Marvel Comic : Minimum Carnage : Part 4 : Scarlet Spider 11

เรื่อง : Chris Yost
ภาพ : Koi Pham
วางจำหน่าย: 7 พฤศจิกายน 2012
สำนักพิมพ์ : Marvel Comics

ในเล่มนี้จะเผยความเกี่ยวพันระหว่าง Symbiote และ Microverse และความจริงนี้จะทำให้เดิมพันของศึกนี้สูงขึ้นอีกมากมายนัก!!

.
.
.
“คิดอะไรไม่ออกเลย…เจ้า “ผู้รักษา” นั่นมันทำอะไรสักอย่างกับฉัน”
“มันเหมือนมีไฟลุกอยู่ในหัวฉัน แต่มันยิ่งกว่านั้นอีก…มันเหมือนวิญญาณของฉันกำลังลุกไหม้อยู่”
“แต่ถ้าฉันจะมีวิญญาณจริงๆล่ะก็…มันก็คงจะเป็นวิญญาณของสัตว์ร้ายนั่นแหละ”
“ฉันคือเคน ชายผู้ซึ่งฆ่าคนมามากมาย”
“ฉันคือฆาตกร”
“ฉันไม่เคยเห็นคุณค่าของชีวิตตัวเอง จนกระทั่งวันที่ฉันตายไป”
“ตอนนี้ฉันได้รับโอกาสอีกครั้ง”
“ฉันได้รับการแสดงให้เห็นเส้นทางที่ดีกว่าเดิม”
“เส้นทางในฐานะของสการ์เล็ตสไปเดอร์”
“แต่ไม่ว่าฉันจะพยายามเป็นคนที่ดีขึ้นแค่ไหน ไม่ว่าฉันจะมีมุมมองใหม่เกี่ยวกับชีวิตยังไงก็ตาม…”
“…เจ้าสัตว์ร้ายนั่นก็ยังคงอยู่ในตัวฉัน”
“และตอนนี้มันก็บอกให้ฉันทำสิ่งหนึ่ง”

(เกร็ดเล็กน้อย : ที่ Kaine ใช้เผาหน้า Carnage ในรูปข้างบนนั้นคือ “Mark of Kaine” เกิดจากการเร่งพลังยึดเกาะกำแพงจนถึงขีดสุดจนทำให้สามารถเผาไหม้ผิวหนังของคู่ต่อสู้ได้ ซึ่งท่านี้เป็นท่าเฉพาะตัวของ Kaine คนเดียว)

“มันบอกให้ฉันฆ่าคาร์เนจซะ”

Scarlet Spider (Kaine Parker) กำลังต่อสู้กับ Carnage (Cletus Kasady) อย่างดุเดือดเอาเป็นเอาตาย!!

ซึ่งสถานการณ์ในตอนนี้นับว่าสูสีกันอย่างยิ่ง

ตัดมาที่ยาน Endeaver ของทีม Enigma Force

Venom (Eugene “Flash” Thompson) ก็กำลังตกอยู่สถานการณ์ลำบาก เพราะตอนนี้ Symbiote ของเขาเกิดบ้าคลั่งขึ้นมา

“ฉันชื่อแฟลช ทอมป์สัน หรือเอเจนท์เวน่อม และตอนนี้ฉันอยู่ในจักรวาลขนาดจิ๋วเพื่อตามล่าฆฆาตกร”
“คนพวกนี้…พวกเขาได้ช่วยชีวิตฉันไว้…และตอนนี้ฉันกำลังจะฆ่าพวกเขา”
“ซิมไบโอตมันหลุดจากการควบคุม ด้วยเหตุผลบางอย่าง…สถานที่นี้…ไมโครเวิร์ส…ส่งผลต่อมัน”

“สถานที่นี้ทำให้มันบ้าคลั่ง”
“ไม่นึกว่ามันจะเกิดขึ้นได้ แต่มันกลับเกิดขึ้นถึงสองครั้งแล้วในวันเดียว”
“ก่อนหน้านี้มันเกิดคลั่งขึ้นตอนที่พบกับสไปเดอร์แมนอีกคน…สการ์เล็ตสไปเดอร์ ตอนนั้นฉันสามารถควบคุมมันและหยุดมันได้”
“แต่ครั้งนี้…นี่มันต่างออกไป”
“ความคิดของฉันมันกระจัดกระจาย ตั้งสมาธิไม่ได้เลย ซิมไบโอตเองมันก็ไม่ได้คิดอะไรเลยเหมือนกัน มันเพียงแค่รู้สึก
“ความเกลียดชัง”
“ความโกรธ”
“ความหิวกระหาย”
“ฉันหยุดมันไม่ได้ ฉันหยุด…ไม่”
“อย่ายอมแพ้เชียวนะทอมป์สัน แกได้ยินไหม? อย่าได้ยอม…”
“…”
“มีใครร้องเพลงอยู่งั้นหรือ?”

คนที่ร้องเพลงก็คือ Flare 1 ในสมาชิกของทีม Enigma Force นั่นเอง

“ภูติตัวจิ๋ว”
“ในหมู่พวกนี้ เธอเป็นคนที่เกลียดฉันที่สุด พวกเผ่าเดียวกับเธอพยายามจะฆ่าฉันมาแล้วด้วยซ้ำ”
“แต่เพลงที่ได้ยินเมื่อคราวที่แล้วมันเหมือนจะฉีกซิมไบโอตเป็นชิ้น แต่ตอนนี้…”
“ตอนนี้เพลงมันช่วยให้มันสงบลง”

Bug : มันเกิดอะไรขึ้นน่ะ?

Arcturus Rann : แฟลร์?

Flare : อะไรล่ะ?! ฉันก็ยังคิดว่าเราควรจะฆ่าเจ้าสิ่งนี้ทิ้งอยู่ดีนั่นแหละ

แม้สถานการณ์จะคลี่คลายไปแล้ว แต่ Arcturus Rann ก็คิดว่าควรปลอดภัยไว้ก่อนแล้วเอาปืนจ่อ Venom เอาไว้

Arcturus Rann : อย่าขยับจากตรงนั้นแม้แต่ก้าวเดียวเชียวล่ะ

Venom : ไม่ขยับไปไหนหรอกน่า

“และนั่นก็เป็นคำพูดด้วยสัตย์จริงเลยล่ะ ฉันแทบจะยืนไม่อยู่แล้วด้วยซ้ำ”
“เกือบจะเป็นลมอยู่แล้ว ต้องใช้เวลาที่จะตั้งสติ…”

ทันใดนั้นสัญญาณเตือนภัยก็ดังขึ้นอีกรอบ

Arcturus Rann : วันนี้มันเป็นวันซวยจริงๆ

ครั้งนี้ยานของพวกเขาโดนยานที่ใหญ่กว่าเป็นสิบเท่าชนเข้าอย่างจัง และยานขนาดเล็กก็เตรียมจะเข้ามาโจมตี

ประตูของยานถูกระเบิดจนเปิดออก

และสติของ Venom ก็ดับวูบลง

ตัดมาทางด้าน Scarlet Spider

เขาใช้ใบมีดกระดูกที่ข้อมือของเขาทั้งเสียบทั้งเฉือนร่างของ Carnage!

แต่ไม่ว่าเขาจะเล่นงานมันหนักขนาดไหนมันก็ไม่ตายเสียที?!

มันเกิดจากการที่ Kasady และ Carnage Symbiote นั้นรวมร่างกันจนถึงระดับเซลแล้ว เมื่อร่างของ Kasady ได้รับความเสียหาย Carnage Symbiote ก็จะใช้เซลของมันเข้าแทนที่เซลส่วนที่เสียหาย ทำให้เหมือนกับมันมี Healing Factor รักษาตัวเองได้นั่นเอง

ทางด้าน Katy Kiernan ก็พยายามหลบไม่ให้โดนลูกหลงจากการต่อสู้ แล้วเธอก็เห็น Redeemer กำลังนั่งคุกเข่าอยู่ จึงเข้าไปดูอาการ

Katy : ฮ…เฮ้คุณน่ะ! คุณเป็นอะไรหรือเปล่า?

Redeemer : สิ่งแปดเปื้อน…พิษร้ายของมันกำลังแพร่กระจายออกไป

Katy : อะไรนะ?

Redeemer : ทุกสิ่ง…กำลังแตกสลาย

Katy : คุณพูดเรื่องอะไรกันน่ะ?!

แล้วทันใดนั้นผาหินที่พวกเขาอยู่ก็เริ่มถล่ม แต่ Redeemer ก็ผลัก Katy ไปยังที่ปลอดภัยได้ทัน แต่ตัวเขากลับตกลงไปด้านล่าง

ซึ่ง Scarlet Spider ก็เห็นพอดี และรีบกระโจนไปช่วย Redeemer จนตกลงไปในเหวลึกทั้งคู่!!

ขณะที่ทั้ง Katy และ Carnage กำลังมองดูเหวที่ทั้งสองคนตกลงไปอยู่ กองทหารของ Marquis Radu ก็มาถึงเพื่อรับตัว Carnage ไปหาเจ้านายของพวกมัน

ตัดมาทาง Venom

ทั้งเขาและพวก Enigma Force ถูกพามาที่ปราการเคลื่อนที่ของ Maquis Radu

Venom : นี่ฉันหมดสติไปนานแค่ไหนกันเนี่ย?

Arcturus Rann : ไม่นานนักหรอก พวกมันปลุกนายขึ้นมาในช่วงที่แย่ที่สุด ตอนที่มาร์ควิสราดูจะฆ่าพวกเราทุกคนไงล่ะ

Venom : เจ้าราดูที่ว่านี่ร้ายมากๆเลยสินะ? ฉันก็เคยเจอไอ้ที่ว่าร้ายๆมาบ้างเหมือนกัน

Arcturus Rann : เจ้านั่นมันพยายามจะฆ่าพระเจ้าเลยเชียวล่ะ

Venom : นั่นเป็นการเปรียบเปรยทางศาสนาหรือเปล่าน่ะ?

ตอนนั้นเองก็มีอีกเสียงพูดขึ้น

??? : ไม่ใช่หรอก แต่ซิมไบโอตก็ไม่เชื่อในเรื่องพวกนี้อยู่แล้วนี่นะจริงไหม? ซิมไบโอตรู้จักเพียงการกลืนกินเท่านั้น และข้าก็ต้องก็ให้เจ้ากลืนกินพระเจ้าให้ข้าหน่อย

Arcturus Rann : โอ ตายล่ะ

Venom : นี่มันเรื่องอะไรกันล่ะเนี่ย?

Bug : นี่เป็นตอนที่เรากำลังตกที่นั่งลำบากสุดๆเลยไงล่ะ

Marquis Radu : ที่นี่คือโลกของข้าไงล่ะเจ้าซิมไบโอต จักรวาลของข้า และข้าก็จะไม่แบ่งมันกับใครทั้งสิ้น แม้แต่พระเจ้าก็ตาม

Arcturus Rann : แกล้มเหลวแล้วล่ะราดู รีดีมเมอร์อยู่ไกลเกินกว่าที่แกจะเอื้อมถึงแล้ว

Marquis Radu : ขอทีเถอะนะผู้การรานน์ จิตใจอันตื้นเขินของเจ้าไม่มีทางเข้าใจความยิ่งใหญ่ของข้าได้หรอก ข้าเคยเอาชนะทั้งเจ้าและศัตรูที่ร้ายกาจมาแล้วมากมายนับไม่ถ้วน

Marquis Radu : และตอนนี้ข้าก็มีเจ้านี่อยู่ในกำมือแล้วด้วย

Venom : ไปให้พ้นจากฉันเลยนะเฟ้ย!

Marquis Radu : ต้องยอมรับว่าข้าแปลกใจมากเลย เมื่อตอนที่ลูกน้องของข้าบอกว่าพบซิมไบโอตอยู่ในไมโครเวิร์สนี้อีกตัวหนึ่งน่ะ

Venom : นี่แกพูดเรื่องอะไรของแก?

Marquis Radu : เพราะจริงๆแล้วข้าสั่งไปแค่ตัวเดียวน่ะนะ

ทันใดนั้น พวก Carnage ก็ถูกนำเข้ามา

Raidus : คารวะท่านมาร์ควิสราดู

Carnage : คารวะๆๆ มาร์ควิสขาใหญ่ด้วยแล้วกันนะ

Carnage : เพราะนี่จะทำให้การฆ่าแกง่ายขึ้นอีกเพียบเลย

ว่าแล้ว Carnage ก็ฆ่าทหารที่จับมันอยู่ แล้วพุ่งเข้าหา Marquis Radu

Carnage : แกอยากให้ฉันฆ่าคนให้แกงั้นเรอะ? ฉันละยินดีทำให้แกสุดๆเลยเชียวล่ะ!

แต่ทว่า…

Marquis Radu : ขอพูดตามตรงนะ…

Marquis Radu : ข้าไม่สนใจเรื่องความสุขของเจ้าหรอก

ไม่เสียแรงที่เป็นระดับลาสบอสของจักรวาลนี้ Marquis Radu จัดการ Carnage จนหมอบได้อย่างง่ายดาย!!

Raidus : เอาพวกผู้การรานน์กับกลุ่มอีนิกม่าฟอร์ซไปขังไว้ในคุกก่อน แล้วก็เอาพวกซิมไบโอตไปที่ธนาคารร่างกายซะ

ขณะที่พวก Venom โดนพาตัวไป Marquis Radu ก็มาหา Katy

Marquis Radu : คุณเคียร์แนนงั้นสินะ? ไรดัสบอกข้าว่าเจ้าเป็นนักประวัติศาสตร์ของจากมาโครเวิร์สใช่ไหม

Katy : ฉัน…ก็ใช่ล่ะมั๊ง

Marquis Radu : ถ้างั้นก็มาสิ มาเดินเล่นร่วมกับข้าหน่อย

Katy : นี่คุณจะฆ่าฉันหรือเปล่า?

Marquis Radu : ข้าควรจะทำแบบนั้นหรือเปล่าล่ะ? เจ้าเป็นอันตรายกับข้าไหม?

Katy : ฉันก็ไม่รู้ว่ามันจะเป็นไปได้ยังไงน่ะนะ

Marquis Radu : ข้าก็คิดเช่นนั้นเหมือนกัน ข้าไม่สนใจการเข่นฆ่าอย่างไร้ประโยชน์หรอกนะคุณเคียร์แนน

Katy : หมายความว่าการฆ่าของคุณนั้นมีเหตุผลเสมองั้นหรือ?

Marquis Radu : ถูกต้องแล้ว

Marquis Radu : ไมโครเวิร์สแห่งนี้นั้นเต็มไปด้วยความวุ่นวายและสงครามอยู่เสมอ โดยมีพระเจ้าที่บ้าคลั่งคอยควบคุมอยู่ และข้าก็คิดที่จะยุติมันเสีย

Katy : ด้วยการใช้ฆาตกรโรคจิตเนี่ยน่ะหรือ? คุณแน่ใจนะว่าที่บ้าคลั่งคือพระเจ้าน่ะ?

Marquis Radu : แน่ใจสิ

พวกเขามาถึงหน้าเสาลำแสงต้นหนึ่ง แล้ว Marquis Radu ก็เอาหน้าของ Katy เข้าไปในแสง

Marquis Radu : ข้าจะแสดงให้เจ้าดู

Katy : โอ คุณพระช่วย

Marquis Radu : ต่างจากจักรวาลของเจ้า จักรวาลของพวกเรานั้นมีขอบเขตจำกัด

Marquis Radu : จักรวาลของเราคงอยู่ภายในจักรวาลของเจ้า แต่จักรวาลของเราสามารถเป็นได้มากกว่านั้นมาก แต่เราถูกจำกัดเอาไว้โดยพลังอำนาจสูงสุด

Marquis Radu : เราถูกจำกัดไว้โดยอีนิกม่าฟอร์ซ

Marquis Radu : จนกระทั่งไมโครเวิร์สถูกรุกรานโดยสัตว์ร้ายที่ตอนนี้เราเรียกว่าซิมไบโอต

Marquis Radu : และพวกมันก็เริ่มที่จะกลืนกินจักรวาลของเรา

Marquis Radu : พวกมันเป็นพิษร้ายต่อจักรวาลของเรา เพียงการคงอยู่ของพวกมันก็เพียงพอที่จะทำลายมัน

Marquis Radu : ซิมไบโอตเกือบจะทำลายจักรวาลของเรามาแล้ว…

Marquis Radu : …และพวกมันก็เกือบจะทำลายอีนิกม่าฟอร์ซได้ด้วยซ้ำ เมื่อซิมไบโอตพยายามจะรวมร่างกับพระเจ้าและกลืนกินมาเป็นของพวกมัน

Marquis Radu : ในท้ายที่สุดอีกนิกม่าฟอร์ซก็ทำลายพวกสัตว์ร้ายลงได้ และขับมันออกไปจากไมโครเวิร์ส

Katy : อึ๊ก! ล…แล้วทำไมคุณถึงนำพวกมันกลับมาที่นี่ล่ะ?

Marquis Radu : ก็เพราะข้าต้องการที่จะขึ้นเป็นพระเจ้าน่ะสิ

Marquis Radu : และเพื่อให้ข้าสามารถขึ้นเป็นพระเจ้าองค์ใหม่ได้ ข้าก็จะต้องสังหารพระเจ้าองค์เก่าเสียก่อน แต่ข้าก็ไม่อาจทำได้ เพราะมันขัดกับหลักความเชื่อของข้า ดังนั้น…ข้าจึงต้องใช้คาร์เนจยังไงล่ะ

ตัดมาที่หน้าผา

Scarlet Spider ก็สามารถพา Redeemer ขึ้นมาจากเหวได้สำเร็จ

Scarlet Spider ก็สามารถพา Redeemer ขึ้นมาจากเหวได้สำเร็จ

Scarlet Spider : คุณปลอดภัยดีไหม?

Redeemer : ข้าใกล้จะตายแล้วล่ะ

Scarlet Spider : …ถ้าไม่นับเรื่องนั้น คุณปลอดภัยดีไหม?

Redeemer : ซิมไบโอตนั้นเป็นอันตรายต่ออีนิกม่าฟอร์ซ เป็นพิษร้าย เหมือนกับเชื้อมะเร็ง และข้าก็คือร่างมีชีวิตที่เป็นตัวแทนของพลังนั้น

Scarlet Spider : แล้วไงล่ะ? หมายความว่าคาร์เนจจะฆ่าคุณงั้นหรือ?

Redeemer : ถ้าอีนิกม่าฟอร์ซถูกทำลาย ไมโครเวิร์สก็จะพินาศไปด้วย

Scarlet Spider : นั่นมันฟังดู…คืองี้นะ ฉันก็ไม่อยากจะพูดจาทำร้ายจิตใจกันหรอกนะ แต่เมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อนฉันยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามีที่นี่อยู่น่ะ แล้วทำไมเราไม่ปล่อยมันไปตามเรื่องของมันแล้วไปกันจากที่นี่ซะล่ะ?

Redeemer : ท่านเข้าใจผิดเกี่ยวกับที่นี่…จะไม่มีอะไรมีตัวตนอยู่ได้หากขาดมันไป ไมโครเวิร์สคือสิ่งที่ยึดเหนี่ยวมาโครเวิร์สเอาไว้ ซึ่งนั่นก็คือจักรวาลของท่านนั่นแหละ

Scarlet Spider : …เวรล่ะสิ

Redeemer : ใช่แล้ว เวรจริงๆนั่นแหละ

ตัดมาที่ด้าน Venom

ทั้งเขาและ Carnage กำลังถูกขนส่งไปที่ไหนสักแห่ง

Carnage : ฉันจะฆ่าเจ้านั่น แล้วก็เจ้านั่น แล้วก็เจ้าคนที่อยู่ตรงนั้น แล้วก็…

Venom : แกจะช่วยหุบปากแล้วฟังคนอื่นซักครั้งในชีวิตของแกบ้างได้ไหมหาคาซาดี้? มันมีเรื่องใหญ่มากๆกำลังเกิดขึ้นอยู่นะ

Carnage : แล้วในเรื่องที่ว่ามันมีใครสักคนตายหรือเปล่าล่ะ?

Venom : แกต้องตั้งใจฟังฉัน…โอ้โห…

จากหน้าต่างของทางเดิน Venom เห็นร่างคนมากมายถูกเก็บรักษาไว้ในหลอดแก้ว! ที่นี่คือ Body Bank หรือโรงงานสร้างมนุษย์เทียมของ Marquis Radu นั่นเอง!!

“เจ้าราดู มันกำลังสร้างกองทัพขึ้นมา แต่ทำไมพวกมันต้องพาเรามาที่…”
“เวรแล้วไง…”
“ทอมป์สัน แกมันโง่จริงๆ!”
“มันกำลังจะใช้พวกเราในการสร้างกองทัพของมัน”

ภารกิจตามล่าฆาตกร ได้กลายมาเป็นภัยพิบัติระดับล้างจักรวาลไปเสียแล้่ว?! Scarlet Spider และ Venom จะสามารถหยุดยั้ง Marquis Radu ไม่ให้ใช้กองทัพ Symbiote ทำลาย Enigma Force ได้หรือไม่?

โปรดติดตามตอนต่อไป