Avengers #4

ไททั่นผู้พลัดถิ่น

เรื่อง : Jonathan Hickman

ภาพ : Adam Kubert

วางจำหน่าย : 19 ธันวาคม 2012

สำนักพิมพ์ : Marvel Comics

   

   

แม้การต่อสู้ระหว่าง Avengers กับเหล่า Garden จะสิ้นสุดลง

แต่สิ่งที่ Garden ได้ทิ้งเอาไว้ ยังคงอยู่บนโลก

  

  

 

 

Avengers ตอนที่แล้ว

     

Ex Nihilo:   ผมน่ะ มันเป็นศิลปิน

Ex Nihilo:   ฉะนั้นเจ้าพวกชีวมวลที่ผมยิงขึ้นไปผ่านชั้นอวกาศไปสู่โลกนั้น

Ex Nihilo:   ระเบิดแห่งชีวิต ทุกลูกที่ผมส่งไป

Ex Nihilo:   ล้วนอุดมไปด้วยไวรัสที่ผมรังสรรค์ขึ้นมาเองกับมือ

Ex Nihilo:   มันจะช่วยเปลี่ยนแปลงรหัสพันธุกรรมซะใหม่

 

Ex Nihilo:   ระเบิดแค่ละลูกจะให้ผลที่ไม่เหมือนกัน

Ex Nihilo:   มันจะช่วยให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่หลากหลายตามแต่วัตถุประสงค์ที่ต่างกันไป

Ex Nihilo:   ซึ่งทุกๆอันจะช่วยให้โลกของพวกคุณเป็นโลกที่ดีกว่าสำหรับอนาคตใหม่ที่จะเกิดขึ้น

 

Ex Nihilo:   ดูไอ้ควันที่พุ่งตัดขอบฟ้านั่นสิ

Ex Nihilo:   สงสัยจริงๆว่า พระแม่ธรณีรู้สึกแบบนี้ใช่มั๊ย ในตอนที่สร้างสรรพสิ่งขึ้นมา

Ex Nihilo:   จงไป จงเกิด

 

Ex Nihilo:   ผมไม่ได้อยากจะเป็นแค่ผู้ทำลายโลกนะ

Ex Nihilo:   ผมอยากเป็นผู้สร้างโลกต่างหาก

 

Ex Nihilo:   แต่เป็นนาย นายก็คงสงสัยอยู่เรื่องใช่มะ?

Ex Nihilo:   ชั้นได้สร้างโลกมานับพันใบ และเห็นหายนะมาก็มาก

Ex Nihilo:   มีแต่โลกของนายที่พระแม่ท่านเลือกที่จะอาศัยอยู่

 

Ex Nihilo:   อะไรทำให้โลกของนายวิเศษกว่าโลกใบอื่นนัก?

 

Cap:   อยากให้ชั้นเดาให้มั๊ยล่ะ

“เพราะมันเป็น Avengers World น่ะสิ”

   

เมืองโกเบ (Kobe) ประเทศญี่ปุ่น

เขตกักกัง เขตที่หนึ่ง

Cap:   แผนกชีวะของหน่วย S.H.I.E.L.D.

Cap:   สามารถสร้างเครื่องป้องกันล้อมรอบพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ

Cap:   ให้แยกกับพื้นที่ที่ไม่ได้รับผลกระทยได้สำเร็จ

 

Cap:   รายงานจากหน่วย S.H.I.E.L.D. สาขาอินเดียกับโครเอเชียก็เหมือนกันกับที่นี่

Cap:   คือระยะที่อาวุธชีวะของพวก Garden มีในระยะ 10 ไมล์

Cap:   ส่วนพื้นที่ข้างในก็…

Cap:   ก็นะ เป็นพื้นที่ปิดตายไปเรียบร้อย Carol

Cap:   แทบไม่มีกิจกรรมหรือปฎิกริยาอะไรเกิดขึ้นตรงนั้นเลย

 

Cap:   เว้นแต่เมื่อประมาณสิบสองชั่วโมงก่อน

Cap:   มีพวก The Hand แอบบุกเข้าไปในพื้นที่กักกัน

 

Cap:   ยกขบวนเข้ามาเป็นกองทัพเลยล่ะ แต่พอพวกนั้นเข้าไปที่ตัวเมือง

Cap:   ดาวเทียมจารกรรมก็จับพวกมันไม่ได้อีกเลย

 

Cap:   จากนั้น….ก็ไม่มีอะไรอีกเลย

 

Cap:   พื้นที่อื่นเป็นยังไงบ้าง

 

Captain Marvel:   รัฐบาลแคนนาดาบอกว่าจะให้พวก Omega Flight จัดการปัญหาเอง

Captain Marvel:   ส่วนทางการออสเตรเลียก็ปฎิเสธจะให้เข้าเมืองเพิร์ธ

Captain Marvel:   หลังรู้ว่า S.H.I.E.L.D. แอบสร้างฐานสำหรับ Project: Perseus ที่นั่น

 

Note

1.เมืองเพิร์ธ ของออสเตรเลีย กับ เมืองเรจีนา ของแคนาดา เป็นสองเมืองแรกที่โดน Origin Bomb บรึ้มครับ

2. Omega Flight คือเหล่าฮีโร่แคนาดาที่เกิดขึ้นในข่วง Civil War ครับ โดย Tony ได้แต่งตั้งทีมนี้ขึ้นมาแทน Alpha Flight ที่ตาย (แต่ตอนหลังก็ฟื้นอ่ะนะ)

3.  Project: Perseus ยังไม่เปิดเผยครับว่ามันคืออะไร แต่อาจจะโยงกับ New Avengers  ก็ได้นะครับ

   

  

Cap:   อ่า ผมก็พอจะเข้าใจพวกนั้นอยู่นะ

Cap:   ไม่นับสองที่ที่ว่ามา ก็แปลว่าตอนนี้ พื้นที่ทั้งห้า กักกันครบเรียบร้อยแล้ว

 

Captain Marvel:   ก็จริงแต่ยังมีอีก

 

Black Widow:   เราได้ดูข้อมูลย้อนหลังกลับไปตอนที่ Origin Bombเข้าสู่ชั้นบรรยากาศ

Black Widow:   พวกเราคิดว่าอาจจะยังมี ระเบิดอีกลูก ตกหล่นอยู่อีก

 

Black Widow:   ตอนนี้กำลังให้เครื่องจำลองสถานที่ที่ระเบิดน่าจะตกอยู่

 

Cap:   Natasha ตอนนี้ หน่วย S.H.I.E.L.D. กำลังจะลงพื้นที่สำรวจกันแล้ว

Cap:   ทีมของชั้นกับทีมของ Tony คงจะง่วนกับทางนี้พอดูเลยล่ะ…

 

Cap:   ถ้าพวกเธอพบอะไรนะ ทั้งเธอกับ Carol ก็เก็บข้าวเก็บของ

Cap:   แล้วนำทีมลงสำรวจเลยนะ

 

Captain Marvel:   อาฮะ เก็บข้าวเก็บของเตรียมไว้แล้ว Cap

Captain Marvel:   ถ้าโดนอะไรสอยแล้วจะโทรไปนะ

     

 

หลังจากที่ทั้ง Black Widow และ Captain Marvel คุยกับ Cap เสร็จ

Hyperion ก็กำลังวิเคราะห์จุดที่ระเบิดจะลง

   

  

Hyperion:   อ้า พอจะรู้ปัญหาละ….

Hyperion:   คอมพิวเตอร์ฐานสอง (Binary Computer) นี่เอง

Hyperion:   ค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทาน (Friction Coefficient) มันผิดนะเนี่ย

(คือ อัตราส่วนระหว่างแรงเสียดทานต่อแรงกดตั้งฉากกับผิวสัมผัส)

Hyperion:   ลองใส่มุมดั้งเดิมของข้อมูล

Hyperion:   คำนวณใหม่

Hyperion:   ตัดเว็คเตอร์ที่มากกว่า 15 องศาออกไป

Hyperion:   คำนวณใหม่

   

เอ่อออออ อย่าบอกนะว่า Hyperion…พี่แกเล่นคำนวณหาพิกัดเองเลยเรอะ!

คอมนั่นหลายพันล้านบาทนะครับ แพงนะครับ! ให้เกียรติของแพงหน่อยเซ่!!

   

Captain Marvel:   เอาล่ะ ทุกคนได้ยินที่ Cap สั่งแล้วนะ

Captain Marvel:   เถ้าพวกเราโชคดี พวกเรา…

 

Hawkeye:   โชคไม่ดีต่างหาก

 

Captain Marvel:   อ่า โชคไม่ดีนั่นแหล่ะ Clint

Captain Marvel:   อยากให้นายเตรียม..

 

Hyperion:   ผมเจอแล้ว

 

Hawkeye:   ห๊ะ? เจออะไรเรอะ?

 

Hyperion:   จุดที่ระเบิดตกลงไป

Hyperion:   มันตกลงไปบริเวณนี้

   

Hyperion:   ไอ้ Savage Land นี่มันคืออะไรรึครับ?

   

  

หลายคนบอกว่า พวกเขาคือกลุ่มฮีโร่ ที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก

 

DOL

ภูมิใจเสนอ

   

Avengers

Earth’s Mightiest Heroes

   

ทีมพากย์อินทรี ก็ไม่ได้ให้เสียงภาษาไทยเหมือนกันนะจ๊ะ

(แน๊ะ! แล้วยังจะพูดอีกทำม๊าย!)

  

 

 

  

  

บนโลกที่ไม่มีอีกต่อไปแล้วนั้น เคยมีไททัน (Titan) สองตนนามว่า Hyperion

  

  

   

ตนแรกได้กลายเป็นตำนานที่ทุกคนกล่าวถึงไปทั่ว

   

   

ทุกคนต่างรู้ว่าเขาได้หนีออกมาจากดาวที่กำลังจะตาย

   

แล้วเดินทางมายังพื้นโลก

 

 

   

ชายที่เขาเรียกว่า คุณพ่อ ได้พบเขา

และหล่อหลอมเขาให้เป็นเครื่องมือในการขัดเกลาสังคม

 

 

   

 

 

 

เพื่อจะได้หล่อหลอมโลกและผู้คนบนโลกต่อไปในภาคหน้า

  

Father:  เห็นมั๊ย Marcus

Father:  การคิดว่าชุมชนไม่มีการเชื่อมต่อกันต่างคนต่างอยู่นั้นเป็นสิ่งที่ผิด

 

Father:  ถ้ามันถูกจริงนะลูก เราก็แค่ส่งสารของเราไปยังกลุ่มคนโดยตรง

Father:  ก็เหมือนเราได้ส่งสารของเราไปให้แก่ตัวบุคคลเดี่ยวๆแล้ว

Father:  ซึ่งวิธีนี้เป็นวิธีการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพมากกว่า

Father:  และยังเป็นวิธีที่เปลี่ยนแปลงสังคมได้ง่ายกว่าด้วย

 

Macus เติบโตขึ้น

พร้อมคำปฎิญานที่คุณพ่อของเขาได้มอบให้แก่เขา

  

  

  

ความจริงที่ต้องตรงไปตรงมา

 

ความคิดที่ต้องไม่ผิดพลาด

   

  

ทุกสิ่งที่ทำต้องทำให้ส่วนรวมดีขึ้น

  

ด้วยคำปฎิญานนี้เอง คุณพ่อ และ ลูก

จึงร่วมกันทำบางสิ่งที่งดงามขึ้นมา..

 

 

  

พวกเขาสร้างโลกของพวกเขาขึ้นมาใหม่

 

แต่อย่างที่บอกไป ว่ามี Hyperion สองตน

 

ตนหนึ่งที่โลกรู้จักและอีกตนที่เขาเก็บเอาไว้ข้างในตัวของเขา

   

  

  

  

คนที่เห็นในสิ่งที่คนไม่เห็น

  

เขาสามารถเห็นอิเล็กตรอนหมุนรอบนิวเคลียส

เขาสามารถมองเห็นส่วนเล็กๆที่ก่อให้เกิดทุกสิ่งได้

 

เขามองเห็นสังคมที่ยิ่งใหญ่ที่พวกเขาได้สร้างขึ้น

แต่เขาก็ยังเห็นผู้คนด้วย

 

เขามองเห็นผู้คนในยามที่เขาเต้น ในยามที่เขามองตาคนอื่น

ในยามที่เขาตกหลุมรัก

 

  

  

เขาเห็นว่าหากผู้คนร่วมมือกัน

ย่อมสร้างสิ่งใหม่ขึ้นมาในสมาคมของพวกเขาได้

  

เขาเห็นทุกสิ่งทุกอย่าง และเขาเก็บความหมายของสิ่งนั้น เอาไว้ในใจเขา

  

 Hyperion มีสองตน

     

  

ในเวลาต่อมา

เขตที่หก: The Fallen Heights

Savage Land

เขตติดเชื้อ

    ยาน Quinjet ของ Avengers ได้ลงจอดถึงที่หมาย

 

Black Widow:   จนกว่าจะตรวจอะไรเสร็จก็อย่าเพิ่งมือบอลไปจับอะไรเข้าล่ะ

 

Spider-Woman:   ได้เลย ไม่มีปัญหา

Spider-Woman:   ยังก็เถอะ…..ที่นี่ดูสวยดีนะ

 

Black Widow:   หมายถึงสวยแบบลึกลับและแปลกตาใช่มะ?

Black Widow:   เหมือนแบบผู้ชายสามคน ผู้หญิงสามคนหลงมาอยู่ในป่าแปลกถิ่นงี้

 

Black Widow:   อาจจะเกิดเรื่องสุดหรรษาขึ้นได้ทุกเมื่อใช่มะ?

 

Spider-Woman:   ประมาณนั้น

 

Black Widow:   หนังสยองขวัญแทบทุกเรื่องมันก็เปิดเรื่องมาแนวนี้หมดล่ะย่ะ Jessica

 

Captain Marvel:   จากที่ดูจากพื้นที่อื่นนะ

Captain Marvel:   พื้นที่ที่ติดเชื้ออยู่ๆ มันก็หยุดนิ่ง ทันทีทันใด

Captain Marvel:   มีการเคลื่อนไหวอะไรมั๊ย?

 

Hawkeye:   ถึงไอ้เครื่องนี่บอกแค่ในระยะใกล้ๆนะ

Hawkeye:   แต่จากที่บอกได้ตอนนี้คือ ยังไม่มีอะไร “เคลื่อนไหว” เลย

Hawkeye:   ….แต่ยังมีเสียหัวใจเต้นอยู่นะ

 

Captain Marvel:   อย่างที่คิดไว้ เจ้านี้คือดักแด้

Captain Marvel:   แล้วสิ่งมีชีวิตที่อยู่ในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ

Captain Marvel:   ระบบชีวะของสิ่งนั้นอาจจะถูกทำลาย อาจถูกเปลี่ยน

Captain Marvel:   หรืออาจจะอะไรไม่รู้

 

Captain Marvel:   สำรวจต่อเถอะ

   

   

  

ขณะที่กำลังสำรวจกันอยู่นั่นเอง Thor ก็จีบ Hyperion

 

  

Thor:   ข้าแต่ดินแดนชุ่มเสโทของ Surtur

Thor:   ที่นี่มันร้อนดีจริงๆ

(Surtur เป็นผู้ปกครอง ดินแดน Muspelheim จ้า ร้อนขริงๆ)

 

Hyperion:   ชั้นบรรยากาศโทรโพสเฟียร์ (Troposphere)

Hyperion:   ชั้นบรรยากาศชั้นล่างสุดของดาวดวงนี้ตรงบริเวณขั้วโลกมันบางนะ

Hyperion:    แสงดวงอาทิตย์มันก็เลย….กรองได้ไม่ดี

 

Hyperion:    ที่นี่ดีจัง

 

Thor:   ไม่หรอก ไอ้นี่ ต่างหากที่ดีจริงๆ Fimbulvinter ที่เก่าแก่นับร้อยปี

Thor:   พี่ชายข้าและตัวข้าไปแอบขโมยเจ้าขวดนี้มายักษ์น้ำแข็งตอนข้ายังหนุ่ม

 

Thor:   เอาไปสิ Hyperion ลองดื่มดู

Thor:    มันเหมือนวอดกาเพื่อสำหรับชายแท้เท่านั้น

   

 

   

Hyperion:    ผมบริโภคแต่แสงอาทิตย์ครับ ไม่บริโภคอาหารหรือน้ำดื่ม

Hyperion:    อีกอย่างแอลกอฮอล์มีแต่จะทำให้ร่างกายคุณอ่อนแอลงนะคัรบ (เพราะมันร้อน!)

 

Thor:    ฮ่า เจ้าก็พูดมา

Thor:    ส่วนข้าก็พูดไปว่า มันร้อน

Thor:    แล้วข้าจะอยากระงับ….

   

Hyperion:    เดี๋ยวนะครับ

Hyperion:    หกไมล์จากนี้ ผมเห็นอะไรบางอย่าง

 

Hyperion:    คนหลายคนครับ

   

คนหลายคนกำลังทำอะไรบางอย่างกับตัวดักแด้ที่เก็บชีวิตไว้ข้างใน

   

(เอิ่ม Hyperion กินพลังแสงอาทิตย์ มีตาเอ็กเรย์

แถมเป็นเด็กต่างดาวที่รอดจากดาวระเบิดแล้วมาตกที่โลก “คุ้นๆเนอะ!!!”)

 

  

?????:    ผมดูดสารจากเปลือกนอกออกมาแล้วครับ ดร.Jema

?????:    เตรียมการตรวจสอบตัวอย่างได้

 

Jema:    ด…ด…ดีม…มาก!

 

Jema:    ระวัง ห…ห…ให้ดี ต..ต…ต..แต่ให้ ว…ว..ว..ไวด้วย ดร.ด…ด…Deeds

Jema:    ด…ด…เดี๋ยวเราคง ม…ม…มี ข…ข..แขกมาเยี่ยม. น…น..ในเร็ววัน น..น..นี้

 

??????:    ก็จริงนะ เมื่อกี้ผมได้ยินเสียงเครื่องไอพ่นสุดจะเด่นของ Stark ยิงผ่านปั่นของพวก Wakanda ไป

??????:    พอจะบอกได้เลยว่าไอ้เสียงที่ได้ยินเมื่อกี้ต้องเป็นสียงของเครื่อง Quinjet แน่นอน

 

Deeds:    ถูกเผงเลยครับ ดร.tanaka

Deeds:    เครือง Quinjet ย่อมหมายถึงพวก Avengers

Deeds:    พวก Avengers ก็หมายถึงอุปสรรคที่น่ารำคาญ

 

Deeds:    ไม่ว่าเราจะทำเอกสารให้ไปเท่าไรก็ตาม

Deeds:    ไอ้พวกนั้นไม่มีทางจะปล่อยให้พวกเราเอาตัวอย่างของพวกเรากลับไปแน่นอน

Deeds:    พวกเราถึงต้องโร่ลงพื้นที่ภาคสนามมาเพื่อทดสอบทฤษฎีของพวกเราที่นี่ ตอนนี้!

 

Deeds:    เด็กฝึกงานนั่นอยู่ไหน?

   

ว่าแล้วเหล่าลูกน้องก็พาตัวเด็กฝึกงานมาหาด๊อกสะเตอร์ทั้งสาม

 

เด็กฝึกงาน:    คร้าบ คร้าบ ผมมาแล้ว

เด็กฝึกงาน:    ถึงผมจะไม่เข้าใจว่านี่มันเกิดอะไรก็เหอะ

เด็กฝึกงาน:    แต่พวกคุณจะให้ผมทำอะไร ผมก็พร้อมแล้ว!

 

Tanaka:    เยี่ยม พวกเรามีไวรัสที่สามารถ

Tanaka:    เปลี่ยนโครงสร้างร่างกายของสิ่งมีชีวิตได้อยู่ที่ Savage Land แห่งนี้

Tanaka:    พร้อมกับเครื่องบรรจุตัวอย่างพื้นๆ กับเครื่องป้องกันพื้นๆนี่

Tanaka:    พวกเราอยากรู้ว่า ถ้าใช้ไอ้ไวรัสนี่…กับตัวเธอ…จะเกิดอะไรได้บ้าง

 

Tanaka:    และข่าวดีก็คือ พวกเรามีสารตั้นต้นที่ใช้ในการทำปฏิกิริยาเคมี (Reagent) คอยช่วย

Tanaka:    เผื่อเกิดอาการไม่พึงประสงค์ขึ้น (Adverse Reaction)

   

  

Jema:    ช่าย

Jema:    ม…ม..ม..ไม่ต้องกัง ว..ว…วล ไอ้หนู

Jema:    พ..พ…พวกเรา ป..ป…เป็นหมอกัน ท..ท..ทั้งนั้น

 

ว่าแล้ว Jema ก็ฉีดสารที่ได้จากเปลือกดักแด้เข้าไปในร่างของเด็กฝึกงาน

 

Jema:    เป็นไง?

 

เด็กฝึกงาน:    อ้าาาาาา

 

Jema:    หืมมมม?

 

เด็กฝึกงาน:    ผมรู้สึกว่าตัวเองร้อนมาก เหมือนโดนไฟเผาเลย

เด็กฝึกงาน:    หัวใจผมเต้นในอัตราที่สูงมาก

เด็กฝึกงาน:    ผิวของผม…!!

   

เด็กฝึกงาน:    คุณพระช่วย

เด็กฝึกงาน:    ผิวของผม…มัน…มัน..

   

เด็กฝึกงาน:    มัน..มัน!!

   

โปร่งใส!!

   

   

  

 

ยังไม่ทันที่เด็กฝึกงานจะกล่าวคำว่าโปร่งใสเสร็จ เด็กฝึกงานก็

   

เด็กฝึกงาน:    อ๊ากกกกกกกก

    

เด็กฝึกงานลงไปนอนแน่นิ่งที่พื้น

  

Deeds:   แย่แฮะ ดูเหมือนทฤษฎีของเราจะผิดนะ

Deeds:    เด็กฝึกงานนี่…ไปเรียนที่ไหนเรอะ?

 

Tanaka:    ปริญญาเอกมหาวิทยาลัย Caltech สาขาจุลชีววิทยา (มหาลัยดังซะด้วย!)

Tanaka:    แต่โชคร้ายมีหนี้กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษาอยู่สองแสนกว่าดอล

 

Jema:    ป…เป็นหนี้ ท…ท..ท่วมหัว บ…บ.บ…แบบนี้

Jema:    ต….ต…..ตายซะดี ก….ก…กว่า

 

แต่ไม่ทันไร เหล่า Avengers ก็มาถึงที่เกิดเหตุทันพอดี

 

Hyperion:    อ้อ นึกว่าใคร

Hyperion:    ที่แท้ก็คือผู้ช่วยชีวิตพระเจ้าผู้กำลังวายชน

 

Deeds:    เอ๋?

 

Hyperion:    ผู้ช่วยชีวิตผม

Hyperion:    ผู้เกือบจะเป็นว่าที่เจ้านายผม

 

Hyperion:    พวก A.I.M. นี่เอง!

   

 

 

 

ทุกสิ่งกลายเป็นสีแดง ในวันที่โลกของ Hyperion ตายลง

 

 

   โลกอีกใบโผล่ขึ้นมาอยู่เหนือฟ้า

   

  

ลูกผู้สร้างโลกใบใหม่มาด้วยกัน

และตอนนี้พวกเขากำลังปกป้องมันด้วยกัน

   

 

  

   

  

เมื่อเวลาผ่านไป โลกทั้งสองกำลังจะสัมผัสกัน

Hyperion คือคนสุดท้ายที่หลงเหลืออยู่

   

  

Hyperion พยายามใช้พลังของเขา เยื้อโลกทั้งสองใบเอาไว้……

   

  

…..แต่แล้วโลกทั้งสองใบก็พังทลาย

พลังงานพวยพุ่งออกมาจากเอกภพทั้งสองที่กำลังพังทลายลง

   

  

(นี่คงเป็นเหตุการณ์ที่จักรวาลทั้งสองมาชนกันครับ

ดูรายละเอียดได้ใน New Avengers ของคุณ Genesis นะครับ)

 

 

 

 

 

 จากนั้นทุกสิ่งก็ดับสูญไป

 

 

ทุกสิ่ง ยกเว้นตัวเขา

  

เขาลอยล่งอยู่ในความว่างเปล่า

    

ล่องลอยและบอบช้ำจากความสูญเสีย

 

จนกระทั่งเขาถูกค้นพบและถูกดึงมายังเอกภพอื่น

 

เอกภพนี้

   

 

 

Captain Marvel:   คุณสุภาพบุรุษทั้งหลาย

Captain Marvel:   ช่วยอธิบายหน่อยได้มั๊ยว่าพวกคุณมาทำบ้าอะไรที่นี่

 

Jema:    พวกมาทำงานสำรวจและวิจัยสถานที่ทั่วไปน่ะ

Jema:    ในอำนาจหน้าที่ของสถานกงสุลที่ประเทศชิลี

 

Jema:    ก็นะ งานวิจัยไง แล้วงานมันก็ต้องเสร็จ

Jema:    ไม่ว่าเราจะได้รับอนุญาตให้เข้ามา หรือจะทำอะไรผิดกฎหมายก็ตาม

 

Jema:    พวกคุณทำอะไรไม่ได้หรอก

 

Hyperion:    แน่ใจเหรอ?

 

Jema:    แน่ใจสิฟระ!

Jema:    ตอนนี้ A.I.M. Island ถือเป็นประเทศตามที่ U.N. ระบุไว้

Jema:    คนของเรามีเอกสิทธิ์ทางการเมืองคุ้มครองอยู่ว้อย!

 

Hyperion:    เรื่องการเมืองน่ะใช้กับพระเจ้าไม่ได้หรอกนะ!

 

Thor เตรียมตัวหัวเกรียนพวกคนขายผึ้ง เอ๊ย พวก A.I.M. เต็มที่

ทำให้ Jema ติดอ่างทันที เอาจริงคนแปลเองก็ไม่รู้หรอกว่าใครเป็นใครมั่งใส่ชุดเก็บผึ้งกันหมด!!

 

Jema:    แว้กกกกก

Jema:    ม..ม…ม…ไม่ต้องใช้ก…กำลังกัน ก…ก.ก้อด๊าย แหม่

Jema:    อีกอย่าง ว่ากันตรงนะ ชั้นเองก็ไม่คิดว่า มีอะไรที่มันน่าจะศึกษ….

 

เอ๊ะๆๆ ข…ข…ข้างหลัง!! ข้างหลังเฮ้ย!!!

   

 

 

 

กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดด!!

 

 

เหล่านักวิทยาศาสตร์ของ A.I.M. ต่างร้องเสียงหลง

เมื่อศพของเด็กฝึกงานอยู่ก็มีหนวดปลาหมึก(?) โผล่ออกมาจากร่าง!!

ได้เวลาเด็กฝึกงานแก้แค่นแล้วว้อยยยย!!

   

Black Widow:   มันเริ่มจะแพร่กระจายอีกแล้ว!

 

Spider-Woman:   อย่างไวเลยด้วย!

 

Captain Marvel:   ยังฟื้นฟูตัวเองเร็วอีกต่างหาก!

Captain Marvel:   สงสัยเราคงต้องโจมตีไปที่ศพตรงนั้นซะแล้ว

 

Captain Marvel:   ไม่ก็เผามัน?

 

Hawkeye:   คงใช้เครื่องมือที่ชั้นมีไม่ได้แน่

Hawkeye:   ระเบิดจิ๋วนี่ทำอะไรมันไม่ได้เลย

 

Hawkeye:   เราต้องใช้อะไรที่รุนแรงกว่านั้น

 

Thor:    งั้นก็ถอยออกมาเลย

   

แล้วพี่ Thor ก็ใช้พลังสายฟ้า

   

   

 

 

เปรี้ยงงงงงงง!!

  

ฟาดไปที่ร่างของเด็กฝึกงาน จนไวรัสที่อยู่ในตัวเดี้ยงไป

 

 

Hyperion:    แจ๋วเลยครับ

Hyperion:    เดี๋ยวผมจัดการเผาส่วนที่เหลือเอง

   

 

 

ตูมมมมมมมมมมมมมมม!!

 

 

Hyperion ใช้พลังตาพลังแสงอาทิตย์ของเขายิงเผาร่างของเด็กฝึกงานซ้ำไม่มีเหลือ (แง้! T^T)

   

    

Captain Marvel:   เมื่อกี้มันบ้าอะไรกันยะ! อธิบายมาเดี่ยวนี้เลย!

 

ใครฟระ:    พวกเราสะกัดสารตั้งต้นจากไอ้ของต่างดาวนั่น

ใครฟระ:    แล้วลองฉีดเข้าใส่ตัวคนดูน่ะสิ

 

Captain Marvel:   แล้วจะทำไปทำซากอะไรยะ!?

 

ใครฟระ:    ……..

ใครฟระ:    พวกเราแค่อยากรู้เฉยๆ!

 

Black Widow:   ทางเราเองก็คงต้องใช้ทีมขนย้ายและกักกันมาทั้งทีมซะแล้ว

 

Captain Marvel:   ชั้นจะติดต่อ Cap กับ Tony เอง

Captain Marvel:   เดี๋ยวเธอช่วยติดต่อกับ S.H.I.E.L.D ให้จัดการเรื่องนี้ด้วย

Captain Marvel:   จะต้องคุยกับเส้นใหญ่เส้นยักษ์อะไรก็ต้องทำ

 

Black Widow:   งานนี้ชั้นว่าไปไม่สวยแน่ๆเลยนะ…

 

Black Widow:   เราจะต้องเอาให้มั่นใจด้วยว่าที่นี่ปิดกั้นแน่นหนาเพียงพอแล้วนะ

Black Widow:   ไม่รู้ว่าอะไรมันจะเกิดขึ้นอีกบ้าง

 

ป๊อก!

 

อยู่ๆ ดักแด้ก็เริ่มมีปฎิกริยา

   

   

 

มี Hyperion สองตน

 

ทั้งคู่ต่างถูกดึงเข้ามา…ถูกชุบชีวิตขึ้นมาใหม่ จากเอกภพที่ล่มสลาย

 

จากนั้นทั้งคู่ก็ถูกคุมขัง

ถูกทำให้อ่อนแอลงด้วยการตัดขาดจากดวงอาทิตย์

 

 

 

 

 

จากนั้นทั้งคู่ก็ถูกช่วยออกมา….

   

บรึ้ม!!

Cap:   ว่าไงเพื่อนยาก

Cap:   คิดว่าจะเดินออกไปเองไหวมั๊ย?

   

 

  

….เพื่อให้เป็น ไททั่น อีกครั้ง

   

  

  

ไททันที่ทรงพลังเหนือมนุษย์ชายและหญิงทั่วไป

 

 

ไททั่นผู้เปลี่ยนโฉมโลกไปสู่บางสิ่งที่ดีกว่า

 

 

ผู้ที่ยังคำสอนของคุณพ่อได้ดี

  

 

 

  

 

 

ความจริงที่ต้องตรงไปตรงมา

 

ความคิดที่ต้องไม่มีผิดพลาด

 

 

ทุกสิ่งที่ทำต้องทำให้ส่วนรวมดีขึ้น

 

  

แล้วค้นพบสิ่งผิดพลาดจากคำสอนเหล่านั้น

 

 

 

    

 

 

มี Hyperion สองตน

 

ตนหนึ่งสูญเสียทุกสิ่ง

และอีกตนหนึ่งกำลังจะได้ทุกสิ่ง

  

[เมื่อดักแด้คลอดออกมา สิ่งมีชีวิตที่อยู่ข้างในคือ….

…เด็กตัวน้อยที่พูดภาษาเหมือนเด็กสมบูรณ์ได้พูดออกมา

ซึ่งคำๆนั้นสามารถแปลออกมาเป็นคำพูดว่า “คุณพ่อ (Daddy)”]

 

 

 

 

ความตายที่เกิดขึ้นน่าจะหมายถึงบางอย่าง

 

และควรที่จะถือกำเนิดขึ้นใหม่อีกครั้ง

 

Hyperion:    นั่นสินะ

Hyperion:    เราเองก็น่าจะลองดูสักตั้ง

   

เขาคือพระอาทิตย์

และนี่คือเด็กกลุ่มแรกของเขา

   

 

(อันนี้ตามที่ผมเข้าใจคือจากคำสอนของคุณพ่อทำให้ Hyperion เป็นคนที่เถรตรงครับ
อาจจะเถรตรงมากเกินไป จนไม่มีปฎิสัมพันธ์กับประชาชน
สังเกตุว่าเด็กจะเข้าไปกอดพี่แก พี่แกหน้าบูดเป็นตูดลิงเลย

แต่อีกใจหนึ่งเขาเองก็เห็นความงดงามของชีวิต
และอยากจะเข้าไปร่วมปฎิสัมพันธุ์กับผู้คนบ้าง
ทำให้มี Hyperion สองคนนั่นเอง

และตอนนี้ Hyperion อีกคนที่ซ่อนอยู่ในใจเขา ก็ถูกเปิดออกมาในที่สุด)

 

   

    

ในเวลาต่อมา

เหล่านักวิทยาศาสตร์ของ A.I.M. ก็ถูกจับกุม

   

Cap:    จับกุมนักวิทยาศาสตร์ของ A.I.M. แบบนี้เป็นปัญหาทางการเมืองแน่ๆ Carol

 

Captain Marvel:   ก็ให้พวกนั้นคุยกับลูกพี่เส้นใหญ่แทนละกัน

Captain Marvel:   เราจะมาเสี่ยงให้ใครลักลอบเข้าเขตกักกันไม่ได้เด็ดขาด

 

Jema:    คริกๆ

 

Captain Marvel:   เอ็งจะหัวเราะหาพระแสงง้าวอะไรยะ?

 

Jema:    ท..ท…ท..ทำไมล่ะ ก..ก…ก…ก็คนม…ม…ม…มันจะด…ด…ดีใจ ม..ม.ไม่ได้เรอะ?

Jema:    ก…ก..ก็พวกคุณ ช…ช..ช..ช่วยพวกเรา ท…ท….ทุกคน อ….อ…เอาไว้

Jema:    จ..จ…จ…จากไอ้ปีศาจ น…น..น..นั่น

 

Jema:    แถม ย…ย…ย..ยังคุมพ…พ…พ…พื้นที่ ด..ด…ด..ได้ครบทั้ง ห….ห..หกที่อีก

 

Jema:    จ…..จ…..จ…….แจ๋วมาก ก…ก……ก…กัปปิตัน

Jema:    จ….จ…..แจ่มไปเลย

   

ลองมานึกทบทวนสถานที่ที่ระเบิดตกลงไปซักหน่อยนะคับ

ตอนแรกระเบิดตกไปสองลูก ที่แคนนาดากับออสซี่ นะครับ (2 ที่)

ต่อมาระเบิดตกไปที่อินเดีย ญี่ปุ่น โครเอเชีย และ Savage Land (4 ที่)

4+2=6 ที่ ก็ครบแล้วเนอะ…….Mission Complete!!

 

 

  

 

ประเทศนอร์เวย์

A.I.M1:    เป้าหมายน่าจะอยู่ข้างหน้านั่นนะ

 

 

 

A.I.M2:    ใช่อันนั้นรึเปล่านั่น

   

A.I.M1:    โอ้ ใช่เลย เราเจอแล้ว

A.I.M1:    ติดต่อไปยัง A.I.M. Island เลย

 

 

 

“แจ้งไปว่า พวกเราพบพื่นที่ที่เจ็ดแล้ว!”

 

   

 

Avengers #5

 

เธอคือ Imperial Guard คนแรก

ที่เป็นทั้งมนุษย์และสมาชิก Avengers

เรื่องราวของ Smasher จะถูกเปิดเผย!!

 

 

 

   

จบแล้วคร้าบบบบบบ!!

เออเนอะ ลืม คนนอร์เวย์คนนั้นไปซะสนิทเลย ฮ่า!

สงสัย Arc นี้คงเป็นการบอกเล่าประวัติของตัวละครใหม่ทั้งสามคนครับ

เล่มนี้ Hyperion เล่มต่อมาก็ Smasher เล่มที่สามก็คงเป็น เจ๊จักรวาล ครับ ฮ่า