ
บอส : น้องชาย น้องทำให้คนไม่ดีมากๆกลุ่มหนึ่งโมโหนะ
บอสหนังเหี่ยวมาก แต่ใส่แว่นยังประหนึ่งว่าตัวเองเป็นศิลปิน RS Kamikaze ซะงั้น ว่าแล้วก็ซู๊ด ดูดเครื่องช่วยหายใจทีนึง
บอส : น้องชายแย่งตึกของเราไป ช่วยภรรยาน้องชายของเราหนีไปจากเมืองนี้ แต่ไม่เป็นไร น้องชายของเรายังมีอีกหลายคน
(สรุปว่าสาวผมแดงใน #3 ต้องการจะหนีจากแก๊งค์ แต่เดชะบุญมาได้คลินท์กินตับ เอ๊ย ช่วยพาหนีสินะ)
บอส : น้องชายไฝ้ว์กับพวกเรา ก็เท่ากับไฝ้ว์กับคนที่พวกเราทำงานให้ พวกเขาบอกเราว่าเขาพอกับน้องชายแล้ว เลิกไฝ้ว์แล้วถอนตัวซะ ไม่อย่างนั้นเราได้มีสงครามแน่ มีเวลา 24 ชม.
ณ ขณะนี้ เวลา 00.19 น.
บอส : ไปซะ ไม่อย่างนั้นเราไม่รับประกันความปลอดภัยของทุกคนในตึกนะน้องชาย
หลังจากนั้นคลินท์กูถูกเตะส่งลอยตูดโด่งกลับมายังอพาร์ทเมนท์
(หมดกัน ราศีฮีโร่ หมดสภาพซะ)
“มันจบแล้วล่ะ บาร์ตันเอ๋ย ไปจากเมืองนี้ซะ จะได้ไม่มีใครตาย”
“ใครจะคิดถึงนาย เดี๋ยว Avengers ก็มาจัดการเองแหละ ไม่มีใครเอะใจหรอก ใครจะมา…”
แต่เมื่อคลินท์เห็นธนูของตนเองบนผนัง เขาก็นึกถึงคนๆหนึ่งขึ้นมา
“Katie”
ณ เวลา 01.58 น. คลินท์ไปหาเอมมี่ที่ห้องเพื่อขอร้องอะไรบางอย่าง
Aimee : โว้ว ไปลุยนรกมารึไงเนี่ย
Clint : เธอยังทำงานเมสเซนเจอร์อยู่ใช่ไหม
คลินท์ยื่นธนูของเขาที่ห่อเก็บมาอย่างดีให้เอมมี่ โดยธนูมีป้ายชื่อของคนที่ต้องการให้ส่งติดอยู่ เคท นั่นเอง
วันที่ 19 ธันวาคม ในที่สุดคลินท์ก็ตัดบ้านตัวเองเสร็จเรียบร้อย รวมไปถึงเครื่อง DVR ด้วยเช่นกัน แต่ขณะที่เขากำลังจะดูทีวี ก็มีคนมาเคาะประตูอีกแล้ว
วันเสาร์ที่ 15 ธันวาคม เวลา 20.44 น. Kate Bishop (Hawkeye) มาหาเขาถึงบ้าน พร้อมด้วยธนูที่คลินท์ฝากเอมมี่ส่งให้
Kate : นี่มันหมายความว่ายังไง
Clint : เมอร์รี่… เธอก็รู้นี่ ชั้นแค่… ชั้นอยากให้เธอรับมันไป
แต่เคทสังเกตเห็นกระเป๋าเสื้อผ้าของคลินท์ ทำให้เธอรู้ทันทีว่าคลินท์กำลังจะไปไหนแน่ๆ
Kate : นายจะไปไหนกัน
Clint : หือ ไม่ได้ไปไหนนี่
Kate : นาย กำ ลัง จะ ไป ไหน
Clint : พวกมันจะฆ่าทุกคนในตึกนี้ ถ้าชั้นไม่ไป เคธี่ ก็ ก็แค่สักระยะนึงแหละ จนกว่าพวกนั้นจะลืม ส่วนพวกอวเนเจอร์สก็ไม่มีปัญหาหรอก พวกเขาน่ะ…
Kate : งั้นเหรอ
Kate : นายคือคลินท์ บาร์ตันนะ แล้วนี่นายก็ลังพล่ามอะไรอยู่
Clint : ชั้น… ทำไมต้องมาว่าชั้นด้วย พวกคนไม่ดีกำลัง…
Kate : นายเป็นคนดี ดังนั้นก็ทำตัวให้สมกับเป็นคนดีหน่อย รู้อะไรไหม
Kate : นี่นายกำลังทำอะไรอยู่ วิ่งหนีหางจุกตูดงั้นเหรอ นายนี่มันเห่ยหมดทุกอย่างจริงๆ
Kate : เมอร์รี่คริสต์มาส ตาบ้า
วีนใส่ คืนธนูแล้วก็กลับไปเลย
(ในส่วนความสัมพันธ์ระหว่างธนูคันนี้กับเคท ผมจะอธิบายท้ายเรื่องนะครับ)
วันที่ 16 ธันวาคม เวลา 00.00 น. คลินท์กำลังครุนคิดอะไรบางอย่างอยู่ ตอนนี้ครบเวลา 24 ชม. ที่แก๊งค์สามเส้นตั้งเงื่อนไขแล้ว พวกมันจึงมาดูว่าคลินท์ไปจากตึกหรือยัง เมื่อพวกมันมาถึง มันก็ทำท่าชี้นิ้วเสมือนยิงปืนประหนึ่งเป็นสัญญาณเปิดสงคราม นั่นก็เพราะ…
คลินท์ บาร์ตันเลือกที่จะอยู่ ยืนหยัดต่อสู้เพื่อปกป้องอพาร์ทเมนท์แห่งนี้นั่นเอง
วันที่ 19 ธันวาคม คลินท์เปิดประตูรับครอบครัวซิโมน
Clint : เมอร์รี่คริสต์มาส
Simone : คุณแน่ใจเหรอ
Clint : นี่เป็นสิ่งที่ผมพอจะทำได้น่ะ ก็ลูกธนูผมมันดันไปติดจานดาวเทียมของคุณนี่นา ผมทำป๊อบคอร์นไว้ ให้เด็กทานด้วยได้ไหมครับ
Simone : ได้ค่ะ
คลินท์ยื่นรีโมทให้ซิโมนน้อย
Clint : ถ้าใช้มันเป็น ก็ดูให้เต็มที่จนกว่าแม่เธอจะบอกให้พอเลย
Simone : แน่ใจหรือคะ แล้วคุณไม่จำเป็นต้องไปไหนบ้างเหรอ
Clint : ไม่ล่ะครับ
“ผมจะไม่ไปไหนทั้งสิ้น”
====================================
คุยกันท้ายเล่ม
ในส่วนของเล่มนี้ ลำดับเหตุการณ์จะกระโดดไปกระโดดมาบ่อยมาก ถ้าใครไม่เข้าใจ ผมจะเรียบเรียงให้ดังนี้นะครับ
13 ธันวาคม คลินท์ไปปราบกลุ่ม A.I.M. และตัดสินใจจะกลับไปพักผ่อนดูด็อก ค็อปที่อพาร์ทเมนท์
14 ธันวาคม คลินท์ไปงานชุมนุมบนดาดฟ้าตึก จากนั้นก็ถูกแก๊งค์สามเส้นจับตัวไป และยื่นข้อเสนอให้เขาไปจากที่นี่ซะ
15 ธันวาคม คลินท์ตัดสินใจจะไปจากที่นี่ และฝากเอมมี่นำธนูของเขาไปให้เคท แต่สุดท้ายเคทก็นำธนูมาคืนพร้อมกับเตือนสติคลินท์ในคืนวันนั้น
16 ธันวาคม คลินท์ตัดสินใจที่จะอยู่ต่อ
17 ธันวาคม คลินท์รื้อข้าวของทั้งหมดที่ตัวเองแพ็คเตรียมย้ายตอนแรก จากนั้นซิโมนก็มาแจ้งว่าทีวีห้องเธอดูไม่ได้ เพราะธนูของคลินท์ไปปักอยู่บนจานดาวเทียมของเธอ
18 ธันวาคม คลินท์แก้สายไฟพันกันไม่ไหว จนต้องเรียกโทนี่มาช่วย
19 ธันวาคม คลินท์จัดห้องและเครื่อง DVR เรียบร้อย เขาตัดสินใจไม่ดูด็อก ค็อป และสละทีวีให้ครอบครัวซิโมนแทน
==============
และสำหรับเรื่องของธนูนั้น ธนูคันนี้คือธนูที่ Captain America มอบให้เคทพร้อมกับฉายาฮอคอาย เพราะคิดว่าคลินท์ตายไปแล้ว แต่ในภายหลังเมื่อคลินท์ยังไม่ตาย ในตอนนี้เขาใช้ชื่อ Ronin แทน และทราบว่าธนูของตนอยู่ที่เคท เขาจึงท้าเคทแข่งยิงธนูโดยมีธนูของเขาเป็นเดิมพัน
การแข่งครั้งนี้เคทใช้ธนูของคลินท์ที่เธอได้รับมาจากแคป ส่วนคลินท์ใช้ธนูธรรมดา ผลออกมาทำท่าเหมือนว่าเคทจะชนะ เพราะเธอยิงถูกตรงจุดเหลืองกลางเป้าเป๊ะๆ ส่วนลูกธนูดอกอื่นๆก็แน่นเต็มเป้าจนเธอมั่นใจว่าคลินท์ไม่มีทางยิงธนูแหวกเข้าไปจุดเหลืองได้แน่ๆ
ทว่าคลินท์ได้สอนความเป็นสุดยอดนักแม่นธนูของเขาให้เธอเห็น เขาบอกเธอว่าสำหรับนักแม่นธนู ถ้ามันมีค่าพอที่จะให้ยิง ต่อให้คิดว่ามันไม่มีทางเป็นไปได้ เขาก็ต้องยิงมันออกไป
และสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ก็บังเกิด ลูกธนูของเขาแหวกลูกธนูของเคทพุ่งเข้ากลางจุดเหลือง เคทถึงกับอึ้งกิมกี่เลยทีเดียว ทำให้เขาเป็นผู้ชนะในการดวลธนูครั้งนี้
ทั้งนี้ความจริงคลินท์ไม่ได้ต้องการจะเอาธนูคืนหรอกครับ แต่เขาต้องการจะทดสอบเคทว่ามีฝีมือแค่ไหน มีศักยภาพเพียงพอที่จะให้เขาฝากฝังอนาคตของโลกไว้ในมือเธอได้หรือเปล่าต่างหาก
=========
และผมขอแถมสปอยล์สั้นๆของ #7 นิดนึงนะครับ เนื่องจากเล่มนี้ไม่ได้มีอะไรเกี่ยวข้องกับเนื้อเรื่องหลักมาก เพราะเป็นตอนพิเศษที่เขียนขึ้นมาเพื่อระลึกถึงเหตุการณ์พายุเฮอริเคนแคทริน่าถล่มอเมริกาเมื่อปลายปีเท่านั้น จึงขอนำจุดที่สามารถเชื่อมโยงกับเนื้อเรื่องหลักได้มาอธิบายเท่านั้นนะครับ
โดยในเล่มนี้ พายุแคทริน่าได้บุกมาถึงอพาร์ทเมนท์ของคลินท์ ทำให้พี่แกต้องระเห็ดหนีไปอยู่บ้านกริลล์แทน แต่ผิดคาด พายุและน้องน้ำก็ยังตามมาถึงอยู่ดี โดยพายุครั้งนี้ได้หอบเอารถของคลินท์หายไปด้วย ไม่ใช่รถที่ไหน รถที่พี่แกซื้อมาจากแม่สาวผมแดงใน #3 นั่นล่ะครับ
นอกจากนี้ เขายังค้นพบความจริงว่าเพื่อนร่วมอพาร์ทเมนท์ของเขาคนนี้จริงๆแล้วไม่ได้ชื่อกริลล์ แต่ชื่อ กิล ต่างหาก โดยเพื่อนคนนี้ชื่อเต็มชื่อ Gilbert และชื่อสั้นๆคือ Gil แต่เนื่องจากเขาทำหน้าที่ปิ้งบาร์บีคิวในงานชุมนุมบนดาดฟ้าทุกครั้ง ทำให้คนที่นั่นเรียกชื่อเขาเพี้ยนเป็น Grill (ปิ้ง,ย่าง) แทน
มีแค่นี้ล่ะครับ สำหรับ #7 ฮา
สุดท้ายก็ยันได้ทั้งแกงค์ เลยสินะ สินะ
ตอนนี้ทุกหัวของมาเวล ผมชอบ ฮอคอาย อันนี้ที่สุดจริงๆนะ
อ้อ และก็ nova อีกหัวนึง
เป็นอีกเรื่องที่ต้องซื้อเก็บเลยนะ การแบ่งช่อง ลำดับเรื่อง เทพจริง
โดนแน่เล่มนี้ อ่านสนุกด้วย
หัวนี้ ทำให้ ฮอค อาย เด่นขึ้นเพิ่งขึ้นอีกบานเลยอ่ะ เทพมากเลย สำหรับคอนเซ็ปต์ของหัวเรื่องครับ
เรื่องนี้มองภาพอย่างเดียวมันยังไม่เท่าไรนะ
แต่ เนื้อเรื่องมันไปด้วยกับภาพ ช่วยเกื้อหนุนให้เนื้อเรื่องสนุกมากขึ้นด้วย
เป็นการ์ตูนที่มีครบรสจริงๆ สนุก ฮา ซึ้ง ชอบมากๆ เลยครับ
ปล. เอิ่ม เล่ม 7 มาไว ไปไวมาก ฮ๋าๆๆ