H’el on Earth Part 12 Conclusion : Superman #17

Superman #17 : H’el on Earth Part 12 Conclusion : Fury At World’s End
เรื่อง : Scott Lobdell
ภาพ : Kenneth Rocaforth
วางจำหน่าย : 6 มีนาคม 2013
สำนักพิมพ์ : DC Comics

สู่บทสรุปของ H’el on Earth แผนการของ H’el กำลังจะสำเร็จ แล้ว Superman กับพรรคพวกจะหยุดเขาได้หรือไม่

.

Superman โดน H’el ชกจากในเล่มที่แล้ว จนกระเด็นออกจากโลกมาชนเข้ากับหินยักษ์ในอวกาศ

และเมื่อเขารู้สึกตัวก็พบว่าตัวเองยังมึนๆอยู่ ที่เขาจำได้คือตัวเองสู้กับ H’el และโดนมันต่อยจนกระเด็นเลยดวงจันทร์มาถึงกว่าแสนไมล์ และคิดได้ว่ามันจะมีอะไรมาหยุดเขาที่พุ่งมาแบบนั้นได้ และเมื่อเขามองขึ้นไป มันก็คือมือขนาดยักษ์ของ The Oracle นั่นเอง ซึ่ง Superman ไม่รู้ว่ามันคืออะไร และเขาไม่สามารถแสกนตัวมัน รวมไปถึงสัมผัสถึงการมีชีวิตอยู่จากมันไม่ได้ด้วย

จากนั้นมันก็ มองมายัง ซึ่งมันทำให้เขารู้สึกเหมือนถูกเผาไหม้ แต่ภาพต่างๆก็พรั่งพรูเข้ามาในหัวของเขา มันคือภาพความทรงจำของพ่อและแม่ของเขา ตั้งแต่ที่ทั้งคู่พบรักกัน การทะเลาะกันของ Jor-El กับพี่ชายของเขา Zor-El การจบสิ้นของดาวคริปตัน ภาพที่เขาและ Kara ถูกพ่อและแม่ส่งออกมา ซึ่งเขาไม่รู้ว่ามันให้เขาดูทำไม หรือมันจะบอกเขาว่าโลกจะพินาศและคริปตันจะฟื้นกลับคืนมาอีกครั้ง แต่มันก็ไม่ตอบอะไร และหายไป

ซึ่งในตอนนี้ Superman ไม่มีเวลาให้เสียมากนักแล้ว เขาพุ่งกลับไปที่โลกเพื่อหยุด H’el และ Star Chamber ของมันจากการทำลายล้างโลกทันที และพวก Batman ที่ตอนนี้กลับมาประจำการที่ Watch Tower แล้วก็ติดต่อไปหาเขา พร้อมบอกว่าตอนนี้ทุกๆอย่างอยู่ในการควบคุมแล้ว ซึ่ง The Flash ก็แถมว่าถ้าเขาไม่รวมพวก แผ่นดินไหวกับซึนามิและอื่นๆด้วยนะ

(The Oracle ที่โม้มานาน โผล่มาเพียงแค่นี้ คุ้มค่าตัวจริงๆ ยังไม่ได้พูดอะไรสักคำเลย)

ที่ Arctic ตอนนี้ Supergirl ที่กลับตัวกลับใจก็พยายามร่วมมือกับ Superboy และ Wonder Woman ทำลาย Star Chamber แต่ก็ยังมี H’el ที่คอยค้ำจุนมันอยู่ และเขาพยายามเกลี้ยกล่อมให้ Supergirl กลับมาช่วยเหลือเขา เพราะถ้าเขาเดินทางกลับไปได้จริงๆ เขาจะช่วยคริปตันไว้ได้ และการเสียสละของดาวดวงนี้ก็จะไม่เกิดขึ้นอีกด้วย แต่ Supergirl ก็บอกว่า “ถ้า” เขาทำได้ แต่ตอนนี้เธอจะไม่ยอมให้ชีวิตนับล้านๆต้องเสี่ยงแบบนั้น ซึ่งในตอนนี้ Superoy ก็ขอให้ Wonder Woman ช่วยคุมกันเขาไว้ เพื่อให้เขารวบรวมสมาธิในการใช้พลังจิตทำลายมัน

และเขาก็ทำสำเร็จ Star Chamber ถูกทำลายแล้ว และมันเหนือกว่าที่ H’el คาดการณ์ไว้ว่า Superboy จะทำได้ถึงขนาดนี้ แต่ยังไงก็ตาม Star Chamber ทำหน้าที่ของมันสำเร็จแล้ว ยานของเขาได้เติมเชื้อเพลิงจนเต็มแล้ว และใช้พลังของเขาซัด Wonder Woman ออกไป พร้อมบอกว่า หลังจากที่เขาต้องท่องเที่ยวอยู่ในอวกาศอย่างโดดเดียวกว่า 20 ปี ตอนนี้เขาจะย้อนเวลากลับไป เพื่อช่วยเหลือเหล่าผู้คนของเขาซะที และจะไม่มีใครมาหยุดเขาไว้ได้

ซึ่งเขาคิดที่จะจัดการ Superboy กับ Wonder Woman ทิ้ง แต่ Superman ก็มาถึงพอดี และพุ่งเข้าไปซัด H’el จนร่วงด้วยพลังที่สามารถถล่มภูเขาทั้งลูกได้

และมันยังส่งเสียงอันดังไปถึงใจกลางโลกจน Dr.Veritas สัมผัสได้ว่า นี่แหละคือระดับพลังที่ไม่มีการยั้งมือไว้อีกต่อไปของ Superman นอกจากนี้มันยังดังขึ้นไปจนแม้แต่บน Watch Tower ยังได้ยิน จน Batman ตกใจกับเสียงที่อยู่ๆก็ดังขึ้นมา และ Cyborg บอกว่าเขาจะต้องไม่เชื่อแน่ว่ามันมาจากไหน ส่วน Superboy ก็จัดการปิดกระแสพลังงานที่เหลืออยู่ด้วยพลังของเขาเท่าที่ทำได้ ส่วน Supergirl ก็คิดได้ถึงสิ่งที่เกิดขึ้น…ว่า Superman นั้นคิดถูกแล้ว ถูกมาตลอด และเธอน่าจะคิดได้ และในตอนนั้นเองที่เบื้องหน้าของเธอ อาวุธลับสุดท้ายปรากฏอยู่ตรงหน้า Krptonite สีเขียว คู่ปรับของชาวคริปตันทุกคน

แต่ผลลัพธ์ที่ Superboy กลับต่างจากที่เขาคิด เพราะยานกำลังทำงาน ระดับพลังงานของมันคงที่แล้ว ซึ่ง Superboy ไม่เข้าใจว่ามันเป็นแบบนี้ไปได้ยังไง แต่ Wonder Woman คิดว่าน่าจะเป็นสิ่งที่ H’el คิดไว้แล้ว Superman เองก็สัมผัสได้ และรู้ว่าพวกเขาถูก H’el หลอกแล้ว H’el หลอกใช้ Superboy ให้ช่วยปรับระดับพลังงานของยานให้คงที่และพร้อมสำหรับออกยาน H’el จึงเฉลยว่าถูกแล้ว และบอกว่า Superman ใช้เวลาในชีวิตของเขาในการทำตัวเป็นมนุษย์ …แต่เขาใช้เวลาพวกนั้น เพื่อวางแผนใช้สิ่งต่างๆเพื่อให้มันสำเร็จไปด้วยดี

และ H’el ก็อัด Superman กลับจนร่วงลงไปนอนทันที ซึ่ง Superboy ก็คิดว่าเขาจะรอดมั้ย เพราะเขาไม่เคยหมัดที่หนักแบบนั้นมาก่อนเลย ซึ่ง Wonder Woman ก็บอกว่าเขาไม่เป็นหรอก ส่วน H’el ก็วาร์ปกลับไปยังตัวยาน และเตรียมที่จะย้อนเวลากลับไป

H’el : นี่จะไม่ใช่การเข่นฆ่า เรื่องนี้มันไม่เคยเกี่ยวข้องกับตายอะไรเลย สิ่งที่ฉันต้องการ…สิ่งที่ฉันร้องขอ…มันคือการนำดาวคริปตันให้กลับมายังที่ที่มันอยู่อย่างสมภาคภูมิอีกครั้ง ดาวของพกวเราคือดาวแห่งวิทยาศาสตร์และมันเรียกได้ว่ามันเป็นดาวที่ปราดเปรื่องมากที่สุดเท่าที่มีเคยมีมาในจักรวาล ดังนั้นมันจะต้องไปสนใจอะไรล่ะกับโลกเพียงดวงเดียว…หรือแม้แต่โลกเป็นร้อยๆดวงกันเล่า

He’l : มันเทียบไม่ได้กับการกลับคืนมาของคริปตันเพียงดวงเดียวหรอก พวกมนุษย์มันชอบคิดว่าตัวเองนั้นวิเศษวิโสนักหนา แต่พวกมันไม่ใช่ และในไม่กี่อึดใจต่อจากนี้…มันจะไม่มีใครที่จะมาอาลัยกับเรื่องนี้อีก

H’el : ลาก่อนดาวโลกเอ๋ย ความเสียสละของเจ้าจะเป็นที่ตราตรึงไปตลอดกาล

Kara : H’el… ไม่นะ

Kara : นายชนะแล้ว และนายก็คิดถูกแล้ว ฉันเข้าใจแล้วล่ะ ทุกๆคนเข้าใจแล้ว ลองคิดสิ…ถึงสิ่งที่นายกับฉันจะได้ทำร่วมกัน เพื่อคนของเรา ได้โปรด พาฉัน…กลับไปยัง…

H’el : บ้านสินะ… ผมดีใจจริงๆ และแน่นอนด้วยความยินดีเลยล่ะ คาร่า

Superman : คาร่า ขอล่ะ อย่าทำแบบนี้

H’el : ให้ตาย สิด้วยความรักของราโอ พวกแกหุบปากกันเป็นมั้ย

H’el ใช้พลังของเขารวบตัวทั้ง 3 ไว้ แต่เขาไม่ทันสังเกตเลยว่าสีตัวของ Kara นั้นเปลี่ยนแปลงไป

H’el : แต่คุณต้องเข้าใจนะ คาร่า ว่าผมทำลงไปด้วยความรัก ต่อคริปตัน ใช่แล้ว และนอกจากนั้นยังเพื่อ…

Kara ใช้สองมือประคองอาวุธลับของเธอไว้ แต่มันก็ทำร้ายเธอเช่นกัน

Superboy : นี่มันเป็นที่ผม หรือเธอดูตัวสีเขียว…ขึ้นจริงๆเนี่ย

Superman : คาร่า ผมขอร้องล่ะ… วางมันลง ก่อนที่จะมีใครได้รับจะบาดเจ็บ

Wonder Woman : เธอทำในสิ่งที่ต้องทำนะ คาล

และตอนนี้ H’el ก็เริ่มสังเกตได้แล้ว

H’el : คาร่า นี่คุณไม่สบายหรือเปล่า คุณควรจะมาหาผมนะ… คุณก็รู้ดีว่ามันไม่ใครที่จะรักคุณเท่าผมอีกแล้ว

Kara : และนั่นแหละ คือสิ่งที่ฉันต้องบอกนายว่า ฉันขอโทษจริงๆ…

แล้ว Kara ก็ใช้คริปโตไนท์ปักเข้าไปที่กลางอกของ H’el ในทันที

Kara : นายจะต้องเป็นคนที่ควบคุมตัวประตูมิติโดยตรง นั่นถึงเป็นเหตุที่ผลที่ว่าทำไมนายถึงต้องให้ ซุปเปอร์บอย เป็นคนปล่อยยานออกมาจาก Star Chambe ปราศจากนาย… มันจะปิดตัวลง และโลกก็จะรอดพ้น

H’el : ถูกต้อง… แต่มันจะทำให้คริปตันต้องเป็นดวงดาวที่เหลือเพียงแค่วิญญาณต่อไป

Kara : ฉันอธิฐานต่อ …Rao… ฉันหวังว่ามัน… จะมีทางเลือกอื่น

แล้ว H’el ก็กระซิบที่ข้างหูของเธอ

“ผม…ให้อภัยคุณ”

Kara : ฉันไม่คิดว่านั่นจะมีความหมายอะไรกับฉันอีกต่อไปแล้วนะ H’el

Superboy : พวกเราเป็นอิสระแล้ว นั่นหมายความว่า H’el ตายแล้วงั้นเหรอ

Superman : ก็กำลังจะเป็นแบบนั้น… แต่มันจะไม่ใช่การตาย! มันจะแค่ทำให้หมอนั่นอันตรายขึ้นเท่านั้นแหละ!

Superman ที่เป็นอิสระพุ่งตัวออกไปทันที

แล้ว H’el ก็ถูกดูดเข้าไปในประตูมิติที่เข้าสร้างขึ้นมา

H’el : คาร่า …มันคือสิ่งที่น่ายกย่อง พวกเรากำลังจะช่วยเหลือดาวของพวกเราได้แล้ว

Kara : Rao อภัยให้ฉันด้วย

Superman : เขาจากไปแล้ว คาร่า บางทีอาจจะตลอดกาล

Kara : ก็หวังว่ามันจะเป็นแบบนั้น

(ตกลงไงแน่… เดี๋ยวจะห่วงเขา แล้วอยู่ๆก็พูดแบบนี้)

Superman : คาร่า… คุณช่วยพวกเราไว้.. แต่คุณต้องจ่ายค่าตอบแทนไปมากแค่ไหนกันเนี่ย?

Kara : อย่าคิดว่าฉันมีทางเลือกมากนักสิ คาล… ก็ฉันไม่อาจจะปล่อยให้มันเกิดขึ้นพ่อหลานตัวน้อยของฉันได้นี่นา

แล้ว Kara ที่กำลังโดนพิษของ Kryptonite กัดกินก็สลบลงในอ้อมแขนของ Superman

Wonder Woman : ซุปเปอร์แมน

Superboy : เธอจะปลอดภัยใช่มั้ย

Superman : ผมมีศูนย์พยาบาลอยู่ในป้อมปราการ มันอาจจะเป็นโอกาสหนึ่งเดียวของเธอ!

และเขาก็รีบบึ่งพา Kara ไปทันที โดยไม่รู้ว่าด้านนอกอวกาศ มีคนที่จับจ้องพวกเขาอยู่ ดวงตาของ The Oracle

“ในอีกฟากของห้วงจักรวาลอันห่างไกล… การเฝ้าสังเกตการณ์ Superman ยังคงดำเนินต่อไป”

“และถ้า The Oracle สามารถที่จะสัมผัสถึงความรู้สึกได้แล้วละก็ …สิ่งที่เกิดขึ้นอาจจะเป็นความปิติยินดี”
“แต่มันก็เป็นเพียงแค่ช่วงระยะเวลาหนึ่งเท่านั้น”

“เพราะจากที่ The Oracle ได้รับรู้แล้ว ว่าการกระทำของ Superman ในวันนี้… จะทำลายสิ่งต่างๆที่ Kal-El ได้เก็บงำและไม่ได้บอกกกล่าวเอาไว้ออกมาจนหมด”

–บทสรุป–

“ย้อนกลับไปยังศตวรรษก่อน… 12 ปี ก่อนที่คริปตันจะถูกทำลาย… บนดาวดวงเดิมนั้น…”

Teacher : เอาล่ะนักเรียนถึงเวลาปิดผนึกพวกเศษซากปรักหักพังในรอบเย็นแล้ว ครูต้องการให้พวกเธอทุกๆคนส่งมาให้ทันหกำหนดใน 30 ชั่วโมงนี้ หรือไม่งั้นเราก็อาจจะเสี่ยงที่จะ…

Teacher : เดี๋ยวนะ… นี่ฉันพลาดใครไปหรือเปล่าเนี่ย… โอ ให้ตายเถอะ ใช่แล้ว…

“…นี่ Jor-El หายหัวไปไหนอีกแล้วเนี่ย”

“แล้วทำไมกันนะ การหายตัวไปของเขาแบบนี้มันถึงทำให้ฉันคิดว่ามันจะต้องสร้างปัญหาให้พวกเราแน่ๆเลย”

และ Jor-El ในวัยหนุ่มที่หายไปก็พบกับกับคนคนหนึ่ง และของสิ่งหนึ่งที่อาจจะเปลี่ยนแปลงอดีตได้เลย และนั่นคือ H’el กับ Kryptonite นั่นเอง!

ประวัติศาสตร์กำลังจะถูกเปลี่ยนแปลง แล้วมันจะมีความหมายอะไรกับอนาคตของพวกเรา… และตัวตนของ Superman กันแน่?

–จบบท–

<—————————————————>

และในมิถุนายนนี้ กลับมาพบกับ

Superman Earth-One 

เพื่อต้อนรับ

Man of Steel

<—————————————————>

จริงๆต้องบอกว่าดองมานานพอตัวเลย แล้วหนังจะเข้าแล้ว ช่วงนั้นคงจะจัดการแปลรับหนังไปทีเดียวเลย

สำหรับเล่มนี้ คงบอกได้แค่ว่า ตัดจบมากๆ H’el เมพมาตลอด จนหลายๆคนไม่รู้ว่าจะเอาลงกันยังไง แต่วิธีการก็ง่ายๆ ให้คนที่เขารักที่สุดเอาคริปโตไนท์ไปปักอกพี่แกนั่นเอง ชาวคริปตันคนไหนก็ไม่มีวันรอดจากแท่งเขียวนี้ไปได้ จะเมพแค่ไหนก็ไม่รอด แต่เราก็ยังไม่รู้ว่าจะตายจริงเปล่า เพราะพี่แกกลับไปยังอดีต แต่ไม่รู้ว่ารอดไม่รอด ยิ่งจากที่ Superman พูดด้วยแล้วอาจจะรอดก็เป็นได้

และถ้าได้อ่านเล่ม #0 ของพวก Superman มา เราจะเห็นว่าพวก Superman จะได้กลับไปในอดีตด้วย (Superman ใส่ชุดสีดำ) ซึ่งจากที่ Lobdell บอกไว้ มันจะมีการย้อนไปอดีตในหลังจากนี้ครับ

Superman ที่ย้อนมาในอดีตและมองพ่อกับแม่ของเขาจัดการพวกคนร้ายในเล่ม #0

————————————————

เผยแพร่ครั้งแรกที่ : Bank-Comics For Fun

14 thoughts on “H’el on Earth Part 12 Conclusion : Superman #17

  1. Pong

    ชอบลายเส้นของคนนี้มากๆเลยครับ

  2. jojomoofy

    ผมงงเรื่องEarthแล้วสิ Earth-Oneนี่คือโลกไหนครับ

  3. doc holliday

    Earth-One คือโลก Earth-One ครับ แยกต่างหาก ไม่ใช่จักรวาลหลัก
    แล้วก็ “ยัง” ไม่เกี่ยวข้องกับจักรวาลไหนๆ แต่อนาคตก็ไม่แน่ครับ

    มีหัวหนังสือแค่สองหัวคือ Superman:Earth-One กับ Batman:Earth-One
    ที่ออกเป็นรวมเล่มทีเดียวเลย ไม่ได้ออกรายเดือนเหมือนหัวธรรมดา
    ดูเหมือนว่าทั้ง Sup และ Bat ก็เป็นโลก Earth-One เฉพาะของตัวเอง ยังไม่ได้เกี่ยวข้องกันด้วย

  4. Anonymous

    The Oracle นี้ อยู่ระดับไหนอะครับ แล้วถ้าเทียบกับ Marvel แล้วประมาณ The Watcher ปะครับหรือประมาณไหนครับสงสัย เพิ่งเริ่มอ่าน DC ไม่รู้จักอะครับ ผู็รู้ อธิบาย ทีครับ ขอบคุณครับ

  5. lsriiK

    ซุปเปอร์แมนจะเรียกว่าเก่งดีมั้ยเนี่ย ขนาดในตัวเองยังซัดบ่อยซะขนาดนี้

    ว่าแต่ขอถามนอกเรื่องหน่อยได้มั้ยครับ(พอดีพึ่งตามอ่านdc) พวกนิวก๊อดที่จะออกในเล่มหน้าๆคืออะไรเหรอครับ(หมายึงเกิดมาจากอะไรนะครับ) มาจากไหน เกิดจากอะไร แล้วดาร์กไซค์นี่นับเป็นนิวก๊อดไหม

  6. genesis Post author

    ตอนนี้ยังบอกอะไรไม่ได้มากครับ เพราะพี่แกโผล่มาแทบจะไม่ได้ทำอะไรเลย และจากที่เห็น The Oracle นี่เป็นตัวละครใหม่ใน New52 ครับ เลยไม่มีประวัติอะไรเลย แต่ตอนนี้ถ้าให้เทียบก็น่าจะ The watcher ครับ เพราะเขาสังเกตการณ์อย่างเดียว และโผล่มาตอนเกิดเรื่องใหญ่แบบนี้

  7. seventoon

    Dark seid เป็นนีวก็อดครับ แต่อยู่ฝั่งชั่วร้าย และมีลูกชายที่ดังดังคือ Orion ตัวละครพวกนีวก็อด แบ่งออกเป็นสองฝ่าย สร้างสรรโดยแจ็คเคอร์บี้ สมัยที่เขาอยู่กับ DCน่ะครับ โดยมี Orion และ Metron เป็นตัวหลัก รายละเอียดคล้าย เทพสงครามสองฝ่าย สองดาวทำสงครามกันน่ะครับ
    จุดกำเนิดเนี่ย เหมือนเกิดจากหลังสงครามของ พวกOld Godอะไรแบบนี้คือ แจ็คเคอร์บี้ได้รับแรงบรรดาลใจจากตำนาน Ragnarok อะไรแบบนี้น่ะครับ ผมไม่ค่อยแน่ใจนะ

  8. tummy

    ตัดจบได้สมถุยมากเลย

    H’el นี่ก็คนดาวคริปตั้น แต่ทำไมพลังกลับเยอะกว่าพี่ซุป ทั้งวาปหายตัว เหมือนๆจะมีพลังจิตอีก

  9. stillenigma

    นั่นซิทำไมH’el มันถึงเก่งอะไรขนาดนั้นไม่อธิบายอะไรหน่อยเหรอเนี่ย= =”

  10. St.Valentinus

    กว่าจะจบ อย่างยาวแต่จบแบบว่า…

  11. drakenov

    สงสัยมานานมากละครับ ว่า H’el อ่านว่ายังไง

    ตาH’el บางหัว หน้าตาเหมือนซอมบี้ บางหัวหน้าตาค่อยเป็นผู้เป็นคนนิดนึง สีผิวเทาๆหรือเนื้อๆ นี่ตามใจคนวาดสินะ = =a

  12. GodZee

    อยากรู้เหมือนกัน ทำไม H’el มันมีพลังมากกว่า ซุป ทั้งๆที่ ซุป อาบแสงอาทิตย์มากกว่า

    หรือมันได้อาบแสงอาทิตย์สีฟ้า

    หรือ ต้อง รอ ต่อไป

  13. DoraeMew

    สรุปแล้วไอ้ Star Chamber ของ H’el มันก็ไม่ได้ทำลายดวงอาทิตย์หรือโลกนี่หว่า สุดท้ายแล้วเติมพลังเสร็จ H’el ย้อนเวลากลับไป โลกก็ยังอยู่ดี
    นี่พี่ซุปแกนอยด์แดกไปเองใช่มั้ยเนี่ย ว่าโลกจะแตก

  14. DOL

    กรรมจริงเชียว ที่แท้แค่กลับไปอดีตแค่นั้นเองเรอะ!!
    ถ้าซุปกลับไปอดีตได้ ก็น่าจะช่วยไม่ให้ดาวคริปตันระเบิดได้สิ เอ๊ะ ยังไง มึน

    ปล. ชอบภาพของ Kenneth Rocaforth ฝุดๆ เลย โดนใจมากๆ โดยเฉพาะภาพผู้หญิง อิอิอิ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *