Damian : ฉันก็ว่างั้นแหละ ตอนนี้พ่อของข้าไม่อาจปลีกตัวไปช่วยเหลือคนเพียงคนเดียวได้—เพราะเมื่อเจ้า Joker อยู่ข้างนอกนั่น ทั้งเมืองนี้ต้องการตัวเขา
Damian : ดังนั้นมันจึงเป็นหน้าที่ของเราที่จะต้องตามหาตัวอัลเฟรด
(พูดเองเออเองทั้งนั้นนะนั่น)
และหลังจากนั้น Damian ก็เริ่มออกสืบหาเงื่อนงำที่อาจจะพาตัวเขาไปหา Alfred ได้ โดยเขาเริ่มจากสถานที่ซึ่ง Alfred ถูกลักพาตัวไป ซึ่งมันยังคงมีคราบเลือดอยู่เพราะพวก Bruce นั้นค่อนข้างยุ่งในตอนนี้จึงไม่มีเวลามาจัดการเรื่องส่วนตัว และเขาก็ค่อยหาออกไปด้านนอก จนในที่สุดก็พบเงื่อนไงเล็กๆที่เขาต้องการ
มันพาเขายังสวนสัตว์ของเมือง ที่กรงของไฮยีน่า และเมื่อเขามาถึง Damian ก็พบว่าพวกมันกำลังกัดกินอาหารอย่างเอร็ดอร่อย
Damian : …ไม่จริง อัลเฟรด…
Damain : …ไม่ใช่…ยามต่างหาก…
แต่จู่ๆ ไฮยีน่ากลับพังกรงออกมาได้ จน Damian โดนพวกมันรุมทึ้ง แต่ด้วยทักษะของเขาเรื่องแค่นี้ย่อมไม่สามารถทำอะไรเขาได้แน่นอน
จนท้ายที่สุด Damian ก็สามารถอัดเหล่าไฮยีน่าทั้งหมดจนร่วง
Damian : ข้าล่ะเกลียดสวนสัตว์จริงๆ
แต่ต่อมาเขาก็พบว่าตัวเองโดนวางยาเข้าให้แล้ว จนเขาเริ่มหมดสติและร่วงลงไปด้านล่าง
และตกลงไปในสวนนก ซึ่งเหล่าฝูงนกที่ได้รับอิสระก็บินออกไปจากทางที่ Damian ตกลงมา ตกลงไปสู่ความมืดมิด ก่อนที่จะลืมค่อยๆลืมตาขึ้นมา
Joker : ใช่แล้วเจ้าหนู อย่า ยอมแพ้ ให้กับความมืดสิ —
Joker : — พ่อนกตัวน้อยของฉัน
และเบื้องหน้าที่เขาเห็นก็คือ Joker ที่สวมหนังหน้าตัวเองอย่างสยดสยอง หนังหน้าที่เริ่มเน่าจนมีหนอนชอนไช แมลงไต่ตอน
Damian หลุดออกมาจากรังไข่ขนาดยักษ์ที่ดูเหมือนจะถูกทำขึ้นมา และรอบๆเต็มไปด้วยเศษซากกระดูก
Joker : อ้า แล้วก็เข้าสู่บทของการกำเนิดซะที… ก็ไม่แปลกใจหรอกนะ ถ้าเราจดจำเรื่องพวกนั้นไม่ได้เลยน่ะ
Joker : …นั่นเพราะ มันไม่ใช่ทุกตัวที่จะได้เกิดมาไงล่ะ…
Damian : …เพนนีเวิร์ธ…เขาอยู่ไหน
Joker : แหมแล้วแกคิดว่าพวกไฮยีน่าอยากได้พ่อบ้านสำหรับจัดอาหารมือค่ำให้หรือไงกัน หือ?
HA HA HA HA HA HA HA
Joker : Alley Oop!
แล้ว Joker ก็โดดลงมาคร่อมบนตัว Damain
Joker : ฉันก็หมายความว่างั้นแหละน้า อุ๊ปส์
Damian : อั๊กกก
จากนั้น Joker ก็ท่องบทกวี I dreaded that first Robin, so ท่อนแรกออกมา และบอกว่ามันดีใจที่ได้พบกับเขา
*มาจากบทกวีของ Emily Dickinson
จากนั้น Joker ก็พร้ำเพร้อไปเรื่อย ซึ่ง Damian ก็ว่าเป็นโอกาสที่จะเล่นงานมัน แต่แน่นอนว่า Joker นั้นรู้ตัวอยู่แล้วและคิดจะหยอกเขาเล่น แถมเขายังเอาอุปกรณ์ต่างๆของเขาไปเก็บไว้แล้วด้วย ซึ่ง Damian ก็ไม่หมดฤทธิ์ง่ายๆยังคงพยายามจะเข้าไปบีบคอมัน ซึ่ง Joker ก็ยังคงบ่นเรื่องราวต่างๆต่อไป
แล้วจากนั้นมันก็เลื่อนคันบังคับทำให้สายโซ่ที่อยู่บริเวณเท้าของ Damian ถูกรวบเข้าด้วยกัน จนดึงตัว Damian ไปห้อยอยู่ข้างบน
Damian : ไอ้ สมาพันธ์ซาตานนั่นน่ะ –แกคิดจะให้เหล่าผู้คนกินกันเอง แกมันบ้าไปแล้วจริงๆ—นี่แกทำไปเพื่ออะไรกันแน่
Joker : ก็เพื่อทำให้ เมืองที่น่าสนุกและน่ารักของเราไปอยู่บนขอบเหวไงล่ะจ๊ะ นั่นเพราะแค่คำพูดเล็กๆแต่ถ้าพูดผิดที่มันก็ทำให้เป็นเรื่องใหญ่ได้ยังไงล่ะ…
Joker : แล้วถ้าจะให้ฉันลองยกตัวอย่างให้เธอดูล่ะก็นะ…ถ้าพวกนายอยากจะเป็นอมตะ อยากให้ฉันแสดงให้ดูมั้ยว่าจะต้องทำยังไง แล้วจากนั้นเจ้าพวกคนที่ไม่ปกติ หรือแม้แต่คนที่มีชื่อเสียง ที่อาศัยอยู่ในกอธแธม—ซึ่งฉันคิดว่าไม่ต้องบอกจำนวนให้ฟังหรอกมั้ง ก็ตอบเป็นเสียงเดียวกันว่า “อยาก”
Joker : และนั่นเพราะ พวกลูกแกะมันไม่อยากจะตายกันยังไงล่ะจ๊ะ…
Joker : …และนอกจากนี้ พวกนั้นยังทำทุกอย่างตามที่บอกเพื่อป้องกันการเน่าเปื่อยของผิวหนังของพวกนั้น ถึงแม้ว่าจะต้องกินกันเองก็ตามที…
Joker : แล้วสิ่งที่ฉันชอบเกี่ยวกับ โรบินน้อยล่ะ มันก็คือเสียงกรีดร้องที่เปรียบเสมือนตัวโน๊ตเสียงสูงที่ถูกปล่อยออกมาอย่างต่อเนื่องไงล่ะจ๊ะ… มันคงจะเป็นท่วงทำนองที่เสนาะหูฉันแน่ๆเลย พ่อนกน้อยของฉัน
Damian : เออ แล้วเสียงร้องของเจ้าก็จะเป็นท่วงทำนองที่เสนาะหูข้าเหมือนกัน ในตอนที่ข้าจะทำให้เจ้าพูดว่า เพนนีเวิร์ธอยู่ที่ไหนไงล่ะ
Joker : ยี้ นี่อยากฟังเรื่องราวของตาแก่ผู้ดีอังกฤษคนนั้นขนาดนั้นเชียวเหรอ หือ แต่ก็นะฉันก็เห็นจากดวงตาของเธอแล้วล่ะว่าพวกค้างคาวนั่นกำลังตามหาตัวเขาจนแทบจะบ้าตายอยู่แล้วเหมือนกัน
Joker : ทำไมง่ะ หรือเธออยากโตไปหน้าเหมือนหมอนั่น… หรือถ้าจะให้ฉันคิดก็คงสักนิดหน่อยละมั้งนะ เอาเถอะมาพักดูวีดีโอกันหน่อยละกัน เพื่อเธอเลยนะเนี่ย
และวีดีโอที่ Joker เปิดให้ Damian ดูก็คือฉากที่เขาทรมานอัลเฟรด
“ HaHaaa นี่นายคิดว่านายเป็น… HaHaHa อ้าวนี่ตานายยังไม่ปิดดีเลยนี่ คุณท่าน”
“…แต่…”
“งั้นฉันจะเผาตาแกด้วยแอมโมเนียนะ”
“เอาล่ะ ฉันจะทำอีกรอบเพื่อความสนุกล่ะนะ”
“อ๊ากกกกกกกกกกกกก”
Damian : ข้าคิดว่า ข้าจะฝ่าฝืนสัญญาที่ให้ไว้แล้วล่ะ สำหรับเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อกี๊ ข้าจะฆ่าแกแน่ๆ
Joker : ว๊ายยยย ไม่เอาน่า น่ากลัวจุงเบย
Damian : เจ้าต้องกลัวจริงๆแน่คราวนี้
จากนั้น Joker ก็พล่ามต่อ รวมไปถึงที่เขากับ Batman เคยหัวเราะด้วยกันท่ามกลางสายฝน
(*เป็นเหตุการณ์ใน Batman: The Killing Joke ข้อมูลโดยคุณ Voeten ครับ คลิกเพื่อดูภาพ)
ซึ่ง Damian ก็พูดขัดขึ้นมาทำให้ Joker ไม่พอใจที่เจ้าเด็กคนนี้พูดเรื่องบ้าๆในตอนที่อารมณ์เขากำลังค้าง เลยโดน Damian โขกให้เข้าให้อีกทีจนลงไปกองกับพื้น แต่นั่นกับทำให้ Joker ชอบเขามากขึ้น เพราะเขาดูต่างจากคนอื่นๆ
Joker : ฉันอยู่ที่นี่เพื่อนำทางสว่างให้เธอนะ—ความไร้เดียงสาอันเล็กน้อยยังไงล่ะ
Damian : ข้าไม่คิดว่าคนบ้าจะมีความไร้เดียงสามากนักหรอกนะ
Joker : งั้นมาดูนี่หน่อยซี่เจ้าหนู นี่คืออะไรเอ่ย หือออ
Damian : เงาของข้าไง
Joker : ไม่ใช่ และไม่ถูกนะจ๊ะนั่นมันคือ ความมืดต่างหาก –มันก็เหมือนกับในวันที่เกิดสุริยคราสในวันอื่นๆนั่นแหละ เธอมองเห็นมันมั้ยล่ะ ถ้าเปรียบเจ้าค้างคาวเป็นดั่งดวงตะวัน— หรือเปลวไฟที่ลุกโชติช่วง
Joker : –ทั้งเธอและเจ้าพวกนั้นก็เปรียบเสมือนพระจันทร์ไงล่ะ—พระจันทร์ที่บดบังแสงสว่างของเขา—ทำให้เขาไม่สามารถส่องแสงลงมาบนตัวของฉันได้อีกต่อไป หรือแม้กระทั่งแสงของฉันที่จะส่องไปหาเขา ถ้าพวกเธอยังคงบังรัศมีของเขาอยู่แบบนั้นน่ะนะ
Joker : เธอก็รู้นี่ว่ามันเป็นเรื่องจริง แถมเธอยังเชื่อเรื่องนี้พอๆกับที่ฉันเชื่อด้วยถูกมั้ยล่า
Joker : ไม่งั้นฉันก็ขอให้เธอคิดว่าคนอื่นๆเป็นปลิงไปซะ แล้วคิดว่าตัวเองเป็น Tonto ของเขาที่เป็น Lone Ranger หรือ เธอเป็นวัตสันของโฮลม์ก็ได้นะ
Damian : นี่แกไม่รู้ใช่มั้ยว่าแกพล่ามอะไรออกมา… แล้วว่าแต่ใครคือ Tonto กับ Lone Ranger
( Lone Ranger เป็นอีก 1 ในคอมมิคที่มีมาตั้งแต่สมัยก่อน ตัวเอกคือ Lone Ranger คาวบอยผู้คาดที่ปิดหน้าสีดำ และคู่หูของเขา Tonto ซึ่งมีการสร้างเป็นหนังฉายในปีนี้ด้วยนะครับ Tonto แสดงโดย จอนนี่ เดปป์)
Joker : โว้ว.. ช่วยด้วย แบทแมน มันมีหนอนในตาของผม อย่าได้กังวลไปโรบินฉันจะกินมันเอง
Joker : โอ้ ให้ตายสิฉันสาบานเลยว่าสักคืนหนึ่งเขาต้องพูดแบบนี้ออกมาบนรูปปั้นกากอยแน่ๆ “สักวันหนึ่ง เจ้าเอง ก็สามารถที่จะเป็นแบทแมนที่ยอดเยี่ยมได้เหมือนกัน”
Joker : อะไรประมาณนั้นนะ—แต่ไม่มีทาง แกเป็นแบบนั้นไม่ได้หรอก—มันจะแบทแมนเพียงแค่คนเดียวเท่านั้น และเขาไม่ต้องการพวกแก—แม้แต่คนเดียว
Joker : –พวกแกมันเป็นตัวรบกวนเขา—มันเป็นสิ่งรบกวนอันบริสุทธิ์ที่จะทำให้เขามีสมาธิน้อยลง—และไม่มั่นคง
Damian : เออ จากจุดที่ข้าโดนแขวนอยู่เนี่ย แกนั่นแหละที่ไม่เต็มบาท
Joker : นี่แกไม่เห็นจริงๆเหรอ—ว่าแกน่ะเป็นภาระของเจ้าค้างคาว เขาต้องเหน็ดเหนื่อยที่จะเป็นที่ยึดเหนี่ยวของพวกแก และต้องค้ำยันพวกแกให้ลุกขึ้นได้
Joker : แกจะจินตนาการได้มั้ยว่ามันหนักหนาและกดดันแค่ไหนที่ต้องมีเด็กบ้าอายุแค่ 10 ขวบในการดูแล ในขณะที่เขาต้องทำหน้าที่ของอัศวินรัตติกาลน่ะ…
Joker : ในบางครั้งเขาอยากจะหันหลังกลับแล้วออกวิ่งไปด้วยซ้ำ—แต่เขาทำไม่ได้ เพราะเขาปล่อยให้ความรู้สึกเกี่ยวกับความรับผิดชอบเข้ามาขวางทางที่เขาสมควรจะเป็นที่สุด
Joker : แบทแมนที่ฉันรู้จักและรักน่ะนะเป็นคนที่มีความมืดในจิตใจ—แต่พวกแกทั้งหมดน่ะดึงรั้งเขาไว้ และค่อยๆเอาสิ่งต่างๆไปจากเขามากกว่าที่พวกแกสมควรจะได้ ซึ่งในสักวันเขาอาจจะไม่เหลืออะไรเลย และจะไม่เหลือความมืดที่จะมาสนใจตัวฉันนี่
Joker : และฉันจะไม่ยอมให้มันเป็นแบบนั้นแน่ๆ ฉันจะไม่มีทางให้มันเกิดขึ้นได้หรอกน้า
Joker : ดังนั้นมันก็ต้องเป็นหน้าที่ของฉันใช่มั้ยล่า ที่จะลบล้างเจ้าความรับผิดชอบอะไรนั่นออกไปน่ะ
คำพูดของโจ๊กเกอร์ในตอนท้ายและหน้าตาของเขานั้นทำให้ Damian เริ่มอึ้ง
Joker : โอ๊ะ โอ๋ ดูเวลาซี่ ช่างเป็นเจ้าบ้านที่ใจร้ายอะไรเช่นนี้นะฉันเนี่ย… ฉันว่าเธอคงจะหิวแล้วละมั้ง
Joker ดึงกลไกอีกครั้งทำให้ประตูด้านบนเปิดออกและของบางอย่างกำลังล่วงหล่นลงมา
และสิ่งที่ตกลงมาก็คือกองน้ำเน่าเสียและเหล่าหนอนแมลงจำนวนมาก ทำเอา Damian ต้องด่าออกมาเลยทีเดียว ส่วน Joker ก็ใช้เวลานี้ออกไปนอกกรง
Joker : ความสนุกที่ฉันค้นพบน่ะนะ—มันไม่ใช่พวก “ Ha Ha” อะไรแบบนั้น –แต่มันเป็นความสนุกในแบบ “นั่นมันดูน่าสนใจไม่ใช่หรือไง” ต่างหากล่ะ แล้วถ้าโรบินจะกระตือรือร้นที่สุดในช่วงเช้า แล้วค้างคาวจะกระตือรือร้นที่สุดในช่วงกลางคืนแล้วละก็นะ….
Joker : …มันก็หมายความว่าการเป็นคู่หูของพวกแกมันก็ล้มเหลวไปตั้งแต่เริ่มแรกแล้วไม่ใช่หรือไงกัน
Joker : แล้วไม่ต้องคิดจะตอบก็ได้นะถ้าปากของแกยังเต็มไปด้วยอาหารอยู่น่ะ… ฉันน่ะมองเห็นเงาร่างของแกข้ามผ่านท้องฟ้า—กระโดดไปรอบๆก็อธแธมเหมือนกับคู่หูดูโอ้ที่แกเป็น
แล้ว Joker ก็พยายามขู่ damian แต่เขาก็บอกว่าตัวเองเขาไม่เคยกลัวสิ่งใด โดยเฉพาะกับตัว Joker ซึ่ง Joker ก็บอกว่าเขาพูดอะไรของเขา ไม่ได้ฟังที่ตัวเองพูดเลยใช่มั้ย เพราะสิ่งที่เขาต้องกลัวจริงๆน่ะคือ
Joker : …สิ่งที่โรบินหวาดกลัวที่สุดคือการที่จะต้องรับผิดชอบในการตายของแบทแมนยังไงล่ะ และสิ่งที่แบทแมนหวาดกลัวที่สุดก็คือการต้องรับผิดชอบต่อการตายของโรบินเหมือนกัน
และ Joker ก็เบื่อจะฟังเรื่องไร้สาระของ Damian แล้วให้มาฟังเรื่องของเขาดีกว่า ทันใดนั้นท่ามกลางกองน้ำเสียและนอนแมลงมีบางสิ่งกำลังลุกขึ้นมา
และนั่นก็คือร่างของ batman ที่มาพร้อมเสียงหัวเราะ และเป้าหมายของ Joker ก็คือให้ทั้งคู่สู้กันเอง จนกว่าจะตายกันไปข้างนึง
เล่มหน้า
Father Vs Son!
เผยแพร่ครั้งแรกที่ : [Spoil] – Death of The Family : Batman & Robin #15
แปลสลับช่วงนี้นิดนึงนะครัฟ
Joker : …สิ่งที่โรบินหวาดกลัวที่สุดคือกาที่จะต้องรับผิดชอบในการตายของแบทแมนยังไงล่ะ และสิ่งที่โรบินหวาดกลัวที่สุดก็คือการต้องรับผิดชอบต่อการตายของแบทแมนเหมือนกัน
มันต้อง สลับแบทแมนกับโรบินในช่วงท้าย
Joker : …สิ่งที่โรบินหวาดกลัวที่สุดคือกาที่จะต้องรับผิดชอบในการตายของแบทแมนยังไงล่ะ และสิ่งที่แบทแมนหวาดกลัวที่สุดก็คือการต้องรับผิดชอบต่อการตายของโรบินเหมือนกัน
ขอบคุณมากครับ ผมเบลอไปจริงๆ พอดีแก้คำใหม่ เลยพลาดไป ขอบคุณที่เตือนครับ
โจ๊กเล่มนี้หน้าตาหลอนมาก น่ากลัวทั้งหน้าตาและจิตใจไปแล้ว
ว่าแต่แบทนั่นตัวจริงเหรอครับ
คาดว่าไม่ใช่ครับ แต่จะเป็นใครคงต้องรอเล่มหน้า
ขอบคุณมากครับ
ทำให้พอเข้าใจ จุดประสงค์ ของโจ๊กเกอร์ขึ้นมาอีกนิด – -*
นอกจากวิชาแยกกร่างขั้นเทพ ไปทุกหัว 55
ไม่ใช่ว่าสรุปตอนจบที่เห็นเฮียโจ๊กแกไปได้ทุกที่นี่จริงๆเป็นตัวปลอมหลายๆตัวนะ แล้วตัวจริงชักใยอยู่เงียบๆสบายๆนั่งขำอยู่= =”
เป็นอีกเล่มที่ได้มาอ่านแบบแปลละเอียดจริงๆก็สนุกมากๆค่ะ โจ๊กเกอร์เล่มนี้น่ากลัวสุดๆในบรรดาทุกไทด์อินจริงๆ
ต้องรอลุ้นว่าเจ้าหนูจะสู้ยังไงต่อ
ชอบที่เดเมี่ยนเป็นโรบินจอมพยศจริงๆค่ะ
ขอบคุณสำหรับคำแปลมากๆนะคะ
เอาแล้ว… พี่โจ๊กบ้าไปแล้ว .. ซึ่งจริงๆพี่ก็บ้าอยู่แล้วอะนะ
เอาใจช่วยเดเมียนอยู่นะเนี่ย ใจขณะที่ลุ้นอัลเฟรดไปด้วย
ขอบคุณสำหรับสปอยล์ค่ะ
สงสัยจริงๆว่า โจ๊กเกอร์มันไปป่วนคนนู้นนี้ในหลายๆที่ได้ยังไงเนี่ย
หรือว่าจะเป็นลูกน้องพี่แกจริงๆหนอ
รอเล่มหน้าว่า Batman ที่เห็นนี่ใครหว่า คงไม่ใช่ตัวจริงหรอกมั้ง
Pingback: Batman #16 « voeten crisis
Pingback: Batman #17 : Death of the Family part 5 ( ตอนจบ )