X-Necrosha: One-Shot ปฐมบทแห่งการคืนชีพ
X-Force: Necrosha Chapter One
เรื่อง: Craig Kyle & Christopher Yost
ภาพ: Clayton Crain
New Mutants: Binary
เรื่อง: Zep Wells
ภาพ: Ibraim Roberson
X-Men Legacy: The Foretelling
เรื่อง: Mike Carey
ภาพ: Laurence Campbell
วางจำหน่าย: 28 ตุลาคม 2009
สำนักพิมพ์: Marvel Comics
บทนำของ Cross Over ใหญ่ ที่ดำเนินเรื่องในหนังสือเกี่ยวกับมนุษย์กลายพันธุ์ทั้ง 3 เล่ม
คือ X-Force, New Mutants และ X-Men Lecacy เริ่มต้นในเล่ม One-Shot นี้ครับ
เริ่มกันที่ X-Force ก่อนเลย
X-Force คือทีมที่ตั้งขึ้นเพื่อปฏิบัติภารกิจที่ความลับ อันตราย ผิดกฎหมาย
เช่นลอบสังหาร ลักพาตัว ต่อต้านกลุ่มผู้มุ่งร้ายต่อมนุษย์กลายพันธุ์แบบตาต่อตา ฟันต่อฟัน แบบที่ทีม X-Men ปกติไม่อาจทำได้ มีน้อยคนที่รู้ว่ามีทีมนี้อยู่ โดย Cyclops เป็นผู้ควบคุม
สมาชิกประกอบด้วย Wolverine พลังรักษาตัวและกรงเล็บอะดาแมนเที่ยม เป็นหัวหน้าทีมภาคสนาม
Archangel นี่คือคนเดียวกับ Angel มิวแทนต์ที่มีปีกคู่ใหญ่ แต่กลายร่างเป็น Archangel ปีกกลายเป็นเหล็กกล้า
X-23: Laura Kinney สาวน้อยผู้มีพันธุกรรมเหมือน Wolverine จากการโคลนนิ่ง มีพลังรักษาตัวและกรงเล็บคล้ายต้นฉบับ
Warpath: James Proudstar นักรบอินเดียนแดงเผ่าอปาเช่ผู้มีร่างกายแข็งแกร่งและว่องไว
Elixir: Josh Foley มีพลังรักษาผู้อื่นด้วยการสัมผัส
Domino: Neena Thurman สาวปานตัวจริง เชี่ยวชาญอาวุธ และดวงดีเสมอ (Luck Power)
Vanisher: Telford Porter มิวแทนต์ที่มีพลังเคลื่อนย้ายในพริบตา (Teleport)
ความเดิมเริ่มจาก Bastion ไซบอร์กจากอนาคตที่เกลียดเหล่ามนุษย์กลายพันธุ์ ได้สร้างไวรัสจากเทคโนโลยีเอเลี่ยน เรียกว่า เทคโน-ออแกนิค หรือ ที-โอ ไวรัส ที่สามารถคืนชีพให้เหล่าอดีตศัตรูของ X-Men ให้คืนชีพได้ โดยจะถูกควบคุมจิตใจตามที่มันต้องการ แม้ว่าผู้ถูกควบคุมจิตใจเหล่านั้นจะต่อสู้ขัดขืนได้บ้าง ตอนนี้เรายังไม่ทราบแน่ชัดว่า Bastion ต้องการอะไรกันแน่
Eli Bard คือผู้ที่ช่วย Bastion ค้นพบที-โอ ไวรัส ได้แตกคอกันและแยกตัวไปหานายเก่าของเค้า
คือ Selene แวมไพร์ที่มีพลังจิตแรงกล้า ได้ก่อตั้งทีมขึ้นมาและวางแผนบางอย่าง ที่เราไม่อาจรู้ จนกระทั่งสายเกินกว่าที่แก้ไขได้ทัน…
ซีลีนเล่ากำเนิดตัวเองในยุโรปตอนกลางเมื่อ 17,000 ปีก่อน กับลูกทีมใหม่
Kevin Ford หรือ Wither พลังสัมผัสมรณะ
Clarice Ferguson หรือ Blink พลังเคลื่อนย้ายในพริบตา
Suvik Senyaka หรือ Senyaka มีแส้พลังจิตดูดพลังชีวิต
Lois London หรือ Mortis สร้างสนามพลังงานได้
Eliphas หรือ Eli Bard แวมไพร์ ผู้ใช้ ที-โอ ไวรัส
และ Selene หรือ Black Queen ราชินีหัวหน้ากลุ่ม
ณ ยูโทเปีย นอกชายฝั่งซานฟรานซิสโก เกาะของเหล่ามนุษย์กลายพันธุ์ที่แยกตัวออกมาจากรัฐบาล เพื่อที่จะไม่ต้องอยู่ภายใต้อำนาจของวายร้ายนอร์แมน ออสบอร์น ที่คุมหน่วย H.A.M.M.E.R. กับ Dark Avengers อยู่ในปัจจุบัน
กลุ่มคนลึกลับบุกเข้ามา นำโดย Blink สัญญาณเตือนภัยดังขึ้น
Danger แอนดรอยด์ฝ่าย X-Men ที่คุมเรือนจำอยู่ถูกแทรกแซงระบบจนน็อคไป
เหล่านักโทษเริ่มรู้สึกถึงความผิดปกติ
เซบาสเตียน ชอว์ หรือ Black King เข้าใจว่าเป็นฝีมือ เอ็มม่า อดีต White Queen
โดนัลด์ เพียร์ซ หรือ White Bishop ก็รู้สึกเช่นกัน ว่ามีใครบุกเข้ามาในเรือนจำแห่งนี้แล้ว
*เอ็มม่า ฟรอสต์ ปัจจุบันเป็นหนึ่งในผู้นำ X-Men เธอเคยเป็นสมาชิก Hellfire Club ที่มีชื่อตำแหน่งเป็นตัวหมากรุก
เซบาสเตียน: “เตรียมตัวไว้ เอ็มพาธ เงียบก่อน โอ้พระเจ้า ไม่…”
ชิโนบิ: “ไม่ดีใจที่เจอผมเหรอ พ่อ”
Shinobi Shaw ลูกชายของเซบาสเตียนที่ตายแล้วไปปรากฏตัวขึ้น
เซบาสเตียน: “เป็นไปไม่ได้ ฉันฆ่าแกไปแล้วนี่”
ชิโนบิ: “ผมก็จำได้ว่าก่อนนั้นผมก็ฆ่าพ่อไปแล้วเหมือนกัน แต่คราวนี้แหละ มันจะต้องเลวร้ายกว่านั้น จริงไหม แฮโรลด์”
แฮรี่ ลีแลนด์ หรือ Black Bishop ที่ตายไปก็ปรากฎตัวขึ้นอีกคน
โดนัลด์: “ลีแลนด์ นี่มันยังไงกัน แกเป็นตัวอะไรกันแน่”
แฮรี่: “ฉันเป็นอะไรน่ะหรือเพียร์ซ ความตายไง”
เหตุการณ์ทั้งหมดอยู่ในสายตาของ Bastion และ Cameron Hogde สาวกผู้ต่อต้านมิวแทนต์
เพราะสิ่งที่เพียร์ซเห็นถ่ายทอดมาถึงมันด้วยเหมือนกัน (โดนัลด์ เพียร์ซ ก็คืนชีพมาด้วย ที-โอไวรัส) บาสชั่นรู้ตัวว่าเทคโนโลยีที่ใช้ถูกเอาไปใช้แล้วเช่นกัน มันคิดว่าต้องเร่งมืออะไรบางอย่างแล้ว
ที่กรุงโรม
เซลีนปักหลักอยู่ที่นี่ บ่นว่าหลายร้อยปีที่ผ่านมา เธอพยายามสร้างโรมขึ้นมาใหม่ แต่มันไม่มีจิตวิญญาณหลงเหลือแล้ว เธอมองหาผู้ที่จะไม่ทำให้เธอผิดหวังเหมือนกับกลุ่ม Hellfire Club
กลับมาที่ยูโทเปีย
ไซคลอปกับวูฟเวอรีนกำลังพยายามคุยกับลอร่า (X-23) ที่เพิ่งถูกช่วยกลับมา
(จากเหตุการณ์ใน X-Force #18 X-23 ถูกตัดแขนซ้าย) ลอร่าไม่ยอมบอกว่าเกิดอะไรขึ้น
และขอร้องให้ช่วยใส่ใบมีดกลับไปเป็นกรงเล็บของเธอเหมือนเดิมหลังจากแขนต่อกันหายเกือบสนิทแล้ว ส่วนอีลิกเซอร์ มิวแทนต์ที่มีพลังรักษาคนอื่นได้ ยังนอนสลบอยู่
วูฟเวอรีนรักและห่วงลอร่าเหมือนลูก พยายามจะถามให้ได้ แต่ไซคลอปบอกไว้ว่าเอาไว้ทีหลัง
ตอนนี้ให้ลอร่าปลอดภัยก็พอ วูฟเวอรีนเลยโทษไซคลอปว่าเป็นต้นหตุที่ส่งเธอไปเจออันตราย
เกิดเหตุผิดปกติข้างนอก วูฟเวอรีนเดรียมออกไปลุย
ทางด้านเอ็มม่า ฟรอสต์ เดินๆ อยู่ก็มีเสียงเรียกลอยมา
“คุณฟรอสต์ คุณฟรอสต์ ทำไมคุณไม่ช่วยเรา”
เอ็มม่านึกว่าเป็นเสียงในหัวตัวเอง เลยพยายามไม่สนใจ
“คุณฟรอสต์ คุณเป็นครูพวกเรา คุณน่าจะช่วยเรา”
เอ็มม่าคิดว่าเป็นไซคลอป “สก็อต นั่นคุณเหรอ..ไม่”
“ทำไมคุณปล่อยให้พวกเราตาย”
“พวกเราไม่ใช่นักเรียนที่ดีเหรอคุณฟรอสต์”
กลุ่ม Hellions ที่ตายไปปรากฏตัวอยู่หน้าเอ็มม่าแล้ว
เฮลไฟร์คลับ นครนิวยอร์ค
เซลีนพวกสมาชิกบุกมาถึงนี่แล้ว เธอต้องการตัวเซบาสเตียน กับเอ็มม่า
เซบาสเตียนอ่อนแอเกินไป ส่วนเอ็มม่าก็ทรยศเธอ เธอจะมาทวงแค้น
ห่างจากยูโทเปีย 15 ไมล์ วอร์พาธกับแองเจิ้ลกำลังเดินทางกลับมา
หลังจากไปช่วยมิวแทนต์หมาป่า Wolfsbane กับ Hrimhari เจ้าชายหมาป่าแห่งแอสการ์ด
โดยที่วูฟส์เบนมีอาการไม่ดี ต้องการให้ Elixir ช่วยใช้พลังรักษา
มีสายฟ้าฟาดมาที่ยานทำให้ยานตกลงใกล้เกาะยูโทเปีย
ทุกคนยังปลอดภัย แองเจิลแปลงร่างเป็นอาร์คแองเจิ้ลพร้อมรบ บอกว่ามีความตายอยู่แถวนี้
Hrimhari บอกว่านี่เป็นมนต์ดำ ศัตรูลึกลับตีวงล้อมกรอบเข้ามา
แล้วศัตรูเก่า ไพโร มิวแทนต์ผู้ควบคุมไฟได้ กับ เบอเซอเกอร์ ที่ตายไปแล้วทั้งคู่ ก็โผล่ออกมา
“พวกแกตาย”
ทางฝั่งเอ็มม่า กำลังโดนกลุ่ม Hellions รุมกินโต๊ะ
“คุณปล่อยให้พวกเราตาย”
“นี่มันไม่จริง นี่มันไม่ได้เกิดขึ้น” เอ็มม่าไม่อยากจะเชื่อกับสิ่งที่เกิดขึ้น
“คุณทรยศราชินีของเรา คุณสวมชุดของเธอ คุณคิดว่าจะไม่ต้องชดใช้งั้นเหรอ”
“เซลีน” เอ็มม่ารู้แล้วว่านี่ต้องเป็นฝีมือเซลีน
มีแสงสีแดงยิงสาดเข้ามาช่วยเอ็มม่าไว้ได้ทัน
“เอ็มม่า หลบไป” พระเอกมาแล้ว ไซคลอป วูฟเวอรีน โดมิโน่ ออกมาช่วยไว้
วูฟเวอรีนเปิดฉากเสียบตามสไตล์ แต่จะทำให้อะไรคนตายได้
เลยโดนพุ่งใส่ พาบินขึ้นฟ้าหายไป
เอ็มม่าร้องว่าอย่าทำร้ายลูกศิษย์เธอ ไซคลอปบอกให้ตั้งสติไว้ นี่ไม่ใช่พวกเฮลิออนส์อีกต่อไปแล้ว
โดมิโน่บอกให้ไซคลอปรีบพาเอ็มม่าหนีไปก่อน แต่ดูเหมือนจะไม่ทันการณ์
ทางด้านเซลีนและพรรคพวกมา ณ ที่แห่งหนึ่งในมหาสมุทรอินเดีย
“ฉันรู้ว่าเธอจะไม่ทำให้ผิดหวัง แคลริส”
ตอนนี้มีมิวแทนต์คืนชีพมากับพวกของเซลีนด้วย
จอห์น พราวด์สตาร์ หรือ ธันเดอร์เบิร์ด พี่ชายของ เจมส์ (วอร์พาธ)
และ คาลิบัน มิวแทนต์ที่สามารถตรวจจับมิวแทนต์อื่นๆ ได้ในรัศมี 25 ไมล์
(คาลิบันตายไปในเหตุการณ์ Messiah Complex)
Caliban: “คาลิบันได้กลิ่นพวกมัน มิวแทนต์ เต็มไปหมด”
Selene “และนี่คือที่ๆ การเดินทางสิ้นสุด”
ที่นี่คือ อ่าวแฮมเมอร์ เจโนชา อดีตเกาะสวรรค์ของมิวแทนต์ที่แม็กนีโตพยายามสร้างไว้
ที่ๆ ฉันจะได้เป็นพระเจ้า ขอต้อนรับสู่ “เนโครชา”
เหตุการณ์ต่อไปติดตามได้ใน X-Force #21
New Mutants
ในโลงศพ ชายคนหนึ่งตื่นขึ้น
‘การมีตัวตนของฉันเป็นเลขฐานสอง (Binary) ตายหรือเป็น เปิดหรือปิด หนึ่งหรือศูนย์’
ทะลุโลงศพ แหวกดินตื่นขึ้นมาจากสุสานแล้ว
“อะไรกัน” “ฉันคือภาษาอะไร”
“ไม่มีภาษา แค่ทาส” “ลุกขึ้น” “นายมีงานต้องทำ”
สองสัปดาห์ต่อมาที่ยูโทเปีย
ชายเลขฐานสอง ซึ่งก็คือ ดักกลาส แรมซี่ย์ หรือ ไซเฟอร์ (Cypher)
ถูกนำตัวมาเพื่อพาผู้บุกรุกแทรกซึมเข้าไปในฐานของเหล่าเอ็กซ์เมน
ไซเฟอร์มองไปที่สิ่งก่อสร้าง
‘ป้อมปราการ เส้นโค้ง เสาค้ำ คาน พื้นฐานสิ่งปลูกสร้าง
วิศวกรจัดรูปแบบมันตามหมายของงานที่ทำ อาคารคือภาษาของเค้า
ฉันแค่แปลความหมายมัน’
แล้วไซเฟอร์ก็บอกให้ทุกคน ลงด้านล่าง
กลุ่มเฮลิออนส์ถึงกับงง
“นายว่าไงนะ แล้วเราจะหายใจยังไง”
“เราตายแล้ว ไม่ต้องหายใจ”
ทั้งหมดลอบเข้ามาจากใต้ฐานได้
“หมอนี่เป็นใครกันแน่เนี่ย”
“เค้าเคยเป็นหนึ่งใน มิวแทนต์รุ่นใหม่ของเซเวียร์ รุ่นก่อนหน้านายซะอีก บีฟ
เค้าสามารถเข้าใจภาษาต่างๆ ทุกภาษา”
ในที่สุดก็มาถึงประตูรหัส
“นี่มันเข้ารหัสแบบควอนตั้ม มันเป็นภาษาอนุภาควากส์ ภาษาของมิติและเวลา ภาษาของจักรวาล…”
“นายเจาะมันได้มั้ย”
“ไม่รู้สิ…”
‘ทุกๆ อย่างคือภาษา ฉันปิดแล้วก็เปิด ฉันคือภาษา ฉันคือทุกอย่าง’
“ได้แล้ว”
“ลุยกันเลย”
“ไปด้วยกันมั้ย”
“ไม่ล่ะ ฉันมีงานต้องทำ”
“ราชินีของเราทิ้งคนๆ นึงเปิดไว้”
ไซเฟอร์เปิดดูข้อมูล แม็กม่า มิวแทนต์สาวสวยที่มีพลังควบคุมไฟและลาวา
“ฉันต้องปิดเธอซะ”
เหตุการณ์ต่อไปติดตามได้ใน New Mutants #6
X-Men Legacy
นิวออร์ลีน 1 สัปดาห์ก่อน
เซลีนสั่งให้นำตัวคนๆ หนึ่งเข้ามา
Destiny หรือ ไอรีน แอดเลอร์ นั่นเองที่ถูกทำให้ฟื้นขี้นมา
และถูกเซลีนสั่งให้บอกอนาคต
เธอบอกว่าสิ่งที่เซลีนวางแผนไว้จะสำเร็จ
แล้วก็ถูกพากลับไปขังเหมือนเดิม
ระหว่างถูกพากลับห้องขัง ไอรีนพยายามอ้อนวอน เซนยาก้า กับ วิทเธอร์ ให้ปล่อยเธอไป
แต่ไม่เป็นผล
ในห้องขัง ไอรีนพยายามติดต่อใครบางคนทางโทรจิต
“ตื่นเถอะ ตื่นขึ้นมาพูดกับแม่ ลูกสาวแม่”
“อ๊าาาาา…” บลายด์โฟล ตื่นขึ้น
*Blindfold เป็นมิวแทนต์พลังจิต สามารถมองเห็นอดีต ปัจจุบัน และอนาคต
ดูเหมือนว่าเดสตินี่จะมาผิดห้อง ลูกสาวที่เธอคาดว่าจะเจอควรจะเป็น โร้ค (ซึ่งเป็นลูกเลี้ยง)
บลายด์โฟล ดูเหมือนจะกลัวเดสตินี่ เธอเลยบอกว่าไม่เป็นไร และจะฝากข้อความไว้
ให้บลายด์โฟลเดินเข้าไปใกล้ๆ
ทันไดนั้นวอร์พาธก็กระเด็นทะลุผนังเข้ามา
แล้วบอกให้บลายด์โฟลรีบหนีออกไปเดี๋ยวนี้ ก่อนจะกลับไปบู๊ต่อ
บลายด์โพล “คุณช่วยฉันไว้ และเขาก็ไม่เห็นคุณด้วย”
เดสตินี่: “ถึงฉันไม่ได้มาตรงนี้ เธอก็เห็นอันตรายด้วยตัวเองอยู่แล้ว
ฉันไม่ได้อยู่ที่นี่จริงๆ ฉันอยู่ใกลออกไป โปรดจำข้อความนี่ไว้ให้ดี”
เดสตินี่กระซิบบอกบางอย่างที่ทำให้บลายด์โฟลตกใจ
ดูเหมือนการติดต่อทางจิตจะขาดหาย เดสตินี่รู้สึกตัวขึ้นมา มีบางอย่างผิดพลาด
“ไม่ เดี๋ยวก่อน ไม่ นั่นไม่ใช่…”
“ฉันทำอะไรลงไป ฉันทำอะไรลงไป”
เหตุการณ์ต่อไปติดตามได้ใน X-Men Legacy #231
เรียบเรียงโดย:
เสร็จซะที มาท้าชนกับ Blackest Night ของ DC ให้มันรู้ดำรู้แดงกันไปเลย 😀
ยาวมาก ใครเผลอซื้อเผลออ่านเล่มนี้ ต้องตามอ่านทั้งสามหัวต่อไป
มาร์เวลหลอกขายของเก่งจริงๆ ฮ่าๆๆ
ตัวละครเยอะค่อดๆ
เอ๊า ค่ายนี้เค้าคืนชีพกันเป็นล้านๆ คน ทั้งเจโนชา
ไม่ใช่แค่มาใส่แหวนแล้วฟื้นมาจิ๊บๆ โดนแสงจ้าก็ตายเกลี้ยง 😛
น่าสนใจดีมากครับ
นี่สามารถเป็น Event ใหญ่ของ Marvel ได้ไม่ยากเลย (ถ้าพวก Avenger มาช่วย Wolverine สู้พวก Undead Mutant นี่ท่าจะมันส์ หรือถ้าจะเอา Ghost Rider มาร่วมแจมด้วยก็ยิ่งเจ๋ง ก็เคยมาช่วยสอนวิธีฆ่าปีศาจให้ Warpath มาแล้วนี่นะแถมหัวหน้าใหญ่ฝ่ายผู้ร้ายก็เป็นราชินีแวมไพร์ด้วยเข้ากับธีมของพี่หัวไฟพอดี)
ว่าแต่พวกที่ฟื้นขึ้นมาด้วยไวรัสนี่สามารถทำลายได้ไหมนี่? แบบว่าเท่าที่ดูพวกนี้ฆ่าไม่ตายแต่ดูเหมือนว่าจะไม่มีพลังฟื้นสภาพถ้าทุบให้เละจนเคลื่อนไหวไม่ได้ก็คงพอจัดการไหว
บางทีผมยังอยากคิดว่ามาร์เวลมีจักรวาลหลักสองเรื่อง คือ จักรวาล Avengers กับจักรวาล X-Men เลยด้วยซ้ำครับ ทุกวันนี้ยังไม่เข้าใจโลกของ X-Men เท่าไหร่เลย
เบื่อคนตายคืนชีพแล้ว
ต้องโทษซูเปอร์แมนรึเปล่าครับแบบนี้ 😀
ปลุกคนตายอีกแล้ว 5555
ขอบคุณมากค่ะสนุกดี ^^
ว่าไปนี่เรื่องใน X-Men นี่ก็ดูจะแปลกๆจริงๆนั่นแหละครับ
เพราะเรื่องที่เกิดขึ้นใน X-Men มักไม่ค่อยจะมีตัวละครจากเรื่องอื่นๆในมาร์เวลมาข้องเกี่ยวด้วยเลย อย่างตอนที่เจโนชาพินาศนั่น เรื่องใหญ่ขนาดนั้นมันกลายเป็นว่าแปลกมากๆที่ Avengers ไม่ออกปฏิบัติการ เพราะอย่างน้อยแม้จะไม่รู้มาก่อน แต่ถ้ามันเกิดขึ้น อย่างน้อยโทนี่ สตาร์คคนหนึ่งแหละที่น่าจะรู้เรื่องได้ (แกมีดาวเทียมเป็นส่วนตัวเลยนะ) หรือ อย่างน้อยจะไม่มีใครขอความช่วยเหลือจาก Avenger มั่งเลยหรือ? ไหงมันกลายเป็นว่า Avengers ไม่โผล่ออกมาตั้งแต่ต้นจนจบเลย
ใช่ครับ อาจเป็นเพราะฐานใหญ่ของทั้งสองทีมอยู่ไกลกันมาก
Avengers อยู่นิวยอร์ค ส่วน X-Men อยู่ซานฟรานซิสโก คนละฝั่งประเทศกันเลย
แต่ถึงยังไงทั้งสองทีมก็มีวูฟเวอรีนเป็นตัวเชื่อม เพราะเฮียแกอยู่ทั้งสองทีม
แต่อีเวนท์ใหญ่ของ X-Men มักไม่จำกัดอยู่เฉพาะหัวหนังสือ X-Men ด้วยกันเท่านั้นเอง
อาจเพราะตัวละครมันเยอะมากเกินไปที่จะจัดการเกลี่ยบทและให้ความสำคัญอย่างเหมาะสมมั้งครับ มาร์เวลเลยเลี่ยงโดยการแบ่งเรื่องกันไปเลยจะง่ายกว่า
อันนี้ก็คิดเหมาเอาเองจากที่อ่านไม่เยอะเท่าไหร่ครับ ดีใจที่ได้แลกเปลี่ยนกัน 🙂
สมัยที่ทั้ง เอ็กเมนและอเวนเจอร์ ยังมีคนไม่เยอะเหมือนในปัจจุบัน ก็มีไปร่วมแจมกันบ่อยนี่ครับ…
แต่เด๋วนี้คงไม่ไหวแล้วหละ เพราะตัวละครเยอะเกิ๊นนนนนน…
ถ้าจะอ่านเอาความเข้มข้น ก็ควรอ่านอเวนเจอร์ เพราะเอ็กเมน มักจะบู๊มันส์แต่หาเนื้อเรื่องไม่ค่อยเจอ -*-
เพิ่มอีกนิด…
ถ้าให้อีเลเซอร์ไป heal พวกอันเดด จะฆ่ามันได้ไหม?
เหมือนอย่างในเกมส์ ไฟนอล ไรงี้ ;p
มุขนี้ผมว่าเริ่มฝืดและอ่ะครับ ซื้อมาเหมือนกันเล่มนี้ รู้งี้รออ่านดีกว่าครับ