New Avengers #2
เรื่องโดย : Jonathan Hickman
ภาพโดย : Steve Epting
วางจำหน่าย : 16 มกราคม 2013
สำนักพิมพ์ : Marvel Comics

ILLUMINATI ได้รับรู้ถึงสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นและพวกเขาถูกบีบบังคับให้ต้องใช้สิ่งที่ไม่สมควรจะถูกใช้มากที่สุด

.

ความเดิมจากตอนที่แล้ว Black Panther พบกับ Black Swan และรับรู้ถึงภัยร้ายระดับจักรวาลและต่อโลกใบนี้ ทำให้เขาคิดที่จะรวมกลุ่ม The ILLUMINATI อีกครั้ง

สมาชิกในทีม ณ ปัจจุบัน

Black Bolt                เทพเหนือฟากฟ้า

Namor                       Imperius Rex      ผู้ถือครอง The  Power Gems

Reed Richard          ผู้สร้างจักรวาล        ผู้ถือครอง The Reality Gems

Iron Man                   จ้าวแห่งจักรกล      ผู้ถือครอง The Space Gems

Captain America    ตำนานวีรบุรุษ        ผู้ถือครอง The Time Gems

Doctor Strange        มหาเวทย์               ผู้ถือครอง The Soul Gems

Black Panther           ราชาแห่งความตาย

Professor Xavier     เสียชีวิต                 ถือครอง The Mind Gems

สามชั่วโมงก่อน ณ ที่กักกัน Black Swan

เธอกำลังทำอะไรบางอย่างอยู่ภายในที่กักขัง และเธอก็หยุดลงเมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าที่ไม่ใช่ของคนที่จับเธอมา และนั่นก็คือ Reed Richard ที่มาสอบถามเรื่องราวต่างๆจากเธอ

Black Swan : ข้าไม่เคยกลัวความเจ็บปวด

Reed : เอิ่ม…ผมว่าผมไม่เชื่อคุณสักเท่าไรนะ แต่ยังไงนั่นมันก็ไม่เกี่ยวหรอก และที่เกี่ยวและสิ่งที่ผมสนใจน่ะมันก็แค่สิ่งที่คุณรู้เท่านั้น… ดังนั้นถ้าคุณต้องการ เรามาคุยกันตามธรรมดาก็ได้

Reed : และถ้าจะให้เชื่อโดยสุจริตแล้วละก็….

Reed ทำการกด Ipad ของเขาและยื่นแบบร่างของอุปกรณ์ของเธอให้เธอดู

Reed : …ผมยืนยันได้เลยว่าผมไม่เคยเห็น…หรือแม้แต่จะรู้จัก เจ้าสิ่งที่คุณได้เก็บซ่อนมันไว้นี่เลย ดังนั้นทำไมเราไม่มาคุยกันหน่อยล่ะ และเพื่อนของผม—คนที่จับคุณมาเมื่อวานนี้น่ะ บอกผมว่าคุณกระโดดลงมาที่นี่จากอีกโลกนึง แล้วคุณก็เปิดการทำงานของอุปกรณ์ของคุณ แล้วมันก็ทำลายดวงดาวที่คุณลงมา ผมอยากจะรู้ว่าโลกใบนั้นมันมีชื่อเรียกว่าอะไร

Black Swan : โลกไงล่ะ แต่จริงๆมันแน่อยู่แล้วที่ชายที่ชาญฉลาดอย่างเจ้าจะรู้เรื่องนี้อยู่แล้ว

Reed : จากข้อมูลที่ผมจัดเตรียมไว้—รหัสเฉพาะตัว ทางชีววิทยาของคุณ… รวมถึงสิ่งอื่นๆ…มันทำให้ได้ผลสรุปที่เหมือนกันมาก แต่มันยังมีข้อสงสัยอยู่อีกข้อหนึ่ง และมันไม่ใช่สิ่งอื่นไกลเลย ไม่ใช่แม้แต่คำพูดของคุณ แต่มันให้การยืนยันได้ ซึ่งยังไงก็ตาม คุณก็ยังสามารถที่จะหลอกลวงผมได้อยู่นะ…

Reed : ทำไมถึงมีคนที่คิดจะทำลายดวงดาวบ้านเกิดของตัวเองล่ะ

Black Swan : ฉันไม่มีสถานที่แบบนั้นหรอก ข้าก็แค่ทำลายดวงดาวต่างๆ…ตามความต้องการที่กงล้อแห่งชะตาได้เสนอมาให้ และผู้ทำลายล้างผู้ยิ่งใหญ่ก็จะคอยรับมัน

Reed : ถ้าคุณจะพูดแบบนั้น บนสมุดบันทึกของผมก็บอกไว้ว่าคุณได้สังหารเพื่อนร่วมงานของคุณไป เขาคือ “ผู้ที่ได้รับการเสนอ” เช่นเดียวกันใช่มั้ย หรือมันเป็นอะไรที่พื้นๆกว่านั้น… อย่างเช่นเป็นธรรมชาติของพวกคุณ

Black Swan : มันคือความกรุณา สิ่งต่างๆมันช่างไร้ค่าเมื่อออกมาจากจักรวาลของพวกเรา ความตายของเขาคือของขวัญที่ข้ามอบให้แก่กงล้อแห่งความอัปยศและอ่อนแอ

Black Swan : และนี่คือสิ่งที่เจ้าต้องเข้าใจ รีด ริชาร์ด สิ่งที่ข้าทำ…ทุกๆสิ่ง…ข้าทำลงไปเพราะมันจำเป็น ดังนั้นทำไมเจ้าถึงไม่ถามข้าตรงๆในสิ่งที่เจ้าต้องการแทนที่จะมาจัดฉากให้ข้าค่อยๆพูดในสิ่งที่เจ้าต้องการล่ะ

Reed : ก็ได้… สิ่งที่ผมอยากจะรู้ก็คือถ้าคุณบอกว่ามันไม่มีที่ไหนที่เรียกว่าบ้าน—และถ้าคุณไม่ต้องการคนอื่นๆ—ทำไมกล้องวงจรปิดภายในห้องถึงเห็นว่าคุณกำลังร้องขอความช่วยเหลือ และหลังน้ำตาออกมาเมื่อคืนนี้ มันเป็นเพราะการกระทำของคุณตามมาหลอกหลอนคุณหรือเปล่า แม่สาวน้อย…หรือว่ามันเป็นเพราะอย่างอื่น

Black Swan หันหลับมาตอบทั้งน้ำตา

Black Swan : เพราะทำลายซึ่งความหวังไงล่ะ…มันทำลายสิ่งต่างๆที่ดีงามรอบๆตัวเรา และขโมยไปแม้กระทั่งเกียรติยศที่เหลืออยู่ แกไม่รู้หรอกว่าอะไรกำลังจะมา

Reed : แล้วทำไมคุณไม่ลองบอกให้ผมฟังล่ะ

1 ชั่วโมงก่อนหน้านี้

Black Panther เดินทางมายังห้องลับที่อยู่ลึกเข้าไปด้านในโบราณสถาน ซึ่ง Dola และ Miraje การ์ดที่ทำหน้าที่เฝ้าที่นี่ไม่ค่อยยินดีกับแขกที่อยู่ด้านในสักเท่าไร เพราะเขาเป็นคนที่ทำให้เกิดความตายขึ้นมานับ 1000 จากเหตุการณ์ไม่นานมานี้ และถ้าคนอื่นรู้เข้าว่าเขาอยู่ที่นี่ละก็… แต่ Black Panther ก็บอกว่าจงปล่อยความกลัวนั่นทิ้งไปเพราะมันมีเรื่องที่หน้ากลัวยิ่งกว่ากำลังจะมา… และเขาเชื่อใจทั้งคู่ให้เก็บเรื่องนี้เป็นความลับ

ใช่แล้วแขกไม่ได้รับเชิญของที่นี่ไม่ใช่ใครอื่น Namor นั่นเอง

Namor : ว่าไง ทิชาลล่า

Black Panther : เมื่อแกมาอยู่ที่นี่มันมีกฎที่แกต้องทำตามนะ นามอร์ นอกจากฉันแกห้ามเข้าไปติดต่อกับชาววากานด้าคนอื่นๆเด็ดขาด และจงอย่าให้ถูกเห็น แต่ถ้าถูกพบเห็นก็จงอย่าได้พูดอะไรตอบโต้ และไม่ว่ายังไงก็ตามห้ามแกออกไปเฉียดใกล้ เนโครโพลิสและตัวเมืองเด็ดขาด แกเข้าใจใช่มั้ย

Namor : นี่มันดูจะเป็นเรื่องยากสำหรับนายเหมือนกันนะเนี่ย

Namor : ในสถานที่แห่งความลัของพวกเรา ฉันจำได้ว่า…นายเคยบอกว่าการรวมตัวแบบนี้มันเป็นความผิดพลาดร้ายแรง…นายเรียกพวกเราว่าเจ้าพวกโง่ และบอกว่าพวกเราไม่รู้ว่าพวกเรากำลังทำอะไรกันอยู่ ดังนั้นบอกฉันมาซะทิชาลล่า ว่านายคิดผิดไป…หรือนายกำลังเข้าตาจนอยู่กันแน่

Black Panther : เมื่อแกมาอยู่ที่นี่มันมีกฎที่แกต้องปฏิบัติตาม นามอร์ แกเข้าใจใช่มั้ย

Namor : เออ

Black Panther : งั้นก็ดี มันถึงเวลาที่จะไปรวมกับคนอื่นๆแล้ว

Black Panther : แต่มันยังมีสิ่งสุดท้ายที่ฉันต้องบอกแกไว้… มือของแกมันเปรอะเปื้อนไปด้วยเลือดของประชาชนของฉัน ดังนั้นเมื่อไหร่ก็ตามที่พวกเราเสร็จงาน–เมื่อความอยากมันเข้ามาแทรกแทนความต้องการของฉัน

Black Panther : เมื่อนั้นแหละฉันจะลงมือฆ่าแกด้วยมือของฉันเอง

ปัจจุบัน

“ทุกสิ่งทุกอย่างกำลังตาย”

“ทั้งคุณ ผมเอง รวมไปถึงทุกสิ่งทุกอย่างบนโลกใบนี้ ทั้งดวงอาทิตย์ หรือแม้แต่จักรวาลเองก็ตาม เพราะนี้แหละคือสิ่งที่มันจะเป็นไป”

“มันเป็นเรื่องที่พวกเราไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้”

“และฉันก็ยอมรับมัน”

Reed พูดออกมาต่อหน้าของเหล่า ILLUMINATI ที่นั่งอยู่บนโต๊ะประชุมของพวกเขา

Reed : สิ่งที่ฉันจะทำต่อไป –มันไม่สามารถอภัยให้ได้ สิ่งที่ฉันรู้มา—มันไม่อาจยอมรับได้ ถ้าสิ่งที่ไม่เป็นธรรมชาติมาเร่งความตายให้มันเกิดเร็วขึ้น และนั่นคือสาเหตุที่ทิชาลล่าเรียกพวกเรามาที่นี่…

Reed : สิ่งที่พวกเรากำลังเผชิญหน้าอยู่ คือจุดจบที่ไม่เหมาะสมและไม่สมควรของทุกสิ่งทุกอย่าง

Tony : ดูสิ รีด… นี่แหละคือสาเหตุที่นายไม่เคยโดนเรียกตัวไปงานปาตี้ดีๆกับเขาเลยไงเล่า

Dr.Strange : หลายครั้งหลายคราแล้วที่พวกเราต้องเผชิญกับจุดจบของโลก และตลอดเวลาที่นายปฏิเสธการเรียกของพวกเรา…ปฏิเสธที่จะเข้าร่วมกับพวกเรา… ทำไมเรื่องนี้มันถึงทำให้แตกต่างออกไปแบบล่ะ

Black panther : นั่นเพราะ อนาคตของของคนของฉัน ได้ตายในอ้อมแขนของฉันเมื่อวานนี้ไงล่ะ สตีเฟ่น และอะไรก็ตามที่จะตามา ต้องชดใช้สำหรับเรื่องนั้น

Dr.Strange : แล้วอะไรต่อล่ะ…

Namor : ยังก่อน ก่อนที่จะเข้าเรื่องถึงสิ่งที่นำพวกเรามายังที่นี่… มันมีสิ่งที่ต้องเราต้องระมัดระวังว่าจะไม่ถูกขโมยไป พวกเราเคยถูกแทรกซึมมาก่อนแล้ว ถูกหลอกเหมือนไอ้โง่ และถ้าเรื่องนี้มันสำคัญจริงๆ ฉันยิ่งต้องอยากรู้เลยว่าพวกนายคือคนที่บอกว่าเป็นจริงๆ… ยืนยันตัวเองซะ

Namor หยิบ The Power Gems ขึ้นมาเพื่อยืนยันว่าเขาเป็นตัวจริง

*เหตุการณ์ใน Secret Invasion ที่ Black Bolt เป็นพวก Skrull ปลอมตัวเข้ามาในกลุ่ม

และ Reed ก็เห็นด้วยพร้อมหยิบ The Reality Gems ขึ้นมา

Reed : นามอร์พูดถูก

และ Cap ก็เห็นด้วย พร้อมนำ The Time Gems ของเขาขึ้นมา

Cap : ฉันเห็นด้วย สตีเฟ่น…โทนี่… อินฟีนิตี้เจมส์ของพวกนายอยู่ที่ไหน

Dr.Strange : เหนือขึ้นไปจากดินแดนแห่งความวุ่นวายของชูม่า-โกราธ มันมีโครงสร้างมิติแห่งความเป็นจริงขนาดเล็กที่เกิดขึ้นจากแสงสว่างสีขาวบริสุทธิ์ที่มาจากการภาวนานับล้าน และฉันได้เก็บซ่อน Soul Gems ไว้ที่นั่น การจะนำมันกลับมาต้องใช้พลังงานมหาศาล ดังนั้นฉันจะทำเมื่อจำเป็นเท่านั้น

Tony : ส่วนของฉันน่ะเหรอ เก็บไว้ที่ลิ้นชักถุงเท้าว่ะ และนั่นมันก็พอแล้วสำหรับการตรวจสอบ จบเรื่องนี้ซะทีเหอะ เพราะฉันอ่ะอยากรู้จะแย่อยู่แล้วว่าอะไรที่เอาความกลัวระดับบร๊ะเจ้ามาใส่หัวของพ่ออัจฉริยะ 2 หน่อ ที่ฉันรู้จักนี่ได้

Tony : ฉันชื่อโทนี่ สตาร์ก และฉันนี่แหละไออ้อนแมน

“ยืนยัน “

Tony : แล้วนั่นก็แบล็คโบลท์ ราชายามค่ำคืน ผู้ปกครองเหล่าอินฮิวแมนด์

(พี่แกพูดไม่ได้ ได้แต่แอ็คท่าแล้วให้เฮียโทนี่พูดแทน)

“ยืนยัน”

Reed : รีด ริชาร์ด แห่งสี่กายสิทธิ์ (เก็กหล่อด้วย)

“ยืนยัน”

Dr.Strange : ส่วนฉัน ด็อกเตอร์ สตีเฟ่น สเตร็ง…ผู้เป็นเจ้าของดวงตาแห่งอากาม็อตโตะ ที่มองเห็นทุกสรรพสิ่ง

“ยืนยัน”

Black Panther : ที่พวกนายมีอินฟินิตี้เจมส์นั่นแหละที่ยืนยันถึงความกลัวของฉันสำหรับการรวมกลุ่มของพวกเรานี่เลย  ฉันมองเห็นเพียงแต่ความเศร้าเสียใจ

Black Panther : แล้วฉัน ทิชาลล่า แบล็กแพนเธอร์

“ยืนยัน”

Namor : ฉัน นามอร์ ผู้ดูแลท้องทะเล และขอบอกว่าฉันไม่เคย…เสียใจ

“ยืนยัน”

Cap : และฉัน สตีฟ โรเจอร์ กัปตันอเมริกา

“ยืนยัน”

Cap : นี่มันน่าอัศจรรย์จริงๆ และถ้าพวกเราได้รับฟังเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับทิชาลล่า บางทีใครบางคนอาจจะสามารถอธิบายเรื่องนี้ได้ว่าทั้งหมดมันเกิดอะไรขึ้น ว่าไงล่ะ รีด

Reed : แน่นอน และฉันคิดว่ามันคงจะดีกว่าถ้าฉันจะเริ่มจากสิ่งที่พวกเรารู้อยู่แล้วว่ามันเป็นความจริง

Reed เรียกลูกบาศก์ขนาดเล็กขึ้นมากลางโต๊ะประชุม

“ชีวิตและความตาย”

“การถือกำเนิดและการล้มตายมันคือ 2 สิ่งที่อยู่ตรงข้ามกันของเส้นขนานของจักรวาล”

“ทั้งจุดเริ่มต้นและจุดจบของโลกของเราเองก็อยู่บนเส้นนี้ด้วยเช่นกัน และแน่นอนว่ามันจะล่มสลายภายใต้2จุดนี้ด้วย”

“โลกของเรากำเนิดขึ้นภายหลังจากการถือกำเนิดของจักรวาล และโลกของเราจะตายจากไปก่อนที่จักรวาลจะถึงจุดจบ”

“และพวกเราก็รู้ว่ามันจักรวาลอยู่อีกหลายจักรวาล โลกอีกนับไม่ถ้วนภายใต้จักรวาลอันกว้างใหญ่ไพศาล สถานที่ซึ่งแสดงออกถึงสิ่งที่แตกต่างกันออกไป”

“มันมีความเป็นไปได้ที่ไร้ที่สิ้นสุด”

“แต่อย่างไรก็ตาม ก็ตามที่ฉันได้บอกไปแล้วว่า… ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนต้องตาย”

“ดังนั้นไม่ต้องคำนึงถึงหรอกว่ามันจะมีโลกในความเป็นจริงอยู่เท่าไร เพราะพวกมันล้วนต้องมาถึงจุดเดียวกัน จุดดับสูญของทุกสรรพสิ่ง”

“และที่นี่แหละคือจุดที่อยู่ของปัญหาของพวกเรา”

“ฉันได้รับรู้มาว่าในโลกใบหนึ่งจากบรรดาโลกอันมหาศาลเหล่านี้ ได้เกิดเหตุบางอย่างขึ้นซึ่งเป็นต้นเหตุที่ทำให้เกิดความตายขึ้นก่อนจะถึงกำหนดของจักรวาลเหล่านี้”

“และเจ้าสิ่งผิดปกตินั่นเองก็เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดจุดด่างพร้อยเล็กๆมากขึ้นเรื่อยๆบนจักรวาลมัลติเวิร์ส”

“และตอนนี้ทุกสิ่งทุกอย่างจะต้องล้มตาย ภายในเวลาอีกไม่นาน”

“ซ้ำร้าย เจ้าจุดด่างพร้อยเล็กนั่นๆ ก็เป็นสาเหตุที่ทำให้จักรวาล 2 จักรวาลพุ่งเข้าชนกัน ณ จุดที่เกิดการเริ่มต้นขึ้น”

“และนี่คือที่ที่พวกนายจะต้องสนใจ…เพราะจุดนั้นก็คือโลกไงล่ะ”

“พวกมันจะสัมผัสและทำลายกันเอง—และนำพาจักรวาลของพวกมันไปด้วย—และเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดหดตัวของจักรวาลมากขึ้นบนเส้นเวลานั้น”

“และการชนกันนั้นเริ่มจะเกิดเร็วขึ้นเรื่อยๆ จากโลกหลายๆโลกตามลำดับของจักรวาล”

“และทิชาลล่าของเราก็เป็นพยานผู้พบเห็นเหตุการณ์ที่โลกอื่นกำลังเคลื่อนตัวมาชนกับโลกของเรา”

Cap : ฉันไม่เข้าใจแฮะ ว่าถ้ามันเกิดเรื่องแบบนั้นขึ้นแล้ว ทำไมพวกเราถึงยังมานั่งกันอยู่ตรงนี้ได้อีกล่ะ

Black Panther : ผู้หญิงคนนั้น…แบล็ค สวอนน่ะ… ใช้อุปกรณ์ของเธอเพื่อทำลายโลกใบอื่นเพื่อป้องกันการปะทะที่จะเกิดขึ้น

Tony : เธอเรียกตัวเองว่างั้นจริงดิ

Black Panther : ใช่

จากทั้งหมดก็ปรึกษาและถกกันเรื่องนี้ ซึ่ง Tony ก็บอกว่าพวกเขายังมีอีกหลายเรื่องที่ไม่รู้ ว่ามันเริ่มที่ไหน และมันจะหยุดหรือทำให้ช้าลงได้มั้ย และ Reed ก็บอกว่าตอนนี้พวกเขาได้เทคโนโลยีของ Black Swan มาแล้ว รวมถึงกลไกการยิงมันออกไปเพื่อทำลายโลกใบอื่นด้วย จากนั้น Cap ก็บอกว่าพวกเราควรจะหยุดพูดคุย แล้วไปเตรียมการรับมือเหมือนกับที่พวกเขาเคยทำมา รวบรวมผู้มีความรู้และเมือ่มันเกิดขึ้นอีกเราก็จะหาหนทางชนะจนได้ นั่นเพราะพวกเขาทำแบบนั้นมาตลอด แต่ Reed ก็สมทบว่ามันไม่มีเวลาขนาดนั้น เพราะมันมีกฎของมัน

“ตามที่ฉันได้รายงานไปแล้วว่าในช่วงที่โลกทั้งสองจะเกิดการชนกัน มันจะมีช่วงเวลาที่เรียกว่า การจู่โจม เกิดขึ้น และทุกๆโลกก็เหมือนกัน”

“ก่อนที่พวกมันจะเริ่ม มันจะมีช่วงเวลาที่โลกทั้งสองเรียงตัวเสมอกัน และนั่นทำให้เหล่าผู้อยู่อาศัยจากทั้ง 2 โลกสามารถเดินทางถึงกันได้”

“และข่าวดีเล็กน้อยก็คือ พวกเราอาจจะสามารถที่จะตรวจจับมันได้ และสร้างเครื่องเตือนภัยขึ้นมาเพื่อให้เรารับรู้ได้เมื่อมันเกิดขึ้น”

“แต่ที่น่าเสียดายนั่นก็คือ เมื่อ การจู่โจม นี่เกิดขึ้น มันจะมีเวลาให้พวกเราได้ทำอะไรเพียงเล็กน้อยเท่านั้น”

“และทุกๆ การจู่โจม จะมีเวลาประมาณแค่ 8 ชั่วโมงเท่านั้น”

“และเมื่อมันจบ 8 ชั่วโมงนั้นไป สิ่งที่ตามมานั้นง่ายดายมาก โลกทั้งสองทั้งสองจะพุ่งเข้าชนกัน และทำลายพวกมันเองทั้งคู่รวมไปถึงจักรวาลของพวกมันด้วย”

“…หรือ ไม่ก็…มีเพียงโลกเดียวที่ถูกทำลาย จากการกำจัดไปในช่วงที่เกิดการจู่โจมขึ้น ใน 2 จักรวาล”

“นั่นแหละ 8 ชั่วโมง กับ 1 เหตุการณ์ ที่นำไปสู่ 2 บทสรุปที่เป็นไปได้”

ซึ่ง Reed ก็คิดว่าบางที Black Swan อาจจะกำลังหลอกพวกเขาก็อยู่ก็เป็นได้ แต่มันก็ยังมีจุดเล็กๆที่จริงนั่นคือที่เธอทำลายโลกใบอื่นก็เพื่อความอยู่รอดของเธอ และตอนนี้เรื่องของเธอก็จบแต่เพียงเท่านี้ พวกเขามีเวลาแค่ 8 ชั่วโมงเท่านั้น จากนั้นก็โยนให้ T’Challa ต่อ

และนั่นคือสิ่งที่ T’Challa เรียกพวกเขามา เพราะเรื่องนี้มันเกินกว่าการตัดสินใจของเขาคนเดียว และพวกเขาก็อาจจะเป็นความหวังเดียวของโลกใบนี้ ดังนั้นจึงอยากให้ช่วยเขา ช่วยเหลือคนของเขา—ช่วยเหลือโลกใบนี้และจักรวาลนี้ แต่ Dr.Strange ก็บอกว่าขนาดของเรื่องนี้มันใหญ่เกินกว่าจักรวาลเดียว เพราะมันเป็นเรื่องของจักรวาลทั้งหมด ซึ่งมันมีอยู่ไม่รู้เท่าไร และดูจะเป็นการตัดสินใจที่ยากมาก แต่ Namor ก็บอกว่ามันไม่ได้ยากอะไรเลย แค่เพราะผู้หญิงที่พวกเขาขังไว้ก็ทำลายโลกมาเยอะแล้ว เพราะงั้นคำถามก็คือ ใครจะเป็นคนทำลายโลกใบอื่นๆเพื่อช่วยเหลือโลกของพวกเขา และนั่นทำให้ทั้งโต๊ะเงียบลงในทันที

(ถามจริงใครเชิญ Black Bolt มาร่วมทีมเนี่ย พี่แกเสนอความคิดเห็นไม่ได้นะเฟ้ย (ถึงได้พูดมาก็ไม่ได้ยิน))

จากนั้น Tony ก็พูดขึ้น ว่าพวกเขาต้องยอมรับว่ามันแทบจะสิ้นหวัง และพวกเขามีปัญหาที่ต้องการคำตอบที่สมบูรณ์แบบเท่านั้น แถมยังต้องการเวลา รวมไปถึงการเปิดซึ่งกันและกันด้วย และถ้ามันจะเป็นจุดจบของทุกสรรพสิ่ง มันคงจะดีกว่าถ้าพวกเขาได้นั่งพูดคุยกันอยู่ที่โต๊ะและหาคำตอบด้วยกัน แต่ Cap ไม่เห็นด้วย และเขาก็บอกเขาไม่ชอบอะไรแบบนี้จริงๆ แถมพวกเขายังไม่ต้องทำอะไรแบบนั้นอีกต่างหาก และนั่นทำให้ Reed รู้ว่า Cap ต้องการอะไร

เขายื่น The Time Gems ออกมา

Cap : จำได้มั้ย ว่าพวกเรามีอะไรที่ดีกว่านั้นเยอะ…พวกเราแค่ต้องใช้มัน…

ใช่แล้วเขาหมายถึง Infinity Gauntlet นั่นเอง

ทุกคนต่างมองหน้ากัน

Reed : งั้นพวกเราต้องการอัญมณีทั้ง 6 เพื่อทำแบบนั้น

Dr.Strange ก็เรียกอัมณีของเขาออกมา

Dr.Strange : ชาร์ล เซเวียร์ สิ้นไปแล้ว และที่อยู่ของ ไมน์ เจมส์ก็ หายไปพร้อมกับเขาด้วย

Namor : ไม่หรอก… เราสามารถใช้อัญมณีทั้ง 5 ของพวกเราเพื่อตามหามันได้… เพราะพวกมันเรียกร้องหากัน

แล้ว Infinity Gauntlet ก็ปรากฏขึ้นมาพร้อม Gems ทั้ง 5 ประดับอยู่บนนั้น

Tony : เอาแล้วไง แล้วตกลงพวกเราเห็นด้วยจริงงั้นเหรอ? ที่จะใช้ถุงมือเมพนี่น่ะ?

Cap : ใช่

Reed : แอนโธนี่, ทิชาลล่า และฉันจะเริ่มวางโครงสร้างระบบสำหรับเตือนภัยต่อการมาของ การจู่โจม นั่น

Cap : ส่วนฉัน,แบล็ค โบลท์ และนามอร์ จะตามหาไมน์ เจ็มส์เอง

Cap : ดีล่ะงั้น ตอนนี้…ฉันต้องการให้ทุกๆคนมองมาที่ฉัน

Cap : ใช่แล้วนี่มันคือเรื่องใหญ่จริงๆ และมันคือเรื่องที่มืดมน แต่จำได้มั้ยว่าพวกเราคือผู้ที่จะปกป้องโลก… ไม่ใช่ให้มันมาปกป้องเรา…

“ถ้าพวกเราไม่หวั่นไหว พวกเราก็จะไม่ล้มเหลว”

“พวกนายต้องเชื่อแบบนั้น”

หรือนี่จะเป็นภาพในอนาคต Reed และ Tony ช่วยกันปกป้องโลกในช่วงเวลาแห่งการจู่โจม และพวกเขาถูกจู่โจมจากสัตว์ร้ายจำนวนมาก จนเรียกได้ว่าสิ้นหวัง แขนของ Tony ข้างนึงขาดอยู่บนพื้น

“จงเชื่อมั่นในสิ่งนั้น…”

Black Bolt ต้องรับมือกับมือกับเหล่าผู้ที่มีพลังมหาศาลเหนือกว่าเขา

“จงเชื่อมั่นในพวกพ้อง…”

Namor ปะทะกับเหล่ายอดมนุษย์ของโลกอื่น (2 คนหลังนี่แบบมันคุ้นๆนะ)

“และนั่นคือสิ่งที่จะทำให้มันสำเร็จลงได้”

“ฉันรู้ว่ามันต้องเป็นแบบนั้น”

Black Panther และ Dr.Strange ปะทะทหารหุ้มเกราะจำนวนมาก

ภายหลัง

Reed เดินออกพบกับ T’Challa

Reed : แคปและคนอื่นๆกำลังเตรียมตัวออกไปแล้ว…ส่วนโทนี่ก็กำลังเริ่มรวบรวมอุปกรณ์ที่จะใช้ทำระบบเตือนภัยแล้ว

T’Challa : เยี่ยมเลย งั้น…. มันก็ดูเหมือนว่าทุกๆอย่างกำลังไปได้สวย แต่พวกเรารู้ดีกว่านั้นใช่มั้ย

Reed : โลกจำนวนไร้ที่สุด และการมาของพวกมันก็ไร้ที่สุด ถ้ามันง่ายที่จะหยุดมันจริงๆละก็…มันก็ควรจะหยุดไปนานแล้ว นั่นหมายหมายความว่ามันมีมากกว่า 2 ความเป็นได้…

T’Challa : ใช่แล้ว ปัญหามันอยู่ที่ตัวระบบ…โครงสร้างของจักรวาลตามธรรมชาติ—ซึ่งไม่สามารถทำให้มันกลับถูกต้องได้ หรือ….

Reed : พูดต่อสิ

T’Challa : มันไม่ใช่แบบนั้น และมีบางสิ่งที่เป็นตัวกระตุ้นให้เกิดความตายของทุกสรรพสิ่ง

T’Challa : รีด พวกเราจะทำยังไงถ้าแผนมันใช้การไม่ได้

Reed : โทนี่พูดถูก พวกเราต้องการเวลาแต่พวกเราไม่มี พวกเราต้องการตัวเลือกมากกว่านี้… และทางเลือกทุกๆทางนั่นต้องอยู่ที่โต๊ะนั่นแน่ๆ แต่ตอนนี้พวกเราจะพยายามหาทางออกทุกๆหนทางที่มันดีที่สุดและชอบธรรมเท่าที่เราสามารถทำได้

T’Challa : แล้วถ้ามันยังใช้การไม่ได้อีกล่ะ

Reed : ถ้างั้นเราก็ต้องสอนตัวเราให้ทำในสิ่งที่คาดไม่ถึงแล้วล่ะ…

ในช่วงนั้นเองที่ Reed นึกถึงคำพูดของ Black Swan ขึ้นมา คำพูดที่เธอพูดทั้งน้ำตา

Reed : พวกเราต้องเรียนรู้หนทางที่จะทำลายโลก

ปัญหาที่พวกเขาพบเจอช่างเป็นเรื่องที่ยากเกินแก้ไข เมื่อมันเกี่ยวข้องกับจักรวาลจำนวนมหาศาล แม้แต่เหล่า ILLUMINATI ยังจนปัญญา แล้ว  Infinity Gauntlet จะสามารถช่วยพวกเขาได้หรือไม่

ติดตามตอนต่อไป

เล่มหน้า

Infinity, สิ่งที่ไม่คาดฝัน และผู้ถูกคัดออก

เผนแพร่ครั้งแรกที่ : [Spoil] – New Avengers #2