DC Comic: Rise of The Third Army : Green Lantern : New Guardians 15 : The Need for Greed!
เรื่อง : Tony Bedard
ภาพ : Aaron Kuder
วางจำหน่าย: 19 ธันวาคม 2012
สำนักพิมพ์ : DC Comics
Kyle Reyner จำเป็นต้องเรียนรู้การใช้พลังแสงสีส้มแห่งความโลภ และเอาตัวรอดจากพวก Third Army ไปพร้อมๆกัน
แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนที่จะเอาชีวิตรอดจากเหตุการณ์ครั้งนี้ไปได้…
.
.
.
เปิดฉากมาในเขตอวกาศ 2828
ชาว Zamaron 3 คนกำลังเฝ้าดูอะไรบางอย่าง
Zamaronian : นี่น่ะหรือคือสิ่งที่พวกการ์เดี้ยนสร้างขึ้นเพื่อแทนที่กรีนแลนเทิร์นคอร์ป?
Zamaronian : ไม่เพียงแต่พวกแลนเทิร์นเท่านั้นหรอก พวกนั้นตั้งใจจะให้พวกมันมาแทนที่สิ่งมีชีวิตที่มีสติปัญญาทั่วทั้งจักรวาล…เว้นไว้เพียงแต่พวกเราชาวซามารอนเท่านั้น…ก็ตามที่พวกนั้นให้คำมั่นเอาไว้น่ะนะ
Zamaronian : พวกการ์เดี้ยนได้ฝัง D.N.A. ของพวกนั้นไว้ในตัว “กองทัพที่สาม” เหล่านี้
Zamaronian : มันทำให้พวกนี้แข็งแกร่งอย่างไม่น่าเชื่อ และทำให้พวกมันสามารถท่องไปในอวกาศได้โดยไม่ต้องใช้อะไรช่วยเลย
Zamaronian : อย่างที่พวกมันกำลังเล่นงานกลุ่มสไปเดอร์กิลด์อยู่นั่น
Zamaronian : พวกมันแพร่กระจายไปเหมือนโรคระบาด เปลี่ยนแปลงรหัสพันธุกรรมของทุกคนที่พวกมันสัมผัส…
Zamaronian : …เปลี่ยนแปลงเหยื่อของพวกมันให้เป็นทหารใหม่ ให้กับกองทัพที่กำลังขยายตัวอย่างไม่หยุดยั้งของพวกมัน
Zamaronian : หากปล่อยไว้เช่นนี้ พวกมันจะเปลี่ยนแปลงสิ่งมีชีวิตที่มีปัญญาทั้งหมดในจักรวาลจนหมดในเวลาเพียงไม่กี่เดือนเท่านั้น
Zamaronian : ไปกันเถอะพี่น้อง ไม่ว่าเราจะรู้สึกขยะแขยงพวกมันอย่างไรก็ตาม เราก็อย่าไปทำให้พวกมันไขว้เขวจากเป้าหมายต่อไปของพวกมัน ซึ่งก็คือลาฟลีซผู้ชั่วร้ายนั่น
ตัดมาที่ดาวเคราะห์ Okaara ดาวที่อยู่ของ Agent Orange Lafleeze
Kyle : ให้ตายสิ ดาวดวงนี้เหม็นสุดๆเลย ขนาดอยู่บนวงโคจรยังได้กลิ่นเลย
Carol : ถ้างั้นเราก็ให้การมาครั้งนี้มันสั้นที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้เถอะไคล์ ยิ่งเราให้ลาฟลีซสอนการใช้พลังแสงสีส้มให้คุณได้เร็วเท่าไหร่ คุณกับฉันก็จะช่วยฮาลจากพวกการ์เดี้ยนได้เร็วขึ้นเท่านั้น
Arkillo : ทั้งหมดนี่เพียงเพื่อช่วยเหลือคู่ของเจ้าเท่านั้นเองเรอะ? นี่ข้าตามพวกเจ้ามาด้วยทำไมกันเนี่ย?
Kyle : ยอมรับมาดีๆเถอะน่าอาร์คิลโล ว่านายอยากจะรู้ว่าฉันจะทำได้จริงๆหรือเปล่าจะแย่แล้วน่ะ!
Arkillo : เฮอะ เจ้ากำลังทำเรื่องโง่ๆอยู่นะเจ้าชาวโลก แลนเทิร์นคนเดียวไม่สามารถใช้งานพลังงานทั้งเจ็ดสีได้พร้อมๆกันหรอก
Kyle : ฉันก็ไม่รู้หรอกนะพี่เบิ้ม แต่ฉันว่าฉันทำได้ดีทีเดียวล่ะ ตอนนี้ฉันได้พลังความมุ่งมัน, ความหวัง, ความโกรธ, ความกลัว และความเมตตามาใช้งานได้แล้ว บางทีฉันอาจจะไม่จำเป็นต้องใช้สีส้มเลยด้วยซ้ำ
Carol : อย่าเพิ่งเหลิงไปน่าไคล์ ถึงความโลภจะไม่ใช้อารมณ์ความรู้สึกที่น่าข้องแวะด้วยนัก แต่มันก็จำเป็น ถ้าคุณไม่มีพลังแสงสีส้มคุณก็ไม่อาจจะพิชิตพลังงานแห่งอารมณ์ความรู้สึกทั้งหมดได้อย่างสมบูรณ์
Kyle : ผมก็ไม่สามารถทำได้ถ้าหากขาดสีม่วงด้วยเหมือนกันนั้นแหละสตาร์แซฟไฟร์ ก็แล้วทำไมคุณไม่สอนผมเสียก่อนแล้วค่อยเก็บสีส้มไว้ท้ายที่สุดซะล่ะ?
พวกเขามาถึงทางเข้าวังใต้ดินของ Lafleeze
ซึ่ง Sayd ผู้ซึ่งบัดนี้รับหน้าที่เป็นผู้ช่วยของ Lafleeze กำลังรอพวกเขาอยู่
Sayd : ยินดีต้อนรับแลนเทิร์นเรย์เนอร์ เรากำลังรอท่านอยู่พอดี
Kyle : ผมก็นึกอยู่ว่าคุณคงจะรอผมอยู่เหมือนกันนั่นแหละเซย์ด หวังว่าคุณจะไม่ว่าอะไรที่ผมพาเพื่อนมาด้วยนะ
Sayd : อืม ถ้าเป็น “เพื่อน” แบบนี้ล่ะก็นะ…
Carol : สำเนียงการพูดแบบนั้นมันไม่ดีเลยนะเซย์ด
Sayd : เราอย่ามาอ้อมค้อมกันเลยจะดีกว่านะแซฟไฟร์เอ๋ย เพราะพวกเจ้ากับเผ่าพันธ์ของข้านั้นไม่ถูกกันมาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว ซึ่งนั่นก็รวมถึงซิเนสโตรคอร์ปด้วย…
Arkillo : เรียกข้าว่าเยลโล่วแลนเทิร์นเถอะ…หรือจะเป็น “แลนเทิร์นแห่งความกลัว” ก็ได้ ข้าไม่ได้เป็นลูกน้องเจ้าคนทรยศอย่างซิเนสโตรอีกต่อไปแล้ว
Carol : เห็นไหม? อาร์คิลโลอยู่ฝ่ายเดียวกับเรา แล้วก็ทั้งฉันและคุณต่างก็ต้องการในสิ่งเดียวกันไม่ใช่หรือ?
Carol : คุณรักกานเธท ส่วนฉันก็รักฮาล ถ้าเราร่วมมือกันเราก็จะสามารถช่วยเหลือพวกเขาได้
Sayd : แต่ความก็รักคือปัญหาของข้าล่ะสตาร์แซฟไฟร์ ใครจะนึกว่ามันจะนำความเจ็บปวดมามากมายขนาดนี้?
Kyle นึกย้อนไปเมื่อสองปีก่อน
เมื่อตอนที่ Ganthet พาเขาไปยัง Oa เป็นครั้งแรกเพื่อรับการฝึกฝนเป็น Green Lantern เขาได้เห็นความสัมพันธ์ของทั้ง Ganthet และ Sayd มาตั้งแต่ตอนที่มันเพิ่งเริ่มต้น เมื่อตอนที่ Guardians ทั้งสองเริ่มเปิดใจที่จะรับเอาอารมณ์ความรู้สึกที่พวกเขาเคยทิ้งมันไปกลับมา…
(ดูเหมือนว่าในจักรวาล New52 นั้นเหตุการณ์ Emerald Twilight จะไม่เคยเกิดขึ้นแฮะ เพราะในจักรวาลเดิมนั้นตอนที่ Kyle มาเป็น Green Lantern นั้น GLC ก็ล่มสลายไปด้วยฝีมือของ Hal ที่โดน Parallax สิงสู่ไปแล้ว)
ตัดกลับมาที่ปัจจุบัน
พวก Kyle มาพบกับ Lafleeze
(ไม่ทราบว่า Lafleeze มีเขาบนหัวตั้งแต่เมื่อไหร่แฮะ แต่ถ้าให้เดาก็คงจะไปเกิดเห็นเขาของใครหรืออะไรเข้าแล้วอยากได้ขึ้นมา เลยไปแย่งมาติดหัวตัวเองละกระมัง…)
Lafleeze : ข้ารู้ว่าพวกเจ้ามาทำไม…และข้าก็ไม่มีวันยอมเล่นด้วยแน่
Arkillo : ก็แล้วแกคิดว่าแกจะมีตัวเลือกอื่นหรือไง?
Carol : ใจเย็นไว้ก่อนอาร์คิลโล เราไม่สามารถบังคับคนที่ครอบครองพลังของทั้งองค์กรแลนเทิร์นไว้กับตัวให้ทำอะไรได้หรอก ลาฟลีซจะต้องรู้ตัวเองว่าการสอนไคล์นั้นจะเป็นผลประโยชน์ให้กับตัวเขาเอง
Lafleeze : จริงเรอะ? แล้วทำไมข้าถึงต้องแบ่งปันความลับของออเร้นท์แลนเทิร์นให้กับผู้อื่นด้วย? มันจะเป็นประโยชน์ให้กับข้าในเมื่อข้ามีทุกสิ่งที่ข้าต้องการอยู่แล้ว
Carol : ทุกอย่างเลยงั้นหรือ? ถ้างั้นเรามาส่องแสงเพื่อดูคำกล่าวอ้างนั่นให้ชัดๆกันดีไหม?
Arkillo : นั่นหล่อนกำลังทำอะไรน่ะ?
Sayd : นางกำลังส่องดูก้นบึ้งของวิญญาณของเขา
Kyle : ถ้างั้นก็คงใช้เวลาไม่นานนัก…
Lafleeze : ฮึ่ม! หยุดนะ! ออกไปจากหัวข้านะนังบ้า! ความทรงจำของข้านั้นเป็นของข้า! ของข้าคนเดียว!!
Carol : พลังจิตของนายนั้น…น่าทึ่งมากนะลาฟลีซ…แต่นี่ไม่ใช่…การประชันพลังกันหรอก…เพราะนายไม่สามารถต่อสู้กับ…สิ่งที่อยู่ในหัวใจของนายเองได้…
Carol : และไม่ว่าอย่างไรก็ตาม นายก็มีหัวใจอยู่!
Lafleeze : ได้โปรดเถอะ…ข้าไม่อยากรู้สึกถึงมัน…อย่าทำให้ข้า…ต้องจดจำมันได้…
ทันใดนั้นแสงของ Carol ก็ดับวูบลง เมื่อเธอได้เห็นสิ่งที่อยู่ลึกลงไปในใจของ Lafleeze
Carol : …ลาฟลีซ ฉัน…ฉันไม่รู้มาก่อนเลยว่า…
Lafleeze : ฮึ่ม แล้วตอนนี้เจ้ารู้แล้วงั้นสิ? ตอนนี้เจ้าได้เห็นแล้วว่าข้าสูญเสียอะไรไป…สิ่งใดที่ข้าไม่มีวันได้มันกลับมา..!
Lafleeze : เจ้าคิดว่ามันจะมีความหมายอะไรที่ได้ดึงเรื่องปวดหัวที่ถูกฝังไปเป็นล้านปีกลับคืนมา?!
Carol : ฉันไม่ได้มองหาความเจ็บปวดของนายหรอกลาฟลีซ…แต่มองหาสิ่งที่หัวใจของนายแสวงหาต่างหาก นายสูญเสียครอบครัวของนายไปเมื่อนานแสนนานมาแล้ว พวกเขาคือสมบัติเพียงอย่างเดียวที่นายคิดว่านายไม่มีวันได้กลับคืนมา แต่แหวนของฉันบอกอีกอย่างหนึ่ง เห็นนี่ไหม ฉันสามารถค้นหาใครหรืออะไรก็ตามที่เชื่อมโยงกับหัวใจของนายได้…
Carol : ถ้านายยอมช่วยสอนไคล์ให้ใช้พลังของแสงสีส้มแห่งความโลภ และฉันขอสัญญาว่าจะนำนายไปหาพวกเขา พวกนั้นยังคงอยู่ที่ข้างนอกนั่นนะ “ลาฟลีซ” บางทีพวกเขาอาจสามารถบอกชื่อที่แท้จริงที่นายลืมไปแล้วได้ด้วย
Lafleeze : -ฮึก- ก็ได้ ข้าจะ…ข้าจะ…
Lafleeze : ข้าจะยอมแบ่งกับเจ้า!!
ทันใดนั้น Lafleeze ก็ยิงแสงใส่ Kyle จนกระเด็นไปชนกำแพง!
Kyle : นายทำแบบนั้นทำไม?!
Lafleeze : เจ้าต้องการพลังของข้าใช่ไหมล่ะ? ถ้างั้นเจ้าก็จะต้องปราถนามัน!
Lafleeze : ที่เจ้าต้องทำ…ก็เพียงเอาแหวนของเจ้ามาชาร์จพลังกับตะเกียงของข้าเท่านั้นก็พอ แต่ก่อนหน้านั้นเจ้าก็ต้องผ่านข้าไปให้ได้ก่อน!
เมื่อเจอแบบนี้ Kyle ก็เริ่มดึงเอาพลังต่างๆที่เขาฝึกฝนมาใช้
[ความโกรธ]
Sayd : ความสามารถในการดึงพลังของแสงสีอื่นๆมาใช่ของไคล์นั้นน่าทึ่งจริงๆ แต่ข้าก็สงสัยว่ามันจะเพียงพอหรือไม่…
Kyle โต้ตอบกลับด้วยพลังแสงสีแดง ต่อด้วยการใช้พลังแสงสีครามวาร์ปไปหยิบตะเกียงพลังสีส้ม
แต่คนอย่าง Lafleeze มีหรือจะยอมง่ายๆ!
แล้ว Lafleeze ก็เรียกสมุนร่างพลังงานของตนออกมาเล่นงาน Kyle!
ขณะที่ทั้งสองคนกำลังพันตูกันอยู่นั้นเอง พวกที่ดูอยู่ก็รู้สึกถึงอะไรบางอย่าง
Arkillo : เดี๋ยวนะ เจ้ารู้สึกไหม?
Carol : …บางอย่างกำลังมา…
Sayd : …บางอย่างที่รู้สึกคุ้นเคย…?
ทันใดนั้นพวก Third Army ก็บุกเข้ามา!!
Sayd : เลือดเนื้อของการ์เดี้ยนงั้นรึ? พวกพี่น้องของข้าต้องเป็นผู้ที่สร้างพวกตัวประหลาดนี่ขึ้นมาแน่…!
Sayd : ถอยไปซะ แลนเทิร์นทั้งหลาย! ถ้าพวกท่านสัมผัสถูกพวกมันล่ะก็ พวกท่านไม่รอดแน่!
Lafleeze : เฮอะ! พวกออเร้นท์แลนเทิร์นของข้าน่ะตายไปเรียบร้อยแล้วล่ะ!
Carol : นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันรู้สึกดีใจที่นายอยู่ฝ่ายเดียวกับฉันน่ะลาฟลีซ
Arkillo : เจ้ารู้สึกไหมล่ะเจ้าชาวโลกเอ๋ย? ทั้งสตาร์แซฟไฟร์ ทั้งลาฟลีซ …แม้แต่การ์เดี้ยนหญิงนั่น…ถึงแม้พวกมันจะพยายามปิดบังไว้ แต่พวกมันทุกคนก็กำลังกลัวอยู่
Kyle : ใช่ ฉันรู้สึกได้…
Kyle : มันช่างหอมหวานจริงๆว่าไหม?
Carol : ไคล์! ตั้งสติเข้าไว้สิ!
Carol : พลังความรู้สึกที่นายได้มาใหม่นั้น…นายจะต้องเป็นฝ่ายควบคุมมันไม่ใช่ให้มันมาครอบงำนาย!
Carol : เพราะงั้นจงมาทางนี้แล้วช่วยฉันสู้กับพวกมันหน่อย!
Sayd : ไม่นะ แลนเทิร์นเรย์เนอร์! ท่านมีเหตุผลที่ท่านมาที่นี่! ตะเกียงพลังสีส้มอยู่ข้างๆท่านนั่นแล้ว!
Sayd : ข้ารู้ว่าท่านรังเกียจความโลภ แต่ท่านไม่สามารถจะรักษามือของท่านไม่ให้แปดเปื้อนได้อีกต่อไปแล้ว!
Sayd : บางครั้งหนทางที่ดีที่สุดในการช่วยเหลือผู้อื่น…ก็คือการช่วยเหลือตัวท่านเอง!
ในที่สุด Kyle ก็เอาตะเกียงพลังสีส้มมาชาร์จพลังให้แหวนของเขา และใช้พลังแห่งแสงสีส้มออกมา
แต่พลังแห่งความโลภก็ส่งผลและเริ่มครอบงำเขา…
Carol : โอคุณพระช่วย ท่าทางฉันจะผลักดันให้เขาทำเรื่องนี้เร็วเกินไป…
Sayd : ไม่ว่าจะเร็วไปหรือไม่เราก็มีเวลาอีกไม่มากแล้ว! จงไปช่วยลาฟลีซแย่งตะเกียงคืนมา ก่อนที่เราจะสูญเสียแลนเทิร์นเรย์เนอร์ไป!!
ว่าแล้ว Carol ก็เข้าช่วย Lafleeze แย่งตะเกียงพลังคืนมาจาก Kyle
Carol : ฉันเสียใจจริงๆนะไคล์!
Lafleeze : แต่ข้าไม่เลยสักนิดว่ะ!
Kyle : นังแม่มดจอมหักหลังเอ๊ย!
Carol : ตั้งสติให้ดีๆสิไคล์! จำตัวตนของนายให้ได้สิ!
ขณะที่ Carol กับ Lafleeze รับมือ Kyle ทางด้าน Arkillo กับ Sayd ก็สู้กับพวก Third Army
Arkillo : โว๊ย!! เจ้าพวกตัวบ้านี่มันมาจากไหนกัน? พวกมันต้องการอะไรกันแน่?!
Sayd : ข้ารู้สึกได้ว่าพวกมันพยายามจะแปรสภาพข้า!
Sayd : พวกมันไม่อาจเปลี่ยนแปลงเซลของข้าได้ แต่ถ้าพวกแลนเทิร์นอย่างท่านยังรั้งอยู่ที่นี่ล่ะก็ ทุกอย่างก็จะจบสิ้นกันแน่!
Sayd : แซฟไฟร์เฟอร์ริส! ท่านจงเข้าให้ถึงไคล์! พลังการเคลื่อนย้ายด้วยแสงสีครามของเขาคือความหวังเดียวของท่าน!
ตอนนั้นเอง Carol ก็ใช้พลังแสงสีม่วงสร้างเป็นร่างของ Alexandra DeVitt คนรักของ Kyle ที่ตายไปแล้ว
ซึ่งนั่นก็ทำให้เขาได้สติกลับคืนมา
Kyle : อเล็กซ์…? ให้ตายสิ นี่ฉันมัวทำอะไรอยู่เนี่ย?
Sayd : ท่านต้องไปเดี๋ยวนี้แล้ว แลนเทิร์นเรย์เนอร์! ข้าต้านพวกมันไว้ได้อีกไม่นานแล้ว! นี่คือหนทางเดียวที่เรามีอยู่! ข้าขอฝากท่านให้ช่วยเหลือคนที่ข้ารักด้วย!
Kyle : ผม…ผมจะทำให้ได้! ผมขอสัญญา!!
Kyle : รีบเข้ามาหาฉันเร็วเข้าทุกคน! เราจะไปกันแล้ว!
Sayd : บอกกานเธทว่าข้ารักเขาด้วยนะไคล์!! อย่าให้เขาต้องตายในฐานะฆาตกรที่ไร้ซึ่งจิตวิญญาณ!!
พริบตาต่อมาพวก Kyle ก็เคลื่อนย้ายมิติจากไป
ตัดมาที่ Oa ดาวหลักของ Green Lantern Corps
ที่หอประชุม เหล่า Guardians กำลังเฝ้าดูพวก Third Army รุมฉีกทึ้งร่างของ Sayd
Guardian : จะให้พวกมันจับหล่อนกลับมาเป็นๆไหม?
Guardian : ทำไมต้องทำแบบนั้นด้วยล่ะ? หล่อนเป็นฝ่ายละทิ้งพวกเราไปเองนี่
Guardian : ให้เซย์ดรับผลของการกระทำของหล่อนเองไปน่ะดีแล้ว
[การ์เดี้ยนเสียชีวิต]
Guardian : อุปสรรคที่ขวางทางเราหายไปหนึ่ง แต่เรย์เนอร์ยังคงลอยนวลอยู่
Guardian : เขาอาจกลายมาเป็นภัยต่อเราอย่างแท้จริงได้
Guardian : ท่านเป็นผู้ที่เกณฑ์เขามานี่นะพี่น้องเอ๋ย ท่านมีอะไรจะเสนอแนะบ้างไหม?
แต่เมื่อ Ganthet ยังคงนิ่งเงียบอยู่ Guardian จึงตามย้ำอีกครั้ง
Guardian : พี่น้องเอ๋ย…มีอะไรงั้นหรือ?
Ganthet : ไม่มีอะไรหรอก เซย์ดได้รับผลของการไปยึดติดกับอารมณ์ความรู้สึกแล้ว
Ganthet : ส่วนเรื่องของแลนเทิร์นนอกคอกที่ข้านำเข้ามานั้น ข้าจะไปจัดการกับเขาด้วยตัวข้าเอง
โปรดติดตามตอนต่อไป : Kyle Vs. Ganthet!!
Carol ก็ใช้พลังแสงสีม่วงสร้างเป็นร่างของ Alexandra DeVitt คนรักของ Kyle ที่ตายไปแล้ว
เอ่อสีชมพูไม่ใช่หรือครับ
@The cap
สีของ Star Sapphire นั้นฝรั่งเขาเขียนว่า “Violet Light” ซึ่ง Violet แปลว่าสีม่วง ผมจึงเรียกสีม่วงตามครับ
สนุกมาก จริงจริง ส่วนเรื่องสี ผมเห็นด้วยที่แปลว่าม่วงน่ะนะ เพราะว่ามันม่วงอ่อน อ่อนน่ะ
คิดว่า ตอนจบ พวกการ์เีดี้ยนโดนล้างบางแน่
Sayd ตายซะงั้น เหอๆ
มันใช้มาจากสเป็กตรัมใช่มั้ยล่ะครับถ้างั้นยังไงก็ต้องเป็นสีม่วง เพราะเรียงได้
ม่วง คราม น้ำเงิน เขียว เหลือง แสด แดง ตามสีของคอร์ปทั้ง 7 พอดี
ส่วนเนื้อเรื่อง Sayd ไปซะแล้ว T^T หลังๆกลัวไคลล์ใช้ได้ 7 สี แล้วแสงสีขาวชุบหมู่จริงๆ
แต่เดือนนี้มีหัวนี้ 2 เล่มหนิ มีเล่ม Annual #1 ด้วย
ขอบคุณมากครับ
ตอนKyleใช้แสงสีส้มผมแอบเชียร์ให้เรียกตัวลูกกระจ๊อก(จำชื่อไม่ได้แล้ว)ที่ถูกลาฟรีสทำลายทิ้งเพราะดันขัดคำสั่งไปKyle อีกอย่างนอกจากล้างบางการ์เดี้ยนแล้วสงสัยต้องล้างบางZamaronianด้วยข้อหาสมคมคิด
ป.ล.ลาฟรีซเค้าก็มีปมน่าสงสารนะเนี่ยLOL
——————————————————————————————————–
ถามนิดนึงครับตั้งแต่เป็นจักรวาลใหม่นี่มีแหวนขาวหรือคนใช้แหวนขาวโผล่มารึยัง แล้วคิดว่าKyleจะใช้พลังของแหวนไปได้จนถึงสีดำไหมครับ(คงไม่เดี๋ยวโกงเกินไป)
@stillenigma
คาดเดากันว่า First Lantern น่าจะใส่แหวนสีขาวครับ
ส่วนแหวนกำนั้นคนที่ใส่น่าจะเป็น Hal Jordan มากกว่า
ขอบคุณสำหรับคำตอบครับ
ผมคิดเหมือนกันว่าฮาลน่าจะย้ายไปอยู่แหวนดำ เพราะกรีนแลนเทิร์นมนุษย์มันชักจะเยอะไปแล้ว
อ้อแอบลุ้นเหมือนกันเผื่อKyleจะเมพใช้ได้มันหมดทุสีเลยlol
พึ่งได้ติดตามอ่าน..แลนเทิร์น..เป็นจริงเป็นจัง..ชอบที่มีหลายสีหลากวิธีใช้..และคาแรคเตอร์แต่ล่ะตัวไม่ซ้ำๆ..เป็นไอเดียใช้โมได้อย่างดีเลยครับ..(ป.ล.อยากรู้จริงๆว่าหากใช้พลังแหวนพร้อมๆกันทั้ง 7 สี..จะมีกาเปลี่ยนชุดใหม่หรือเปล่า)
เปลี่ยนอยู่แล้วครับ ลองกดลิงก์หน้า INDEX ไปหาอ่านดูตอน War of the Green Lanterns หรือ Blackest Night
แค่เปลี่ยนแหวนก็เปลี่ยนชุด หรือคอมโบรวมแหวนก็ดีไซน์ชุดใหม่ตลอดเลย 😀
กานธาร์ด ยังมีหวังคืนสติอยุ่ซินะๆๆ