Earth-2 #09

Earth-2 #9 : The Tower of Fate : Prologue : The Man Who Was Scared (ชายหนุ่มผู้หวาดกลัว)

เรื่องโดย: James Robinson | ภาพ : Nicola Scott | วางจำหน่าย : 6 กุมภาพันธ์ 2013

สำนักพิมพ์ : DC Comics

ในที่สุดก็เปิดเผยชายผู้ถือครองหมวกเกราะแห่งนาบู และ The Flash ที่กลับมาพบแม่ที่บ้านก็กำลังตกที่นั่งลำบากเมื่อ The Atom และเหล่ากองกำลังโลกได้ตามมาจับตัวเขา

.

New Orleans

“เหล่าผู้วิเศษปรากฏตัวขึ้นมา พวกเขาได้รับชัยชนะ และแทบจะในทันทีที่เสร็จสิ้นภารกิจพวกเขาก็… หายไปกันหมดเลย”

“จริงแท้ แน่นอน เพราะโลกใบนี้น่ะมันน่ากลัวน่ะสิ…”

Kendra : ฉันรู้นะว่านายไม่อยากจะถูกรบกวนน่ะ และพูดตรงๆว่าฉันจะนั่งดูมันผ่านจอทีวีที่บ้านตัวเองก็ทำได้ นั่งดูสิ่งเลวร้าย และความชั่วร้ายต่างๆ…ที่เกิดขึ้น… คาลิด แล้วนายจะพอคาดการได้มั้ยล่ะ ว่าโลกของเราถูกกำหนดให้ต้องพบเจอกับ บางสิ่งที่มันยิ่งใหญ่… ในอนาคต

Kendra : …และเพื่อการนั้น พวกเราถึงต้องรวมตัวกัน

Khalid : ดูเหมือนเธอจะรู้สึกสบายใจกับเรื่องนั้นซะเหลือเกินนะ

Kendra : …นายก็รู้ว่าฉันหมายถึงอะไรนะ หมวกเกราะวิเศษที่เต็มเปี่ยมไปด้วยพลังเวทมนต์ของนาบู …พลังของมันจำเป็นต่อภัยร้ายที่กำลังย่างกรายเข้ามา มันมีค่าเป็นอย่างมาก ดังนั้นอย่าปฏิเสธมันเลย นายหวาดกลัวนั่นฉันเข้าใจ แต่โลกใบนี้ ทั้งฉันด้วย เพื่อสิ่งเหล่านี้… เราต้องการให้นายสวมมันนะ

Kendra : โดยเฉพาะเมื่อเจ้าบ้าจอมหยิ่งทะนงตัวอย่าง อลัน สก๊อตต์ บอกมาว่า “ฉันคนเดียวก็พอแล้ว”

Khalid : มันไม่ใช่ฉันนะ เค็นดร้า ที่ทำนายหรือคาดเดาเรื่องต่างๆ แต่มันคือ นาบู… จิตวิญญาณของเขา… แก่นแท้ของเขาอยู่ภายในหัวของฉัน …และนั่นแหละคือประเด็น…

Khalid : ฉันไม่ได้กลัวอะไรนะ เค็นดร้า แต่ฉันขวัญหายหมดแล้ว เพราะทุกครั้งที่ฉันสวมหมวกใบนั้น มันเหมือนกับว่าจิตใจของฉันกำลังจะหายไป รวมไปถึงสติของฉันด้วย แม้แต่ตอนนี้ฉันก็ยังรักษาไม่ได้เลยทั้งที่อยู่ในโลกภายนอกแบบนี้… ฉันจะโอเคสักพักนึง แล้วถัดมาฉันก็พูดด้วยสำนวนแปลกๆอีกแล้ว นั่นแหละเหตุผล

Kendra : ฉันรู้ดี คาลิด ฉันอยู่ที่นั่นด้วยในตอนที่นาบูเลือกนายจำได้มั้ย ฉันรู้ว่ามันยากแค่ไหน แต่…

Khalid : ดูฉันสิ ฉันทำนายอะไรไม่ได้หรอกนะตอนนี้… ดูสิ ถึงแม้เธอจะให้ฉันทำมันก็ตาม นาบู ใช่ นาบู ต่างหากที่ทำนายว่าเธอจะพบกับการ์ริคได้ที่ไหน

Kendra : ที่ โปแลน นั่นถูกต้องเลย

Khalid : นาบู บอกกับเธอว่า แฟลช มีความสำคัญมากแค่ไหน… อีกทั้งความสำคัญของเขาในอนาคต… รวมถึงเหตุผลที่ฉันเคลื่อนย้ายเธอไปโดยที่ต้องจ่ายค่าตอบแทนเป็นจิตใจของฉันด้วย และนั่นก็พอแล้ว เค็นดร้า ใช่ฉันกลัว แต่ฉันก็เหนื่อยด้วยเหมือนกัน

Kendra : ไม่หรอก คาลิด ฉันได้เจ้าปีกบ้าๆนี่มาพร้อมๆกับที่นายถูก นาบู เลือกนี่แหละ แล้วนายไม่คิดมั่งเหรอว่าฉันก็เหนื่อยน่ะ ตอนนี้ ฉันเป็น ”ผู้วิเศษ” เพราะด้วยพลังบางอย่างมันเรียกหาฉัน และมันรู้สึกบ้าบอสุดๆ แต่ฉันก็ยังออกไปข้างนอกนั่นสู้กับกรันดี้ ฉันถูกมอบหมายให้ทำมัน ไม่ว่าจะชอบมันหรือไม่ก็ตาม ดังนั้นไม่มีทางที่นายจะได้นอนหลับสบายๆแน่ๆ

Kendra : นายยังคงมีสติถึงแม้นายจะสวมหมวกใบนั้น ดังนั้นสวมมันลงไปเถอะ และบางทีถ้านายใช้มันบ่อยๆ นายอาจจะรู้วิธีการควบคุมมันก็เป็นได้

Khalid : ไม่หรอก หมวกใบนั้นมันมีตัวตนของมันเอง และเมื่อฉันสวมมันลงไป ฉันต้องแบ่งปันจิตใจของตนเองกับมัน แล้วเธอคิดมั้ยว่ามันรู้สึกยังไงน่ะ ยังไงก็ตาม ฉันเขวี้ยงมันออกไปแล้ว

Kendra : อะไรนะ นายหมายความว่ายังไงที่ว่า “เขวี้ยงออกไป” นั่นน่ะ

Khalid : มันก็ค่อนข้างซับซ้อนล่ะนะ มันก็ไม่ใช่ว่า นาบู จะไม่อยู่ในหัวของฉันอีกแล้ว แล้วก็ไม่ใช่ว่าเขาจะหาทางกลับมาหาฉันไม่เจอด้วย ตอนนี้ฉันแน่ใจแค่นั้นแหละ

Kendra เงียบไปสักพักหลังฟังที่ Khalid อธิบาย

Kendra : เฮ้อ… ฟังนะ ฉันคงจะบอกไม่ได้หรอกว่านายต้องทำอะไรต่อไป

Khalid : จริงดิ ก็เพราะคุณกำลังงานรัดตัวอยู่ไม่ใช่เหรอ

Kendra : ฉันหมายถึงว่าฉันบังคับนายไม่ได้ แต่นายก็คงจะรู้ตัวนะว่ากำลังเดิมพันกับอะไรอยู่

Khalid : ใช่ฉันรู้

Kendra : เจย์ เดินทางกลับไปยัง มิชิแกน เพื่อดูว่าแม่ของเขาปลอดภัยมั้ย งั้นอย่างน้อยนายจะไปที่นั่นแล้วจับตาดูเขาได้มั้ย

Khalid : เอ่อ… ก็ได้ ถึงแม้ว่าการเคลื่อนย้ายข้ามมิติมัน อาจจะทำให้ฉันสติหลุดไปสักพักก็เถอะ ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะใช้มันได้มากแค่ไหน

Kendra : อย่างน้อยก็มากกว่าการที่นายจะอยู่ที่นี่แหละนะ เอาน่า คาลิด นายรู้ดีว่าต้องทำยังไง…

เมื่อเห็น Kendra อุดหู เขาก็ทำตามทันที

แล้วเธอก็ยิง RPG เข้าใส่หุ่นลองเสื้อที่สวมชุดกรีนแลนเทิร์นจนระเบิด (แรงระเบิดเบาไปมั้ยนั้น)

Kendra : …และตอนนี้มันก็ขึ้นกับนายแล้วที่จะทำมัน

หลังจากนั้น
Lansing, Michigan

โทรทัศน์ได้ออกข่าวเรื่องราวที่เกิดขึ้น การปรากฏตัวของเหล่าผู้วิเศษรุ่นใหม่ ชายในชุดเขียว, หญิงสาวผู้มีปีก, ชายหนุ่มที่ชื่อ แฟลช และผู้วิเศษของกองกำลังโลกอย่าง อะตอม และการกลับมาของพวกเขาจะเป็นเรื่องดีหรือร้ายต่อโลกใบนี้กันแน่

ด้านล่างบนท้องถนน Jay กำลังเดินทางกลับไปยังบ้านของเขา และมีใครบางคนที่เราคุ้นตากำลังบ่นอะไรบ้าๆบอๆอยู่

Khalid : มันมากกว่านั้น ใช่แล้ว มันยังมีมากกว่านั้น บุรุษผู้หนึ่งจะทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้าที่เต็มเปี่ยมไปด้วยแสงสว่างและสายฟ้าฟาด และช่วงเวลาแห่งความมืดจะย่างกรายเข้ามา

“ต้องรีบกลับไปที่บ้านแล้ว”

Khalid : ใช่แล้ว ใช่แล้ว ช่วงเวลาอันมืดมิดยังรอพวกเราอยู่

(น่าจะเป็นผลจากการเคลื่อนย้ายมิติอย่างที่เขาบอกไว้ และสิ่งที่เขาพูดก็น่าจะเป็นคำทำนายของ นาบู)

“ก็แค่วันนี้ หรือจะแค่สักชั่วโมงก็ได้… บอกให้แม่รู้ว่าฉันสบายดี ฉันหมายถึง เอาน่า…”

“…มันจะมีอันตรายอะไรกันเล่า”

“เจ้ากำลังหวาดกลัว คาลิด ข้ารู้ดี เจ้าพูดแบบนั้นกับเทพฮอรัส”

“แล้วข้ายังรู้อะไรอีก… นั่นคือสิ่งที่เจ้ายังไม่ได้บอกเธอ ว่าเจ้าเองก็รู้สึกตื่นเต้นกับมันเช่นกัน ถูกมั้ยล่ะ คาลิด”

Khalid : สติของฉันมันกลับมาแล้วนะ ถึงเวลาที่นายต้องออกไปจากหัวของฉันได้แล้ว ถ้าฉันจะต้องจับตาดูการ์ริค งั้นก็ให้ฉันได้ทำเข้าใจนะ

“โอเค แค่เข้าไปแล้วแสดงตัวให้แม่เห็น แต่ถ้าจะให้คิดๆดูดีๆแล้ว จากการที่ฉันใช้เวลาอยู่กับงานปาตี้ของเพื่อน หรืออยู่ที่บ้านกับโจน”

“… บางทีเธออาจจะไม่ได้สังเกตด้วยซ้ำ ว่าฉันหายตัวไปตั้งแต่เกิดเรื่องขึ้น แต่ฉันก็ควรจะ…”

Jay : แม่ครับ นี่ผมเอง แม่อยู่บ้านมั้ย

Jay.Mom : เจย์ โธ่ แม่เกือบจะเป็นบ้าไปซะแล้ว

แม่ของเขาวิ่งเข้าไปสวมกอดลูกชายในทันที

Jay : นี่ผมแค่หายตัวไปวันสองวันเองนะครับ แม่ ผมแค่ไปงานปาตี้นานไปหน่อย แค่นั้นจริงๆนะครับ

Jay.Mom : ก็อาจจะใช่จ๊ะลูก แต่ชายคนนั้น… เขาบอกว่าเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นที่ ดี.ซี. …เขาบอกว่านั่นคือลูก เขาบอกว่าลูกคือคนที่เร็วที่สุดในนั้น เจย์…นี่ลูก…ใช่ แฟลชหรือเปล่า แล้วมันเป็นแบบนั้นได้ยังไง

Jay : เดี๋ยวนะครับแม่ พูดช้าๆนะครับ ผู้ชายคนไหนครับ

Jay.Mom : เขาบอกว่าเขาชื่อ ด็อดด์

Jay : ด็อดด์ ไหน

Jay.Mom : เขาดูยังหนุ่มแน่น แต่ผมเผ้ากลับเป็นสีขาว มีนัยน์ตาที่ดูเยือกเย็น เขาทำให้แม่กลัวนิดหน่อย แต่…

Jay : เดี๋ยวนะครับ แล้วเขาหาตัวแม่? แล้วก็ผม? ได้ยังไงกัน

“ด็อดด์บอกว่าพวกเขามีมือถือของลูก”

และนั่นมาจากตอนที่เขาได้รับพลังของ Mecury นั่นเอง เขาออกวิ่งไปโดยลืมเก็บมือถือของตัวเอง

Jay.Mom : …ลูกทำมันตก แล้วพวกเขาก็เจอมัน

Jay : แม่ครับหยุดก่อน แล้วค่อยๆบอกผมนะ… พวกเขามาถึงที่นี่เมื่อไหร่ นานแค่ไหนแล้ว

Jay.Mom : มีอะไรเหรอ ก็เมื่อเช้านี้ สักประมาณ 2 ชั่วโมงก่อนหน้านี้

Jay : เวรแล้วไง… นี่มันแย่จริงๆ 2 ชั่วโมงก่อนหน้านี้ นั่นหมายความว่าพวกเขาอาจจะยังอยู่ที่นี่ และจับตาดูอยู่ แม่ครับผมอยู่ที่นี่ไม่ได้แล้ว..ต้องรีบ…

ก่อนที่ Jay จะได้ทำอะไร แขกของเขาก็มาเคาะหลังคาแล้ว หรือบางทีอาจจะพังมัน

The Atom : ก๊อก ก๊อก

และนอกจาก Atom ก็ยังมีคนอื่นๆอยู่อีกด้วย

นั่นคือเหล่าทหารเจ้าหน้าที่กองกำลังโลกนั่นเอง

Sonia : เจย์ การ์ริค ฉันคือพันตรี โซเนีย ซาโต้ กองกำลังโลกและฉันสั่งให้เธอหมอบลงกับพื้นและ…

Jay : ไม่มีทาง

Jay เปลี่ยนร่างตัวเองกลายเป็น The Flash และเข้าเล่นงานพวกนั้นทันที

Jay : ไม่มีทาง ที่จะ

Jay : เกิดขึ้น

ความเร็วของ Jay ทำให้ Atom ไม่สามารถแตะต้องตัวเขาได้

Atom : บ้าเอ๊ย

“เรียกหมวกเกราะออกมาสิ คาลิด เรียกข้าออกมา… เจ้าต้องใช้ พลังของข้า… เจ้าต้องมองเห็นมัน…”

Khalid : ฉันมองไม่เห็นอะไร นอกจาก การ์ริค อยู่ในอันตราย แล้วทีนี้เงียบซะ ให้ฉันได้คิด…

แต่ยังมีอีกคนที่ยืนอยู่ใต้ต้นไม้ใกล้ๆเขา

Dodds : เอาน่า ยังไงก็ยังเป็นไปตามแผน

“ฉันไม่คิดแบบนั้น…”

Atom ไม่คิดว่าเขาจะเล่นงานพ่อตัวเล็กเจ้าความเร็วขนาดนี้ได้ Dodds จึงต้องลงมือช่วย

และเขาก็ปรากฏตัวออกมาพร้อมกับจับแม่ของ Jay เป็นตัวประกัน

Dodds : ถึงเวลาช้าลงแล้ว ไอ้ลูกชาย ฉันได้ตัวแม่เธอแล้วนะ

และเมื่อแม่ถูกจับตัวไปทำให้ Jay ต้องหยุดฝีเท้าลง

และโดน Sonia ถีบเข้าให้

Jay.Mom : เจย์

สถานการณ์ไม่สู้นักแล้ว

“ยอมรับมันเถอะน่า คาลิด เจ้าต้องการให้มันเป็นแบบนี้งั้นเหรอ”

Khalid : ฉันไม่ต้องการความช่วยเหลือของนายเพื่อทำในสิ่งที่ถูกต้องหรอกน่า นาบู เจ้าแก่ร้อยปีเอ๊ย…

Khalid : …แล้วนายยังไม่เห็นอีกหรือไงกัน

Sonia : ขอละ นอนลงกับพื้นแล้วอย่าต่อต้าน

Jay.Mom : ทำตามที่เขาบอกเถอะ เจย์ อย่าทำให้มันแย่ลงเลย

Dodds : ฟังแม่ของนายหน่อยเถอะน่า การ์ริค ทำตัวให้ดี หรือไม่งั้น… ฉันอาจจะทำให้เธอต้องโดนข้อกล่าวว่าสมรู้ร่วมคิดกับนายนะ

Jay : สมรู้ร่วมคิดอะไรกัน เธอไม่ได้…

Atom : ไม่ว่าเธอจะทำหรือไม่ก็ตาม มันจะได้พิสูจน์ในศาลเอง และพวกเราจะควบคุมตัวเธอไว้สักระยะนึงนะเจ้าหนู

Jay : ด้อดด์ ชายผมขาว นั่นนายใช่มั้ย

Dodds : ใช่ฉันเอง มีอะไรเหรอไง

Jay : ก็แค่อยากจะบอกว่า นายมันเป็นผู้ร้ายเกรด-เอ เลยล่ะ

Dodds : ก็นะ นายไม่ใช่คนแรกหรอกที่พูดแบบนั้นน่ะ…

แต่แล้ว Khalid ก็เอาไม้มาฟาดกระบาล Dodds เข้าอย่างจัง ( Atom ยังไม่เห็นเลยทีเดียว)

Sonia : ใครเนี่ย…

Jay : นั่นสิ หมอนี่ใครกัน…

“ช่างมันก่อน เคลื่อนไหวสิ เจย์ ใช้จังหวะนี้ให้เป็นประโยชน์”

Jay ปั่นเท้าตะกุยเศษไม้จากตัวบ้านเข้าใส่พวกเจ้าหน้าที่

“…ช่วยแม่ก่อน!”

จากนั้นเขาก็วิ่งเข้าไปรับตัวแม่ และ Khalid ทันที

Jay.Mom : โอ เจย์

Jay : ก็ไม่รู้ล่ะนะว่านายเป็นใคร …แต่ขอบใจจริงๆ

Khalid : ฉันชื่อ คาลิด ฉันเป็น…

แต่แล้วจู่ๆพวก Jay ก็หายไป เหมือนกับว่าพวกเขาถูกดูดเข้าไปในอีกมิติหนึ่ง จนทั้ง Atom และเหล่ากองกำลังโลกต่างงงงวยกับสิ่งที่เกิดขึ้น

Dodd : สำหรับรายงาน… ฉันจะเลื่อนยศภาคสนามให้เลย ถ้านายบอกฉันได้ว่ามันเกิดบ้าอะไรขึ้น

ภายในมิติอันแปลกประหลาด พวก Jay ถูกพลังสายหนึ่งย้ายมายังที่นี่

Jay.Mom : เอ่อ… เจย์… ลูกรัก นี่มันเกิดอะไรขึ้น นั่นมันดูเจ๊บมากๆเลย แล้วพวกเราอยู่ที่ไหนกัน

Jay : ผมก็ไม่รู้ครับแม่..อย่างน้อยๆก็ในตอนนี้

Khalid : แต่ฉันรู้ พวกเราถูกพาตัวมาที่นี่ด้วยพลังเวทมนต์ ดังนั้นฉันถึงแน่ใจสุดๆเลยว่าเรากำลังอยู่ที่ไหนกัน

Jay.Mom : เจย์ …โอ ลูกรัก ลูกพาพวกเรามาที่ไหนกันเนี่ย แล้วลูกคือ…แฟลช แล้วตอนนี้ก็มาติดอยู่ที่นี่ และเวทมนต์เหรอ

Jay : ผมขอโทษครับแม่ ผมไม่เคยตั้งใจจะให้แม่ต้องมาเจอกับอะไรแบบนี้เลย

Jay.Mom : ช่างเถอะ บางครั้งเรื่องแย่ๆก็เกิดขึ้นได้ ด้วยการตัดสินใจโดยตรง ไม่ว่าจะตั้งใจหรือไม่ก็ตาม แต่ที่แม่รู้ก็คือ บ้านของเราถูกทำลาย และเวทมนต์นั่นก็ดูไม่ดีนักเลย

Jay : แต่นาย อย่างน้อยนายก็รู้นี่ว่าพวกเราอยู่กันที่ไหน เพราะนายบอกเองว่านายรู้

Khalid : มันก็พูดไม่ได้ล่ะนะ เพราะฉันเองก็ไม่เคยเข้ามาที่นี่มาก่อนเลย แต่มันก็เหมือนว่าฉันใช้ชีวิตอยู่ที่นี่มาเกือบทั้งชีวิต มันแทบจะดูคุ้นเคยกับฉันในทันทีเลยล่ะ

Jay : งั้นตกลงนายเป็นใครเนี่ย นายใช่คนที่ส่งพวกเราเข้ามาที่นี่หรือเปล่า

Khalid : ฉันชื่อ คาลิด เบ็น…ฮัซซิน… ฉันเป็นเพื่อนร่วมงานกับ ฮอร์คเกิร์ล …เมื่อตอนที่เธอได้รับปีกมา…ฉันก็ได้รับพลังมาด้วยเช่นกัน… พลังเวทมนต์จากมหาเวทย์ชาวอียิปต์ คนที่แข็งแกร่งที่สุดเท่าที่เคยมีมา คนที่…

??? : “แข็งแกร่งที่สุด” ข้าขอปฏิเสธคำคำนั้น

Jay : แล้วนายเป็นใครอีกละเนี่ย

??? : อ้อ ฉันจะเล่าแน่ แต่ลำดับแรกเลยนะ… คาลิด แกบอกใช่มั้ยว่าแกรู้ว่าตัวเองอยู่ที่ไหน

เบื้องหน้าของเขา คือ จอมเวทย์ที่มีผิวสีเขียวดุจวิญญาณร้าย ที่มาพร้อมกับบรรยากาศตัวร้ายสุดๆ

Khalid : …มันคือเขตแดนมิติของนาบู

Wotan : ถูกต้อง และข้า คือ โวตัน …จอมเวทย์จากองกรณ์ที่กำลังค้นหาหนทางที่จะแผ่ขยายการควบคุมเวทมนต์ไปยังทั่วทั้งโลก โดยอาศัยพลังของนาบูที่เจ้าถือครองอยู่ภายในหอคอยนั่น …และมันมีเพียงแค่เจ้าเท่านั้นที่สามารถเข้าไปภายในนั้นได้

ศัตรูคนใหม่ปรากฏตัวแล้ว Wotan ศัตรูคู่อาฆาตของ Nabu แล้ว Khalid จะสามารถยอมรับหนทางของตัวเอง ที่จะเป็น Dr.Fate ได้หรือไม่ แล้ว Jay กับครอบครัวของเขาจะเป็นอย่างไรต่อไป

เล่มหน้า

–โลกต่างมิติ…–

เผยแพร่ครั้งแรกที่ : Bank-Comics For Fun

4 thoughts on “Earth-2 #09

  1. Sh@d0W_F[i]GuRe

    อ่านตอนนี้แล้ว นึกถึง Maria Hill กับ Sandman (Marvel) คนแรกขึ้นมาอย่างประหลาด 😀

  2. doc holliday

    Nicola Scott วาด Tower of Fate ได้สุดยอดมาก
    ตอนจบ The Great Beast ออกมาให้อารมณ์หยั่งกับ Balrog ใน LOTR เลย ฮ่าๆๆ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *