Saga #06

Saga #6

บทที่ 6 เลือดแห่งความแค้นกับแมกไม้แห่งความหวัง

เรื่อง : Brian K. Vaughan
ภาพ : Fiona Staples
วางจำหน่าย: 15 สิงหาคม 2012
สำนักพิมพ์ : Image Comics

   

  หมายเหตุ: เรื่องนี้มีเนื้อหาและบางภาพที่ล่อแหลม เด็กอายุต่ำกว่า 20 ปี ควรใช้วิจารญาณในการรับชมครับ

 

  

  

“กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว”

“ผมเราทุกคนล้วนต้องเคยเป็นเด็กน้อยของใครซักคนมาก่อน”

  

  

  

Marko:   โอ้ย โอ๊ว อ๊ราย!

Marko:   ตะเอง แม่อีหนูนี่กำลังเสพย์ติดหนังคอเค้าอยู่ อ่า!

 

Alana:   เค้ารู้แล้วน่า

Alana:   เล็บคบของเจ้าตัวยุ่งนี่คมยังกะเข็มจิ้มก้นเลยเนอะ

   

  

  

 

“ทุกๆคนต้องเคยมีพ่อ”

“แม้ว่าคุณพ่อของบางคนจะเก่งแต่ขยันปล่อยไข่เรี่ยราดก็ตาม”

  

  

  

Marko:   ฟุดฟิด ฟุดฟิด

Marko:   กลิ่นอะไรเนี่ย?

 

 

 

“ทุกๆคนต้องเคยมีแม่”

“แม้ว่าคุณแม่บางคนจะแอบเอาเรามาทิ้งไว้ในถังขยะก็ตาม”

 

 

 

Alana:   ให้คุณลูกมันปลดอุจจะเยี่ยวไปสุขระทวยไปเถอะ Marko

Alana:   ตามแผนที่มันบอกว่า ตั๋วชั้นหนึ่งที่จะพาเราไปจากไอ้ดาวเส็งเคร็งนี่

Alana:   อยู่ตรงโค้งถัดไปนี่เอง เดี๋ยวค่อยเปลี่ยนผ้าอ้อมเอาตอนเผ่นขึ้นยานแล้วก็ได้

 

Marko:   อะไรนะ เค้าไม่ได้พูดถึง Hazel ซักหน่อย

    

   

Alana ตาลุกวาวกับสิ่งที่เธอเห็นเบื้องหน้า

  

  

  

“ไม่ว่าพวกคุณจะถูกเลี้ยงมาแบบไหน”

“เรื่องของพวกคุณย่อมเกิดออกมาเหมือนกัน”

   

  

  

  

  

  

“ทุกเรื่องก็ย่อมจบลงแบบเดียวกันเช่นกัน”

  

   

   

Alana:   กลื่นไอ้พวกนี้ใช่มั๊ย?

   

  

สิ่งที่อยู่ตรงหน้าคู่รักทั้งสองคือ

ซากของป่าที่แห้งแล้วและมอดไหม้ อบอวนไปด้วยความสิ้นหวัง

  

  

 

ไม่นาน Izabel ที่หายหน้าไปสองตอนก็ตื่นขึ้นมาพอดี

 

Izabel:  ห้าววววววววววว สายัณสวัสด์เจ้าค่า ลูกพี่ว์

Izabel:  หนูพลาดเรื่องเด็ดๆอะไรไปบ้างเนี่ย?

 

Alana:   ทุกอย่างมันดาวดิ้นหมดแล้ว Izabel

Alana:   พวกเราบรรลัยกันหมดแล้ว!

 

Izabel:  เจ๊พูดไรอ่ะ?

Izabel:  พวกเจ๊อยากจะไปป่าจรวด Rocketship Forest ไม่ใช่เหรอ?

 

Izabel:  ก็นี่ไง ถึงล่ะ

 

Marko:   ป่าจรวดบ้านคนสวนเธอสิ

Marko:   นี่มัน สุสาน ชัดๆ

 

Izabel:  แหม่ เรื่องนั้นมันก็อยู่ที่มุมมมองแต่ละคนมองมันอ่ะ จริงจิ๊ง

 

Marko:   นี่เธอเมาอึเด็กมารึไง?

Marko:   ไม่ว่าที่นี่จะเคยมีต้นบ้าต้นบอโตที่นี่นะ

Marko:   มันก็บรรลัยวอดวายจนเฮี้ยนเตียนเป็นปุ๋ยทอดกรอบมาไปเป็นชาติแล้ว!!

 

    

Izabel:  โอย เจริญพรล่ะโยมเอ๋ย

Izabel:  พวกมีชีวิตอย่างลุงกับเจ๊นี่เชื่อแต่ของที่เห็นอย่างเป็นตุเป็นตะเลยนะ

 

Izabel:  ผีแว้นสก๊อยอย่างพวกเราน่ะโปรเรื่องการดักฟายจะตายจำได้มะ?

Izabel:  พวกเจ๊คิดว่าพวกเราจะยอมปล่อยไม้เด็ดของเราออกมาโชว์เด่นสง่าทิ่มลูกตาเหรอคะ?

 

Izabel:  ลูกสาวตัวจ้อยของเจ๊น่ะ ไม่รู้หรอกว่าตัวเองโชคดีขนาดไหน

 

แค่ Izabel ขยับมือบางสิ่งก็โผล่ออกมาเด่นหลาจนตาของสองสามีภรรยาแทบแหก

 


    

     

 “ถ้าหนูเด็กเท่านี้แล้วขอบ้านต้นไม้เลิศแบบนี้นะ”

คงโดนป๊ะป๋ายันตกเตียงไปนานแล้ว”

 

 

 

     

ตัดกลับมาที่เจ้าชายหุ่นที่เพิ่งสังหาร The Stalk ไปในตอนที่แล้ว

 

Prince Robot IV:   ศรีจุลโคธาเอ๊ย!

 

McHenry:  เมื่อ…เมื่อกี้เป็นการซัลโวที่เยี่ยมมากค่ะ

McHenry:  ไอ้ Freelancer คนนี้กะจะชักอาวุธยิงท่านก่อนคร่ะ

 

McHenry:  อิชั้นขอเป็นพยานยืนยันให้กับท่านแน่นอนล้านเปอร์เซ็นคร่ะ

 

Prince Robot IV:    อ้าครับ รับทราบ ขอบคุณมาก Mchenry

Prince Robot IV:    จากใต้การโจมตีครั้งนี้นะ คุณประพฤติตนได้อย่างน่าชื่นชมมาก

  

 

แม้ร่างของ Stalk จะแน่นิ่งไปแล้ว

แต่มือถือของเธอ ยังคงโทรอยู่

 

The Will:  นี่ Stalk คุณยังอยู่รึเปล่า?

 

The Will:  ผมรู้ว่าคุณโกรธแต่ช่วยฟังผมหน่อยนะ

The Will:  ผมอยากให้คุณช่วยเหลือกเด็กคนนึง

 

The Will ยังคงพูดกับ Stalk ต่อไป

โดยไม่รุ้เรื่องเลยซักนิดว่าเธอแน่นิ่งไปแล้ว

 

 

The Will:  ไม่ใช่เรื่องอย่างว่าหรอกนะ

The Will:  แต่เป็นน้องทาสน่ะ น้องแกยังเด็กอยู่

The Will:  ผมหมายถึงน้องเขายังเด็กเกินไป

The Will:  อะไรก็เหอะ ผมคิดว่าบางที ผมอาจจะ….

The Will:  … ช่วยเธอได้  ผมว่าทั้งคุณและผมเราทั้งคู่สามารถ….

 

แต่ไม่ทันที่ The Will จะพดอะไรต่อ Prince Robot ก็หยิบโทรศัพท์ของ Stalk มาคุย

 

Prince Robot IV:   สวัสดีครับ?

Prince Robot IV:   คุณเป็นเจ้านายของเจ้าสิ่งมีชีวิตตัวนี้รึครับ?

 

The Will:  เฮ้ย นี่มันบ้าอะไรฟระ?

 

Prince Robot IV:    ผมชื่อ Prince Robot IV

Prince Robot IV:    ผมขอประทานโทษด้วยที่ต้องแจ้งข่าวร้ายนี้กับคุณนะครับ

Prince Robot IV:    แต่ทว่าลูกน้องของคุณได้แสดงพฤติกรรมที่อันตรายก้าวร้าวออกมา

Prince Robot IV:    และถูกวิสามัญไปแล้วครับ

 

The Will:  เมื่อกี้ แกว่าไงนะ!?

 

Prince Robot IV:    ผมต้องขออนุญาตถือวิสาสะยึดครองยานพาหนะของเธอตามกข้อมที่สิบเอ็ดนะครับ

Prince Robot IV:    แต่ถ้าคุณต้องการนะคัรบ

Prince Robot IV:    คุณสามารถทำเรื่องร้องเรียนค่าเสียหายต่างๆกับทาง Landfall ได้ครับ

   

     

The Will:  งั้นมึงก็ฟังกูให้ดีนะไอ้เด็ยเชี่ย

The Will:  กูจะฆ่าทุกๆคนที่มึงรักแล้ว…

The Will:  กูก็จะฆ่ามึง…

 

 

>>สิ้นสุดการโทร<<

 

Prince Robot IV:    อกอีแป้นจะแตก

Prince Robot IV:    พวกโรคจิตนี้มีอยู่ให้รกไปหมดจริงๆ!

 

ขณะที่ Prince Robot กำลังสบถกับตนเอง

McHenry ก็ยึดกุญแจรถของ Stalk ไปเรียบร้อย (T_T)

 

    

    

    

…..เมื่อสายตัดไป…..

      

…..The Will…..

……ใจสลาย……

          

…..ท่ามกลางอวกาศที่อ้างว้าง….

    

    

     

     

กลับมาที่ Alana และ Marko

 

Alana:   สรุปก็คือเราจะเอาลูกรักที่อ้อนแอ้นอ่อนแอบอบบางของเรา

Alana:   บินขึ้นสู่อวกาศ ด้วยอะไรก็ไม่รู้ที่ทำจาก ไม้ เนี่ยนะ

 

Marko:   อย่าตัดสินมันจากภายนอกสิ ตะเอง

Marko:   ยานรบลำใหญ่ของ Wreath บางลำก็ทำมาจากไม้นะ

Marko:   มันช่วยพลางตาจากพวกเทคโนโลยีสมัยใหม่ได้

 

Marko:   มาเถอะ มาดูข้างในเจ้ายานสุดแจ่มนี่กันเถอะ

 

Izabel:  โว้ว อย่าใจร้อน พ่อเขาขวาง

 

Izabel:  ยานมันจะไม่ยอมไปไหนทั้งนั้น

Izabel:  จนกว่าคุณต้อง เสียสละ ของซะก่อน

    

  

Alana:   โอ๊ยยยยยย

Alana:   น้อง Izabel ขา น้องจะขูดรีดขูดเนื้อเจ๊อะไรอีกคะ?

 

Izabel:  อันนี้ไม่เกี่ยวกับหนูเลยนะเจ๊

Izabel:  มันเกี่ยวกับเจ้ายานนี่ต่างหาก

 

Izabel:  ถ้าเจ๊อยากจะไปที่ใหม่ๆ

Izabel:  เจ๊จะต้องแสดงอะไรให้มันเห็นว่า

Izabel:  เจ๊ยอมสละสิ่งที่มีค่าของเจ๊ไว้เบื้องหลังจริงๆ

 

Marko:   งั้นชั้นขอสละเจ้านี่

 

Marko ยื่นดาบคู่กายของเขาออกมา

 

    

 

Alana:   Marko อย่านะ

Alana:   เธอใช้เจ้านั่นซัดคนทั้งกองมาเลยนะ

 

Marko:   นั่นแหล่ะ

Marko:   ถ้าคนยังคงถือ เครื่องมือแห่งความรุนแรง ไว้ในมือล่ะก็

Marko:   คนๆนั้นก็ย่อมจะหาเหตุผลมาแถเพื่อจะใช้เครื่องมือพวกนั้น

Marko:   ถ้าเราอยากจะหนีไปจากสงครามนี่จริงๆ

Marko:   เราจะต้องไม่เอามันไปกับเราด้วย

 

Alana:   แต่เจ้าดาบนั่นมันเป็นดาบตกทอดของครอบครัวมาหลายพันรุ่นแล้วไม่ใช่เหรอ?

 

Marko:   ยังไงมันก็เป็นแค่สิ่งของน่ะ Alana อีกอย่าง….

    

   

   

เปราะ!

Marko หักดาบของเขาออกเป็นสองท่อน

   

   

    

Marko:   …..ตอนนี้พวกคุณเป็นครอบครัวของผมต่างหาก

   

    

เมื่อ Marko ยอมสละสิ่งที่เคยสำคัญต่อเขา

ประตูของต้นไม้ก็เปิดออก

 

Izabel:  หล่อ จน สปอต พ่อลูกอ่อน จริงๆเนอะ

Alana:   นั่นดิ

 

Izabel:  ยังไงเจ๊ก็คงไม่มีทางจะหักปืนตัวเองทิ้งแบบนี้หรอกใช่มะ?

Alana:   ไม่มีวันซะละนังชะนีผีดิบ

   

    

Marko:   ลองมาดูข้างในนี่สิ!

 

Marko:   มีห้องโถงด้วย!

Marko:   ยานลำนี้มีห้องโถงเป็นของตัวเองด้วย!

 

Izabel:  อ๊ะๆ รอดูห้องใต้หลังคาซะก่อน

Izabel:  มีพืชสวนตามฤดูกาลที่แหล่มเกินจะบรรยายเลยล่ะ

 

Izabel:  ไม่เคยคิดเคยฝันเลยว่า

Izabel:  จะได้มีโอกาสขี่ยานแหล่มแบบนี้นะเนี่ย….

    

   

Marko:   ยัยคนน่ารักน่ากอดน่าฟัดน่าหยิกเอ๊ย

Marko:   ตะเองทำได้แล้ว!!

 

Alana:   เราทั้งคู่นั่นแหล่ะ

Alana:   อย่าเพิ่งเริ่มฉลองอะไรกันเลย

Alana:   รอให้พวกเราได้บิน……

 

 

ครืนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน!!

อยู่ก็มีเสียงบางอย่างดังขึ้น และต้นไม้ก็เริ่มสั่นไหว

 

Alana:   ว่าแล้วไง!

 

Marko:   บ้าไปแล้ว?

Marko:   แผ่นดินไหว?

Marko:   ตอนนี้เนี่ยนะ?

 

Izabel:  นั่นใช่แผ่นดินไหวโลกแตกที่ไหน

Izabel:  มันเป็นเสียง เครื่องมันติดไอพ่น ต่างหาก!

   

     

Alana:   บร้าเหรอยะ

Alana:   ยังไม่ทันได้ไปเหยียบห้องควบคุมเลยนะ!

 

Alana:   แล้วอีแบบนี้ใครมันจะเป็นคนคุมพวงมาลัยล่ะ?

 

Izabel:  โถ่ เจ๊ขา

Izabel:  เราไม่คุมพวงมาลัยเจ้ายานบินนี่หรอก

    

   

   

   

“เราขี่มันต่างหาก”

   

   

   

ยานบินทรงต้นไม้ พุ่งสู่อวกาศอันกว้างใหญ่

   

    

Alana:   ห๊ะ!? ขี่เหรอ

Alana:   ขี่ไปไหน!?

 

Izabel:   นี่ ในตอนสิ้นสุดวัน เจ้ายานบินนี่

Izabel:   จะไปลงรากจอดบนที่ไหนก็ได้ตามที่มันต้องการอ่ะนะ

 

Izabel:   แต่ว่าถ้ามันชอบพวกเจ๊ล่ะก็

Izabel:   มันอาจจะรับฟัง สถานที่แนะนำ ของพวกเจ๊ก็ได้นะ

 

Marko:   เออจริงนะ

Marko:   เค้าเองก็มัวแต่เอาพลังงานสมองไปผลาญกับเรื่องระบบขนส่งของพวกเรา

Marko:   จนไม่ได้นึกถึงเรื่องจุดหมายที่จะให้มันพาไปส่งเลย

 

Marko:   ตอนนี้เรามีที่ให้ได้ย้ายสัมโนครัวเป็นล้านๆที่ในจักรวาลข้างนอกนี่

Marko:   เราจะเริ่มย้ายสัมโนครัวที่ไหนก่อนดีล่ะ?

 

Alana:   ก็นะ ถ้าไม่เป็นการรบกวนจนเกินไปล่ะก็นะ….

Alana:   ชั้นอยากจะไปเยี่ยมที่ Quietus ซักหน่อย

   

    

Marko:   ไอ้ดาวประภาคารดวงเก่า นั่นน่ะเหรอ?

Marko:   ทำไมล่ะ?

 

Alana:   ก็ตะเองเป็นคนบอกเองไม่ใช่เหรอว่า

Alana:   เรื่องการศึกษาของลูกอ่ะ ๆต้องคิดให้ไวเข้าไว้น่ะ

 

Alana:   เค้าก็เลยอยากให้ลูกเราไปเจอกับคนที่ฉลาดที่สุดในจักรวาลน่ะสิ

 

คนฉลาดที่ว่านี่มันใครกันแน่!!

     

     

ตัดกลับมาที่ Prince Robot ได้ใช้กุญแจที่เขาฉกมา

จากศพของ The Stalk แล้วไล่ตามสัญญาณมาจนถึงยานที่เธอใช้

  

    

ปิ๊ป ปิ๊ป

 

 

Prince Robot IV:   หืม ลงทุนเอาของดีขนาดนี้ให้เจ้าเพี้ยนนั่นรึ

Prince Robot IV:   …อย่างน้อยคนให้มันก็มีรสนิยมใช้ได้

 

>>สายเข้าพิเศษจากหน่วยข่าวกรองลับของ Landfall<<

(Landfall Secret Intelligence)

 

Prince Robot IV:   เปรตมันโทรมาสินะ

   

   

Agent Gale:   องค์ชาย IV คร้าบ

Agent Gale:   นี่ผม จนท.พิเศษ Gale พูดน๊า

 

Agent Gale:   ฟังนะครับ ผมเข้าใจว่าผมบอกให้ท่านใช้วิธีอะไรก็ทำเต็มที่ไปเลยอ่ะนะ

Agent Gale:   แต่ว่าที่ผมได้ยินว่ามีเรื่อง Freelancer ที่โดนวิฯไปด้วยเหรอครับ?

 

Prince Robot IV:   ถ้าคนของนั่งนั่นอยากได้ค่าชดเชยล่ะก็

Prince Robot IV:   ขอกรุณาเชิญไปคิดค่าเสียหายจากพ่อผมก็แล้วกัน

   

   

Agent Gale:   คือผมเองก็ไม่ชอบขี้หน้าไอ้พวกสถุลนี่พอๆกับท่านแหล่ะนะคร้าบ

Agent Gale:   แต่อยู่ๆจะให้จะไปฆ่าเขาเหมือนหมูเหมือนปลาแบบนั้นก็ไม่ได้นะครับ

Agent Gale:   แม้แต่กับ Coalition ก็ยังถือว่า พวกนั้นประกอบอาชีพสุจริตนะคร้าบ

 

Prince Robot IV:   ศัตรูของพวกเราก็เหมือนกันนั่นแหล่ะ

Prince Robot IV:   และจากที่ผมได้ลองตรวจสอบข้อมูลดูนี่

Prince Robot IV:   ไอ้นักสู้รับจ้างที่ผมซัลโวไปนั่นน่ะ

Prince Robot IV:   เหมือนจะทำงานให้กับพวก ชาวดวงจันทร์

Prince Robot IV:   ตามล่าไอ้คู่รักอัปมงคลอเวจีไม่รับของพวกเราด้วยนี่สิ

 

Agent Gale:   เฮ้ย!! กองบัญชาการสูงสุดของ Wreath (Wreath High Command)

Agent Gale:   รู้เรื่องเด็กนั่นด้วยเรอะ?

 

Agent Gale:   ได้ไงวะ!

   

 

Prince Robot IV:   ผมเองก็จนด้วยเกล้าว่ะ

Prince Robot IV:   แต่พ่อแม่ของเด็กน่ะมีความสามารถมากกว่าที่หน่วยข่าวกรองของคุณคิดเอาไว้

Prince Robot IV:   ไอ้ Marko พ่อเด็กน่ะ เป็น นักรบแห่งโคตรธรรมชาติ (Force of Nature) เลยล่ะ

 

Prince Robot IV:   แต่คนแม่ต่างหาก ที่ผมกลัวที่สุด

 

ว่าแล้ว Prince Robot ก็หยิบหนังสือของ Alana มาเปิดดูอีกรอบ

   

    

Agent Gale:   ถ้าคิดว่าผมลงทุนให้ท่านเดินทางไป เพื่อหวังจะได้อะไรกลับมาแค่นี้ละก็

Agent Gale:   ผมก็คงเอาอุนจิยัดปากแล้วพ่นใส่หน้าท่านเป็นรางวัลไปแล้ว

Agent Gale:   แต่ผมไม่ทำว้อย

 

Agent Gale:   ฉะนั้น ถ้าท่านอยากจะกลับบ้านไปเสพย์สุขเริงร่าสังสรรค์ทันเวลาล่ะก็

Agent Gale:   ท่านก็ควรทำห่านอะไรก็ได้อย่าให้เป้าหมายซังกะบ๊วยของท่าน

Agent Gale:   หนีออกไปจากดาว Cleave ได้ทั้งที่ยังหายใจอยู่เด็ดขาด!

 

Prince Robot IV:   จะข่มจะขู่อะไรผมก็ตามสะดวกเลย

Prince Robot IV:   ยังไงมันก็เปลี่ยนความจริงที่ว่าคู่นกสุดรักของคุณ

Prince Robot IV:   ได้ทะลวงกรงทองกากๆนี่ออกไปโผบินนอกบ้านแล้ว ได้หรอก

 

Prince Robot IV:   ถ้าขนาดผมยังสามารถบินออกมาจากดาวได้แบบครบสามสิบสองแบบนี้

Prince Robot IV:   ก็ไม่ต้องสงสัยเลยว่า Alana กับหน่อเน่าของมันก็คงจะบินออกไปได้แบบชิลๆแน่นอน

 

Prince Robot IV:   ว่ากันตามหลักการแล้ว พวกมันอาจจะไปอยู่ที่ไหนก็ได้ในจัก….

 

อยู่ๆ คำพูดของ Prince Robot ก็สะดุดลง เพราะเขาเจอกับบางสิ่งในหนังสือนั่น

 

  

 

Agent Gale:   อ้าว…

Agent Gale:   ไอ้คุณเจ้าชาย?

Agent Gale:   เอ็งยังถือสายอยู่มั๊ยเนี่ยเฮ้ย!?

   

    

   

D. Oswald Heist คือนักเขียนชาว Louper ที่มีงานเขียนที่มีชือกว่สิบสิบเรื่อง
เขาอาศัยอยู่ที่ Quietus

   

    

  

   

Agent Gale:   แล้วสรุปเอ็งจะไปเริ่มหาใหม่ที่ไหนฟระ?

 

คำตอบอยู่บนหน้าจอของ Prince Robot แล้ว

นั่นคือ

 

 

 

Quietus

   

   

   

  

  

   

“อ่า ฮะ ใช่แล้ว ยานนี่คือที่ ที่หนูโตค่ะ”

   

   

“ชีวิตวัยเด็กส่วนใหญ่ของหนูตค้องอาศัย”

“อยู่ในใต้ร่มเงาของเจ้าลูกธนูหัวทู่ที่ยิงอย่างไม่รู้เป้าหมายฝ่าค่ำคืนที่ไร้ดาว”

  

   

“มันเป็นเหมือนสวรรค์เลยล่ะ”

   

   

   

Marko:   บอกลาบ๊ายบายเร็วลูกรัก

Marko:   ไอ้จุดเล็กๆนั่นแหล่ะ คือดาวที่หนูโผล่มาในชีวิตพวกเราไง

   

   

   

“ถึงมันจะแค่วูบหนึ่งก็ตามที”

  

   

   

   

Marko:   แล้วเธอล่ะ Izabel

Marko:   อยากจะบอกลาบ้านเกิดเธอหน่อยมั๊ย?

 

Izabel:   อ่ะนะคะ

Izabel:   อย่าเคืองกันนะ

Izabel:   แต่ไม่อะไรที่โคตรจะน่าเบื่อชวนเสร่อไปกว่าไอ้คนที่หมกมุ่นกับบ้านเกิดตัวเองหรอกค่ะ

Izabel:   ส่วนไอ้ที่น่าเบื่ออันดับต่อ หนูว่า…

 

Alana:   อะเคร ว้าวววว

 

Alana:   นั่นเป็นหัวฉีดน้ำที่โคตะระแจ่มที่สุด

Alana:   เท่าที่เคยประสบในชีวิตวัยเกือบกลางคนของชั้นเลย

 

Alana:   นี่ถ้าไม่ถูกห้ามไม่ให้กินตับไปอีกอาทิตย์สองอาทิตย์นะ

Alana:   แม่จะจัดหนักชุดใหญ่ในห้อง…

พรึ่บ!

อยู่ๆไฟก็ดับลง!

 

Alana:   ….อาบน้ำ นั่น…เอ๋?

   

    

Marko:   อะไรล่ะเนี่ย?

 

Izabel:   การสังเคราะห์แสงแบบย้อนกลับ (Reverse photosynthesis) ค่ะ

Izabel:   นี่เป็นวิธีที่ยานบินจะสื่อสารกับเรา

 

Marko:   แล้วมันกำลังบอกอะไรเราเนี่ย?

 

Izabel:   อะไรซักอย่าง….

Izabel:   เหมือนจับบางสิ่งนอกยานได้

 

Izabel:   แม่เจ้า!

Izabel:   มีพลังเวทย์กำลังเข้ามาในนี้!

   

    

Alana:   ว่าไงนะยะ!?

Alana:   ไหนแกบอกว่าไอ้ยานนี่มันตรวจจับไม่ได้ไงยะ!

 

Marko:   ก็มันตรวจจับไม่ได้จริงๆ!

Marko:   ไม่มีทางที่ใครมันจะ…..

 

และแล้ว Marko ก็นึกถึงบางอย่างที่เขาทำพลาดไป

 

Marko:   ไม่จริงน่า

Marko:   ดาบชั้น…

 

Izabel:   แล้วจะทำไงกันละคราวนี้!?

 

Marko:   การหักดาบนั่นต้องเรียกเธอมาแน่นอน

Marko:   เธอคงใช้ด้ามดาบตามรอยพวกเรามา

Marko:   สวรรค์ทรงโปรด

Marko:   งานนี้ตรูตายแน่!

 

Alana:   เธอที่ว่านี่ใครยะ?

Alana:   อินัง Gwendolyn เรอะ?

Alana:   นี่ Marko ถ้าแฟนเก่าคุณต้องการไอ้แหวนปัญญาอ่อนนี่กลับไปก็

Alana:   เชิญเอาไป….

  

   

     

     

Alana พูดไม่ทันจบ

นักรบเผ่าดวงจันทร์ หญิงหนึ่ง ชายหนึ่ง ก็มาถึงที่ยานพอดี

   

นักรบหญิงมาพร้อมดาบที่ Marko เพิ่งหักไปด้วย!

    

Note
หลังจากที่หามานาน ในที่สุดผมก็รู้แล้วครับว่าภาษาที่พวกคนมีเขาพูดกันคือ
ภาษาเอสเปอแรนโต หรือ ภาษาเอสเปรันโต (Esperanto) ครับ
ผมจึงจัดการแปลมันซะเลย และแปลย้อนหลังเล่มเก่าๆด้วย
แต่เพื่ออรรถรส ผมจะปิดบางประโยคเพื่อไม่ให้เป็นการสปอยก่อนเวลาอันควรนะครับ

     

นักรบหญิง:   Kie Estas Mia Knabo!

((ノಠ益ಠ)ノ ชั้นอยู่ไหน!)

   

   

   

นักรบหญิงไม่พูดพร่ำทำเพลงสาดพลังเวทย์ใส่ Izabel ม่ายยยน๊าาาา

  

  

“โอ้ว เชร็ด พ่อ……!!”

   

   

   

เปรี้ยงงงงงงงงงง!!

   

   

   

ม่ายยยยย Izabel ม่ายยยย แง้งงงงง!

ว่าแต่ ผีมันตายรอบสองได้ด้วยเรอะ!!

   

   

   

   

 “IZABEL”

   

เปรี้ยง!

   

   

   

Alana ตกใจกับร่างของ Izabel ที่โดนเสกหายไปต่อหน้าต่อตา

เธอจึงเผลอเหนี่ยวไกปืนไฟฟ้าเข้าใส่ร่างของนักรบหญิง

ในขณะที่ Marko ก็ร้องเสียงหลงว่า….

อย่าาาาาาาาา!!

 

ส่วนนักรบชายเห็นนักรบหญิงบาดเจ็บ จึงถืออาวุธพุ่งไปหา Alana

  

นักรบชาย:   Malkompaktan hundino! (ไอ้หมาหน้าขน)

  

  

Marko:   Paĉjo ne! ( 囧rz อย่า)

Marko:   Ne doloris ŝin! (อย่าทำร้ายเธอ!)

 

 

นักรบชาย:   Marko?

 

เมื่อได้ยินเสียงของ Marko นักรบชายก็หยุดชะงัก

และถอดหมวกของตนออกมาด้วยความตกใจ

 

นักรบชาย:   ĉu tio verse vi? (นั่นเธอจริงๆเหรอ?)

   

   

Alana:   นี่มันเกิดบ้าอะไรขึ้นเนี่ย?

 

Marko:   Tiu estas mia edzino! (เธอคนนี้คือภรรยาผม)

Marko:   Tio estas nia bebo! (และนี่คือลูกของเรา)

  

   

    

   

นักรบชาย:   โอ้….

   

  

  

“แล้วหลังจากนั้น คุณปู่กับคุณย่า ก็เข้ามาอยู่กับพวกเราด้วยค่ะ”

   

   

   

>>To be continued >>

ผีตายรอบสองได้ด้วยเรอะ?! ตายแล้วผีจะไปไหนฟระ!?

แล้ว Alana  จะรับมือกับพ่อผัวแม่ผัวของเธออย่างไร!!

    

   

หมายเหตุ:

กรุณาแทนคำเหล่านี้

(ノಠ益ಠ)ノ ด้วยคำว่า “ลูก”

囧rz           ด้วยคำว่า “คุณพ่อ”

นะครับ คริกๆๆ

10 thoughts on “Saga #06

  1. NetNN

    ว่าแต่นาย The Will จะหาตัวองค์ชายหัว TV ได้หรือเปล่าหว่า? (คุยกันทางวิทยุหน้าตาก็ไม่เห็น)

  2. doc holliday

    ปู่ย่าต้องเป็นพ่อผัวแม่ผัวสิ พ่อตาแม่ยายมันใช้เรียกพ่อแม่ฝ่ายเมีย 😛
    เอา ศรีจุลโคธา มาใช้จนได้นะ 555 😀

  3. DOL Post author

    @doc holliday

    อ้าว ผมเพิ่งรู้นะเนี่ย!!!
    จัดการแก้ให้แล้วครับ 😀

  4. DOL Post author

    @LongJunT

    ศรี แปลว่า มิ่งขวัญ สง่า สุกสกาว งดงาม
    จุล แปลว่า เล็ก น้อย จ้อย
    โคธา แปลว่า เอี้ย ครับ

    ผมว่าประเด็นสำคัญอยู่ที่คำหลังสุดครับ ฮ่าๆๆ

  5. Tatoo

    วุ่นวายกันดีเเท้ สนุกมาก เเต่ดาบมันหักง่ายขนาดนั้นเลยเรอะ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *