New Avengers #5

เรื่อง : Jonathan Hickman

ภาพ : Steve Epting

วางจำหน่าย : 24 เมษายน 2013

สำนักพิมพ์ : Marvel Comics

   

    

สถานการณ์ยังแย่ลงทุกวินาที

หรือทางออกที่แท้จริงคือ เรื่องเล่าของ Black Swan?

   

ความเดิมจากตอนที่แล้ว

 

เหล่า Illuminati พยายามจะหยุดยั้งปรากฎการณ์ Incursion ปรากฎการณ์ที่โลกคู่ขนานต่างชนกันจนสลายไป

เมื่อเหล่า Illuminati ไปยังอีกโลกคู่ขนานนั้น เขาได้พบกัย Galaktus ผู้กลืนกินโลก

ขณะที่ทั้งหมดพยายามจะหยุดยั้งการกินโลกของ Galaktus เขาได้พบกับ

Terrax บริวาณของ Galaktus แน่นอนทุกอย่างจบลงที่

การต่อสู้!

 

 

 

 

บทที่ 5: Black Swans

 

 

 

Necropolis ประเทศ Wakanda

 

“ในที่สุดพวกเจ้าก็พร้อมจะฟังคำตอบที่แท้จริงแล้วสินะ”

 

“งั้นก็ดี”

 

 

Black Swan:  คนหนึ่งสามารถอยู่ในความมืดมิดมานานแสนนาน

Black Swan:  ก่อนความวิตกจริตจะกลืนกินคนๆ นั้น

 

Black Swan:  นี่คือความจริง

Black Swan:  เรื่องจริงที่เกิดขึ้นกับใครก็ตามที่กล้าจะมีชีวิตอยู่ใต้เงาที่มืดมิด

 

Black Swan:  แต่ต้องไม่มาถามข้าแบบนี้

Black Swan:  แบบผู้คุมพูดกับนักโทษ

 

Black Swan:  หากพวกเจ้าต้องการให้ข้าช่วย

Black Swan:  พวกเจ้าต้องร้องขอข้าอย่างสุภาพเหมาะสม

 

Black Swan:  ไม่งั้นก็ไม่ต้องมาให้เสียเวลา

   

  

Reed:  ผมอยากให้คุณช่วยจริง

Reed:  ผมเองก็ไม่ได้ถือตัวที่จะร้องขอความช่วยเหลือใครด้วย

Reed:  แล้วผมสามารถอ้อนวอนร้องขอความช่วยเหลือได้ไม่มีปัญหา

 

Reed:  ที่ผมเป็นห่วงจริงๆ

Reed:  คือ ราคาของการช่วยเหลือต่างหาก

   

Black Swan:  Feh! กงล้อยังคงหมุนไปนะ Reed Richards

Black Swan:  ตั้งแต่เราอยู่ในคุกนี่ เกิดปรากฎการณ์ Incursion ไปแล้วสองครั้ง

Black Swan:  แต่พวกเราก็ยังไม่ดับสูญไป แสดงว่าคำสวดอ้อนวอนของเราได้รับการตอบรับ

 

Black Swan:  เฉดเงาที่ยิ่งใหญ่แห่ง Rabum Alal ได้เฉียดผ่านโลกใบนี้ไป

(Rabum Alal แปลว่า Great Destroyer ผู้ทำลายล้างที่ยิ่งใหญ่)

Black Swan:  เจ้าได้เห็นสิ่งที่เกิดขึ้น

Black Swan:  แต่เจ้ากลับปฎิเสธที่จะเรียนรู้ของขวัญที่ท่านได้มอบให้แก่พวกเจ้า

 

Black Swan:  ราคาที่ข้าก็คือ….

   

 

 

 

 

เปรี้ยงงงงงงงงงง!!!

 

“ก็คือการมีชีวิตอยู่ไง”

“ไอ้คนเขลาเบาปัญญาเอ๊ย!”

   

Black Swan ต่อยกระจกห้องขังจนร้าว

แต่คำตอบของเธอก็ทำให้ Reed หันกลับไปคุยกับใครบางคนข้างหลัง

   

“นายคิดว่าไง?”

   

 

คนที่ Reed คุยด้วยก็คือ

 

Black Panther:  เธอพร้อมแล้ว

Black Panther:  พาเธอออกมาได้

 

Black Swan:  โห่ว ท่านนักรบ

Black Swan:  ยินดีที่ได้พบท่านอีกนะ

 

Black Panther:  อาฮะ

Black Panther:  ทำกำแพงจนเป็นรอยร้าวได้น่าประทับใจมาก

Black Panther:  แปลว่าพลังของคุณแข็งแกร่งกว่าที่ Reed คาดการณ์ไว้…

 

Black Panther:  ฉะนั้นใครจะไปยอมนั่งแช่ในคุกเฉยๆ ทั้งๆ ที่เจ้าตัวไม่จำเป็นต้องอยู่ก็ได้จริงมั๊ย?

   

 

Black Swan:  แผ่นกระเบื้องแผ่นนึงจมลงตอนที่เราก้าวเหยียบที่นี่….

Black Swan:  ถึงจะแค่มิลลิเมตรเดียวก็ตาม แต่ก็เถอะ…..ยังไงเสีย

Black Swan:  กำแพงที่ดูแข็งกระด้างนี้ ยังไงก็เป็นแค่กำแพง

 

Black Swan:  สิ่งที่คุมขังเราไว้จริงๆ

Black Swan:  คือระเบิดใต้พื้นนี่ต่างหาก

 

Black Panther:  โอ้ ถูกต้องเลย

Black Panther:  แล้วอนุภาพระเบิดที่ว่าก็รุนแรงพอๆ กับสร้อยคอนี่ด้วย

Black Panther:  ฉะนั้น…..จงทำตัวให้เป็นประโยชน์

Black Panther:  ไม่ใช่ทำตัวเป็นอย่างอื่น

 

ว่าแล้ว T’challa ก็จัดการสวมสร้อยระเบิดให้แก่ Black Swan

 

Black Swan:  เจ้าคิดว่าไอ้สร้อยคล้องคอสุนัขแค่นี้

Black Swan:  จะหยุดเราได้รึ?

   

Black Swan:  -เราไม่ใช่คนที่จะมาขุมขังแล้วเลี้ยงให้เชื่องได้….

   

  

 

 

“ดูหน้าตาเราเหมือนเจ้านั่นรึไง?”

 

 

 

Black Swan ชี้ไปทางข้างหลังของ ทั้ง Reed และ T’challa

 

 

เขาก็คือ

 

 

  

 

 

 

 

 

พี่เทพ Terrax

ผู้สว่างๆ อะไรซักอย่างนั่นเอง

 

อ้าวไหงพี่โดนจับง่ายแบบนี้อ่ะ!!

  

 

ย้อนกลับไปเมื่ออาทิตย์ก่อน

 

 

Terrax ทำการต่อสู้กับเหล่า Illuminati

เขาเอาปลายขวานของเขาจามไปที่หน้าอกของ Tony

 

 

 

 

 

 

แต่ Reed ก็ได้ช่วยเอาร่างพันแขนยั้งไม่ให้ขวานจามทะลุหน้าอกของ Tony

 

จากนั้น Reed ก็โดนหลังแวน จนกระเด็นไปโดนหน้า Beast

แต่จังหวะนั้นเอง Black Panther ก็โผล่ออกมา

เอาของเหลวบางอย่างจิ้มไปที่หลังคอของ Terrax

 

น่าจะเป็นยานอนหลับ

 

 

 

   

แต่ Terrax ก็ยังไม่สิ้นฤทธิ์

 

เขาฟาดปาก Black Panther

ก่อนจะงัดขวานขึ้น เพื่อจะฟันไปยังร่างของ Tony อีกคร้ง!

 

 

 

 

 

 

แต่ Tony ไม่รีรอเตรียมยิงพลังของเขาอัดปาก Terrax

แต่ทว่ามีใครบางคน จับขวานเอาไว้

 

 

 

 

ใครคนนั้นก็คือ Black Bolt นั้นเอง!

Black Bolt เห็นว่าการทะเลาะกันมันเป็นเรื่องไม่ดีนะ

พี่แกเลยหวังดีเข้าไปพูดกับ Terrax ดีๆ !

 

 

 

บรึ้มมมมมมมมมมมมมมมมมมม!!

Terrax สิ้นสภาพ

 

 

แม้เหล่า Illuminati จะเป็นฝ่ายชนะ

แต่ทว่า……

 

 

 

 

แต่ Galaktus ได้กลืนกินโลกอย่างสมบูรณ์แล้ว

 

พวกเขาไม่อาจช่วยเหลือคนบนโลกนี้ได้อีกต่อไป

 

เหล่า Illuminati จึงกลับไปยังโลกของตน

ปล่อยให้โลกอีกใบระเบิดหายไป

 

 

แต่เขาได้ Terrax กลับมาด้วย

(จะเอามันไปด้วยทำม๊ายยย!)

 

 

นั่นคือเรื่องเมื่ออาทิตย์ก่อน

Black Swan:  สรุปก็คือ……

 

Black Swan:  พวกเราต้องการกันและกัน

 

Tony:  โอ้ ชั้นกลับคิดว่าพวกเราบางคน

Tony:  มีความต้องการมากกว่าคนอื่นๆ นะ

   

 

Black Swan:  เจ้าคิดอย่างนั้นจริงรึ?

Black Swan:  พวกเจ้าหยิบยื่นความหวังท้งหมดของพวกเจ้า

Black Swan:  ไปกับการคาดหวังลมๆ แล้งๆ ว่าเจ้าทาสรับใช้ของผู้กลืนกินโลก

Black Swan:  จะยอมบอกวิธีช่วยโลกกับเจ้า บอกวิธีช่วยโลกของพวกเจ้านี่รึ?

 

Black Swan:  นี่คือเหตุผลที่เจ้าพามันมากับพวกเจ้าด้วยรึ?

 

Tony:  ก็อาจจะบอก หรืออาจจะไม่บอกก็ได้

Tony:  ไม่ว่าทางไหน คุณก็ต้องคว้าเชือกช่วยชีวิตคุณที่พวกเรายื่นให้

 

Tony:  แต่เชือกมันจะสั้นยาวขนาดไหน

Tony:  ก็อยู่ที่ว่าคุณช่วยเหลือพวกเราได้มากน้อยแค่ไหนด้วย

   

 

Black Swan:  ก็ยุติธรรมดี

Black Swan:  เราเข้าใจว่าพวกเจ้าคงเข้าใจขั้นตอนการเกิดเรื่องนี้ทั้งหมดแล้ว

Black Swan:  เราได้บอกพวกเจ้าไปแล้ว

 

Black Swan:  เพราะเราชอบทำทักษิณาทานอยู่แล้ว

 

Black Swan:  แต่ว่าพวกเจ้าไม่รู้หรอกว่า

Black Swan:  พวกเจ้ากำลังเผชิญหน้ากับอะไรจริงๆ กันแน่

 

Dr. Strange:  งั้นทำไมคุณไม่บอกพวกเราล่ะ?

 

Black Swan:  เจ้าแก่นี่มันใครกัน?

 

Black Swan ผู้ไม่เคยพบ หมอแปลกมาก่อน ก็ถามคนอื่นๆ ด้วยความสงสัย

   

 

 

Dr. Strange:  ผมชื่อ Stephen Strange เจ้าแห่งไสยเวทย์

Dr. Strange:  จอมเวทย์สูงสุด (Sorcerer Supreme) แห่งดินแดนนี้

 

เมื่อได้ฟังความเมพของหมอแปลกแล้ว น้องหงดำจึงตอบกลับไปว่า

 

Black Swan:  ถุย!

Black Swan:  ไอ้พวกหมอผีคนทรง

Black Swan:  ข้าไม่เสียราคาให้ไอ้คนพรรณนี้คุยกับข้าหรอกนะ

 

Dr. Strange:  ฮึ่มมมม (อิติ่ง!)

 

Namor:  ดูเหมือนน้องแกจะเล่นนายซะของขึ้นเลยว่ะ Stephen

Namor:  ชักชอบน้องแกแล้วสิ

 

  

Reed:  ทำไมไม่เริ่มจากเรื่องที่พวกเรายังไม่รู้ก่อนล่ะ

 

Black Swan:  เฮ้ โลกคู่ขนานนึง มีความรู้และจริงมากมายเป็นอนันต์

Black Swan:  แล้วเจ้าจะให้เราบอกเรื่องที่เข้าไม่รู้นี่รึ?

 

Black Swan:  ลืมไปแล้วรึไง

Black Swan:  ว่าเจ้ากับข้า เราต่างกำลังพูดเกี่ยวกับเรื่องเวลา

Black Swan:  กับขนาดที่ช่างน้อยนิดกระจ่อยร่อยของมันน่ะ?

 

Reed:  พวกเราประยุกต์กับเปลี่ยนไปหมายได้ ขึ้นอยู่กับเรื่องของคุณ

Reed:  ตอนนี้…….เรามาเริ่มตั้งแต่จุดเริ่มต้นกันเลย

 

Black Swan:  อ้า…จุดเริ่ม….

   

   

เคยมีทุกสรรพสิ่ง

   

ก่อนจะเกิดความว่างเปล่า

   

การหมุนโคจร,เกิดเป็นหลุมดำยักษ์

ที่กลืนกินพระอาทิตย์

   

จากนั้น…

   

พวกเราก็ถูกปกคลุมไปได้ความมืดแห่งราตรี

 

   

 

เมื่อตอนที่เราสูญสิ้นแสงตะวัน

เราอายุเพียงสี่ชันษา

   

ตัวเราในยามนั้นมีนามว่า Yabbat Ummon Tarru

ราเป็นขนิษฐาองค์ที่สามแห่งเจ้าชาย Dadingra

   

พระเชษฐาของเราคือผู้ครองบัลลังก์ปกครอง นครลับแล (Hidden City)

และยังได้ครอบครอง กุญแจใหญ่ หนึ่งดอก

 

   

   

 

   

 

กุญแจใช้เพื่อเปิดประตูเมือง พูดอย่างคือ โลกของพวกเรา

ไปสู่ ขุมทรัพย์ที่ทรงคุณค่า หอสมุดแห่งโลกนับร้อยดวง

ของขวัญที่ตกทอดมาจาก Sinnu Sarrum นาคทนตกษัตริย์ทั้งหมวล (Ivory Kings)

   

แต่ว่า Dadingra จะมีกุญแจและสามารถเปิดประตูได้

แต่หอสมุดไม่อาจจะหาพบได้โดยผู้ที่ไม่รับการฝึกฝน

   

ตำนานเล่าว่า มีเพียงเหล่าวีรสตรีผู้ยิ่งใหญ่ ผู้ที่ไม่เคยมีพวกเราไม่เคยพบ

สามารถจะเส้นทางเชื่อมระหว่างโลกใบอื่นๆ ได้

   

อย่างไรก็ดี ในทุกวัน พระเชษฐาของเรา ได้ปลดล๊อกประตู

เพื่อหวังว่าซักวันหนึ่งวีรสตรีเหล่านั้นจักปรากฎตัวออกมา

 

ท่านทำเช่นนั้นอยู่ทุกๆ วัน ไม่เคยขาด

   

 

 

 

 

จนกระทั่งท้องฟ้าเปลี่ยนเป็น สีแดงฉาน

 

เหล่านักบวชแห่งความมืด (Black Priest)

ได้โบยบินจากโลกของพวกเขามาสู่โลกของพวกเรา

 

 

ไม่มีใครหนีพ้น ไม่มีใครรอดชีวิต ยกเว้นแต่ตัวเรา

 

 

 

 

 

เพราะเราได้ครอบครองกุญแจ

 

แล้วนำไปไขประตู….

  

 

 

 

   

และได้พบเหล่าวีรสตรีผู้ยิ่งใหญ่ อยู่ข้างในนั้น

 

 

 

พวกท่านกล่าวว่า

โลกของเราถูกสังเวยให้แก่มหาพิฆาตผู้ยิ่งใหญ่ นามว่า Rabum Alal

   

ข้าได้รับความเมตตาจากเขาเป็นของกำนัล

ของกำนัลเฉกเช่นเดียวกับที่เรานอมรับเหล่าพระภคินีคนใหม่

เราถูกเลี้ยงให้กลายเป็น Black Swan (หงสากาฬทมิฬ) โดย เหล่า Black Swan

   

 

  

Black Swan:  ในตอนแรก พวกท่านสอนเราให้…..

 

Reed:  เดี๋ยวนะ!?

Reed:  เดี๋ยวนะ เหล่า Swan เหรอ!?

Reed:  นี่แปลว่ายังมีคนแบบพวกคุณอยู่อีกน่ะสิ

 

Black Swan:  แน่นอน

 

Black Panther:  แล้วหอสมุดแห่งโลกทั้งหลายที่ว่านี่

Black Panther:  เป็นเหมือนสถานีไปสู้โลกคู่ขนานอื่น…

 

Black Swan:  มันถูกทำลายไปแล้ว

Black Swan:  เหล่า Swans ทำลายมันทิ้ง

 

Tony:  นั่นก็ฟังดูน่าเสียดายอยู่อ่นะ

Tony:  แต่ชั้นคิดว่าเธอข้ามเรื่องราวบางช่วงไปนะ

Tony:  อันที่จริงก็มากโขอยู่

Tony:  นิยายสุดเศร้าของเธอที่เล่านี่มันข้ามจุดเริ่มต้นของเรื่องไปเป็นพันล้านปีเลยมั้ง

Tony:  ไม่มากไม่น้อยกว่านั้น

 

Tony:  ที่ชั้นอยากรู้จริงๆ ก็คืออะไรที่ทำให้เรื่องทุกอย่างมันเกิดขึ้น?

   

 

Black Swan:  เราได้บอก Reed Richards ไปแล้ว

Black Swan:  แล้วก็คิดว่าเขาน่าจะได้บอกเจ้าไปแล้วด้วย

 

Black Swan:  มันเกิดจากเหตุการณ์หนึ่ง ซี่งนั่นก็คือ

Black Swan:  การถือกำเนิดของ Rabum Alal มหาพิฆาตผู้ยิ่งใหญ่

 

Black Swan:  การถือกำเนิดของเขา

Black Swan:  ทำให้ทุกสิ่งได้ตายลงก่อนที่เวลาอันควร

 

Black Swan:  พวกเราจึงได้มอบโลกเป็นเครื่องสังเวย

Black Swan:  สังเวยชีวิตทุกสรรพสิ่งที่ควรจะมีชีวิตอยู่ยืนยาวกว่านี้

Black Swan:  เรียกว่า Wardum Uggae

(Wardum แปลว่า Slave ทาส, ส่วน Uggae แปลว่า God of Death เทพแห่งความตาย)

 

Namor:  นั่นยังไม่ใช่คำตอบอยู่ดี

Namor:  นั่นน่ะเขาเรียกคำพูดเพ้อเจ้อ

 

Namor:  นิทานน่ากลัวสยองขวัญมันเอาไว้สำหรับหลอกด็กโง่ให้กลัว

Namor:  ชั้นไม่ใช่เด็ก ไม่ใช่ผู้หญิงข้อขลาด เอาของจริงมาคุยกันหน่อยสิ

   

 

Black Swan:  ทุกอย่างที่เรามี ทุกสรรพสิ่งที่เรารู้

Black Swan:  ก็คือเรื่องน่ากลัวสยองขวัญพวกนี้ และมันคือเรื่องจริงทั้งหมด

 

Black Swan:  ปรากฎการณ์ Incursionจะไม่มีวันหยุด

Black Swan:  ไม่มีวันจนกว่าโลกของของเจ้าจะตาย

Black Swan:  จนกว่าทุกสรรพสิ่งจะตาย

 

Black Swan:  ทั้งหมดมีแค่นั้น

 

Reed:  แต่ยังไงมันก็ต้องวิธีซักทางที่จะช่วยโลกของเรา

Reed:  และหยุดไอ้ปรากฎการณ์ Incursion นี้สิ

 

Black Swan:  การหยุดเหตุการณ์ Incursion ไม่ให้เกิดขึ้นน่ะ

Black Swan:  ไม่ใช่เรื่องยากเลย

 

Reed:  โอ้?

   

 

Black Swan:  ไม่เอาน่า Reed Richards…..ข้าว่า เจ้าก็รู้ว่าตองทำอย่างไร

Black Swan:  เราก็แค่หนีไปจากโลกนี่ แล้วทำลายมันให้สิ้นซากซะก่อน

Black Swan:  มีคนทำมาแล้วหลายต่อหลายครั้ง

 

จากนั้น Black Swan ก็ชี้ไป Beast

 

Black Swan:  เจ้า

Black Swan:  เจ้ามีนามว่า Henry Philip McCoy ใช่รึไม่?

 

Beast:  อ่า..ใช่

 

Black Swan:  ตัวเจ้าคนอื่นๆ เคยใช้วิธีนี้มาแล้ว

Black Swan:  ชื่อ Beast เป็นชื่อที่โด่งดังมาก ในเกมแห่งโลกนับล้านดวงนี้

 

Beast:  ถ้าทำแล้ว มันจะช่วยจักรวาลของพวกเราได้รึ?

 

Black Swan:  พวกเจ้าไม่ฟังให้ดี

Black Swan:  มันไม่มีการช่วยอะไรได้ทั้งนั้น

 

Black Swan:  แต่มันจะหยุดปรากฎการณ์ Incursion ลงได้

Black Swan:  มันเป็น หนทางที่แปด เรียกว่า เงานิลเลี่ยงหายนะ (Shading the Apocalypse)

 

Black Swan:  มันเป็นวิธีที่ขี้ขลาด แต่ก็เป็นวิธีที่ใช้กันมาก

 

Reed:  หนทางที่แปด…..แสดงว่ายังมีเทคนิคอื่น วิธีอื่น

Reed:  ที่พอจะสอนพวกเราได้ใช่มั๊ย

 

Black Swan:  แน่นอน

 

Reed:  งั้นเราน่าจะเริ่มจากตรงนี้ก่อน ชั้นว่า….

Black Panther:  ยังก่อน

   

 

Black Panther:  ชั้นยังมีปัญหากับเรื่องนี้อยู่วะ

Black Panther:  กับเธอ

 

Black Swan:  เรารู้ว่าเจ้าไม่ใช่คนขี้ขลาด ท่านนักรบ

Black Swan:  อะไรทำให้ท่านเกิดกลัวขึ้นมาล่ะ?

 

Black Panther:  การเห็นคุณทำลายโลกไง

 

Black Swan:  เราเคยทำสิ่งที่แย่กว่านั้น

Black Swan:  พวกเจ้าทุกคนต้องทำสิ่งที่แย่กว่านั้น

   

 

Black Swan:  แต่บางทีมันก็ยังอาจจะพอมีหวังอยู่บ้าง

Black Swan:  บางเรื่องก็ทำได้ถูกเวลาถูกจังหวะ

 

Black Swan:  เจ้าเครื่องที่เจ้าใส่ลงไปในมือของพวกเจ้า

Black Swan:  มันเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี

 

Black Swan:  แต่ในภายภาคหน้า

Black Swan:  พวกเจ้ายังต้องใช้อะไรที่มันถูกต้องแม่นยำกว่านี้

 

Black Swan:  อุปกรณ์ที่อยู่นอกเหนือสามัญของโลกหรือจักรวาลของพวกเจ้าเล็กนอย

Black Swan:  เพื่อช่วยให้พวกเจ้าสามารถคำนวณได้ว่า ปรากฎการณ์ Incursion จะเกิดอีกทีเมื่อไร

 

Black Swan:  ของเราอยู่ที่ดวงตาทั้งสองข้าง

 

Beast:  แปลว่าคุณสามารถทำนายได้ว่า ปรากฎการณ์ Incursion จะเกิดขึ้นต้อนไหน?

 

Black Swan:  ข้าทำได้อยู่แล้ว

Reed:  งั้นเหลือเวลาอีกเท่าไรกว่ามันจะเกิดขึ้นอีกครั้ง?

 

 

“ในอีกไม่กี่นาทีนี้”

   

ห๊ะ!!!

   

 

 

 

ทุกคนต่างพูดอะไรม่ออก

 

ในใจคงคิดว่า “อ้าว เฟี่ย ชิฟหัยแล้วไง”

   

“Rabum Alal”

 

Tony:  เวรเอ๊ย

Tony:  คราวนี้ที่ไหนล่ะ?

 

Reed:  ทำการระบุตำแหน่ง

Reed:  ตำแหน่งออกมาแล้ว

 

Reed:  มันอยู่ที่…..โอ้ ไม่นะ

 

Black Panther:  เกิดอะไรขึ้นเรอะ?

Black Panther:  มีอะไร?

 

Reed:  ตำแหน่งมันอยู่ที่…

   

“Latveria”

อ้าว กรรมล่ะ สิ ตำแหน่งดันเกิดที่อาณาจักรของ Dr. Doom พอดี!

   

 

เล่มหน้า

 ได้เวลาทำลายโลก!?

 

จบแล้วคร้าบ ส่งท้ายเล็กน้อยว่า

อย่างที่ทุกท่านเห็นว่า โลกของ น้องหงดำ นั้นเป็นโลกที่ดวงอาทิคย์ถูกทำลายลง

ซึ่งตรงข้ามกับโลกที่เหล่า Illuminati อยู่นั่นเอง

ตรงข้ามกันขนาดที่ว่า คำพูดยังสวนทางกับ คำพูดของ Avengers เล่มแรกกันเลยทีเดียว

 

 

    

ที่น่าสนใจกว่าคือ น้องหงดำ คือชาวสุเมเรียนหรือซูเมอร์

ซึ่งเป็นเป็นชนชาติใดไม่มีหลักฐานที่ระบุชัดเจนเท่าไรนัก เรารู้แค่เพียงว่า

เป็นชนชนาติแรกในเมโสโปเตเมียที่รู้จักการเขียนหนังสือ

 เป็นชนชาติแรกที่สร้างความเจริญขึ้นในบริเวณเมโสโปเตเมีย

เป็นพวกแรกที่คิดค้นวิธีการคิดเลข  ทั้งการลบ  การบวก  และการคูณ

นอกจากนี้ยังเป็นชนชาติแรกที่มีการปกครองในรูปแบบของนครรัฐ

 

 

 

 

 

 

แต่ที่แปลกยิ้งกว่าคือ ความสามารถในด้านดาราศาสตร์ครับ

ชาวสุเมเรียน ค้นพบดาวเคราะห์ดวงที่ 10 ที่เรียกว่า Nibiru

และได้บันทึกมันเอาไว้อย่างละเอียดละออในแผ่นจารึกดินเหนียวเมื่อกว่าหกพันปี

 

แต่แน่นอนครับว่า ภายหลังมีการบอกว่า ดาว Nibiru นั้น ยังไม่มีการค้นพบ

และยังคงเป็นเพียงแค่ความเชื่อของบุคคลบางกลุ่มต่อไปครับ

 

 

 

  

 

จะอะไรก็ตามแต่ ความเจริญรุ่งเรืองของชาวสุเมเรียนนั้นเป็นเรื่องจริงและมีหลักฐานยืนยันได้

ทำให้เกิดคำถามอีกข้อตามมาพวกเขามาจากไหน? ทำไมถึงได้เจริญขนาดนี้

ทั้งที่ช่วงเวลาของพวกเขาคือช่วงที่เราเรียกกันว่า ยุดหิน!

หลายคนจึงเชื่อว่า ชาวสุเมเรียนแท้จริงแล้ว

มาจากนอกโลก!!

   

    พวกท่านล่ะคิดอย่างไรครับ? 😀

 

   

จบแล้วคร้าบ ไว้พบกันฉบับหน้าครับ