Hawkeye #4

เรื่อง : Matt Fraction

ภาพ : Javier Pulido, Matt Hollingsworth, Chris Eliopoulos

วางจำหน่าย : 21 พฤศจิกายน 2012

สำนักพิมพ์ : Marvel Comics

 

เมื่อเทปลับแห่งหน่วย S.H.I.E.L.D. หายไป

จึงเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ Hawkeye (Clint Barton) ที่จะต้องตามมันกลับคืนมา!!

 “นายเคยฆ่าใครไหม คลินท์”

 

Clint : หาวววววววววววววววววว หืม เธอว่าไงนะ

Kate : นายเคยฆ่าใครบ้างไหม

Hawkeye ทั้งสองคนกำลังพูดคุยกันในงานชุมนุมชาวอพาร์ทเมนท์บนดาดฟ้า

Clint : เคท เธอเป็นบ้าอะไรของเธอเนี่ย

Kate : เปล่า ชั้นก็แค่สงสัยน่ะ

ตัวประกอบ : ไม่มีทางหรอก Avengers ไม่มีทางให้เขาเข้าทีมหรอก ถ้าเขาเคยฆ่าคน

Clint : ชั้นไม่ใช่อเวนเจอร์ส ไม่ใช่ใครทั้งนั้นล่ะ คิดว่าชั้นมีพลังอะไรที่จะไปฆ่าใคร… อ๊ะ บ้าเอ๊ย

จู่ๆก็มีเงาดำขนาดยักษ์ปกคลุมทั่วดาดฟ้า พร้อมๆเสียงสบถของคุณคลินท์

นั่นคือเงาของยาน Helicarrier นั่นเอง

ไม่พูดพล่ามทำเพลงอะไรทั้งนั้น อยู่ๆเจ้าหน้าที่หน่วย S.H.I.E.L.D. ก็โรยตัวลงมาและหิ้วตัวคลินท์ไปทันที

ซึ่งนั่นเป็นฝีมือของ Maria Hill และ Captain America นั่นเอง เขาต้องการตัวคลินท์เพื่อให้มาทำงานสำคัญชิ้นหนึ่ง

Hill : คลินท์ เทปหายไปแล้ว เทปบันทึกปฏิบัติการ Eucritta

Clint : หายเหรอ มันเป็นไปได้ไง ผมคิดว่ามันอยู่ที่พวกคุณ และพวกคุณก็สัญญาแล้วนี่ว่าจะไม่เกิดอะไรแบบนี้

Hill : มันขึ้นอยู่กับเรา และเราก็ขึ้นอยู่กับมัน คุณรู้เท่านี้ก็พอ ตอนนี้ความปลอดภัยของคุณ…

Clint : แล้วเรามีเทปกี่อัน มีก๊อปปี้ไว้บ้างไหม

Cap : เราแกะรอยเทปได้แล้ว อย่าทำผิดพลาดล่ะ คลินท์

Hill : เรามีเวลา 72 ชั่วโมงก่อนการประมูลเทปจะเริ่มที่ Medripoor เหล่าวายร้ายต่างมากันพร้อมด้วยเงิน 9 หลัก และ AMEX Black เพื่อเทปนี้ เราจะมอบงบทั้งหมดให้คุณเพื่องานนี้ ห้ามพลาดเด็ดขาด หากเทปนี้ตกอยู่ในมือพวกนั้น มันจะเป็นอันตรายอย่างยิ่งต่อหน่วยของเรา, อเวนเจอร์ส, กองทัพ และอาจรวมไปถึงประธานาธิบดีด้วย

หลังจากได้รับมอบหมายงาน เขาก็กลับมาเอาธนูเพื่อเตรียมตัวออกเดินทาง แต่เคทยังไม่กลับบ้าน คุณเธอรอคลินท์อยู่ที่ห้องอยู่เลย

“เธอทำบ้าอะไรอยู่ที่นี่เนี่ย นี่มันตีสามแล้วนะ”

Kate : นายกล้าตั้งคำถามเหรอ นายเองนะ ที่โดนอเวเนเจอร์สลักพาตัวไป

Clint : อย่าถามอะไรทั้งนั้น เข้าใจ๋ โนเควสชั่น ชั้นต้องออกไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุด และเธอก็ไม่ควรจะอยู่ใกล้ๆชึ้นอีกแล้ว

Kate : ธนูนั่น ทำไมชั้นไม่เคยเห็นเลย อ๊ะ โทษทีที่มีคำถาม ให้ชั้นช่วยนายนะ คลินท์ ชั้นรับสืบทอดฉายาของนายมานะ นายคิดว่าชั้นจะเป็นฮอคอายแบบไหนกัน ถ้าชั้นไม่ช่วยนาย

Clint : พอได้แล้ว แล้วก็ไปให้ไกลจาก “ฮอคอาย” คนนี้เถอะ

Kate : ถ้าเกิดนายตายไป ชั้นจะรับธนูนั่นไว้ได้ไหม

Clint : ไม่มีวัน รวยไม่ใช่เหรอ ซื้อเองสิ แล้วอีกอย่าง หน่วยชิลด์คงจะเก็บรักษามันไว้มากกว่า อ๊ะ แต่ถ้าชั้นตายจริงๆ เอากระเป๋าเดินทางชั้นไปได้เลย

Kate : มีเยอะแยะแล้วย่ะ

ในที่สุดคลินท์ก็มาถึงเมดริพัวร์ แต่มาถึงปุ๊บ พี่แกก็โดนลากตัวเข้าห้องพาไปรุมตื๊บซะแล้ว

ซะที่ไหน คลินท์ออกจากห้องมาแบบชิลๆ รีบออกจากสนามบินทันที

ไม่โบกแท็กซี่ แถมตัดหน้าชาวบ้านขึ้นด้วยอีกต่างหาก

นั่งไปได้ซักพัก คลินท์ก็หลับไปด้วยความอ่อนล้าจากการเดินทาง คนขับรถได้โอกาสจึงแอบขโมยกระเป๋าเงินคลินท์ทันที

โชคดีที่คลินท์รู้สึกตัว แต่โชคร้ายที่โจรมันไม่ได้มีแค่คนเดียว

และก็ไม่ได้มีแค่สองคน ยังมีคนที่สาม เฮ้ย! นั่นมันเครโทส!! พี่เลิกฆ่าเทพหันมาวิ่งราวแทนแล้วเหรอคร๊าบบบบบบบ

แถมเครโทสยังส่งพานต่อให้คนที่สี่อีก  หมดตัวเรียบร้อย สำหรับพี่คลินท์ ตอนนี้เขาเหลือเพียงพาสปอร์ตและบัตร AMEX Black เท่านั้นที่ยังอยู่กับเขา

และเมื่อไม่มีเงิน และไม่รู้ทาง จะทำไงดีล่ะ

เอาไอ้แท็กซี่คันนี้นี่ล่ะมาขับเองเลย รับลูกค้าหาเงิน ถามทางไปเรื่อย

จนกระทั่งเขาได้เบาะแสจากการตีซี้แขกในร้านอาหารแห่งหนึ่งที่เขาแวะไปทาน

ด้วยความช่วยเหลืออันนี้ ทำให้เขาสามารถไปยังสุดยอดโรงแรมหรู Medripoor Pearl สถานที่จัดงานประมูลได้สำเร็จ

และในคาสิโนที่นั่น มันเป็นที่ที่มีคนถูกจับยัดถุงดำเป็นประจำ จึงไม่มีใครสนใจคลินท์ที่ถูกจับเลย

(สงสัยเอาไว้ไล่พวกพนันจนหมดตัว)

รู้ตัวอีกทีคลินท์ก็ถูกจับมัดติดเก้าอี้อยู่ในห้องๆหนึ่งเสียแล้ว

บอดี้การ์ด : ฮอคอาย

Clint : อ่า สวัสดี คุณเป็นแฟนคลับผมเหรอ ผมชอบมีทแอนด์กรี๊… แอ่ก

คลินท์ได้มีทเต็มๆกับกำปั้นแทน

หลังจากนั้นบอดี้การ์ดก็ค้นตัวคลินท์ แต่เขาพบเพียงพาสปอร์ตเท่านั้น เมื่อสอบถามลูกน้องดู ลูกน้องก็แจ้งว่านอกจากนี้ก็มีเพียงธนูอยู่ในรถ

และหัวหน้าของบอดี้การ์ดก็ออกมา Madame Masque นั่นเอง เธอเก็บพาสปอร์ตของคลินท์เอาไว้ และสั่งให้เขานำคลินท์ไปที่ห้องของเธอ

คลินท์ตื่นขึ้นมาในสภาพถูกจับมัดเหมือนเดิม ส่วนธนูของเขาก็ตกอยู่ในมือมาดามแมสค์แล้ว

Clint : ชั้นเดิมพันทุกสิ่งทุกอย่างไว้ที่กระเป๋าของชั้น บัตรเครดิตการ์ดของหน่วยชิลด์ที่สามารถจ่ายทุกอย่างได้ไม่อั้น เพื่อเอามาใช้กับเป้าหมายที่ทั้งเธอและชั้นมาที่นี่

Madame Masque :  แล้วมันคืออะไรรึ

Clint : เทปไงล่ะ ถ้ามันหลุดออกไป ชั้นต้องตายแน่ๆ และคนอีกมากมายจะตกอยู่ในอันตราย ชั้นมาอยู่ที่นี่ด้วยเหตุผลเดียวกันกับเธอนั่นล่ะ

Clint : ชั้นจะประมูลเอามันคืนมา

Madame Masque : ชั้นจะฆ่านายเพื่อตัดปัญหาของทุกคนก็ได้นะ

Clint : ใครจะได้เทปไปกันนะ มันอาจจะมีค่าเป็นพันล้านเลยนะ เทปลับที่บันทึกการสังหารผู้ก่อการ้ายที่โลกต้องการ

Madame Masque : ปากดีจังเลยนะ ว่าแต่ชั้นไม่เห็นนายจะมีเงินที่จะเอามาใช้ประมูลเลย

Clint : มีสิ ชั้นซ่อนมันไว้

Madame Masque : ซ่อนที่ไหนล่ะ

มาดามแมสค์มองไปที่ตัวคลินท์ พยายามคิดว่าเขาซ่อนมันไว้ที่ไหนกันแน่

Madame Masque : นี่ล้อกันเล่นรึเปล่าเนี่ย

Clint : ชั้นไม่ได้ตื่นเต้นอะไรหรอกนะ แต่พวกลูกน้องนั่นน่ะ ไม่มีใครมาเช็คเลย เพราะว่าชั้นไม่มีทั้งกระเป๋าเงินและพาสปอร์ตแล้ว

Madame Masque : เออ เออ พอๆ ชั้นเข้าใจแล้ว

ว่าแล้วมาดามแมสค์ก็ค้น(เซนเซอร์)คลินท์ทันที

(พี่ซ่อนบัตรคนรวยล้นฟ้าไว้ตรงนั้นเนี่ยนะ!!)

Clint : นี่จะตรวจมะเร็งต่อมลูกหมากรึไงเนี่ย

Madame Masque : หุบปากไปเลย ชั้นรับประกันได้ว่าชั้นไม่แฮปปี้ที่ต้องมาทำแบบนี้

ในที่สุดก็หาบัตรเจอ(ซะที) เมื่อได้แล้วเธอก็สั่งบอดี้การ์ดให้หิ้วตัวไปขังไว้ในห้องอื่นทันที

Clint : สาบานได้เลย ถ้าพวกแกทำอะไรชั้น แกได้เก้าอี้ตัวนี้ไปรับประทานแน่

แต่บอดี้การ์ดไม่ฟังอะไรทั้งนั้น โยนคลินท์ทิ้งทั้งยังนั้นเลย

Clint : เฮ้ จะไม่มาแก้มัดให้หน่อยรึไง ชั้นอยากได้อ่างอาบน้ำ ชั้นอยากกินน้ำ แล้วนี่ชั้นจะกินแซนด์วิซได้ไง ถ้ายังอยู่ในสภาพแบบนี้ ไอ้พวกลูกหมา…

บ่นได้สักพัก หลับทั้งยังงั้นเฉยเลยแฮะ

แต่ทว่า เงามือสังหาร นินจาแห่ง The Hand กำลังมาเยือนคลินท์แล้ว

ตัดมาอีกด้านหนึ่ง งานประมูลกำลังจะเริ่มแล้ว ที่นั่นเต็มไปด้วยเหล่าตัวโกงระดับเศรษฐีที่พร้อมจะแย่งชิงเทปนี้

พิธีกร : เอาล่ะครับ เราจะมาเริ่มการประมูลเทปลับนี้ เทปนี้เคยมีคนดูแค่ 2 คน แต่ทั้งสองคนป่วยตายไปแล้วทั้งคู่ เทปลับของหน่วยชิลด์ เทปบันทึกการสังหารคนของฮอคอาย ผมขอเริ่มต้นราคาประมูลจาก 100 ล้านยูโรนะครับ มีใครสนใจไหม

พิธีกร : Agence Byzentine สนใจ มีใครจะสู้ที่ 120 ล้านไหมครับ

(องกรค์นี้เป็นสมาคมมือสังหารของฝรั่งเศสครับ)

พิธีกร : กลุ่ม Maggia เริ่มสนใจบ้าง มีใครจะประมูลที่ 150 ล้านไหมครับ

(แมกเจียเป็นองกรค์มาเฟียยักษ์กลุ่มหนึ่ง โดยผู้ที่มาร่วมประมูลรายนี้คือ Hammerhead นั่นเอง)

พิธีกร : คุณ Fisk แห่งเดอะ แฮนด์ครับ มีใครจะสู้ที่ 200 ล้านไหมครับ

(Fisk Wilson หรือ KIngpin ปัจจุบันคุมเดอะ แฮนด์แทนแมกเจียแล้วครับ)

พิธีกร : สหายจากจีนตกลงครับ มีใครสนใจจะเสนอ 300 ล้านสู้ไหมครับ

(Mandarin มหาเศรษฐีจากจีนผู้มีพลังอำนาจจากแหวนทั้ง 10 ตัวโกงล่าสุดที่จะได้ออกมาในหนัง Iron-Man 3 นั่นเอง)

พิธีกร : Crimson Cowl สู้ครับ ต่อไป350 ล้าน ใครจะสู้…

(เธอคือ Justine Hammer ลูกสาวของ Justin Hammer เจ้าของบริษัทเทคโนโลยีคู่แข่ง Tony Stark นั่นเอง โดยเธอกลายมาเป็นคริมสัน โควล์และก่อตั้งกลุ่ม Master of Evil เพื่อแก้แค้นแทนที่เธอนั่นเอง)

Viper : Hydra จงเจริ…

พิธีกร : Hydra ตกลง 350 ล้าน มีใครจะเอา 400 ล้านมาสู้ไหมครับ

(ไวเปอร์เป็นสมาชิกกลุ่มไฮดร้า หนึ่งในองกรค์ผู้ก่อการร้านยักษ์ใหญ่นั่นเอง)

Madame Masque : 1000 ล้าน

พิธีกร : โอเคครับ 1000 ล้านครั้งที่หนึ่ง

พิธีกร : ครั้งที่สอง มีใครจะสู้ไหมครับ ถ้าไม่มีงั้นเป็นอันว่าการประมูลสิ้นสุด มาดาม แมสค์ คุณคือผู้ชนะ ได้รับเทปไปในราคา 1000 ล้านยูโรครับ

เมื่อได้รับเทปแล้ว มาดาม แมสค์ก็รีบวิ่งกลับห้องทันที

Madame Masque : ปิดประตูซะ และอย่าให้ใครเข้ามาในนี้เด็ดขาด ถ้าชั้นต้างการอะไร ชั้นจะตะโกนเรียกเอง

Kate : เอาล่ะ คลินท์ บาร์ตัน, คลินท์ บาร์ตัน นายพาเรามาเจออะไรกันเนี่ย

ที่แท้มาดาม แมสค์ที่เราเห็นมาตลอดคือ เคท บิช็อป!! ส่วนตัวจริงโดนจับมัดปิดปากไว้เรียบร้อย!!

ตอนต่อไป แม้เทปจะปลอดภัยแล้วจากความช่วยเหลือของเคท แต่คลินท์ที่กำลังจะถูกนินจาเดอะ แฮนด์บุกล่ะ จะเป็นยังไงกันแน่!?

____________________________________________

เป็นไงบ้างครับ กับตอนนี้ ที่เปลี่ยนคนวาดชั่วคราว หันมาใช้ลายเส้นสุดจะคลาสสิคแทน

แล้วก็มีอีกอย่างหนึ่งที่ต้องขออธิบายเล็กน้อย เกี่ยวกับบัตร AMEX Black ในเรื่อง ที่บางคนอาจจะสงสัยว่ามันมีจริงด้วยเหรอ บัตรที่รูดได้ไม่อั้นเนี่ย

มันมีจริงๆครับ บัตร AMEX Black หรือ Americam Express Centurior Card นี้คือบัตรที่ในปัจจุบันถือว่าเป็นบัตรที่มีสิทธิประโยชน์และอภิสิทธิ์สูงที่สุดในโลกครับ

โดยรายละเอียดของบัตรนี้มีดังนี้ครับ (ลอกเขามาทั้งดุ้น)

คนที่จะมีบัตรนี้ได้จะต้องมาจากการเชิญเท่านั้น ข้อมูลบอกว่าทั้งโลกมีบัตรดำนี่อยู่ไม่ถึง 10000 ใบ (ในเมืองไทยมีเพื่ยงคนเดียวที่ใช้ คือ ชาย อานันทวีป) ณ ปัจจุบัน

สำหรับผู้ที่ถูกเชิญ จะถูกกลั่นแล้วกลั่นอีก คุณสมบัติแบบคนธรรมดาไม่มีสิทธิ์เลย
– ต้องมีเงินนอน นิ่งๆ 5ล้าน US ไว้ค้ำประกันบัตร
– ต้องมียอดใช้จ่ายมากกว่า 750,000 Us ต่อปี
– เป็นบุคคลที่ไม่เคยมีประวัติเสียหายทางการเงินมาก่อน
– ค่าธรรมเนียมแรกเข้า 5,000 US ปีต่อไป 2,500 US
– การชำระค่าตั๋วเครื่องบิน ถ้าจ่ายด้วยบัตรนี้ต้อง First Class เท่านั้น ถ้านั่งต่ำกว่านี้ บัตรนี้ไม่รับจ่าย
– ค่ำธรรมเนียมออกบัตรใหม่ 25,000 US เพราะบัตรนี้ทำจาก ไททาเนียมทั้งบัตร

ดูสิทธิประโยชน์กันบ้าง
– วงเกินไม่กำกัด เท่าที่มีแรงจะรูด
– สามารถออกรอบกับ ไทเกอร์วู๊ด ได้ 1 ครั้งต่อปี
– สามารถใช้บริการ เครื่องบินส่วนตัวฟรี 1 ครั้งต่อปี เดินทางไปไหนก็ได้ทั่วโลก
– ห้องพักรับรอง First Class ทุกสนามบินนานาชาติมั่วโลก
– สามารถเข้า Club ที่ไหนก็ได้ทั่วโลก เพีบงโทรไปที่ AMEX
– มีเลขาส่วนตัว (เลขาจริง ๆ ไม่ใช่ Call center) บริการตลอดที่คุณถือบัตร
– รถรับส่งจากบ้านถึงสนามบิน ไม่จำกัดจำนวนครั้ง
– การสัมผัสกับประสบการณ์ไร้น้ำหนัก กับ บัซ อัลดริน อดีตนักบินอวกาศผู้เหยียบดวงจันทร์ บนเครื่องบินไร้น้ำหนัก
– และที่สนามบินในอเมริกา มีช่องสำหรับตรวจหนังสือเดินทางสำหรับ ผู้ถือบัตรนี้เท่านั้น
– ผู้ที่มีบัตรนี้เปรียบเสมือนมีบัตรเข้าชม Us Open เพียงแค่โชว์บัตรไม่ต้องซื้อตั๋ว และยังเป็นบัตรเข้างานกิจกรรมต่างๆ โดยไม่ต้องมีตั๋ว หากกิจกรรมนั้น  AMEX เป็นผู้สนับสนุน
-และที่สุดยอดของที่สุด บัตรใบนี้สามารถขอสิทธิ์เข้าไปเดินพรหมแดง ในการชมการประกาศรางวัลที่โกดักออสการ์ที่เธียร์เตอร์ ได้ 1 ครั้งในชีวิต

สโลแกน
เราจะทำในสิ่งที่คนมีเงินมากแค่ไหนอยากทำแล้วทำไม่ได้ให้เป็นจริง

บัตรพระเจ้าชัดๆ หากสนใจดูบัตรเหนือมนุษย์อันอื่นๆอีก สามารถไปดูได้ที่นี่เลยครับ (คห.9 นั่นไม่ใช่บัตรเหนือมนุษย์นะครับ นั่นมันบัตรผิดมนุษย์ ฮา)

จิ้มสิ แล้วจะรู้เอง