Rise of The Third Army : Green Lantern 16

DC Comic: Rise of The Third Army : Green Lantern 16 : Trial By Fire
เรื่อง : Geoff Johns
ภาพ : Doug Mahnke, Christian Alamy, Keith Champagne, Mark Irwin
วางจำหน่าย: 23 มกราคม 2013
สำนักพิมพ์ : DC Comics

Simon Baz ได้เรียนรู้การเป็น Green Lantern จากรุ่นพี่อย่าง B’dg แต่เขาอาจมีความสำคัญมากกว่าที่ใครๆคิดก็ได้!

.
.
.
เปิดฉากมาในเมือง Dearborn รัฐ Michigan
Simon Baz และ Agent Franklin Fed กำลังมองดูสิ่งที่ตามปกติแล้วมันพิลึกสิ้นดี มีกระรอกชุดเขียวพูดได้กำลังอยู่ต่อหน้าพวกเขา

B’dg : ดูจากความเละเทะนี่แล้ว

B’dg : นายไม่ใช่กรีนแลนเทิร์นที่ดีนักล่ะสิ?

B’dg : ถึงได้ปล่อยให้แหวนพลังของนายพลังหมดในระหว่างที่ต่อสู้กันอยู่แบบนี้น่ะ

Simon : ฉันไม่รู้ด้วยซ้ำว่าพลังของมันมีหมดได้ด้วย

B’dg : นายไม่รู้งั้นหรือ?

Simon : ฉันเพิ่งจะมาข้องเกี่ยวกับเรื่องนี้ได้ไม่นานน่ะนะ

B’dg : นายเป็นใครกัน?

Simon : ฉันชื่อไซม่อน บาซ

B’dg : ฉันชื่อบัดจ์ เป็นกรีนแลนเทิร์นแห่งเขตอวกาศ 1014 ฉันสั่งให้แหวนของฉันพาฉันไปหากรีนแลนเทิร์นแห่งเขตอวกาศ 2814 ฮาล จอร์แดน…

B’dg : แต่ฉันกลับมาเจอนายที่สวมแหวนของเขาอยู่…หรือ…ไม่ นี่มันไม่ใช่แหวนของเขานี่นา…

ตอนนั้นเอง B’dg ก็เอานิ้วสัมผัสแหวนของ Simon แล้ว “สิ่งก่อสร้าง” รูปหน้า Sinestro ก็ปรากฎออกมา!!

B’dg : ซิเนสโตรงั้นรึ?! นี่เจ้านั่นแบ่งพลังของแหวนของเขาให้กับฮาล จอร์แดนรึนี่? แล้วเขาทำแบบนั้นไปทำไมกัน?

B’dg : ฉันต้องเปิดดูข้อความที่อยู่ในแหวนนั่น และเพื่อการนั้นเราต้องชาร์จพลังให้กับมัน

B’dg : ตะเกียงพลังของนายอยู่ที่ไหน?

Simon : ฉันไม่รู้หรอก

B’dg : พวกชาวโลกนี่น้า… ฉันจะดับไฟที่ไหม้อยู่ก่อนแล้วกัน จากนั้นเราก็จะไปตามหามันกัน

ขณะที่ B’dg กำลังดับไฟที่ไหม้บ้านอยู่ Simon ก็คุยกับ Agent Fed

Simon : ตอนนี้คุณเชื่อแล้วใช่ไหมว่าผมเป็นผู้บริสุทธิ์น่ะเอเจนท์เฟด? ผมไม่ได้วางระเบิดในรถตู้นั่น

Agent Fed : แต่เราไม่รู้ว่าทำไมนายเอ็ดเวิร์ด เวลถึงทำแบบนั้น เขากับวัตถุระเบิดทั้งหมดในบ้านเขามันไหม้ไปหมดแล้ว ไม่มีหลักฐานใดๆที่จะพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของนายได้แล้ว

Agent Fed : แต่ก็ใช่แล้ว ฉันเชื่อแล้วว่านายเป็นผู้บริสุทธิ์ และก็ดูเหมือนว่าตอนนี้ฉันก็เชื่อเรื่องมีกระรอกพูดได้แล้วเหมือนกันน่ะนะ

Simon : ถ้ากรีนแลนเทิร์นคนนี้ต้องการให้ผมช่วย ผมก็จะต้องไปกับเขา

Agent Fed : นายควรจะอยู่ที่นี่เพื่อให้ว่าเราจะได้คุยกับหัวหน้าของฉันด้วยกันนะคุณบาซ ถ้านายไป นายก็จะดูไม่เหมือนผู้บริสุทธิ์น่ะสิ

Simon : ผมก็ไม่รู้เรื่องกรีนแลนเทิร์นมากนัก แต่ผมรู้ว่าสิ่งที่พวกเขาทำนั้นสำคัญกว่าการที่ผู้คนจะคิดว่าผมผิดหรือบริสุทธิ์น่ะนะ

Agent Fed : …นายพูดถูกแล้วล่ะ นายไปกับชิปมังค์ก็แล้วกัน

(Agent Fed แกเล่นมุขเทียบกับการ์ตูน “Alvin and The Chipmunk” การ์ตูนที่เกี่ยวกับกระรอกพูดได้สามตัว)

B’dg : ฉันเป็นชาวไฮ’เวไนท์ต่างหากล่ะชาวโลก

Agent Fed : ฉันจะสืบต่อเองว่าเอ็ดเวิร์ด เวลมีเป้าหมายอะไร หรือถ้าเขาทำงานรวมกับใครหรือเปล่า และถ้าทาง FBI ไม่เชื่อว่านายเป็นผู้บริสุทธิ์ล่ะก็…นายค่อยมาช่วยฉันพิสูจน์เมื่อนายกลับมาก็แล้วกัน

Agent Fed : ฉันต้องขอโทษนายด้วย สำหรับทุกๆอย่างที่ผ่านมา

Simon : ผมก็เหมือนกัน

B’dg : พูดร่ำลากันพอแล้วล่ะนะพ่อมือใหม่!

B’dg : จักรวาลกำลังรอเราอยู่!

แล้วทั้งสองก็จากไป พร้อมๆกับที่รถตำรวจและรถดับเพลิงมาถึงที่เกิดเหตุ

ส่วน Agent Fed ก็ติดต่อหาหัวหน้าของเขา

Agent Fed : วอลเลอร์หรือ? นี่ผมเฟดนะ…

Agent Fed : …เราต้องคุยกันเรื่องกรีนแลนเทิร์นใหม่นี่หน่อยแล้วล่ะ

ครู่ใหญ่ต่อมา Simon และ B’dg มาถึงสุสานประจำเมือง Coast City

B’dg : สัญญาณพลังงานระบุว่าตะเกียงพลังของนายอยู่ที่ไหนสักแห่งในนี้ แต่มันน่าจะเสียหายหนักแน่…เพราะสัญญาณมันอ่อนมาก

ทันใดนั้น B’dg ก็มองเห็นอะไรบางอย่างบนกิ่งไม้ข้างๆ

B’dg : อ้า! ชาวท้องถิ่นนี่นา!

แล้ว B’dg ก็เข้าไปคุยกับกระรอก(ท้องถิ่นของโลก)

B’dg : ฉันกำลังมองหาตะเกียงสีเขียวอยู่น่ะสหาย

Simon : บนดาวเราเนี่ยกระรอกพูดไม่ได้หรอกนะบัดจ์

ตอนนั้นเองกระรอกก็ส่งเสียงจี๊ดๆสองสามคำแล้วก็จากไป แล้ว B’dg ก็หันมาทาง Simon

B’dg : ก็แล้วนายคิดว่าเขาเพิ่งทำอะไรไปกันล่ะ? บางทีอาจเพราะหูของนายมันเล็กเกินกว่าจะได้ยิน หรือไม่สมองของนายอาจจะยังไม่พัฒนาพอที่จะเข้าใจก็ได้

Simon : จริงง่ะ?

(ขอแก้ต่างให้ชาวโลกนิดนึง : แหวนของ Green Lantern มีฟังค์ชั่นแปลภาษาครอบจักรวาลอยู่ ดังนั้นจริงๆแล้ว B’dg อาจพูดภาษากระรอกมาตั้งแต่ต้นแล้วก็ได้ ส่วนที่พูดออกมาเป็นภาษาอังกฤษนั้นเป็นเพราะแหวนช่วยแปลให้)

B’dg : มันน่าจะอยู่แถวๆนี้…

แล้วตอนนั้นเอง B’dg ก็บินไปหยิบตะเกียงพลังสีเขียวอันหนึ่งขึ้นมา

B’dg : นี่ไง! นี่คือตะเกียงพลังที่มาคู่กับแหวน มันทำหน้าที่เป็นสื่อกลางกับแบตเตอร์รี่ศูนย์กลางที่ดาวเคราะห์โออาร์

B’dg : อนุสาวรีย์ที่รวบรวมพลังความมุ่งมั่นจากทุกชีวิตในจักรวาลเอาไว้…และนั่นก็คือสิ่งที่เป็นพลังให้กับแหวนของนาย

Simon : แล้วมันใช้งานยังไงล่ะ?

B’dg : เอาแหวนของนายสัมผัสเข้าที่ตะเกียงแล้วกล่าวคำสาบานออกมา

Simon : คำสาบานอะไร?

ตอนนั้นเองก็มีคำพูดดังขึ้นในหัวของ Simon

“ในวันอันสว่างไสว ในคืออันมืดมิด”
“ไม่มีความชั่วร้ายใดรอดพ้นจากสายตาของข้าไปได้”
“ให้เหล่าผู้ที่บูชาอำนาจแห่งความชั่วร้าย”
“จงระวังพลังของเจ้า”

“แสงแห่งกรีนแลนเทิร์น!!”

แหวนพลังของ Simon กลับมามีพลังเต็มเปี่ยมอีกครั้ง!!

Simon : ฉันรู้สึก…

B’dg : ดีขึ้นไหมล่ะ?

Simon : สุดยอดไปเลยล่ะ

B’dg : ฉันจะใส่ตะเกียงพลังของนายเข้าไปเก็บในมิติพิเศษขนาดเล็กที่มันอย่างที่มันเคยอยู่แล้วกันนะ

B’dg : เมื่อนายต้องการมัน แหวนของนายจะสามารถเรียกมันมาได้เอง

แล้ว Simon ก็ก้มลงหยิบปืนของเขาที่ตกอยู่ที่พื้น

B’dg : นายไม่ต้องใช้อาวุธล้าสมัยนั่นอีกแล้วล่ะ แหวนพลังของนายชาร์จเสร็จแล้วนี่

Simon : แต่มันก็ไม่ตลอดไปนี่นา

Simon : ฮาล จอร์แดนเขามีอะไรเป็นอาวุธสำรองตอนที่แหวนของเขาพลังหมดหรือเปล่าน่ะ?

B’dg : ก็แล้วเขาจะพกอาวุธสำรองไปทำไมกันล่ะไซม่อน บาซ ไม่มีแลนเทิร์นคนไหนทำกันหรอก

Simon : พวกแลนเทิร์นอย่างพวกนายนี่ส่องแสงสว่างดีแท้ๆแต่กลับไม่ค่อยฉลาดท่าไหร่นะ ฉันขอเลือกพกเจ้านี่ไว้กับตัวดีกว่าขอบใจ

B’dg : นายจะต้องเรียนรู้ที่จะเชื่อมั่นในแหวนพลังและในตัวของนายเองนะ

B’dg : ทีนี้นายก็ตั้งสมาธิไปที่แหวนและสั่งให้มันปล่อยข้อความที่บันทึกไว้ออกมา…เพื่อว่าเราจะได้รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับฮาล จอร์แดน

แล้วข่าวสารก็ออกมา แต่มันก็ยังผสมปนเปกันอยู่

B’dg : มันแปลกประหลาดจริงๆ!

Simon : ก่อนหน้านี้มันก็ออกมาแบบนี้ล่ะ เมื่อตอนที่ฉันได้แหวนนี้มาครั้งแรก

B’dg : มีข้อความสองอันกำลังแย่งกันออกมาอยู่ นายต้องแยกมันออกจากัน เหมือนกับคลายเงื่อนปมเชือก นึกภาพในหัวเข้าไว้

แล้วข้อความที่ผสมปนเปกันก็แยกออกมาเป็นรูปของ Hal และ Sinestro

B’dg : ทำได้ดีมาก

Simon : เอ่อ…ขอบใจ

B’dg : ท่าทางว่าซิเนสโตรกับฮาลจอร์แดนจะแบ่งกันใช้พลังของแหวนวงนี้จริงๆนั่นแหละ มีเพียงแบบนั้นเท่านั้นที่ทั้งคู่จะสามารถบันทึกข้อความไว้ในแหวนวงเดียวกันได้ แต่ซิเนสโตร…

Simon : แล้วซิเนสโตรนี่เป็นใครกัน?

B’dg : เป็นคนที่ไม่สมควรจะได้สวมแหวนพลัง เป็นคนที่เคยทรยศองค์กรของเรามาก่อน

B’dg : ฉันกล้าพนันด้วยอาหารที่สะสมไว้ทั้งฤดูเลยล่ะว่าซิเนสโตรต้องอยู่เบื้องหลังการหายตัวไปของฮาล จอร์แดนแน่

(เกร็ดน่ารู้ : กระรอกเมืองหนาวจะเก็บสะสมอาหารไว้ในช่วงฤดูใบไม้ร่วงเพื่อไว้ใช้กินในหน้าหนาวที่อาหารหายาก)

Simon : แต่พวกนี้ไม่เห็นทำอะไรเลยนี่นา

B’dg : ก็พวกนี้เป็นแค่ภาพโฮโลแกรมไม่ใช่คนจริงๆนี่นา พวกมันเป็นแค่ข้อความที่รอจะส่งต่อเท่านั้น

Simon : เหรอ งั้น…เล่นซิ?

แล้วภาพโฮโลแกรมทั้งสองก็พูดพร้อมกัน

Simon : เอาทีละคนน่า โอเคไหม? เอาคนดีก่อนแล้วกัน

Hal : ผมคือฮาล จอร์แดน

Hal : ถ้าคุณได้เห็นข้อความนี้ ผมก็หวังว่าคุณจะเป็นผู้ชายหรือผู้หญิงที่มีความคิดเหมือนกับผม

Hal : คุณจะต้องพบกับเรื่องยุ่งๆหลายต่อหลายอย่าง อย่างนึงก็คือเรื่องของกรีนแลนเทิร์นนี่ล่ะนะ แต่ผมจะบอกเรื่องสำคัญให้คุณรู้ก่อน พวกการ์เดี้ยนที่ก่อตั้งองค์กรของเราขึ้นมานั้นเกิดเพี้ยนขึ้นมา พวกเขาเป็นบ้าไปแล้ว แต่ด้วยความช่วยเหลือของคุณ ผมจะสามารถช่วยพวกนั้นได้

Hal : ก่อนหน้านี้ซิเนสโตรกับผมสู้กับซอมบี้ที่ชื่อว่าแบล็คแฮนด์

Hal : เจ้านั่นเป็นคนที่คุณจะต้องอยู่ให้ห่างเข้าไว้ เอาให้ห่างที่สุดเท่าที่จะห่างได้เลย

Hal : ตอนนั้นเองพวกการ์เดี้ยนก็โผล่มา…แต่แทนที่จะมาช่วยผม พวกนั้นกลับไปช่วยแบล็คแฮนด์แทน

Hal : พวกเราถูกดูดเข้าไปในแหวนสีดำของเจ้านั่น ซึ่งเราก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามันจะนำพาเราไปที่ไหน

Hal : แหวนพลังของผมกับซิเนสโตรกลับมารวมกันอีกครั้ง ซึ่งนั่นก็คือแหวนวงที่คุณสวมอยู่นั่นแหละ

Hal : หวังว่าคุณจะสามารถใช้มันตามหาเราได้

Hal : แต่ถ้าผมตายไปแล้ว…ให้คุณตามหาแครอล เฟอร์ริส เธออยู่ที่โคสต์ซิตี้

Hal : บอกเธอว่าผมรักเธอยิ่งกว่าทุกสิ่งทุกอย่าง

Hal : จะรักเธอตลอดไป

ทีนี้มาถึงตา Sinestro บ้าง

Sinestro : ฉันคือซิเนสโตร

Sinestro : ฉันได้สั่งให้แหวนไปตามหาคนที่เป็นเหมือนกับฉันให้ครอบครองมัน เจ้าจะต้องไปตามหา “อาร์คิลโล” ผู้ที่จงรักภักดีและไว้ใจได้มากที่สุดในองค์กรซิเนสโตรคอร์ปของฉัน อาร์คิลโลนั้นยังทำงานให้กับฉันอยู่ จงตามหาเขาให้พบ อาร์คิลโลจะช่วยฉันได้ และฉันก็จะได้ทำลายเจ้าพวกการ์เดี้ยนลงได้เสียที

B’dg : ซิเนสโตรค่อนข้างบ้าอยู่นิดๆ แต่ฉันก็ชอบหูของเขานะ

Simon : แหวนนี้มันสามารถทำสำเนาตัวมันเองได้ด้วยหรือ?

B’dg : มันทำได้ทุกอย่างที่นายจินตนาการขึ้นมาได้นั่นแหละไซม่อน บาซ

Simon : …ทุกอย่างเลยงั้นรึ?

B’dg : ฉันจะสอนนายให้เอง แต่ฉันจะต้องสอนไปพร้อมๆกับที่เราทำธุระของเราไปด้วยล่ะนะ

ตอนนั้นเอง B’dg ก็สังเกตุเห็นอะไรบางอย่าง

B’dg : โอ้! อยู่นั่นเอง!

Simon : นั่นมันอะไรล่ะนะ?

แล้ว B’dg ก็เข้าไปหยิบหนังสือหน้าปกสีดำสนิทขึ้นมา มันคือ The Book of The Black!!

B’dg : เป็นที่มาของกลิ่นเหม็นเน่าที่ฉันได้กลิ่นไงล่ะ แบล็คแฮนด์เป็นกุญแจสำคัญในการตามหาฮาล จอร์แดน ซึ่งหนังสือเล่มนี้ก็ต้องเป็นของแบล็คแฮนด์แน่ และมันก็จะเป็นเบาะแสที่จะนำเราไปหาเจ้านั่น

Simon : แล้วเราควรจะติดต่อคนชื่ออาร์คิลโลนั่นด้วยหรือเปล่าน่ะ?

B’dg : โอ้ ไม่มีทางล่ะ เจ้านั่นเป็นคนเลวร้ายสุดๆ ที่ชอบกินคนแบบฉันหรือนาย เราไม่ต้องการความช่วยเหลือของเจ้านั่นแน่

Simon : แต่ซิเนสโตรบอกว่า…

B’dg : ซิเนสโตรนั้นไม่ใช่คนที่จะไปรับฟังหรือเชื่อถือได้ เขาเป็นศัตรูขององค์กรเรา เป็นคนทรยศด้วย เราต้องให้แน่ใจว่าแหวนวงนี้จะไปอยู่ที่ฮาล จอร์แดน ไม่ใช่เจ้านั่น

Simon : ผมจะต้องคืนแหวนวงนี้ไปงั้นสิ?

B’dg : นายจำเป็นต้องทำอย่างนั้น

Simon : ถ้าหากว่าแหวนวงนี้วงนี้มันสามารถทำได้ทุกอย่างที่ฉันสั่งมันจริงๆล่ะก็ ถ้านี้มันจะเป็นโอกาสเดียวที่ฉันจะได้ใช้มันล่ะก็…ฉันก็จะต้องไปทำอะไรอย่างหนึ่งก่อนที่เราจะไป

แล้ว Simon ก็โทรศัพท์ไปหาน้องสาวของเขา

Sira : ฮัลโหล?

Simon : ไซร่า นี่พี่เองนะ

Sira : ไซม่อน? นี่พี่อยู่ที่ไหนน่ะ?

Simon : ไปพบพี่ที่โรงพยาบาลที ที่ห้องของนาเซอร์นะ

Sira : อะไรนะ? ทำไมล่ะ?

Simon : ได้โปรดเถอะ แค่ไปพบพี่ที่นั่นก็พอ

Simon : มันถึงเวลาที่พี่จะไปเผชิญหน้ากับสิ่งที่พี่ทำแล้ว

หลังจากนั้น Sira ก็มาถึงที่รพ.St.Paul

เธอไปที่ห้องของ Nazir สามีของเธอ

แล้ว Simon ก็มาถึง

Sira : ไซม่อน? นี่พี่ขึ้นมาได้ยังไง?

Simon : พี่บินมาน่ะ

Sira : พี่บินมาเนี่ยนะ?

Simon : ใช่ เขาบอกพี่ว่าแหวนสามารถทำได้ทุกอย่างที่พี่จินตนาการให้มันทำ

Sira : ใครเป็นคนพูดน่ะ?

Simon : กรีนแลนเทิร์นอีกคนนึง เขาสอนวิธีใช้แหวนให้กับพี่

Sira : แล้วพี่มาทำอะไรที่นี่?

Simon : นาเซอร์ต้องนอนโคม่ามาตั้งแต่เกิดอุบัติเหตุ อุบัตเหตุที่มันเกิดขึ้นเพราะเราไปแข่งรถแบบผิดกฎหมายกัน นี่มันเป็นความผิดของพี่

Simon : แต่พี่จะแก้ไขมันให้ถูกต้อง

ตอนนั้นเอง…

B’dg : แหวนมันไม่ได้ใช้ทำแบบนั้นหรอกนะไซม่อน บาซ

Simon : ฉันบอกให้นายรออยู่ข้างนอกไงล่ะ

B’dg : ก็ฉันอยากรู้นี่นา!

เมื่อเห็นสิ่งที่ลอยเข้าหน้าต่างมา Sira ก็ทำหน้าปั้นยากแล้วถามออกมาว่า

Sira : นั่นมันคือกระ…?

Simon : เขาเป็นกรีนแลนเทิร์นน่ะ

Simon : และตอนนี้พี่ก็เช่นกัน

ว่าแล้ว Simon ก็เล็งแหวนของเขาไปที่ร่างของ Nazir และปล่อยพลังไปอาบร่างของน้องเขยของเขา!

ซึ่งแสงที่เกิดขึ้นก็ทำให้หมอและพยาบาลตกใจ

แต่เมื่อแสงจางลง ร่างกายของ Nazir ก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง

Sira : พี่คิดจะทำอะไรกับเขาน่ะ?

Simon : พี่พยายามจะปลุกเขาขึ้นมา พี่ตั้งมั่นให้เขาฟื้น พี่ตั้งมั่นให้แหวนช่วยรักษาเขา

Simon : ทำไมมันถึงไม่ได้ผลล่ะ?

ตอนนั้นเองหมอกับพยาบาลก็มาถึง แต่ Simon ก็ใช้พลังจากแหวนปิดประตูไว้

B’dg : ฉันต้องขอแสดงความเสียใจด้วยไซม่อน บาซ แต่แลนเทิร์นมากมายก็เรียนรู้ข้อจำกัดของแหวนด้วยวิธีนี้เหมือนกัน มันไม่สามารถชุบชีวิตคนตายหรือรักษาคนป่วยได้หรอก

แต่ Simon ก็ไม่ยอมแพ้ และส่งพลังเข้าไปที่น้องเขยของเขาอีกครั้ง!

B’dg : ชาวโลกเอ๋ย นายสามารถใช้พลังความมุ่งมั่นของนายทำได้หลายอย่าง แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะทำได้ทุกอย่างหรอกนะ

Simon : ฉันต้องทำได้…

B’dg : นายมีแต่จะทำร้ายตัวเองเท่านั้นล่ะ

Sira : ไซม่อน…

Simon : สองวันมานี้ฉันได้เห็นสิ่งที่คาดไม่ถึงมามากมายแล้วนะไซร่า ทั้งแหวนเวทย์มนต์, คนบินได้, มนุษย์ต่างดาว พี่ไม่ขอเชื่อว่าแหวนนี้จะช่วยนาเซอร์ไม่ได้

Simon : ฉันต้องการเพียงแค่นั้นและแหวนเอ๋ย แกเข้าใจไหม? ฉันหวังเพียงให้เขาฟื้นขึ้นมาเท่านั้น

Simon : ช่วยสามีของน้องสาวฉัน

Simon : พ่อของลูกของเธอ คนในครอบครัวของฉัน

Simon : เพื่อนรักของฉัน

Simon : ฉันจะต้องช่วยเขาให้ได้!

Simon ส่งพลังเข้าไปที่ร่างของ Nazir ครั้งแล้วครั้งเล่าจนสุดท้ายร่างกายของเขาก็ทนไม่ไหวอีกต่อไป…

Simon : อ๊า!!

Sira : ไซม่อน?!

Simon : มันต้องได้ผล…มันจะต้องได้ผล…

B’dg : ฉันเสียใจด้วยนะแลนเทิร์นหนุ่มเอ๋ย ฉันเสียใจด้วยจริงๆ

Simon : มันเป็นเพราะฉันไม่แกร่งพอ…หรือไม่ดีพอ

Sira : มันไม่ใช่ความผิดของพี่หรอกไซม่อน พี่ไม่ได้ทำให้เกิดอุบัติเหตุขึ้น พี่ไม่ได้เป็นคนทำให้เขานอนโคม่าแบบนี้ ได้โปรดอย่าโทษตัวเองอีกเลย

Simon : พี่เชื่อจริงๆนะไซร่า แม้เพียงชั่วขณะก็ตามพี่ก็เชื่อจริงๆว่าพี่ได้รับโอกาสที่จะแก้ไข…

ทันใดนั้นเอง…

Nazir : ไซร่า…?

น้องเขยของเขาฟื้นแล้ว?!

B’dg : ไม่น่าเชื่อ

Sira : นาเซอร์?

Nazir : นี่มันเกิดอะไรขึ้นน่ะ?

แต่ Nazir ยังไม่ทันหายมึนก็ถูกภรรยาของเขาสวมกอดอย่างดีใจสุดชีวิต

Sira : นาเซอร์!

ที่ภายนอกห้อง หมอกับพยาบาลแทบไม่เชื่อสิ่งที่เกิดขึ้นในห้องนั้น!

Nazir : เฮ้ ที่รักอย่ากอดแรงนักสิ!

Sira : พี่ทำสำเร็จแล้วไซม่อน…พี่ทำได้

Nazir : นี่ฉันมาทำอะไรอยู่ที่นี่เหรอ? มันเกิดอะไรขึ้น?

Nazir : แล้วนายสวมชุดอะไรอยู่น่ะเพื่อนยาก?

Simon : เรื่องมันยาวน่ะ

B’dg : อย่างที่ฉันพูดไปเมื่อกี้…นี่มันไม่น่าเชื่อเลย

B’dg : ฉันไม่รู้ว่านายทำแบบนั้นได้ยังไง ฉันไม่แน่ใจด้วยซ้ำว่าฮาล จอร์แดนจะสามารถทำแบบนั้นได้ หรือต่อให้ซิเนสโตรก็เถอะ บางทีแหวนวงนั้นอาจจะเลือกนายด้วยเหตุผลที่ยิ่งใหญ่กว่าที่คิดไว้

B’dg : บางทีนายอาจมีความสำคัญต่อเรื่องที่จะเกิดขึ้นต่อจากนี้ไปมากกว่าที่ฉันจะจินตนาการได้

Nazir : นี่หัวของฉันคงโดนกระแทกแรงมากเลยใช่ไหมเนี่ย? เพราะว่าฉันเห็นกระรอกตรงนั้นมันลอย…

Sira : เขาเป็นกรีนแลนเทิร์นน่ะ

Sira : แล้วไซม่อนก็เหมือนกัน

Nazir : ไซม่อนเป็นกรีนแลนเทิร์นงั้นเหรอ?

Sira : ฉันจะอธิบายให้คุณฟังเองนะนาเชอร์

Simon : ฉันจะต้องไปตามหาคนที่เคยสวมแหวนนี้ ฉันต้องไปแล้วล่ะ

Nazir : ไปไหนล่ะ?

Simon : อวกาศมั๊ง คิดว่านะ

ตอนนั้นเองหูอันฉับไวของ B’dg ก็ได้ยินเสียงของทีวีที่อยู่นอกห้อง

[…กาย การ์ดเนอร์…]
[…อดีตกรีนแลนเทิร์นกาย การ์ดเนอร์ถูกจับกุมที่บัลติมอร์ฐานทำร้ายเจ้าพนักงานตำรวจ…]
(เหตุการณ์ในเล่ม Green Lantern Corps เล่ม 15)

B’dg : กาย การ์ดเนอร์อยู่บนโลกงั้นรึ? แถมยังไม่มีแหวนพลังด้วย? พวกการ์เดี้ยนต้องอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้แน่ เรามีที่ต้องแวะก่อนที่จะไปจากดาวดวงนี้แล้วล่ะไซม่อน บาซ เราจะต้องไปช่วยกาย การ์ดเนอร์กัน

Simon : ไว้ค่อยมาคุยกันเมื่อตอนที่ฉันกลับมาแล้วกันนะ

Nazir : แล้วนายจะกลับมาเมื่อไหร่ล่ะ?

Simon : เร็วที่สุดเท่าที่ฉันจะทำได้นั่นแหละ

Sira : ระวังตัวด้วยนะ

เมื่อพวกตำรวจมาถีง Green Lantern ทั้งสองก็บินออกนอกหน้าต่างไปแล้ว

Simon : ขอบคุณมากนะบัดจ์

B’dg : นายคือคนที่ทำมันด้วยตัวเองต่างหาก นายเป็นกรีนแลนเทิร์นแล้ว แต่ตั้งแต่นี้ไป…การทดสอบที่แท้จริงของนายจะเริ่มขึ้นล่ะ

B’dg : และฉันก็หวังอย่างยิ่งว่านายจะอยู่รอดจนผ่านพ้นมันไปได้

บทส่งท้าย
ใน Dead Zone ดินแดนแห่งความตาย

Hal Jordan และ Sinestro กำลังคุยกับชายลึกลับในผ้าคลุม

Hal : ถ้าคุณอยากให้เราเชื่อใจคุณล่ะก็ คุณต้องบอกมาว่าคุณเป็นใคร…และบอกมาว่านี่มันเรื่องอะไรกัน

ว่าแล้วชายลึกลับก็ลดผ้าที่คลุมหน้าลง

Tomar-Re : ได้อยู่แล้วฮาล จอร์แดน ฉันคือกรีนแลนเทิร์นคนแรกที่นายได้พบตอนที่นายไปที่โออาร์ และฉันก็ตายเพราะซิเนสโตร

Tomar-Re : ฉันคือโทมาร์-เร และเราก็ต้องหยุดยั้งวอลต์ธูม เราต้องขัดขวางแผนการของแลนเทิร์นคนแรก…ก่อนที่เขาจะทำลายล้างห้วงแห่งความเป็นจริง และเปลี่ยนประวัติศาสตร์ของแลนเทิร์นที่เรารู้ไป

Tomar-Re : เหล่าคนตายต่างต้องการเช่นนั้น

(Tomar-Re เป็นอดีต Green Lantern ของเขตอวกาศ 2813 เป็น Green Lantern คนแรกที่ Hal ได้พบเมื่อตอนที่ไปยัง Oa เป็นครั้งแรก ซึ่งในจักรวาลเดิมนั้นเขาตายในศึกกับ Anti-Monitor ใน Event “Crisis on Infinite Earths” แต่ดูเหมือนว่าในจักรวาล New52 นั้นจะมีการเปลี่ยนแปลงในส่วนนี้ไป และปัจจุบัน Green Lantern ของเขตอวกาศ 2813 ก็คือลูกชายของเขา Tomar-Tu)

แผนการของ The First Lantern ที่ทำให้แม้แต่เหล่าคนตายยังต้องเคลื่อนไหวคืออะไร? Event “Rise of The Third Army” กำลังใกล้จะถึงจุดไคลแม็กซ์ และจะปูทางไปยัง Event ถัดไป “Wrath of The First Lantern”!!

5 thoughts on “Rise of The Third Army : Green Lantern 16

  1. doc holliday

    เพราะอิทธิพลของเวอร์ชั่นหนังของ GL (มันมีด้วยเรอะ?) ทำให้ผมอ่านบทพูดของ Tomar-Re เป็นเสียง Geoffrey Rush เลยอะ 😀

  2. khunjuice

    thank to
    อะมันจะออกแนวทำให้ตาย ได้อีกความหมายหนึ่งนะ คือมีส่วนในการตายอะไม่น่าใช้ซิเนสโตรฆ่า

  3. Tatoo

    ผิดคาดเเหะชายลึกลับนึกว่าเป็น อาบิน เซอร์
    ใช้เเหวนคืนชีพเพิ่งรู้ว่าทำได้ด้วย คงอยู่ที่จินตนาการเเละความมุ่งมั้นของผู้ใช้ ต่อไปจะมีใครใช้สร้างดวงอาทิตย์มั้งหว่า

  4. seventoon

    แม่ง เดวการ์เดี้ยนเจอกระรอกกู้โลก ของเราซะหน่อย

    เริ่มโต้กลับแล้วววว

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *