หลายคนที่อ่านสปอยของ Marvel มานาน อาจจะเคยได้ยินชื่อกลุ่ม Illuminati นะครับ
กลุ่มฮีโร่ที่ได้ชื่อว่าเป็นกลุ่มร่วมเหล่าสุดยอดฮีโร่เกรียนของโลกเอาไว้มากที่สุดกลุ่มหนึ่ง ฮ่า
แต่หลายคนอาจเหมือนผม คือ ไม่รู้ว่าเจ้ากลุ่มนี้ มีวีรกรรมอะไร? และมีที่มาที่ไปอย่างไร?
แถมในยุค Marvel NOW กลุ่ม Illuminati กำลังได้รับบทบาทที่สำคัญใน New Avengers
ผมจึงถือโอกาสนี้ นำประวัติและที่มาของฮีโร่กลุ่มนี้ให้ทุกๆท่านได้รับชมกันครับ
หมายเหตุ บทความนี้มีความยาวมากๆ ออกทะเลไปก็เยอะ ควรเตรียมหมอน เตรียมกาแฟอุ่นไว้ให้พร้อม ฮ่าๆ
กำเนิด Illuminati
ใน Road to civil war – The New Avengers – Illuminati ได้บอกไว้ว่า
กลุ่ม Illuminati เริ่มมาจาก การประชุมลับๆ ที่ประเทศ Wakanda โดยมีผู้จัดงานคือ Black Panther นั่นเอง
ในการประชุมครั้งนั้น นอกจาก Black Panther แล้ว ยังประกอบด้วยสมาชิกทั้งหมด 6 คนได้แก่
Iron Man (Tony Stark) แห่ง Avengers
Dr. Strange (Stephen Strange) เจ้าแห่งศาสตร์เวทย์มนตร์
Professor x (Charles Xavier) ผู้นำแห่ง X-Men (ในตอนนั้น)
Mr.Fantastic (Reed Richards) ผู้ที่ฉลาดที่สุดในโลก และผู้นำทีม Fantastic Four
Black Bolt ราชาแห่งกลุ่ม Inhuman อาณาจักรแห่งผู้มีพลังวิเศษบนดวงจันทร์
และสุดท้าย หน้าหม้อ เอ๊ย Namor ราชาแห่งเกรียน เอ๊ย ราชาแห่งอาณาจักรแอตแลนติส
หัวข้อการประชุมในครั้งนี้เริ่มต้นมาจาก เรื่องสงครามระหว่าง Skrull กับ Kree ที่เกิดขึ้นบนโลก
(ที่จริงสงครามระหว่างไอ้เผ่าพันธุ์ทั้งสองนี้ มีมานานล้านกว่าปีมาแล้วครับ)
แต่ที่หวยดันมาตกที่โลกก็เพราะ Kree มีกองทัพ Inhuman และอยากให้มาช่วยสงครามของตน
อีกทั้งยังมี Captain Marvel ที่เป็นผู้เก่งกาจของเผ่า Kree อยู่บนโลกด้วย ทำให้ Skrull ต้องเข้ามาแทรกแซง
การต่อสู้จริงๆก็ไม่เชิงว่าเกิดขึ้นบนโลกนะครับ มีเกิดขึ้นที่โลกบ้างแค่นิดหน่อยจริงๆ
ส่วนใหญ่จะไปเกิดนอกโลกนะครับ ทำให้โลกไม่ได้รับความเสียหายจากสงครามนี้มากเท่าไร
สงครามจบลงด้วย Captain Marvel เข้าไปสิงร่าง Rick jone เพื่อช่วยชีวิตเขา
และเหล่าฮีโร่จากโลก กระทืบทั้งฝ่าย Skrull และฝ่าย Kree จนถอยล่นกลับไปครับ ฮ่า
แม้ว่าสงครามจะไม่ได้สร้างความบรรลัยหรรษากับโลกไม่มากมายนัก
แต่ Tony คิดว่าเรื่องเหล่านี้สามารถป้องกันได้ เพราะพวกเขามีข้อมูลของทั้งสองฝ่าย และรุ้ว่าสงครามจะเกิดขึ้นแน่ๆ
ถ้าพวกเหล่าฮีโร่ รวมกำลังกันเป็นหนึ่งเดียวกัน
ทั้งสองเผ่าน่าจะไม่กล้าทำสงครามที่โลก และน่าจะทำมีกำลังพอจะเจรจากับทั้งสองเผ่าได้
Tony จึงเสนอว่า เหล่าฮีโร่ทั้งโลกทั้ง X-Men, Inhuman Fantastic Four และอื่นๆ
ควรรวมพลังกันป้องกันโลกไม่ให้หายนะนี้เกิดขึ้นมาอีก
แน่นอนว่า ความคิดถูกองค์สมาชิกสวดยับ ด้วยเหตุผลที่ว่า
กลุ่มมันใหญ่ไป ใครจะเป็นคนคุม จะเกิดความขัดแย้งระหว่างคนต่างกลุ่มขึ้น ขนาดกลุ่มเอ็งยังไปไม่รอดเลย บลาๆๆ
Mr.Fantastic: อืม….
Mr.Fantastic: แต่นายก็พูดถูกอยู่เรื่องนึงนะ Iron Man
Mr.Fantastic: เรื่องข้อมูลน่ะ
Mr.Fantastic: เราต่างก็มีข้อมูลเรื่อง ของพวก Kree กับ Skrull พวกนั้น คนละส่วน
Mr.Fantastic: ก่อนที่เหตุการณ์มันจะประทุขึ้น
Mr.Fantastic: พวกเราสามารถจัดการกับปัญหานั้นได้ ถ้าพวกเรามาเจอกันเร็วกว่านี้
Mr.Fantastic: การประชุมเหมือนแบบนี้สามารถช่วยชีวิตผู้คนได้มากมาย
Dr.Strange: ถ้างั้นพวกเราก็ควรมาพบเจอกันแบบลับๆเหมือนอย่างนี้
Mr.Fantastic: สำหรับเรื่องใหญ่จริงๆเท่านั้น
Namor: ชั้นก็ว่าชั้นเองก็พอจะเชื่อใจคนในห้องนี้ได้อยู่อ่ะนะ
Namor: แต่ว่า
Namor: ต้องไม่ให้ใครรู้ว่าพวกเรามาประชุมกันแบบนี้
Namor: ชั้นไม่ไว้ใช่พวกเพื่อนๆของไอ้พวก……
Iron Man: เออๆ รู้แล้วน่า
Iron Man: นายไม่เชื่อใจเพื่อนร่วมทีมของพวกเราใช่มะ
Iron Man: เข้าใจแล้ว
Namor: รวมถึงครอบครัว
Namor: แล้วภรรยาด้วย!
Namor: ต้องไม่มีใครรู้เลย
Namor: จะต้องไม่มีใครแพร่งพรายความลับของอาณาจักรแอตแลนติสของชั้น
Namor: ที่อาจจะเป็นอันตรายต่อคนก็ตามในอาณาจักรของชั้นได้
Namor: ถ้ามันเกิดขึ้นล่ะก็ พ่อจะเอานรกทั้งขุมถล่มใส่พื้นโลกเลยทีเดียว
Iron Man: ทำไมวันๆนึง แกต้องเอาแต่คิดจะโจมตีพวกเราด้วยวะ?
Iron Man: ถ้าอยากไปเข้าร่วมทีมกับ Magneto ก็ตามใจสิฟระ
Iron Man: แต่ทำไมไม่คุยกันอย่างผู้เจริญแล้วเขาคุยกัน โดยไม่ต้องมาข่มขู่กันแบบ…
Namor: ตรูไม่ได้ขู่นะครัฟ
หลังจากถกกันเรื่องปากของ Namor
ได้ซักพักทุกคนก็เริ่มโวตกันว่าควรจะจัดตั้งทีมเฉพาะกิจแบบนี้หรือไม่
โดยมีกติกาว่าจะใช้ระบบเชื่อใจให้เกียรติกันและกัน โดย Xavier จะไม่ใช้พลังอ่านใจ
ผลโวตออกมามีดังนี้
Iron Man: นี่ T’Challa
Black Panther: ชั้นขอบอกนายเลยว่าควรจะหยุดเรื่องนี้ซะ
Black Panther: ผละออกจากโต๊ะนั่น แล้วกลับบ้านไปซะ
Iron Man: ว้าว T’Challa
Black Panther: พวกนายน่ะคิดไปกันเองว่าตัวเองคือผู้พิทักษ์โลกน่ะ
Black Panther: ซึ่งคิดไปเองอีกว่ามีแต่พวกนาย พวกนายเท่านั้น
Black Panther: ที่น่าไว้ใจให้ทำเรื่องปกป้องโลกนี้ได้
Black Panther: ไม่ใช่เพื่อนร่วมทีม ไม่ใช่ครอบครัวของพวกนาย
Black Panther: แล้วจะเกิดอะไรขึ้น ถ้าพวกนายมีความเห็นไม่ลงลอยกันล่ะ?
Black Panther: ถ้าหากหนึ่งในเหล่าผู้ที่จะเปลี่ยนโฉมโลก ในห้องประชุมลับนี่
Black Panther: ดันรู้สึกว่าตัวเองมีความเห็นที่ไม่เหมือนกับคนอื่นๆล่ะ?
Black Panther: มันจะเกิดอะไรขึ้นจากนั้น?
Black Panther: พวกนายถอยออกมาซะ!
แต่ทุกคนไม่ถอยและยังคงดำเนินมีตติ้งลับนี้ต่อไป
นับแต่นั้น Illuminati ได้ร่วมกัน สร้าง แก้ปัญหาต่างๆมากมาย โดยคนนอกไม่รู้
ภารกิจแรกๆที่กลุ่มนี้เริ่มทำก็คือ การจัดการกับ Krakoa มิวแทนครึ่งสัตว์ครึ่งพืช
อันนี้น่าจะแสดงให้เห็นถึงระยะเวลาว่ากลุ่มนี้กำเนิดขึ้นนานขนาดไหน
ซึ่งน่าจะนานพอตัวเพราะ Krakoa นี้
มีมาตั้งแต่สมัยก่อน Jean Grey จะกลายเป็น Dark Pheonix เลยทีเดียว
และ Xavier ก็ได้พบรักกับ เจ้าหญิง Lilandra แห่งอาณาจักร Shi’ar ในเหตุการณ์นี้
—————————————————
Skrull Empire
(New Avengers: Illuminati #1)
หลังจากที่ถกกันเรื่อง Krakoa จบแล้ว
เหล่า Illuminati ก็ไปแหยมอาณาจักร Skrull ที่กำลังบอบช้ำกับสงครามถึงถิ่น!!
พวกพี่แกบุกไปเพื่อจะเตือน (ขู่) ว่า พวก Skrull ทั้งหลาย กรุณาอย่ามาแหยมกับโลกอีกนะครับ
ไม่งั้นพวกกระผมจะเอาฝ่าเท้ากระทืบหน้าพวกท่านรวมเป็นหนึ่งเดียวกับปุ๋ยอินทรีย์เลยครัฟ!!
แน่นอนว่ามีหรือที่พวก Skrull มันจะยอม!!
เหล่า Illuminati จึงทำการเชือดไก่ให้ลิงดู ด้วยการระเบิดยานแม่ของ Skrull ทิ้ง ทั้งลำ
แต่เนื่องจากไปซ่าไม่ดูตาม้าตาเรือ
ทำให้พวกพี่แกถูกจับในที่สุด (ว้าาาา)
เหล่า Skrull จึงจัดการ ทำการศึกษาและทดลองต่างๆกับเหล่า Illuminati
แม้ตอนท้ายทั้งหมดจะสามารถแหกคุกหนีออกมาได้ และถล่มศูนย์วิจัยของ Skrull จนย่อยยับ
แต่จากเหตุการณ์ครั้งนั้นก็ทำให้ Skrull ได้ทั้งข้อมูลที่สำคัญหลายอย่างไป
ผนวกกับความแค้นที่พวกลุงๆพวกนี้ทำไว้ ซึ่ง Dorrek VII หรือ ราชา Dorrek มีแผนการเอาไว้ในหัวของเขาแล้ว
Dorrek VII: พวกเราได้ของที่พวกเราต้องมาแล้วใช่มั๊ย
ตัวประกอบ: ได้มาแล้วครับ ท่านผู้เป็นเลิศ
Dorrek VII: งั้นมันก็คุ้มค่า
Dorrek VII: ไปบอกพวก Priest of The Science ว่าเริ่มงานได้
Dorrek VII: พวกนั้นรู้ว่าต้องทำอะไร
Dorrek VII: บอกพวกนั้นว่าไม่ว่าจะใช่เวลาเท่าไร
Dorrek VII: ชั้นก็จะรอ!
—————————————————
Infinity Gauntlet
(New Avengers: Illuminati #2)
ภารกิจนี้ นำโดย Mr. Fantastic ครับ สืบเนื่องมาจากเหตุการณ์ใน She-Hulk Vol.3 #12
ตัวร้ายคนหนึ่งนามว่า Titania ได้ใช้พลังของ Power Gem (หนึ่งในหกอัญมณีเมพของถุงมือพลังเกรียน)
สร้างความเดือดร้อนให้กับชาวบ้าน จนแม้แต่ Avengers ก็เอาไม่อยู่
ทาง She-Hulk กับผองเพื่อนจึงใช้แผนตบตา ชิง Power Gem ออกมาจากหน้าผากของ Titania ได้สำเร็จ
หลังจากเสร็จศึกกับ Titania เรียบร้อย She-Hulk ก็นำอัญมณีดังกล่าวมาให้แก่ Mr. Fantastic ที่ร่วมต่อสู้ด้วย
และแล้วความวิบัติเกิดบังเกิดขึ้น เมื่อ Reed มาคิดว่า ขนาดตัวร้ายเกรดบีของเรื่อง She-Hulk
ยังครอบครอง Power Gem ได้ อนิจจา Gem อีกห้าที่เหลือมันจะเป็นเช่นไร ถ้ามีตัวร้ายเกรดต่ำตัวไหนได้มาอีก!
จักรวาลจะฉิบหัยไปขนาดไหนเนี่ย โอ๊วม่าย มันช่างอันตรายเหลือเกิน เราต้องหยุดมันซะก่อนนะเธอว์!!
จากนั้น Reed ก็เปิดเผยความลับที่เขาอยู่ แก่เพื่อนสมาชิก
เขาแอบเก็บ Infinity Gauntlet และ Space Gem กับ Soul Gem มาเรียบร้อย
เนื่องจาก Gem ต่างเรียกร้องหา Gem อื่นด้วยกันเอง ฉะนั้น ตอนที่ Reed ได้ Power Gem
Reed จึงใช้มันในการระบุที่อยู่ของ Gem อีกสองอันได้
จากนั้น ภารกิจตามล่าเพชรพระอุมา เอ๊ย Gem เมพทั้งสามที่เหลือจึงได้เริ่มต้นขึ้น
โดยถุงมือได้บอกที่อยู่ Gem ที่เหลือดังต่อไปนี้…..
Mind Gem แฝงอยู่จิตไร้สำนึกที่สะสมมาแต่อดีตกาล (Collective Unconscious) ของจักรวาล
โดยมี Dr. Strange, Namor และ Xavier เป็นผู้หาโดยใช้เครื่อง Cerebra (เครื่องตรวจจับ Mutant)
ส่งจิตของทั้งสามเข้าไปในจิตของจักรวาล
ซึ่งภายหลังทั้งสามจึงตระหนักว่า ที่แท้แล้ว จิตของจักรวาล ก็คือ ตัว Mind Gem เอง นั่นเอง!
Reality Gem ฝังอยู่ในขอบความเป็นจริง (Edge of Reality)
โดมี Black Bolt, Reed และ Tony Stark เป็นผู้หา โดยให้ Black Bolt ตระโกนในเครื่องมือพิเศษ
ทำให้พลังของ Black Bolt ฉีกความเป็นจริงออกมา (ทำได้ไงฟระ!)
แต่เมื่อ Stark หยิบ Reality Gem ขึ้นมาความบรรลัยจึงเกิดขึ้น! เพราะ Gem ทำให้ความเป็นจริงรอบข้างเปลี่ยนไป
ผลคือร่างของ Tony แตกสลายและกำลังจะหายไปนั่นเอง!
แอ๊กกกช่วยตรูด้วยยยยย
ในขณะที่สถานการณ์กำลังสิ้นหวัง
Black Bolt บอกให้ Reed ใช้ถุงมือและอัญมณีอีกสามอันที่เหลือเพื่อกู้สถานการณ์!
Reed รีบคว้าถึงมือที่มีอัญมณีอยู่สามเม็ดมาใส่ทันที
“ขอร้องล่ะ”
“ได้ผลทีเถอะ!”
บรึ้มมมมมมมมมมม!!!
Thing: นายว่า เราไปดูพี่แกหน่อยดีมั๊ยวะ
อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกก!!
พรึ่บ!
ทุกอย่างกลับมาเป็น ปกติ
Iron Man: แฮ่กๆ
Iron Man: หวังว่าคนอื่นๆ จะไม่งานงอกแบบนี้นะ
เมื่อได้ Gem ทั้งห้ามาแล้ว Reed จึงใช้พลัง ดึง Gem สุดท้ายออกมา นั่นก็คือ
Time Gem ที่ติดอยู่ในห้วงเวลา นั่นเอง
หลังจากได้ Gem มาครบแล้ว…… Reed กำลังจะใช้ถุงมือทำอะไรซักอย่าง
สร้างความเครียดให้แก่เหล่าสมาชิกอย่างรุนแรง!!
ร้อนถึง The Watcher นาม Uatu ต้องลงมาพูดกับ Reed ด้วยตัวเอง
พร้อมกับสั่งสอน Reed ว่าพลังเช่นนี้ไม่คู่ควรกับมนุษย์
เขายอมฝ่าฝืนกฎของ Watcher หลายครั้งเพราะ เขาคิดว่า เขาได้มอบโอกาสให้แก่มนุษย์เพื่อทำบางสิ่งขึ้นมาได้
นี่คือสิ่งที่เขาได้รับรึ สลัดเอ๊ย
(ของจริง ไม่มีคำว่า สลัดเอ๊ย นะครัฟ ฮ่า)
หลังจาก Uatu พูดจบ Reed ก็พูดออกมาเบาๆว่า
Mr.Fantastic: มันไม่ได้ผลเลย
Dr. Strange: อะไรที่ว่าไม่ได้ผลน่ะ!
Mr.Fantastic: ชั้นคิดว่าจะสามารถใช้พลังลบตัวถุงมือออกไปได้ซะอีก
Mr.Fantastic: แต่มันไม่ได้ผลเลย
Mr.Fantastic: คูณเอาไปเถอะ
The Watcher: ข้าไม่อาจทำเช่นนั้นได้
The Watcher: เจ้าก็รู้ดีกว่าใคร
Mr.Fantastic: ผมขอร้องล่ะ
The Watcher: ข้าไม่อาจครอบครองสิ่งนี้ได้ เจ้าเองก็เช่นกัน
The Watcher: ไม่ควรมีผู้ใดไม่ว่าจะเผ่าพันธุ์ไหนในจักรวาลที่ครอบครองอัญมณีทุกอันไว้
Mr.Fantastic: ผมเห็นด้วย
The Watcher: โดยเฉพาะ มนุษย์
Mr.Fantastic: ผมเห็นด้วย
ว่าแล้ว Reed ก็ดึงอัญมณีทั้งหกออกมา
เพื่อให้สมาชิกทั้งหกครอบครอง
Mr.Fantastic: เพราะผมเองก็เชื่อว่า
Mr.Fantastic: หากได้รับโอกาสแล้ว…
Mr.Fantastic: …พวกเรา..
Mr.Fantastic: สามารถจะทำบางสิ่งขึ้นมาได้
Mr.Fantastic: ขอเพียงเรามีโอกาส
Mr.Fantastic: พวกทุกคนจะได้อัญมณีไปคนละหนึ่ง
Mr.Fantastic: และพวกเราจะไม่มีวันที่จะใช้มันเป็นอันขาด
Mr.Fantastic: ท่านจะต้องซ่อนมันไว้จากทุกสิ่งและทุกคน
Mr.Fantastic: พวกเราจะเป็นผู้ปกป้องมัน
Mr.Fantastic: จะไม่มีพวกเราคนไหนรู้ว่าคนอื่นๆเอาอัญมณีของตนเองไว้ที่ไหน
Mr.Fantastic: เป็นทางเดียวที่จะทำช่วยให้มันอยู่อย่างปลอดภัย
The Watcher: นั่นไม่ใช่สิ่งที่เจ้าจะกำหนดได้ Richards
The Watcher: ข้ากลัวว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับเจ้า ถ้าอัญมณีของเจ้าถึงค้นพบ
The Watcher: แต่ข้าเองก็รู้สึกซาบซึ้งใจที่เจ้ามีจิตที่เข้มแข็งพอจะไม่ถูกจิตกิเลสของถุงมือครอบงำ
แล้ว The Watcher ก็จากไป เหลือแต่ความเงียบ พร้อมกับ Xavier ที่ทำหน้าแปลกๆ
แต่โดยสรุปแล้ว แต่ละคนครอบครองกันดังนี้
Time Gem พลังในการควบคุมกาลเวลา และการมองเห็นอดีตและอนาคต ได้ Namor ดูแล
Space Gem พลังในการควลคุมการเคลื่อนย้ายมวลสาร Black Bolt ดูแล
Soul Gem พลังในการการควบคุมวิญญาณ มี Dr. Strange ดูแล
Reality Gem พลังในการเปลี่ยนแปลงมิติและความเป็นจริง Iron Man ดูแล
Power Gem ตามชื่อครับ พลัง พลัง แล้วก็พลัง ได้ Mr. Fantastic ดูแล
Mind Gem ช่วยเพิ่มพลังทางจิตทั้งหมด แน่นอน Professor X ดูแล
—————————————————
The Beyonder
(New Avengers: Illuminati #3)
หากใครที่เคยอ่านเรื่องราวของตัวเมพๆในจักรวาล Marvel คงเคยได้ยินกิตติศัพท์ของพี่แกดีนะครับ
Beyonder นั้นสร้างวีรเวรวีรกรรมไว้ในช่วง Secret War ครั้งแรกครับ
โดยพี่แกลักพาตัวฮีโร่และตัวร้ายจำนวน 37 คน มาอยู่ในโลกนาม Battleworld โดยให้ทั้งหมดสู้กันจนตัวตาย
แล้วเขาจะทำให้ความปรารถนาของคนๆนั้นเป็นจริงๆ (คุ้นๆเหมือน Avengers Arena จุงเบย)
ซึ่งในช่วงที่ Xavier กำลังใช้จิตพาคนทั้ง 37 คนกลับบ้านนั่นเอง เขาก็ค้นพบบางสิ่งที่สำคัญมาก
อย่างแรก เขาค้นพบว่า Beyonder ไม่ใช่คอสมิคระดับจักรวาล แต่เป็น Mutant
และที่สำคัญกว่านั้นคือ Beyonder เป็น Inhuman ลูกน้องของ Black Bolt
โดยพลังวิเศษที่เขาได้รับมาจาก Terrigen Mist ผลึกที่สร้างพลังเมพแก่เหล่า Inhuman
จากนั้น Xavier สัมผัสได้ว่า Beyonder กำลังสร้างอะไรบางอย่างที่ผิดธรรมชาติอยู่
เหล่า Illuminati ก็เริ่มภารกิจพา Beyonder ไสหัวไปอยู่ที่อื่น
เมื่อเขาไปถึงที่ๆ Beyonder อยู่ พวกเขาพบว่า
Beyonder กำลังสร้างสนามเด็กเล่นขึ้นมา!
มันคือ Secret War II นั่นเองครับ
สรุปคือ Marvel แถว่าอีเว้น Secret War II นี้ ทั้งหมดไม่เคยเกิดขึ้นเลย! Beyonder สร้างเอง เล่นเอง!
จากนั้นเหล่า Illuminati ก็เข้าไปคุยกับ Beyonder บอกให้หยุดการกระทำนี้ซะ
เพราะมันทำให้ระบบนิเวศน์ต่างๆผิดเพี้ยนไปหมด
อีกทั้ง Beyonder เองก็เสพย์ติดเรื่องนี้จนลืมวันลืมเดือนไปแล้ว
แต่ Beyonder ก็ไม่เข้าว่าตนทำอะไรผิด
Beyonder แค่หวังดีอยากสร้างเรื่องนำทางให้มนุษย์ไปสู่ที่มนุษย์ต้องการได้
Beyonder: ไม่ว่าคุณจะไฝ่ฝันถึงสิ่งใดผมสามารถบันดาลให้ได้!
Beyonder: ได้ยินมั๊ย?
ตัวประกอบ: ราชา Namor!
ตัวประกอบ: พวกเราจะช่วยกันยึดผืนโลกนี้ในนามของท่าน ราชา Namor!!
Namor: หยุดเรื่องงี่เง่าพวกนี้เดี๋ยวนี้เลยนะว้อย!
Beyonder: อ๋อได้
Beyonder: ทุกอย่างที่พวกคุณต้องการผมสามารถจัดให้ได้
Mr. Fantastic: หยุดนะ!
Beyonder: ผมสามารถบอกกับราชาได้อย่างเต็มปาว่า
Beyonder: ดูสิ่งที่ผมบรรดาลให้ท่านสิ
Beyonder: ทั้งหมดนี่ก็เพื่อแสดงให้ท่านเห็นว่าผมสามารถทำอะไรกับโลกทั้งใบได้บ้าง
Dr.Strange: หยุดซักที!
Beyonder: ผมจะไปพบท่าน พร้อมกับทุกสิ่งที่ท่าน
Namor: ราชาของแกประสงค์ให้แกหยุดได้แล้ว!
Namor: แกไม่ใช่พระเจ้า! ไม่ได้เป็นอมตะ!
Namor: แกเป็นทาสรับใช้ผู้ซื้อสัตย์ของราชาแกว้อย
Namor: แล้วตอนนี้ราชาของแกก็ประสงค์ให้แกหยุกเรื่องบ้าๆนี่ซะ
Namor: ทั้งหมดเลย!
Namor: จงหยุดเรื่องนี้ แล้วไปจากจักรวาลนี้ แล้วไม่ต้องกลับมาอีก!
Beyonder หวนนึกไปถึงตอนที่เขาเข้ารับพลังจาก Terrigen Mist
Beyonder: ผมก็แค่อยากจะ…
Namor: เงียบซะ
Namor: จงทำตามบัญชาซะ
.
จากนั้น Beyonder ก็ไปจากมิตินี้….
เพื่อมาโผล่ในโลก(ของเรา?)!!
—————————————————
Marvel Boy
(New Avengers: Illuminati #5)
Noh-Varr หรือ Marvel Boy นักรบเผ่า Kree
ได้บุกถล่มกรุงนิวยอร์คเพราะยานบินของเขาถูกยิงตก จากนั้นไม่นานเขาก็ถูกจับตัวเข้าห้องขัง
เหล่า Illuminati เห็นว่าเป็นเรื่องดีที่จะเปลี่ยนใจเขาให้มาอยู่ฝ่ายดี
แรกๆ Tony บอกให้ Xavier ใช้พลังจิตเปลี่ยนใจน้อง Noh-Varr ซะ
แต่ Xavier บอกว่าทำแบบนั้นจะส่งผลเสียในระยะยาว
เพราะในระยะยาวจิตจะเริ่มต่อต้าน และอาจลงที่ Nor-Varr ไปทำร้ายตนเองหรือคนอื่น
เหล่า Illuminati จึงตัดสินใจ โน้มน้ามใจ Noh-Varr โดยทั้งยกประเด็นเรื่อง
ความใจร้อนและยังเด็กของ Noh-Varr ทีประกาศสงครามโดยไม่คิดหน้าคิดหลัง
และบอกว่า Norr-Vah คือผู้สืบทอดของเหล่าบุคคลที่มาเพื่อคุ้มครองโลก ไม่ใช่ทำลายโลก
เหล่า Illuminati ยกฮีโร่ และเพื่อนเขาเป็นตัวอย่างของ Kree ที่พยายามปกปเองโลก
Captain Marvel รุ่นแรก หรือ Mar-Vel นั่นเอง
เหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้ Noh-Varr กลายมาเป็นฮีโร่ที่มีบทบาทสำคัญมากมาย
แต่ถามว่ายังเกรียนอยู่ไหน ก็ต้องตอบว่า ยังเกรียนอยู่…บ้าง…นิดส์ๆ
เคยตื้บ Young Avengers มาแล้วด้วยนะ ฮ่า
ล่าสุด Noh-Varr ก็เข้าร่วมกับ Avengers ภายใต้ฉายา ชื่อ The Protector
และออกมาเข้าร่วมทีม Young Avengers ใน Marvel NOW ด้วยครับ
—————————————————
The Sentry
(The New Avengers #7-10)
ในตอนที่ Sentry ปรากฎตัวครั้งแรกใน The New Avengers #7
Sentry หมกตัวอยู่ในถ้ำ และมีอาการจิตตกเพ้อถึงแต่ The Void
จนใช้พลังเสกตัวเองให้หายไป ร้อนถึงเหล่า Illuminati ได้ประชุมกันเรื่องของเขาในเวลาต่อมา
ทุกคนต่างจำไม่ได้ว่า Sentry คือใคร
แต่เหมือนว่า Reed จะเคยทำกิจกรรมต่างๆกับ Sentry เอาไว้ โดยที่เขาเองก็จำไม่ได้
ทำให้ Xavier เริ่มสงสัยว่าบางทีอาจจะมีใครใช้พลังบล๊อกความทรงจำไว้ก็ได้
จนที่สุด Reed ก็ค้นพบข้อความของ Sentry ที่บอกว่า ตนเองคือ The Void!!
โดยเขาอธิบายว่า
เขาเริ่มความทรงจำที่ขาดหาย และทำอะไรโดยไม่รู้ตัว
รวมถึงความทรงจำคนอื่นๆเกี่ยวกับตัวเขาก็หายไปด้วย
Sentry เดาว่ามาจากพลังที่มากเกินกว่าที่จิตของตนจะรับได้
จึงสร้าง The Void ขึ้นมาโดยไม่รุ้ตัวนั่นเอง
จากนั้นเมื่อเหล่า Avengers พบตัว Sentry
The Void ก็โผล่มาที่โลกแทบจะทันที ทั้งหมดสู้กับ The Void แต่ก็สู้ไม่ได้
แต่เมื่อ Reed เอาไดอารี่ของ Sentry มาให้เจ้าตัวได้ฟัง
Sentry ในร่าง Bob Reynolds ที่จำอะไรไม่ค่อยจะได้จึงให้ Emma Frost เข้าไปในหัว
เพื่อดูว่าแที้จริงแล้วเกิดอะไรขึ้นกับเขากันแน่
จนในที่สุดก็พบว่าที่แท้ The Void เกิดจาก
ไวรัสที่ Master Mind (คนซ้ายในรูปล่าง) กับ The General (ตัวร้ายในเรื่อง Sentry) ฝังในหัว Sentry
กันไม่ให้ Sentry หรือใครในโลกรวมถึง The General เอง จำฮีโร่ที่ชื่อ Sentry ได้
แต่จิตของ Sentry ยังคงดิ้นรนอยากให้คนอื่นชื่อ
ทำให้ Sentry ส่งกระแสจิตไปยังนักเขียนการ์ตูนชื่อ Paul Jenkins
จนเขียนเป็นหนังสือการ์ตูนออกมาในชื่อ Sentry เช่นกัน (รูปแรกของหัวข้อนี้ครับ)
เมื่อ Sentry รุ้ทุกอย่าง
และเมื่อเขานึกถึงคืนวันที่เขาอยู่กับคนรักของเขา Lindy Reynolds
(ที่เขานึกว่าฆ่าตายไปแล้ว แต่ยังไม่ตายนะจ๊ะ แต่ก็มาตายอย่างอนาจตอนหลังอยู่ดี ฮือๆๆ)
The Void ก็หยุดการโจมตี และหายตัวไปในที่สุด…..
จนออกมาอีกทีใน อีเว้น Siege
(เพราะจิตของ Sentry แย่ลงจนโดยเฉพาะช่วง Dark Reign นี่โดน Norman ปั่นหัวหนักมากๆ
จนในที่สุด The Void กับ Sentry ก็เป็นหนึ่งเดียวกันจนแยกกันไม่ออก)
—————————————————
Planet Hulk
(Planet Hulk & The New Avengers – Illuminati)
หลังจากที่เหตุการณ์ House of M ผ่านพ้นไป Professor X หายสาปสูญ
ทำให้สมาชิกของ Illuminati หายไปหนึ่งคน
แต่โลกก็ยังคงหมุนไปโดยเฉพาะอย่างยิ่ง Hulk!!
ใน Fantastic Four #533-535 Bruce Banner ในร่าง Hulk
(ที่เรียกแบบนั้น เพราะ Hulk สามารถพูดคุยรู้เรื่อง มีสติและความฉลาดครบถ้วน)
ได้รับภารกิจจากหน่วย S.H.I.E.L.D.ให้จัดการกับฐานเก็บอาวุธลับของพวก Hydra นอกเมือง Las Vegas
แต่สิ่งที่ Hulk และเหล่า S.H.I.E.L.D. คาดไม่ถึง ตรงนั้นมีระเบิดแกรมม่าขนาดยักษ์ตั้งตระหง่านอยู่
และในขณะที่ Hulk กำลังจะปลดระเบิดนั่นเอง
ระเบิดก็ดันทำงานและสร้างความเสียหายเป็นวงกว่้าง บ้านเรือนพังพินาจไม่มีชิ้นดี
ร้อนถึงสมาชิก Fantastic Four สองคนได้แก่ Thing และ Human Torch ลงมาดูความเสียหาย
ทั้งสองพบว่า ระเบิดได้คร่าชีวิต จนท. หน่วย S.H.I.E.L.D. ทั้งหมดในพื้นที่นั้นไปเรียบร้อย
แต่ทว่าระเบิดไม่อาจฆ่า Hulk ได้ ที่แย่กว่าระเบิดได้เปลี่ยนให้ Hulk กลายเป็น Hulk รุ่นแรก
ที่มีร่างสีเทา พูดไม่รู้เรื่อง เต็มด้วยความดิบเถื่อน และการทำลาย
นั่น เป็นสิ่งที่คนนอกเขามองครับ
แต่อันที่จริง Bruce ยังมีสตินะครับ
เพียงแต่สิ่งที่เขาเห็นมันเป็นภาพหลอนที่ผสมจากเรื่องอดีตในห้วเขา
อย่างเช่นถ้า Hulk กำลังกระทืบ Thing อยู่ แต่ Bruce กลับคิดว่าตัวเองกำลังช่วยเพื่อนอยู่ เป็นต้น
ที่จริงถ้าปล่อยไว้เฉยๆ Hulk อาจไม่ถล่มบ้านคนอื่นๆก็ได้นะ
เพราะเมื่อ Hulk เข้าไปในตัวเมือง Vegas เขาเห็นภาพในอดีตที่ทำให้เขาเริ่มสงบลง
แต่แบบนั้นมันก็ไม่ดราม่าสิ ชิมิๆๆๆๆ
Thing กับ Human Torch ที่คิดว่า Hulk จะมาทำร้ายคน
จึงรีบยิงพลังใส่ Hulk เริ่มจะสงบ ให้กลับมาคลั่งอีกครั้ง
การต่อสู้สร้างความเสียหายให้เมืองพอสมควร แต่ในที่สุด Human Torch จึงใช้ท่าไม้ตาย ระเบิดโนวา
แม้ Hulk ยังยืนชิลไม่เป็นไรมาก แต่เขาก็ได้สติกลับมาในที่สุด
จากนั้น Hulk ก็ขอโทษขอโพย Thing กับสิ่งที่เขาทำลงไป
แล้วขึ้น เฮลิคอปเตอร์ของหน่วย S.H.I.E.L.D. กลับไป
Human Torch: อ้าวผมมาลาไมทันเหรอ
Thing: อ่าฮะ
Human Torch: คือว่างี้นะ ไหนๆเราก็มาอยู่นี่แล้ว เฮียอยากเล่นตู้สลอตกันซักตั้งมะ?
Thing: เอาดิ ทำไมจะไม่เล่นล่ะ?
Human Torch: แล้วเฮียได้บอกเรื่องนี้กับ Reed รึยัง?
Thing: บอกหมดเลยตั้งแต่หลังจากระเบิดแกรมม่าระเบิดไปแล้วเกิดไรขึ้น
Thing: แล้วก็บอกเอ็งใช้พลังโนว่าแต่พี Hulk แกก็ยังยืนชิลอยู่ตรงนั้น
Thing: บางอาจอาจไม่มีอะไรในโลกจะฆ่าพี่แกได้ปแล้วมั้ง
Thing: จากนั้นก็ปล่อยมุขไปหนึ่งมุข
Thing: บอกว่าบางทีวิธีการที่ดีที่สุดที่จะช่วยโลกเอาไว้จากเฮีย Hulk แก
Thing: ถ้าพี่แกเกิดเป็นผีบ้าขึ้นมาอีกก็คือจับพี่แกติดกาวไว้กับแท่งจรวดแล้วยิงขึ้นฟ้าแม่มเลย
Thing: โยนปัญหาของพี่แกให้คนอื่นซะเลย จบข่าว
Human Torch: โอ้ว มุขนี้พี่แกฮามะ?
Thing: อืมแปลกนะ
Thing: คราวนี้ไม่ฮาว่ะ
Human Torch: โห้….
ผลจากเหตุการณ์ครั้งนั้น Maria Hill จนท.ของหน่วย S.H.I.E.L.D.
แจ้งว่ามีผู้เสียชีวิตไป 26 คน มีเด็ก 2 คน และสุนัขหนึ่งตัว
(แต่ตอนที่เกิดใน Fantastic Four นี่ ไม่มีวี่แววว่าพี่แกทำใครตายเลยนะ แต่คงจะตายตอนสู้กับ Thing มั้ง)
Maria Hill จึงได้ทำการไซโค Tony บอกว่า
ถ้าเป็นเธอนะ เธอจะทำทุกอย่างเพื่อหยุด Hulk และไม่ให้ทำเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอีก
เธอจึงถามกลับมา Tony ยังจะปล่อยให้ Hulk เป็นปัญหาแบบนี้ไปอีกนานเท่าไร
(น่าขัน ที่ในตอนหลัง เธอโดน Bruce กล่อมจนยอมพา Hulk มาเข้ามาอยู่หน่วย S.H.I.E.L.D.)
Tony จึงตัดสินใจจัดการประชุมขึ้นอีกครั้ง เพื่อทำการ ส่ง Hulk กลับบ้านเก่า เอ๊ย ส่งออกไปนอกโลก
การประชุมครั้ง Namor ไม่เห็นด้วย แต่ทั้ง Reed และ Dr.Strange ต่างยกเหตุผลมามากมายว่า
พวกเขาพยายามรักษาแล้วแต่ไม่ว่าจะลองทำด้วยวิธีไหน ก็ไม่เป็นผลทั้งนั้น สุดท้ายจึงเหลือวิธีเดียวคือ
ส่ง Hulk ไปอยู่บนดาวอื่น ที่ไม่ใช่โลกใบนี้
Dr.Strange: ถ้า Banner ฆ่าตัวตายได้ ป่านนี้เขาคงทำไปแล้ว
Iron Man: ยังไงก็เถอะชั้นพูดถึงเรื่องจะพาเขาไปตายซะเมื่อไร!
Iron Man: ชั้นพูดถึงเรื่องส่งเขาไปที่อื่นไกลๆแค่นั้นเอง
Namor: เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องของ Banner ใช่มั๊ยวะ!
Namor: แต่มันเป็นเรื่องของ Wanda Maximoff ยัย Scarlet Witch ต่างหากใช่มะ?!
Namor: แกลงโทษ Banner เพราะแกลงโทษนังนั่นในสิ่งที่มันทำกับพวกแก Avengers ของพวกแกไม่ได้ล่ะสิ!
(ช่วง Avengers Disassemble นั่นเองครับ)
Namor: พวกแกคุมเธอไม่อยู่เอง แล้วไปลงกับหมอนั่นเนี่ยนะ!!
Iron Man: เฮ้ย Namor ยิ่งพูดยิ่งฟังดู…
Namor: ชั้นบอกกับพวกแกไว้เลยว่า ถ้ายังทู่ซี้คุยเรื่องนี้กันอีกล่ะก็…..
Mr.Fantastic: งั้นเรามาออกเสียงกันเลย?
Reed ตัดบท แล้วทำการโวต แน่นอนทุกคนเห็นด้วยกับเรื่องนี้
ยกเว้น Namor คนเดียว
Dr.Strange: นี่ Namor
Namor: ขอเตือนพวกเอ็งไว้เลยนะ ถ้าพวกเอ็งคิดจะทำอะไรเขาละก็
Namor: ตรูจะ….
Iron Man: เฮ้ย Namor!!
Iron Man: ปัญหาของนายก็คือ นายคิดว่านายเป็นคนเดียวที่ยืนหยัดต่อสู้ในสิ่งที่หมอนั่นเชื่อ
Iron Man: ความจริงก็คือพวกเราก็เป็นนักรบ
Iron Man: พวกเราทุกคนพร้อมจะสู้เพื่อความเชื่อนั้นเหมือนกัน
Namor: ส้นทรีนนิ! พวกแกน่ะเป็นนักรบ
Namor: ตรูเป็นราชาว้อย!
Iron Man: ไม่ใช่ที่บนนี้ว่ะ
เปรี้ยงงงงงงงงง!!
คำพูดของ Tony ดันไปสะกิดบาทของ Namor อย่างจัง ทั้งคู่จึงวางมวยได้ซักพัก
จนเมื่อการต่อสู้เกือบบานปลาย Dr.Strange ก็มาห้ามศึกไว้ทันพอดี
Dr.Strange: ไม่อยากจะเชื่อเลย Namor !!
Dr.Strange: สันดานของนายมันไม่เคยเปลี่ยนจริงๆ
Namor: งั้นพวกแกมันก็สันดานโง่!
Namor: โง่ไม่มีเปลี่ยนเหมือนกันล่ะว้อย
Namor: พวกแกทุกคนเลย!!
Dr.Strange: แต่กลุ่มเราได้ร่วมโวตกันแล้ว
Namor: แต่แกก็รู้จักหมอนั่นมาทั้งชีวิต Strange
Dr.Strange: และชั้นก็อยากให้เขามีความสุข!
Namor: Banner จะกลับมาจากที่ๆพวกแกส่งไป
Namor: แล้วจะมาฆ่าพวกแกทุกคน!
Namor: แล้วเขาก็มีสิทธิ์จะทำด้วย!
Iron Man: ปล่อยมันไปเหอะ
และแล้ว Dr.Strange ก็ปลดเวทย์มนตร์ลง
Namor: แล้ว ราชา T’Challa ก็พูดด้วย
จากนั้น Namor ก็จากไป
ส่วน Hulk หลังจากเหตุการณ์ที่ Vegas พี่แกก็อัปเปหิตนเองออกจากสังคมเพื่อไม่ให้พี่แกทำร้ายใครได้อีก
แต่กระนั้น เหล่า Illuminati พร้อมหน่วย S.H.I.E.L.D. ก็ยังอุตส่าห์ร่วมมือกันหลอก Hulk
โดยใช้หุ่น Nick Fury หลอกให้ Hulk ขึ้นไปทำภารกิจบนอวกาศ
หลังจากที่ Hulk เสร็จภารกิจแทนที่พี่แกจะได้กลับบ้าน ยานกลับส่งพี่แกไปอยู่บ้านนอก (โลก) แทน
เกร็ดเสริม
หากใครอ่านสปอยคอมมิคมานานคงจะทราบว่า
ยานมันไม่ได้ลงจอดบนดาวที่เหล่า Illuminati ตั้งใจไว้หรอก
เรื่องนี้ Reed เองก็พอรู้มาบ้างว่ายานมันไม่ได้ลงจอดที่จุดหมาย
เพราะเด็กโคตรฉลาดนามว่า Amadeus Cho ผู้ใช้ทำลายเฮลิคอปเตอร์ด้วยพายสุดอร่อย! เป็นคนบอก
(น้องแกบอกว่าที่ฉลาดไม่เพราะเป็น Mutant หรือมีพลังพิเศษอะไร ตรูแค่ฉลาดอ่ะ เข้าจายป่ะ)
รูปล่างคือวิธีการทำ เฮลิคอปเตอร์ ล่วง ด้วย พาย ของน้อง Cho
คือถือพายไว้เฉยๆ ส่องกระจกรถ แล้วให้คนบนเฮลิคอปเตอร์ยิงพลาดไปโดน Bruce ฮ่าๆ
ส่วนพายก็เอามากิน ฮ่า
โดย Cho ปลื้ม Hulk เพราะได้ช่วยตนเองไว้ใน Amazing Fantasy Vol.2 #15 (รูปบน)
จึงได้เข้าสืบหาว่า Hulk หายไปไหน จนพบว่าเหล่า Illuminati ได้ส่ง Hulk ไปนอกโลกแล้ว
จึงโทรไปหา Reed เพื่อขอยืม (?) ดาวเทียมของรัฐบาลเพื่อดูว่า Hulk อยู่ในดาวนั้นเป็นไงบ้าง ปรากฎว่าหาไม่เจอ
Cho จึงด่า Reed ว่าเป็น ฆ่าเขาไปแล้วดิ เลวจุงเบย พี่ Reed จึงสวนกับด้วยข้อมูลความเสียหายที่ Hulk ก่อขึ้น
Cho ก็บอกว่าตรูรู้นานแล้วว้อย แล้วที่ Hulk ทำแบบนั้นก็เพราะมีเหตุผล อย่าง ระเบิดแรมม่าบ้าง โดนสะกดจิตบ้าง
และ Cho ก็สวนกลับด้วย ข้อมูลคุณความดีทั้งหลายที่ Hulk ได้ทำไป
จนได้รับรางวัลต่างๆมากมายทั้งจาก Namor กลุ่ม Illuminati แม้แต่กับ Watcher
แล้วสวน Reed ว่า ถ้าคนตายใน Civil War มีมากกว่านี้ Reed จะส่งตัวเองไปอยู่ดาวอื่นรึเปล่า!! อู้วววว เจ้บ
—————————————————
Civil War
ในช่วง Civil War พี่ Tony แกเสนอการออกกฏหมายจดทะเบียนยอดมนุษย์ (Superhuman Registration Act.)
เพื่อให้หวังให้สมาชิกคนอื่นใน Illuminati ที่เป็นตัวแทนของแต่ละกลุ่มเห็นชอบด้วย พี่แกจะได้สบายใจ
แน่นอนโดน Namor แขวะเหมือนเดิมว่า เอ็งเล่นงาน Hulk ไปแล้ว ตอนนี้ยังมาหาทางเล่นพวกตรูได้อีกนะ
Tony ก็อ้างว่าหลังจากเหตุการณ์ต่างๆที่ผ่านมา
ทำให้เกิดความกลัวขึ้นกับประชาชนและรัฐบาล
ฮีโร่จึงควรรีบเข้ากับรัฐบาลนักการเมืองพวกนี้และเข้าสู่ระบบให้เป็นเรื่องราวซะตอนนี้
ก่อนที่พวกรัฐบาลจะหวาดระแวงจนเกินเหตุแล้วออกกฎหมายชะล้างฮีโร่ซะเอง
แน่นอนว่าหลังจากะพูดจบ Namor ไม่เห็นด้วยซักกะติดและไม่ขอร่วมสังสรรด้วยต่อไป
ส่วน Dr.Strange เห็นว่า
Iron Man: นี่ ด๊อกเตอร์
Dr.Strange: เรื่องนี้มันผิดชัดๆ
Dr.Strange: เรื่องนี้มันจะทำให้คนอื่นถูกเผิกเฉยและอยุ่ในความกลัวนะ
Dr.Strange: แล้วสหายของพวกเราจะต้องลุกขึ้นสู้เพื่อสิทธิ์ของพวกเขา
Dr.Strange: จนตัวตาย
Dr.Strange: ดร.Richards โปรดบอกผมทีว่าคุณคิด…
Mr.Fantastic: ผมว่า Tony พูดถูก
Dr.Strange: คุณพระช่วย
Mr.Fantastic: Tony พูดถูกต้องเลย
Dr.Strange: งั้นชั้นว่าเราคงไม่มีอะไรต้องคุยกันอีกแล้ว
Dr.Strange: อย่าเรียกชั้นมาอีกล่ะ
และ Black Bolt ก็ไม่เห็นด้วยกับเรื่องนี้เช่นกัน ทำให้ในที่สุด ทีม Illuminati ก็วงแตกในที่สุด
—————————————————
World War Hulk
หลังจากวงแตกได้ไม่นาน
สิ่งที่เหล่า Illuminati ทำเอาไว้ก็ย้อนกลับมาหาตนเองในที่สุดครับ
Hulk ที่ถูกส่งไปอวกาศ เกิดเหตุผิดพลาดขึ้น เพราะ Hulk Smash ดุไปหน่อย
ทำให้วิถียานลงจอดที่ดาว Sakaar แทนที่จะเป็นดาวที่อุดมไปด้วยป่าไม้ และอาหาร
แต่ Hulk ก็บ่ยั่น Hulk สามารถเอาชีวิตรอดและได้สถาปนาตนเองเป็นราชาแกครองดาว Sakaar
ซึ่งน่าขันที่ Hulk ดันรักและชอบดาวดวงนี้มากซะด้วย ถึงขนาด Silver Surfer ชวนกลับยังไม่กลับ
แต่ทว่าเมื่อครองราชไปได้เพียงสามวัน
ยานบินที่ส่งตัว Hulk ไปนั้นเกิดระเบิดขึ้น คร่าทั้งชีวิตประชากรและความหวังทุกอย่างบนดาว
รวมถึง Caiera คนรักของเขา
แน่นอนว่าคนที่ Hulk โทษ คือเหล่า Illuminati นั่นเอง
ความจริง Hulk อยากตายๆตามพวกพ้องและคนรักของเขาไปนะครับ
แต่น่าเศร้าที่ระเบิดดันทะลึ่งเพิ่มพลังให้ Hulk แกร่งขึ้นมากกว่าเดิมซะอีก
เมื่อรวมกับความโกรธ ความแค้น ความเศร้าของเขา ทำให้ไม่มีหยุดเขาได้อีกต่อไป!
Hulk จึงยกกองกำลังที่เหลือ เข้าไปฟาดฟันเหล่า Illuminati
ทุกท่านสามารถอ่านรายละเอียดได้ตามนี้เลยครับ
[Spoil] World War Hulk [Spoil]
Credit: The_Death_oF_Superman
ในเหตุการณ์ WWH นี้ Hulk ไม่ได้ยุ่งกับ Namor เลย
ทำให้ Namor และอาณาจักรแอตแลนติสรอดจาก Hulk Smash ไปครับ
ส่วน Xavier ที่กลับมาจากเหตุการณ์ M-Day ก็รอดตัวไป
เพราะ Hulk เห็นว่า X-Men เจ็บปวดมามากพอแล้วจากเหตุการณ์ M-Day
อันทีจริง Xavier ไม่ได้หายไปไหนหรอกครับ
เพราะเหตุการณ์ M-Day ทำให้เขาสูญเสียพลังตนเองไป ทำให้เครื่องตรวจจับ Mutant หาไม่เจอนั่นเอง
แถมไม่ได้คุมทีม X-Men อีกต่อไปด้วย เพราะไม่ใช่มิวแต๊นแบ๊ว หน้าที่จึงเป็นของ Scott แทน (แอ๊)
แต่สิ่งที่ได้กลับมาคือ ขาที่สมบูรณ์พูนสุข ทำให้พี่แกสามารถเดินได้เป็นปกติ
เกร็ดเสริม
ชีวิตของเหล่า Warbound หลังจากจบ World War Hulk ก็ถูกตามล่าจากรัฐบาลครับ บางคนก็ตายไปแล้ว ซึ่งชีวิตแต่ละคนเป็นดังนี้ครับ
Hiroim
ตายใน World War Hulk Aftersmash: Warbound #5
โดยเขายอมสละชีวิตตนเองเพื่อจัดการกับ The Leader แต่การของเขาไม่เสียเปล่า
เพราะเขาได้ส่งมอบพลังของเขาไปให้แก่ Katherine Waynesboro จนท. S.H.I.E.L.D. ที่แอบมีใจให้
Miek
ถูกจับส่งตัวเข้าคุกใน Negative Zone แต่แหกคุกออกมาได้ตอนหลัง
แถมเปลี่ยนเพศตัวเอง ให้สามารถวางไข่ได้เอง เพื่อป้องกันไม่ให้เผ่าพันธุ์ของเขาสัญพันธุ์ไป
จากนั้นก็หนีไปอยู่ Savage Land ซึ่งที่นั่นมีเผ่า Sakaar ที่ที่ยังเหลือรอด จากเหตุการณ์ดาวระเบิดอาศัยอยู่
Miek เลยเอามาเป็นอาหารให้แก่ลูกเขาซะเบยยย
จนเกิดเป็นเหตุการณ์ Planet Savage ขึ้น
ซึ่งในตอนสุดท้ายของเหตุการณ์
Miek ไม่อาจต่อกรกับ Hulk และ ผองเพื่อน Warbound คนอื่นๆได้
Miek ขอให้ Hulk ฆ่าตนเอง แต่ Hulk ปฎิเสธ
Miek จึงยอมตายด้วยการปล่อยตนเองตกลงไปในเหว
ส่วนสมาชิก Warbound ที่เหลืออีกสามคน หลังจากจบ Planet Savage (ศึกสู้กับ Miek) แล้ว
ก็ตัดสินใจอาศัยอยู่ที่ Savage Land เพื่อสร้างเผ่าพันธุ์ขึ้นมาใหม่ โดยมี Skaar เป็นผู้นำ
Brood อยู่กับ Skaar เลี้ยงลูกของ Miek ที่เหลือรอด
Elloe Kaifi สาวผิวแดง ได้รับการแต่งตั้งเป็น Red Queen นำเผ่าคนผิดแดงชาว Sakaar ต่อไป
และ Korg มนุษย์หิน ก็อยู่ช่วยเหลือพวกพ้องของเขา
—————————————————
Secret Invasion
(New Avengers #30-32, #40, Mighty Avengers #7)
อันนี้เป็นเหตุการณ์ที่หลายคนอาจจะเคยอ่านมาบ้างแล้ว
หากใครยังไม่เคยอ่าน ผมแนะนำให้อ่านกันก่อนนะครับ
[Spoil] New Avengers: Illuminati #5 [Spoil]
Credit: GaMBiT
เพราะผมจะขอเล่าเหตุการณ์นี้ในมุมมองของพวก Skrull บ้างนะครับ
(ในมุมมองของเหล่า Illuminati สามารถอ่านได้จากใน Link ด้านบนเลยครับ)
ย้อนกลับที่ดาว Satriani สมัยที่เหล่า Illuminati ยกพลไปถล่มดินแดนของพวก Skrull
ราชา Dorrek ได้เตรียมวางแผนจะแก้แค้นเหล่ามนุษย์ ตามที่ได้เกริ่นไว้ข้างต้น
แต่ทว่าในช่วงนั้น อาณาจักร Skrull เองก็มีปัญหาการภายในเช่นกัน
โดยองค์หญิง Veranke แห่งเขต Tyeranx 7
เชื่อในคำทำนายถึงหายนะของ Skrull มาก โดยเฉพาะเรื่องการมาเยือนของ Galactus
แต่ราชา Dorrek เห็นว่าเป็นเรื่องนิทานหลอกเด็กและเพิกเฉยต่อคำทำนายนั้น
ด้วยแนวความคิดที่แตกต่งกันทั้งสอง (เหมือนวิทยาศาสตร์ ปะทะกับพลังเวทย์)
ทำให้ ในที่สุด Dorrek ตัดสินใจเนรเทศเธอออกไปจากดาว ส่วนเขาก็เริ่มดำเนินงานวิจัยต่อไป
โดยผู้เป็นหัวหน้าหน่วยวิจัย หรือ Priest of The Science ก็คือ Dro’Ge
ในช่วงที่เหล่า Illuminati ถูกจับ เขาได้เก็บตัวอย่างของทุกคนเอาไว้
ทำให้บัดนี้ Skrull มีข้อมูลของทั้งมนษย์, Mutant และ Inhuman มาวิเคราะห์
โดยราชา Dorrek ให้ทำการวิจัยนี้ในดาวของ Skrull ดาวอื่น และขึ้นตรงกับราชา Dorrek เท่านั้น
เมื่อการทดลองยังคงดำเนินไป จนกระทั่ง Fantastic Four Vol.1 #257
คำทำนายของ Veranke ก็เป็นจริงขึ้นมา Galactus ที่เหล่า Skrull หวาดกลัวและหลีกหนี
ก็ได้กลืนกินดาวแม่ของ Skrull ในที่สุด
การกลืนกินดาวในครั้งนั้น เหล่า Skrull ที่อยู่บนดาวไม่สามารถขับยานหนีมาได้
เพราะยานทั้งหมดโดนทำลายจนหมดสิ้น ทำให้เหล่า Skrull เสียชีวิตมากมาย
R’Klll ราชินีและภรรยาของ Dorrek ก็เสียชีวิตในเหตุการณ์ครั้งนั้น
รวมถึงเจ้าหญิง Anelle บุตรสาวของ Dorrek แม่ของ Hulkling แห่ง Young Avengers ด้วย
เมื่อดาวถูกทำลาย เหล่า Skrull จึงเชื่อแล้วว่าคำทำนายของ Veranke คือของจริง
Skrull จึงเชิญตัวนางกลับมา พร้อมมอบตำแหน่ง ราชินีคนใหม่ของเหล่า Skrull ให้
ซึ่งตามคำทำนายต่อมา ดวงดาวที่จะช่วยดำรงเผ่าพันธุ์ของ Skrull เอาไว้ได้ก็คือ ดาวโลก
ภารกิจยึดดาวโลกจึงเกิดขึ้น ตั้งแต่นั้น
จากการศึกษาทดลองตลอดหลายปีที่ผ่านมา
Skrull สามารถสร้าง Super-Skrull ใหม่ขึ้นมา ที่ทั้งถึกและสามารถใช้พลังได้หลากหลายกว่าเดิม
(ตัวแบบที่ปลอมตัวเป็น Black Bolt ไปถล่มพวก lluminati ใน Link ข้างบนนั่นแหล่ะครับ)
แต่ที่สำคัญกว่านั้น ข้อมูลที่ได้มาจากเหล่า Illuminati นั้น ทำให้พวก Skrull สามารถแปลงร่างได้
โดยที่ไม่มีเครื่องตรวจจับใดๆในโลก ไม่ว่าจะเป็นพวก Mutant หรือ Inhuman จะสามารถตรวจจับได้
แต่ข้อเสียคือการคงสภาพเป็นมนุษย์ตลอดเวลา มีความเสี่ยงต่อสุขภาพร่างกายและจิตใจได้
แต่ Dro’Ge ก็แสดงผลงานนำร่องของเขา
Skrull ตัวแรกๆของโครงการนี้ก็คือ Skrull ชื่อ Siri ที่ปลอมเป็น Elektra นั่นเอง
เมื่อเห็นผลงานเป็นที่น่าพอใจ Veranke จึงสั่งให้เริ่มภารกิจได้
โดยที่ตนเองก็ขอลงไปคุมเชิงอยู่ในโลกด้วย เพื่อไม่ให้แผนเสียนั่นเอง
แผนการแฝงตัวนี้ดำเนินไปอย่างลับ ไม่มีใครหรือฮีโร่คนไหนคาดคิดถึงภัยที่กำลังเกิดขึ้นเลย
จนกระทั่งสมาชิกคนหนึ่งของทีม New Avengers นามว่า Echo (Maya Lopez)
ได้รับมอบภารกิจให้ไปจับตาดู Elektra ที่กำลังคุมกลุ่ม The Hand อยู่ที่ญี่ปุ่น แต่ภารกิจผิดพลาด
Echo ถูกจับตัว ร้อนถึง Dr.Strange ต้องนำทีม New Avengers เข้าไปช่วย การต่อสู้ของทั้งสองทีม
การต่อสู้ จบลงที่ Echo ลงมือสังหาร Elektra และเมื่อเธอตายลง…..
….ร่างที่แท้จริงของเธอก็เปิดเผยออก
ทำให้เหล่า New Avengers เริ่มตระหนักถึงภัยคุกคามจากพวก Skrull
จากนั้นสมาชิกในทีม New Avengers จึงถกเถียงกันขึ้น
Spider-Woman อยากให้เอาศพนี้ให้ Tony Stark
แต่คนอื่นๆในทีม New Avengers ไม่เห็นด้วยเพราะคิดว่า Tony คือ Skrull
Spider-Woman จึงตัดสินใจหักหลังทีมเธอ
แล้วนำร่างของ Elektra ไปให้แก่ Tony
เป็นเหตุให้ Tony เรียกรวมกลุ่ม Illuminati อีกครั้งนึงนั่นเองครับ
Secret Invasion จึงเริ่มขึ้นนับแต่นั้นมา
ตามแผนของ Veranke เพราะเธอได้ปลอมตัวเป็น…..!!!!…..
เกร็ดเสริม
ใน Fantastic Four Vol.1 #2 ญาติของราชา Dorrek ซึ่งถือเป็น Skrull ตัวแรกๆที่เปิดตัวในคอมมิคเลยครับ
เคยแอบเข้ามาสอดแนมที่โลก แต่ก็ถูก Reed สะกดจิต (Hypnotize) ให้ Skrull พวกนั้น แปลงเป็น “วัว”
การสะกดจิตมีผลกินเวลาผ่านไปหลายปี กลายเป็นว่า พี่ Skrull เหล่านั้นคิดว่าตัวเป็นวัวจริงๆ!
และไม่แปลงร่างกลับอีกเลยจนถูกเข็นเข้าโรงฆ่าสัตว์ในที่สุด!! โอ้ววว ชีสสสส
ทำให้ราชา Dorrek เกลียดขี้หน้า Reed มากๆ ที่ทำให้ญาติเขาตายอนาจแบบนี้นั่นเอง!!
(แน่นอนว่า คนที่กินเนื้อวัว Skrull เข้าไปก็ได้รับความสามารถเปลี่ยนร่างมาด้วย มีกลุ่มชื่อ Skrull Kill Krew)
—————————————————
Illuminati หลังจากนั้น
เรื่องราวของเหล่า Illuminati หลังสิ้นสุดยุค Secret Invasion มีสปอยอยู่บ้างแล้วนะครับ
ผมจึงขอเล่าแบบคร่าวๆก็แล้วกันครับ
หลังจากสงครามกับเหล่า Skrull สิ้นสุดลง
ก็เข้าสู่ยุค Dark Reign ยุคที่ Norman Osborn ได้คุมหน่วย S.H.I.E.L.D.
ชีวิตของสมาชิกแต่ละคนต่างก็ตกอับ ประสบปัญหามากมายจนดูเหมือนว่า
กลุ่ม Illuminati ไม่มีอีกต่อไปแล้ว
แต่หลังจากหมดยุค Dark Reign ด้วยเหตุการณ์ Siege ที่คุณ _V_ ได้ใจดีสปอยเอาไว้
เหล่า Illuminati ได้กลับมารวมตัวกันอีกครั้ง ใน The Avengers #08 ซึ่งสปอยโดยคุณ _V_ เช่นกันครับ
ในเหตุการณ์ครั้งนั้น ตัวร้ายชื่อ The Hood
พยายามช่วงชิง Gem ทั้งหกจากเหล่า Illuminati
ซึ่งหากอ่านเหตุกาณ์นี้จบแล้วจะทราบนะครับว่าในที่สุดกลุ่ม Illuminati
ก็ได้มีสมาชิกใหม่เพิ่มขึ้นมานั่นก็คือ Captain America นั่นเอง!!
แน่นอนว่าการประชุมลับของกลุ่มนี้ยังเกิดขึ้นเต่อไป
ครั้งล่าสุดในเหตุการณ์ Avengers vs. X-Men
หลังจาก เหล่า X-Men ได้พลัง Phoenix จงกลายเป็น Phoenix Five
กลุ่ม Illuminati ได้นัดรวมพลกันอีกครั้ง
หลักๆของการประชุมก็เพื่ออยากให้ตัวแทนทั้งสองฝ่ายคุยกัน
โดยเฉพาะ Namor ที่ยังไม่มีวี่แววว่าจะมา
เมื่อ Tony ถาม Xavier ว่าเขาคุยกับลูกศิษย์ของเขาได้ความว่าไงบ้าง
Xavier ก็ได้แต่ตัดพ้อและโทษตนเองว่าเป็นคนทำให้ Cyclops เป็นแบบ…ที่เป็นใน AvX นี้
และจะทำทุกวิถีทางที่จะหยุด Cyclops ให้ได้ เพราะ Cyclops เป็นเหมือนลูกของเขาคนนึง
ส่วน Reed ไม่ขอยุ่งเกี่ยวกับเหตุการณ์นี้เพราะเขาไม่เห็นว่า Cyclops จะอันตรายอย่างไร
และยังตอกหน้า Cap. ด้วยว่า
พวก Cap กลัวว่า Pheonix จะคุมไม่ได้หรือกลัวว่า Pheonix จะคุมได้แล้วไม่มีที่สำหรับพวก Cap กันแน่
พร้อมกับบอกว่า ชิลๆหน่อยเห้อ คิดว่าเหมือนมนุษย์พบยาเพนิซิลินนั่นแหล่ะ
มันเกิดขึ้นโดย บังเอิญแต่กลับสร้างประโยชน์ให้แก่มนุษย์อย่างมหาศาล
จากนั้นก็ออกจากห้องไป
เมื่องานประชุมทำท่าจะเลิกรา และไร้ซึ่งวี่แววของ Namor
ทั้ง Tony และ Dr.Strange ต่างก็ขอตัวกลับ
มีแต่ Captain merica ที่ยังเชื่อมั่นในตัว Namor
และในที่สุด Namor ก็โผล่มาจริงๆ Cap จึงพยายามเกลี้ยกล่อม
ให้ Namor เข้ามาเป็นพวกและหยุดเรื่องที่ทำอยู่นี้
แต่แน่นอนว่า Namor ปฎิเสธเพราะเขาเชื่อในสิ่งที่เขาทำ
Namor บอกว่า Cap น่าจะวางกับดักจับเขาซะ
แต่ Cap เขาไม่มีวันทำแบบนั้นกับเพื่อนเขาแน่นอน
Namor: ชั้นรู้ดี นั่นแหล่ะคือเหตุผลที่ชั้นมาที่นี่คนเดียว
Namor: นั่นคือเหตุผลที่ชั้นถึงไม่หักหลังความเชื่อใจที่กลุ่มมีให้
Namor: นั่นคือเหตุที่ชั้นเลือกที่จะไม่ฆ่านายให้ตายในชั่วพริบตา
Namor: นั่นคือเหตุผลที่ชั้นไม่จับตัวนายเข้ากรงขัง
Namor: นั่นคือเหตุผลที่นายยังมีชีวิตอยู่ไงล่ะ
Namor: ใครจะไปรู้ว่าต่อไปพวกเราสองคนอาจจะต้องทำสงครามสู้ก็ได้
ซึ่ง Namor คิดถูก!
http://i156.photobucket.com/albums/t28/D-O-L/Rise%20Of%20Illuminati/SP4.jpg
หลังจากสิ้นสุดเหตุการณ์ AvX แล้ว ก็เข้ายุค Marvel NOW
กลุ่ม Illuminati ก็หวนกลับมาอีกครั้งใน New Avengers
เรื่องราวของพวกเขาจะเป็นเช่นไรต่อไป
โปรดติดตามได้ใน New Avengers ของคุณ Genesis ได้เลยนะครับ
สุดท้ายนี้ ขอปิดท้ายด้วยภาพภรรเมียของเหล่าบรรดา Illuminati รุ่นแรกนะครัฟ!!
ใครเป็นใครกิ๊ก เป็นภรรเมียของใครบ้างก็ดูกันเอาเองเด้อออ
Hidden Message [เฉลยนะครับ] นอกจาก Sue เมีย Reed กับ Medusa หัวแดงเมีย Black Boltแล้ว
แม่หัวขาว ชื่อ Clea กิ๊ก Dr. Strange ครับ เคยเป็นกิ๊กกับเบนจามิน แฟรงกิ้นช่วงหนึ่ง (ฟ๊าคค)
อยากเห็นภาพก็คลิก Link ใต้รูป Cap ด้านบนเบย
ปัจจบุันเธออยู่ Dark Dimension ยอมแยกกับหมอแปลกเพื่อความสงบสุขของโลกฝั่งนั้น
แม่หัวเหล็กคือเจ้าหญิง Lilandra แห่งอาณาจักร Shi’ar กิ๊ก Xavier ครับตายในเหตุการณ์ War of Kingกดที่ Link ใต้ภาพล่างเลยจ้า
แม่หน้ากากทอง นามว่า Madame Masque เป็นกิ๊กกับ Tony Stark ครับ ปัจจุบันยังอยู่และโผ่ลมาในซีรี่ย์ Hawkeye ด้วย
http://i156.photobucket.com/albums/t28/D-O-L/Rise%20Of%20Illuminati/SP5.jpg
ไปล่ะคร้าบ ถึงออกทะเลไปซักหน่อย ฮ่าๆๆ
แต่หวังว่าบทความนี้จะมีประโยชน์ต่อทุกท่านไม่มากก็น้อยนะครับ
เดียว Beast จะต้องมาแทน ป๋า ชาเวียต ด้วยสินะ
รู้สึกไอกลุ่มนี้นี่แหละ ต้นกำเนิดทุกปัญหาใหญ่ในจักรวาล
ตอนอ่าน WWH ผมอย่างสะใจอะครับ Hulk ไล่ตบเกรียนเรียงตัว 555
ว่าแต่ พออ่านถึงตอนไล่พวก Skrull ไปเป็นวัวนี่ผมสะอิดสะเอียนกับ Reed มากครับ
การทำลายศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของคนอื่นนี่มันไร้มนุษยธรรมเกินเรื่องมาก (ก็เข้าใจว่าการ์ตูนเก่าละนะ)
ข้อมูลละเอียดเทพสุดยอดเลยครับ
มีหลายเรื่องที่ก่อนนี้รู้แค่คร่าวๆ แต่เพิ่งมารู้ละเอียดเอาครั้งนี้เอง!
ขอบคุณมากครับ
คุณ DOL จัดเต็มจริงๆ ขอบคุณสำหรับข้อมูลมากๆครัย
แต่ไอส่วนเมียใครเป็นใครนี่คนบนสุดนี่ผมจำไม่ได้แฮะ
และ New Avengers เดี๋ยวขอแปลหรือสรุปเนื้อหาเพิ่มให้ละเอียดกว่าเดิมแล้วจะนำมาลงนะครับ
สวดยวดเลย
เป็นทีมที่มีเสน่ห์และน่าสนใจที่สุดทีมในของมาร์เวลเลยมั้งครับ ผมซื้อปกอ่อนจากคิโนะเก็บด้วยแต่บางเล่มในบทความนี้มันไม่มีในเล่มที่ผมเคยซื้อมาแฮะ สงสัยต้องไปหาซะแล้ว ^^
บทความสุดยอดเลยครัฟฟฟ 🙂
ขอบใจจ้า
กลุ่มผู้หญิงในภาพสุดท้ายแต่ล่ะคนคือใครครับ? ผมรู้แต่คนซ้ายบนคือ Susan Storm ขวาบนคือ Medusa ส่วนคนที่เหลือเนี่ยผมไม่รู้จักเลย
ช่วยเฉลยให้ก็แล้วกันนะครับ 🙂
เริ่มจากหลังสุด ชุดม่วงผมสีเงิน คือ Clea ลูกศิษย์สาวและคนรักของ Doctor Strange ยอดสมภารกินไก่ของเรานั่นเอง 😛
วนมาทางขวา คือ Medusa ภรรเมียจอมโหดของพี่ Black Bolt ที่ตอนหลังได้เป็นเมียหลวงเพราะเฮียแกมีเมียเป็น Universal Inhuman อีกห้าเผ่า
ถัดมาสาวหน้ากากทองคือ Madame Masque มาดามแมสค์หรือวิทนี่ย์ ฟรอสต์ สาวตัวร้ายที่กิ๊กกับโทนี่ สตาร์ค ที่ต่อมาก็ไปลงเอยกับ The Hood ในช่วง Illuminati Return ที่คุณ _V_ เคยสปอยล์ไว้
ทางซ้ายก็ ราชินีลีแลนดร้า แห่งจักรวรรดิ Shi’ar ที่มาพบรักกับ Prof.Xavier (จักรวรรดิต่างดาว Shi’ar ยกพวก Imperial Guard มาบู๊กับ X-Men เพราะฟีนิกซ์คราวแรกสุด)
ถัดไปก็ ซูซาน สตอร์ม แห่ง Fantastic Four ศรีภรรยาของคุณพี่ รี้ด ริชาร์ด ครับ
ขอบคุณสำหรับสปอยล์น่ะครับ
สุดยอดบทความ ขอบคุณมากครับ
ขอบคุณมากครับ
ภาพภรรเมียนี่รู้จักแค่ซูแฮะ
ขอบคุณมากครับ ที่มาไขข้อสงสัยภาพสุดท้ายให้ครับ
ทำไมของโทนีไม่ใช้เปปเปอร์น่ะ
@jame ในคอมมิค เจ๊ Pepper แกไม่ได้ ได้กับ Tony เหมือนในหนังครับ ตอนนี้เจ๊แกมีแฟนแล้วด้วยนะจ๊ะ
ส่วน Madame Masque นี่เป็นคนรักเก่า แรกๆของ Tony เลยครับ เลยได้ขึ้นปกมั้งนะ
เนื่องพอมาอ่านอีกที บทความผมี Bug เยอะพอสมควรเลยนะ
ผมจึงลง Patch 100.0.20.2 ให้นะคัรบ ฮ่า
แก้ไขประโยคบางประโยค
แล้วก็เพิ่มเนื้อหาในส่วนของ Sentry กับ Cho อีกนิดครับ
ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะคัรบ (-/\-)
เปปเปอร์ก็คนรักเก่าแต่เลิกกันมานานแล้วครับ
ได้อ่านวีรกรรมเกรียนของกลุ่มนี้ ซะที
เกรียนได้ใจมาก
Pingback: "ILLUMINATI" ทีมฮีโร่ที่ฉลาดที่สุดในจักรวาล ตัวการที่ทำให้ฮัคบ้าคลั้งที่สุด! ครั้งหนึ่ง