Superman #16 : H’el on Earth Part 9 : A Firstful of Stricks!
เรื่อง : Scott Lobdell
ภาพ : Kenneth Rocaforth
วางจำหน่าย : 30 มกราคม 2013
สำนักพิมพ์ : DC Comics
อุปกรณ์ของ H’el เสร็จสิ้นแล้ว Superman และพรรคพวกของเขาจะสามารถหยุดยั้ง H’el ได้หรือไม่ หรือนี่จะเป็นจุดเริ่มต้นของจุดจบกันแน่
ในอดีต H’el กำลังปรับแต่งตัวยานที่เขาและอาจารย์ของเขา Jor-El สร้างขึ้นมาด้วยกัน เพื่อเป็นหนทางรอดของดาวคริปตัน
และ Jor-El ก็มาหาเขา เพื่อแจ้งเรื่องต่างๆให้เขาทราบอีกครั้ง ที่ด้านนอกเหล่าผู้คนต่างๆมาส่งเสียงเชียร์ต่อการออกยานครั้งนี้ จนแม้แต่ตัว H’el ยังอึ้ง เพราะเขาไม่คิดว่าจะมีคนรู้เรื่องขนาดนี้ จนเขาเป็นกังวลแต่ Jor-El ก็ให้กำลังใจว่าเขาจะทำสำเร็จ
และ Lara-El ภรรยาของ Jor-El ก็ได้มอบของสิ่งหนึ่งให้แก่เขา สิ่งที่ทำให้เขาตื้นตันเป็นที่สุด สัญลักษณ์ตัว S ของตระกูล El เป็นสิ่งที่แสดงถึงการรับเขาเข้าเป็นหนึ่งในครอบครัว และด้วยสิ่งนี้ H’el สาบานว่าเขาจะต้องปกป้องอนาคตของดาวดวงนี้ เขาจะทำให้เห็ล่าเด็กบนดาวดวงนี้ได้วิ่งเล่นบนดาวดวงใหม่ ที่มีชีวิตชีวารวมไปถึงลูกของพวกเขาด้วย ด้วยคำสัญญาของเขา คริปตันจะไม่ตาย
H’el : และในวันถัดมา ผมก็เดินทางออกไปยังดวงดาวที่อยู่นอกเหนือดาวของพวกเรา ด้วยความหวังที่ว่าผมอาจจะสามารถช่วยมันได้ และในช่วงเวลานั้นผมได้เห็นสิ่งต่างๆมากมายที่ผมไม่เคยได้พบเห็น เป็นเวลาหลายปีที่ผมเดินทาง… อย่างเปล่าเปลี่ยว… ในห้วงแห่งความตาย สิ่งที่ผมกลัวมากที่สุด …นั่นคือผมได้นำภูมิความรู้ทั้งหมดของชาวคริปตันที่แม้แต่พวกเขาเองก็อาจจะไม่รู้ถึงการมีอยู่ของมัน…ไว้ในยานลำนั้นกับผม… ไว้ในจิตวิญญาณของผม
Kara : เรื่องการออกยานของคุณน่ะ H’el … ทำไมฉันถึงจดจำอะไรไม่ได้เลย ทั้งๆที่มันเป็นเรื่องของส่วนรวม… และเรียกได้ว่าเป็นหน้าหนึ่งของประวัติศาสตร์
H’el : ก็เหมือนกับผมนั่นแหละ คุณใช้เวลากว่า 20 ปี อยู่ภายในวงโคจรของดวงอาทิตย์ ภายในยานของพ่อของคุณ มันจึงไม่แปลกถ้าคุณจะหลงลืมความทรงจำบางอย่างไป
Kara : นั่นมันก็จริงอยู่ และพอจะเข้าใจได้ด้วย…
H’el : คาร่า ผมไม่อยากจะรบกวนให้คุณทำในสิ่งที่คุณไม่สะดวกจะทำนัก ถ้ามันมีความกังวลในใจของคุณ ผมจะออกเดินทางคนเดียว และผมสามารถที่จะกลับมาหาคุณได้หลังจากที่…
ก่อนที่ H’el จะได้พุดต่อ เขาก็โดน Kara เซอร์ไพรซ์จูบปากเข้าเต็มๆ
Kara : ตั้งแต่ที่ฉันลงมาบนโลกใบนี้ ฉันก็ต้องการจะได้กลับบ้านมาตลอด และฉันก็เคยหมดหวังไปแล้ว… จนกระทั่งฉันตื่นขึ้นมาเห็นคุณอยู่เบื้องหน้าฉัน ฉันเชื่อในสิ่งที่คุณทำอยู่นะ H’el และมากกว่านั้น ฉันเชื่อในตัวคุณ เชื่อในตัวพวกเรา… และรวมไปถึงโลกใบใหม่ที่จะเริ่มต้นขึ้นเมื่อพวกเราไปจากที่นี่
แต่แล้วสัญญาณเตือนก็ดังขึ้น พร้อมเสียงระเบิด
Kara : เสียงนั่นมัน ญาติของฉัน กับพวกสภายุติธรรม
H’el : พวกนั้นแยกตัวกันจู่โจม… เพื่อขัดขวางการเดินทางกลับไปช่วยดาวคริปตันของพวกเรา และเพื่อเอาตัวคุณไปจากผม แต่มันจะไม่มีวันเกิดขึ้น
Kara : ฉันไม่เข้าใจจริงๆ ว่าทำไมพวกเขาถึงพยายามจะหยุดพวกเรา เมื่อสะพานแห่งดวงดาวของคุณเติมพลังงานให้แก่เรือของพวกเราจนเต็ม พวกเราจะออกเดินทางทันที ฉันเข้าใจดีว่า คาล ได้สร้างตัวตนของเขาขึ้นมาที่นี่ แต่ทำไมพวกเขาถึงคิดที่จะพยายามหยุดพวกเรานักนะ
H’el : อภัยให้แก่พวกเขาเถอะยอดรัก พวกเขาไม่รู้ตัวว่าทำอะไรลงไป
(เฮ้ย บทพูดแบบนี้มัน…)
H’el : ในไม่ช้าพวกเราจะออกเดินทางไปจากที่นี่ แล้วสิ่งที่เกิดขึ้นกับโลกก็จะไม่เกี่ยวข้องกับพวกเราอีกต่อไป
(ปัดความรับผิดชอบชัดๆ)
ทางด้าน Superman เขาบุกเข้ามาด้านในเรื่อยๆ
Superman : ฉันรู้ว่านายได้ยินเสียงของฉันนะ H’el ฉันจะไปหยุดแกซะ… แม้จะต้องพังบ้านของฉันเพื่อทำแบบนั้นก็ตาม
และตอนนี้พวกเขากำลังวุ่นอยู่กับการจัดการอาวุธชีวะภาพต่างดาว Lockcoils ที่เกือบทำลายดวงดาว AARICUS Prime ที่สร้างพวกมันขึ้นมา และ DNA ของพวกมันเปลี่ยนแปลงแทบจะตลอดเวลา ซึ่ง Wonder Woman ไม่คิดอะไรมาก เพราะเธอชอบที่จะสู้ไปเรื่อยๆ แต่กับ Superboy นั้นไม่ใช่
Superboy : นี่ผมเป็นคนเดียวหรือเปล่าเนี่ย ที่คิดว่ามันบ้าไปแล้วที่คุณ ไม่รู้สินะ ว่าไงดีล่ะ ที่คุณ …เอาพวกมันลงมาบนโลกเนี่ย
Superman : ก็ไม่อย่างนั้นก็ต้องปล่อยพวกมันไว้ที่ อา…
Superboy : ริคัส ไพรม์ น่านนนนนนนแหละ จะไปยุ่งกับมันทำไมเล่า
Wonder Woman : งั้นแสดงว่านายลืมอะไรไปอย่างนะ”ซุปเปอร์บอย”… ที่แห่งนี้น่ะไม่มีใครเข้าออกได้หรอก
Wonder Woman : ดังนั้นเลิกวิจารณ์ซุปเปอร์แมนเสียๆหายๆได้แล้ว
(รักจริงๆนะคนนี้ พูดแทนด้วย)
Cyborg : นี่พวกเราจะตั้งใจกันหน่อยได้มั้ย พวกเรากำลังจะเผชิญหน้ากับภัยร้ายที่อาจจะทำลายล้างทุกชีวิตในจักรวาลนี้นะ… และดูเหมือนผมจะเริ่มจับได้แล้วว่า เจ้า H’el ทำยังไงถึงรบกวนจุดหมายของประตูมิติของผมได้ ที่นี่เป็นห้องอาวุธห้องที่สามแล้วที่พวกเราวาร์ปเข้ามาตั้งแต่ครั้งแรก
Superboy : มันจะเป็นที่ที่สาม… และที่สุดท้ายด้วย! ผมกับซุปเปอร์แมนโดนถีบออกไปยังอีกมิติหนึ่งมาแล้วนะ… และผมก็ติดอยู่ในมิติทับซ้อนที่ชวนป่วนตบสุดๆเลย
Superboy บ่นไปพร้อมกับใช้พลังของเขาทำลายล้างเหล่าอาวุธพวกนั้น
“ถึงแม้จะคิดว่าพวกเขาใช้ DNA ร่วมกัน… แต่ Superman และ Superboy พวกเขาก็มี 2 สิ่งที่แตกต่างกัน”
“คนที่แก่กว่า ได้รับพลังจากดวงอาทิตย์สีเหลือง ทำให้เขาได้รับพลังและความสามารถที่เหนือกว่าเหล่าผู้คนที่เกิดบนดาวดวงนี้”
“คนที่เด็กกว่า นั้นมีพลังโดยพื้นฐานจากสมรรถนะของร่างกาย เขาจะทรงพลังตามพลังความมุ่งมั่นของเขาเท่านั้น ตราบที่เขายังคงเคลื่อนไหว”
Wonder Woman : ข้าคิดไม่ถึงจริงๆว่าเจ้าจะทำแบบนี้ได้…
Superboy : ผมก็ว่ามันเป็นเพราะ… อืม… เพราะเจ้าเกราะรบคริปตันนี่ทำงานของมันได้ดีแหงๆเลย… จริงๆมันก็เจ็บปวดสุดๆไปเลยล่ะนะ แต่จะทำไงได้ล่ะ ตอนนี้มันกำลังจะเป็นจุดจบของโลกนี่ใช่ม่ะ
Superman : ก็ระวังตัวเองอย่าหักโหมมากเกินไปนักล่ะ ซุปเปอร์บอย เธอกำลังอยู่ในช่วงรักษาตัวจากการที่จะถูกเจ้า H’el แยกร่างนะ
Cyborg : ไว้คุยกันทีหลังเถอะ… ตอนนี้ผมได้พิกัดที่ต้องการแล้ว
Batman : ไม่ล่ะ นายไม่ต้องทำแล้ว
Batman : เจ้า H’el มันเล่นตลกกับพวกเราตั้งแต่ที่พวกเราเข้ามาที่นี่ ถ้าพวกเรายังไม่มีโอกาสอีกละก็ นั่นก็หมายความหลุดจากแผนเดิมไปแล้ว… ตอนนี่พวกเราต้องการแผนใหม่ด่วนเลย
Superboy : นี่คุณจะบอกว่ามีแผนอื่นที่ดีกว่าไอ้เจ้าแผนเก่า ที่มัน… เกือบจะฆ่าผมเนี่ยนะ
Batman : แล้วไง ตอนนี้เธอก็สบายดีนี่ ไปกันต่อได้แล้ว
ทางด้าน H’el ก็กำลังยืนชื่นชมต่อเรือที่เข้าสร้างจนเสร็จสิ้น และเขาก็ปลื้มปิติอย่างยิ่ง และคราวนี้พวกเขาทั้งคู่จะได้กลับไปยังบ้านเกิดของตนได้ซักที และเหล่าผู้คนบนโลกก็จะได้ทำการเสียสละอย่างมีค่าที่สุดแก่จักรวาลนี้ จน Kara ต้องถามว่าพวกเขาจะต้องเสียสละแค่ไหน เพราะเขาบอกเธอว่ามันแค่เล็กน้อยเท่านั้น แค่พลังงานจากสนามแม่เหล็กของระบบสุริยะ และ H’el ก็บอกว่าเพียงแค่นั้นเท่านั้น เธอจึงอยากจะอธิบายให้พวกเขาฟัง แต่ก็ได้ยินเสียงระเบิกดังขึ้น H’el ก็เสริมว่าเขาตั้งให้พวก JL ไปโผล่ที่ด้านในของป้อมปราการจึงไม่ต้องห่วงอะไร
แต่จู่ๆ Superman ก็พุ่งเข้าใส่ H’el จากด้านหลัง
Superman : ไม่ใช่ทุกคนหรอกน่า H’el ฉันให้พวกเขาล่วงหน้าไปก่อนต่างหากเล่า
Superman : ฉันผิดเองที่เอาพวกเขามายุ่งกับเรื่องในครอบครัวน่ะ นี่มันเป็นเรื่องของฉันกับนาย
H’el : แกยังกล้าพูดถึงคำว่า “ครอบครัว” อีกงั้นเหรอ ครอบครัวของแกจะต้องอับอายหากได้เห็นว่าแกกลายเป็นตัวอะไรไปแล้ว
Kara : ไม่นะ คาล อย่าทำแบบนี้เมื่อพวกเรามาไกลขนาดนี้แล้ว
Superman : นี่คาร่า เขาไม่ใช่ผู้ชายแบบที่คุณคิดนะ เอามือของคุณออกไป ไม่งั้นผมอาจจะต้องใช้กำลังทำร้ายคุณแล้วนะ
Superboy : “ใช้กำลัง” เหรอ งั้นผมจัดให้ฟรีๆ เลย เอาไปเลย ซุปเปอร์เกิร์ล
Superboy จับหัวเธอเขกพื้นทันที
Superman : คอน
H’el : ไม่นะ
แล้วจู่ๆพวกเขาก็โผล่มายังเกาะน้ำแข็งด้านนอก
Superboy : นี่พวกเราออกมาได้ไงเนี่ย
Superman : เจ้า H’el เล่นพวกเราอีกแล้ว
Batman : ไม่หรอก ลองมาดูเจ้าสิ่งก่อสร้างตรงนั้นสิ หมอนั่นไม่ได้เอาตัวพวกเราออกมา
Batman : …แต่เขาย้ายตัวป้อมออกไปเลย
(โดนย้ายบ้านซะแล้วพี่ซุป)
H’el : มาเถอะ เราจะทำมันด้วยกัน
Kara : …มีแค่ทางเดียวเท่านั้น…
H’el : เพื่อคริปตัน เพื่อพวกเรา เพื่อให้มันคงอยู่ไปตลอดกาล
“ด้วยพลังที่ H’el ปลดปล่อยออกมา ความตายได้มาเยือนโลกใบนี้…”
“จากฐานใต้ดินของ Dr. Veritas”
Dr.Veritas : นี่มันช่างน่าสนใจจริงๆ
“—ไปยังคุกกลางทะเลทรายของ Lex Luthor–”
Luthor : นั่นมัน ท่าไม่ดีแล้วไงล่ะ
“—ไปยังเทือกเขาหิมาลัย ที่ซึ่งผู้ส่งสาสน์อันโดดเดี่ยวได้เรียกเจ้านายของมัน”
“การกระทำอันบ้าคลั่งของ H’el เป็นที่รับรู้ไปทั่วทั้งจักรวาล”
??? : นี่เป็นครั้งสองในประวัติศาสตร์ของดาวดวงนี้ ที่ข้าต้องเรียกนายท่านออกมา และจงอธิษฐานว่าโลกใบนี้จะรอดจากคำพยากรณ์ของมัน”
“มันคือพลังที่ไม่เหมือนพลังใดๆ ที่ถูกปลดปล่อยออกมาบนดาวดวงนี้”
“แม้แต่ในส่วนที่ลึกสุดของจักรวาลก็ตามที”
“มันมีพลังมากพอที่จะกลืนกินดวงอาทิตย์”
“แสงสว่างของมันสามารถมองเห็นได้แม้ดวงดาวอันห่างไกล”
“ดวงดาวที่แสงสว่างของพวกมันเองจะแตกดับในไม่ช้า… เพื่อตอบสนองต่อความต้องการอันบ้าคลั่งของ H’el ”
เหล่าสมาชิก Justice League ต่างมองสิ่งที่เกิดขึ้น ว่าพวกเขาพลาดไปแล้ว
Cyborg : นี่มันไม่น่าเชื่อจริงๆ
Batman : นั่นแหละคำพูดที่อธิบายถึงมันได้ในตอนนี้
Wonder Woman : อีกคำนึงคงเป็น วันสิ้นโลก
Superman : ผมยอมรับไม่ได้ และจะไม่มีวันยอมรับด้วย
Superboy : เอ่อ… นี่มันหมายความว่าไง?
Dr.Veritas : มันหมายความว่า “มันจบแล้ว”
“ในห้วงอวกาศอันห่างไกล”
“..เหล่าลูกเรือในยานได้ตรวจพบยักษ์หินขนาดใหญ่ในวงโคจรของพวกเขาเมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อน”
“และมันนิ่งเงียบ ไม่ทำอะไร จนกระทั่งตอนนี้”
กัปตันพยายามสั่งการให้ลูกเรือเปลี่ยนทิศทาง และบอกว่าถ้ามันคือสิ่งที่กล่าวถึงในตำนานของห้วงอวกาศจริงๆแล้วละก็ แสดงว่าตอนนี้จักรวาลกำลังตกอยู่ในอันตราย
แต่มันสายเกินไป ยานของพวกเขาถูกทำลายทิ้ง
“ตัวแทนแห่งจักรวาล ที่รู้จักกันในนาม Oracle นั้นไม่ได้ต้องการจะทำลายยานลำนั้น”
“แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้เหล่าลูกเรือรอดชีวิต”
“The Oracle นั้นกำลังกลัวที่ว่ามันอาจจะต้อง… เป็นสักขีพยานต่อการสูญสิ้นของโลก”
เล่มหน้า
การต่อสู้ครั้งสุดท้าย
และสามเล่มหน้าจะเป็นโค้งสุดท้ายของอีเวนต์แล้ว และผมคงจะยุติการแปลหัว Superman Family แค่นี้ หลังจบอีเวนต์ รอดูท่าทีก่อนว่าจะเอายังไงต่อ หรือบางทีอาจจะกลับมาแปลในช่วงอีเวนต์ถัดไปอีกทีนึง แต่เดี๋ยวขอพักยก H’el on Earth ไปยังซีรี่ย์อื่นๆกันก่อนนะครับ
เผยแพร่ครั้งแรกที่ : Bank-Genesis Comics For Fun
อีตาKenneth Rocaforthวาดแนวอีกละ
ชอบลายเส้นจริง ๆ ผู้หญิงสวยทุกคนเลยยยย =w=
รู้สึกว่าคนวาด จะถนัดตัวละครผู้หญิงเป็นพิเศษหรือป่าว เห็นวาดสวยทุกตัวเลย
The Oracle นี่เป็นตัวละครใหม่รึเปล่า ไม่เคยเห็นมาก่อนเลย
ภาพสวยเสมอหัวนี้ รู้สึกว่า ซูเปอร์บย ในจักรวาลนี้ จะไม่ถูกกับซูเปอร์ เกิร์ลอย่างแรงเลยนะเนี่ย 55