DC Comic : Talon 00 : นกฮูกที่ไม่ยอมถูกขังกรง
เรื่อง : Scott Snyder, James Tynion IV
ภาพ : Guillem March
วางจำหน่าย: 19 กันยายน 2012
สำนักพิมพ์ : DC Comics
เขาถูกสมาคมลับสร้างขึ้นให้เป็นอาวุธสังหารของพวกมัน แต่พวกมันไม่อาจทำลายจิตวิญญาณของเขาได้ และนี่คือเรื่องราวของเขา เรื่องราวของนกฮูกที่ไม่ยอมถูกกักขัง!!
.
.
.
ในอดีต
ในคืนฝนฟ้าคะนองวันหนึ่ง
“ความทรงจำในวัยเด็กเพียงอย่างเดียวที่ฉันจำได้อย่างแม่นยำ คือชั่วขณะที่ฉันรู้ว่าฉันกำลังจะตาย”
“ตอนนั้นฉันอายุแปดขวบ และพ่อของฉันก็จับฉันขังในกรงหมา ล็อคกุญแจคล้องโซ่ แล้วก็โยนกุญแจทิ้งไป แล้วฉันก็ไม่เคยได้เห็นเขาอีกเลย”
“โซ่ที่ใช้คล้องประตูนั้นมันทั้งเก่าและสนิมเขรอะ ฉันเลยเอาก้อนหินทุบมันตลอดสามวันสามคืนท่ามกลางสายฝน”
“ในคืนที่สาม ฉันก็รู้ตัวว่ามันเปล่าประโยชน์ ฉันตัวสั่นไปทั้งตัว ความตื่นตระหนกเข้าครอบงำฉัน…ฉันเตรียมใจรับความตายของฉัน…”
“…แล้วทันใดนั้น ฉันก็เห็นโซ่ในมุมที่แปลกไป ฉันเห็นจุดที่มันกระเทาะแตกออก จุดที่มันอ่อนแอที่สุด”
“ฉันสงบใจได้ในทันที และรู้ว่าฉันมีเรี่ยวแรงพอจะทุบมันได้อีกเพียงครั้งเดียวเท่านั้น”
“การหลบหนีครั้งแรกในชีวิตของฉันสำเร็จลงแล้ว แต่มันยังไม่จบ และฉันก็รู้ดีด้วย ฉันจะต้องหนีไปให้ไกลจากบ้านหลังนั้นและกรงหมานั่นให้มากที่สุดเท่าที่ขาของฉันจะมีแรงพาฉันไปได้”
“ฉันต้องหนี”
“และดูเหมือนว่าฉันก็ไม่เคยหยุดหนีเลย”
ตัดมาที่ห้าปีก่อนหน้านี้
ที่สะพาน New Trigate
เด็กน้อยที่บัดนี้เติบโตเป็นชายหนุ่ม กำลังทำงานซ่อมบำรุงสะพานอยู่
ตอนนั้นเองเขาก็เห็นรถคันหนึ่ง และมีคนยืนอยู่หน้ารถตรงราวสะพาน
ซึงในเวลาก่อนฟ้าสางแบบนี้คนที่จะมาอยู่บนสะพานแถมยังออกมายืนข้างราวสะพานก็มักจะเป็นพวกที่มาฆ่าตัวตาย…ชายหนุ่มจึงจะลงไปตรวจดู
เขาใช้เชือกโรยตัวลงไปและรีบวิ่งไปดูคนที่กำลังยืนเกาะราวสะพานอยู่
แต่เมื่อเขาไปถึงตัวชายคนนั้น ก็พบว่าเขาใกล้จะหมดลมเต็มทีแล้ว จากบาดแผลที่โดนมีดสั้นที่ด้ามสลักเป็นรูปนกฮูก?!
??? : ไม่…มันมาอยู่ที่นี่ได้…
ทันใดนั้นก็มีเสียงดังมาจากข้างหลังของเขา
Talon : ใช่สิคุณโรส
Talon : มันอยู่ตรงนี้แล้ว
แล้วชายสวมหน้ากากนกฮูกก็เอามีดสั้นเสียบเข้าที่สีข้างของเขา!!
??? : อ๊าค!!
เมื่อเขาได้สติขึ้นมา เขาก็พบว่าเขาโดนจับแก้ผ้าแล้วมัดด้วยโซ่ อยู่ในท้ายรถคันที่เขาเห็นก่อนหน้านี้
และเขาก็เห็นคนที่ทำร้ายเขา มันคือ “Talon” มือสังหารที่ทำตามคำสั่งของ “Court of Owls” เหมือนกับเขา…
Talon : นั่นไงล่ะ…แกหมดสติไปตั้งนาทีนึงเลยนะ
Talon : ฉันมั่นใจว่าแกต้องกำลังสงสัยอยู่ว่าทำไมฉันถึงไม่เชือดคอแกให้สิ้นๆเรื่องไป ซึ่งบอกตามตรงก็คือ แบบนั้นมันง่ายเกินไป และเร็วเกินไปไงล่ะ
Talon : ฉันได้ยินว่าแกคิดว่าตัวแกค่อนข้างเจ๋งพอตัว แต่ฉันไม่ค่อยเชื่อเท่าไหร่ว่ะ ตัวแกน่าจะรู้ดีกว่าใครนะว่าแกไม่มีทางหนีจากทาลอนได้ตลอดไปหรอก
Talon : แกอาจจะมีลูกเล่นซ่อนอยู่ในเสื้อ หรือในรองเท้า หรือในเข็มขัด แต่ฉันเอาของพวกนั้นออกไปหมดแล้ว
??? : แล้วโรเจอร์ล่ะ…?
Talon : เพื่อนของแกมันตายแล้วล่ะ เขาจะร่วมทริปลงแม่น้ำไปกับแกแล้วก็สุภาพบุรุษที่แกพบเมื่อครู่นี้ เขาเป็นคนดีจริงๆว่าไหม…ที่ให้ฉันยืมใช้รถของเขาแบบนี้น่ะ
??? : รีบๆพูดประโยคบัดซบนั่นแล้วก็ให้มันจบๆไปซะทีเหอะว่ะ
Talon : เฮอะ…คาลวิน โรส…
แล้วมันก็ปิดฝาท้ายรถ แล้วเอาเท้ายันรถลงไปสู่แม่น้ำเบื้องล่าง!
Talon : สภาแห่งนกฮูกได้ตัดสินโทษตายให้แกแล้ว
ตัดไปในอดีตอีกครั้ง
“ในคืนที่ฉันหนีออกมาจากกรงหมานั่น ฉันวิ่งจนกระทั่งขาของฉันหมดแรง”
“มีชายแก่คนหนึ่งมาพบฉันเข้า เขาเป็นนักแสดงในคณะละครสัตว์ฮาร์ลี่ที่กำลังจะไปจัดแสดงที่ต่อไป เขาบอกว่าเขาถูกฝึกสอนมาให้เป็นผู้เชี่ยวชาญการหลบหนี”
“เขาถามฉันว่าฉันอยากจะทำอะไร ฉันเลยบอกเขาไป”
(คณะละครสัตว์ Haly คือคณะละครสัตว์เดียวกับที่ Dick Greyson (Night Wing) เคยอยู่)
“ตลอดฤดูร้อนนั้น ฉันเรียนรู้วิธีที่จะสะเดาะกุญแจทุกรูปแบบที่จะคิดได้ เมื่ออายุได้สิบขวบฉันก็รู้วิธีหนีออกจากเสื้อหนังที่ใช้พันธนาการคนบ้าได้ถึงสิบสี่วิธี”
“จนเมื่อชายชราคนนั้นตายไป ฉันก็รับช่วงการแสดงของเขาอย่างเต็มตัว”
“เมื่อฉันอายุได้สิบสามปี ฉันก็ได้รับการกำหนดให้เป็นตัวหลักในงานใหญ่ที่สุดที่จะจัดขึ้นในเมืองกอธแฮม”
“แต่คืนก่อนการแสดงรอบแรกนั้นเอง คุณฮาร์ลี่ก็มาหาฉัน”
“ฉันถูกสั่งให้แสดงรอบพิเศษส่วนตัว ฉันถูกสั่งให้แสดงสุดฝีมือเพื่อให้ “แขกพิเศษสุด” พอใจ”
“พวกเขาจับฉันห้อยหัวเหมือนปกติ แต่ครั้งนี้พวกเขาจะดับไฟด้วย”
“นั่นเป็นครั้งแรกตั้งแต่ที่ฉันหนีออกจากกรงหมานั่นมาได้ที่ฉันรู้สึกว่าตัวเองติดกับ แต่ฉันจะปล่อยให้ความกลัวมันชนะฉันไม่ได้ ฉันจะต้องทำให้สำเร็จ ฉันจะต้องเป็นอิสระ ฉันจะต้องหนี”
“แล้วฉันก็สงบใจลงได้อีกครั้ง”
“แล้วที่เหลือก็ง่ายนิดเดียวเท่านั้น”
“คนแปลกหน้าได้มาหาฉันพร้อมกับปรบมือให้ฉัน”
“ฉันมองไปที่คุณฮาร์ลี่ แต่ที่ฉันเห็นบนสีหน้าของเขาคือความเศร้าใจ”
“เขารู้ว่าเขาได้เสียฉันไปแล้ว เหมือนกับคนอื่นๆก่อนหน้านี้ และคนอื่นๆที่จะมาหลังจากนี้”
“ในคืนนั้น ชีวิตของฉันก็เปลี่ยนไปตลอดกาล”
Grandmaster : หนูน้อย เธอรู้อะไรเกี่ยวกับนกฮูกบ้าง?
Calvin : เอ่อ มันกินหนูครับ
Grandmaster : ฮ่า! ใช่แล้ว มันทำแบบนั้นจริงไหมล่ะ?
Grandmaster : ฉันจะบอกอะไรให้เธอรู้นะคาลวิน…เมืองกอธแฮมแห่งนี้มันก็เต็มไปด้วยหนูนั่นแหละ ไม่ได้หมายถึงหนูจริงๆหรอกนะ…แต่เป็นคนต่างหาก คนเลวๆ พวกชายหญิงที่มันจะทำลายทุกสิ่งที่เรารักในโลกนี้ เธอก็เคยเห็นคนชั่วมาก่อนใช่ไหมล่ะคาลวิน?
Calvin : ใช่ครับ
Grandmaster : องค์กรของเรานั้นตามล่าเหล่าคนเลวบนโลกนี้ แล้วก็…หึ…กลืนกินพวกมัน เหมือนอย่างที่ว่ามานั่นแหละ
Grandmaster : เราทำให้เมืองนี้สะอาด เราทำให้มันปลอดภัย และเราทำให้มันยิ่งใหญ่
Grandmaster : แต่เราทำเรื่องนี้ตามลำพังไม่ได้น่ะนะคาลวิน
Grandmaster : ฉันได้ยินว่าเธอเป็นเด็กที่เก่งมาก และมีความสามารถที่ไม่ธรรมดาด้วย เธอจะช่วยพวกเราไหม?
Calvin : ครับ
Grandmaster : มันจะไม่ใช่เรื่องง่ายๆหรอกนะคาลวิน ฉันบอกเธอตรงนี้ได้เลย เพราะเราต้องการให้เธอนั้นสมบูรณ์แบบ
Grandmaster : เธอจะต้องสามารถผ่านระบบรักษาความปลอดภัยที่เยี่ยมที่สุดบนโลกนี้
Grandmaster : จะต้องสามารถจัดการศัตรูทุกคนที่เธอจะต้องเผชิญ
Grandmaster : และจะต้องไม่ทิ้งร่องรอยของเธอไว้ ในทุกที่ที่เธอไป
Grandmaster : และจากนั้น วันหนึ่ง เราจะต้องการให้เธอก้าวขึ้นมาและเป็นมือขวาของพวกเรา เป็นอาวุธแห่งความยุติธรรมของพวกเรา
Grandmaster : เป็น “ทาลอน” ของพวกเรา
(Talon = กรงเล็บ)
ในเขาวงกตใต้ดิน
Calvin ที่เติบโตเป็นหนุ่มเต็มตัวกำลังอยู่เบื้องหน้า Talon ที่กำลังจะถูกปลดระวางผู้หนึ่ง
Talon : ไม่! นายท่าน! ไม่! ข้ายังไม่พร้อม! โปรดให้ข้ารับใช้ท่านให้นานกว่านี้เถิด…ข้ายินดีทำทุกอย่าง
Calvin : แกมันเป็นนกแก่ที่น่าสมเพชจริงๆ
Calvin : เวลาการเป็นทาลอนของแกมันจบลงแล้ว จงเผชิญหน้ามันอย่างมีเกียรติ์ซะเถอะ
Talon : เกียรติ์งั้นเรอะ?!
Talon : นี่มันไม่เกี่ยวกับเกียรติ์เลยสักนิด เจ้าเด็กโง่เอ๊ย…
แม้ Talon แก่จะพยายามสู้ แต่ Calvin ก็เอามีดเสียบเข้าไปที่ชายโครงของมันจนเลือดทะลักทรุดลงกับพื้น
Calvin : ท่านจะให้ผมทำอย่างไรต่อไป?
Grandmaster : จงถอดหน้ากากของมันออกและเชือดคอมันซะ! ปิดตาลงซะเถอะเจ้าตัวน้อยเอ๋ย
เด็กเกรียน : ไม่! ผมอยากจะดู
แล้ว Calvin ก็ถอดหน้ากากของ Talon คนนั้นออก เขาชะงักอยู่ชั่วแว่บเมื่อเห็นหน้าของชายคนนั้น แต่เขาก็เสียบมีดลงไปบนคอของ Talon จนถึงแก่ความตาย…
Grandmaster : เจ้าผ่านการทดสอบแรกของเขาวงกตแล้ว ที่นี้เจ้าจะต้องพบกับการทดสอบที่สอง เจ้าจะไม่ถูกปล่อยออกไปจากที่นี่จนกว่าเจ้าจะพร้อมที่จะขึ้นมาแทนที่ชายคนที่เจ้าฆ่าไป
Grandmaster : เจ้าจะต้องอดอยาก…ต้องคุ้มคลั่ง…และจากการนั้น พิสูจน์ความอุทิศตนของเจ้าต่อพวกเรา เจ้าได้ทำให้เราพอใจมาจนถึงตอนนี้แล้ว อย่าทำให้เราผิดหวังล่ะ
เมื่อ Calvin อยู่ตามลำพังในเขาวงกต เขาได้มีโอกาสคิดทบทวนสิ่งที่เกิดขึ้น
“ฉันรู้สึกคลื่นไส้…ไม่ใช่จากกลิ่นคาวเลือด แต่จากสิ่งที่ฉันได้ทำลงไป ฉันพยายามจะไม่คิดถึงมัน แต่ยิ่งฉันมองร่างของชายที่น่าสงสารคนนั้นมากเท่าไหร่…ฉันก็ยิ่งแน่ใจ…ว่าฉันได้ยอมให้พวกนั้นเปลี่ยนฉันให้กลายเป็นสัตว์ร้ายไปแล้ว”
“ฉันต้องทำอะไรบางอย่างเพื่อให้ใจของฉันสงบลง ฉันต้องไปให้ห่างจากศพนั่นให้ไกลที่สุดเท่าที่จะไกลได้ ฉันเริ่มออกวิ่ง”
“ฉันแกะรอยเส้นทางกลับไปยังที่ที่พวกนั้นเอาฉันเข้ามาในเขาวงกต…”
“…สมาชิกของสภาตกตะลึงเมื่อเห็นฉันอยู่ในสถานที่ประชุมลับของพวกเขาในคืนถัดมา”
“ไม่มีใครเคยหนีจากเขาวงกตได้มาก่อน พวกนั้นไม่รู้ว่ามันเป็นไปได้ยังไง ไม่มีใครรู้ว่าจะทำอย่างไรดี จนกระทั่งแกรนด์มาสเตอร์หัวเราะขึ้น”
“เขาแสดงความยินดีกับฉัน บอกว่าฉันพร้อมแล้ว”
“พร้อมที่จะเป็นทาลอนของพวกเขา”
(เกร็ดเล็กน้อย : Batman ก็เคยถูกจับมาใส่ในเขาวงกตนี้มาแล้วเช่นกัน ซึ่งกว่าจะหาทางหนีออกไปได้ก็ต้องใช้เวลาถึง 1 สัปดาห์เลยทีเดียว)
“แต่ในหัวฉันมีแต่ภาพใบหน้าของชายคนที่ฉันฆ่าไป และภาพใบหน้าของคนที่พวกเขาจะส่งฉันไปฆ่าต่อจากนี้ไป”
“เป็นครั้งแรกในชีวิตนับตั้งแต่ตอนที่พ่อของฉันจับฉันขังในกรงขังที่ทั้งชื้นทั้งมืดนั่น ลึกๆลงไปฉันก็รู้ตัว…ว่าฉันไม่มีทางออกไปได้”
ตัดกลับมาที่วันซึ่ง Calvin โดนยัดใส่ท้ายรถแล้วถีบลงแม่น้ำ
“แต่ก็แน่ละ ตอนนี้ฉันรู้ดีขึ้นกว่าตอนนั้น ว่ามันมีทางออกเสมอนั่นแหละ”
“เมื่อตอนที่ฉันยังเด็ก คุณฮาร์ลี่ได้เล่าเรื่องของฮูดินี่ให้ฉันฟัง ซึ่งฉันก็ไม่ได้ตั้งใจฟังอย่างที่ควรจะทำ…”
“…แต่มันมีอยู่เรื่องหนึ่งที่ฉันจำได้ขึ้นใจ เรื่องที่ว่าฮูดินี่จะซ่อนกุญแจผีไว้ในผิวหนังใต้ฝ่าเท้าอยู่เสมอ ซึ่งการเตรียมพร้อมเสมอนั้นก็เป็นความคิดที่ดี”
(Harry Houdini (1874-1926) เป็น 1 ในนักมายากลที่มีชื่อเสียงที่สุดตลอดกาล แต่เขาเป็นที่รู้จักมากกว่าในการแสดงโชว์การหลบหนีจากการโดนมัด, จับขังกรง, จับใส่กล่องปิดตาย ซึ่งแม้แต่ในปัจจุบันที่ทริคของเขาถูกเปิดเผยให้รู้กันแล้ว แต่การแสดงโชว์ของเขาก็ยังยากที่จะเลียนแบบได้ นักมายากลรุ่นหลังที่พยายามจะแสดงโชว์แบบเดียวกับเขาและเกิดการผิดพลาดจนเกือบถึงชีวิตนั้นมีนับไม่ถ้วนเลยทีเดียว)
ย้อนกลับไปในสมัยที่เขาปฏิบัติภารกิจแรกในฐานะ Talon
“เมื่อตอนที่ฉันยังฝึกฝนอยู่ คนของสภาได้บอกฉันว่าพวกเขาไม่ค่อยจะเลือกใช้นักหลบหนีแบบนี้ ปกติแล้วพวกเขาจะเลือกคนที่มีความสามารถแบบที่ใช้ในการต่อสู้ได้มากกว่านี้”
“แต่ตอนนี้พวกเขาต้องการคนที่สามารถลอดผ่านระบบรักษาความปลอดภัยที่ก้าวหน้าที่สุดในโลกและกลับออกมาได้อย่างง่ายดายพอๆกัน”
“ฉันโล่งใจที่ภารกิจแรกของฉันนั้นต้องใช้ความถนัดพวกนั้น มันทำให้ฉันได้มีสิ่งที่จะดึงความสนใจของฉันไปเพื่อให้ฉันสามารถลืมสิ่งที่พวกนั้นส่งฉันมาทำ”
“บ้านของอีริค วอชิงตัน CEO ของบริษัท Securitus นั้นเป็นที่รู้จักกันดีว่าเป็นที่อาศัยของเอกชนที่ปลอดภัยที่สุดในประเทศเลยทีเดียว”
“นายวอชิงตันนั้นมีชีวิตอยู่กับความกลัวว่าจะโดนตามฆ่า ซึ่งความกลัวนั้นก็ผลักดันให้เขาสร้างระบบรักษาความปลอดภัยที่ดีเยี่ยมที่สุดในโลกขึ้นมา”
“ก่อนที่เขาจะตายไปเมื่อไม่นานมานี้นั้น เขาได้จ้างทีมของอดีตผู้เชี่ยวชาญของหน่วยรบพิเศษจำนวนสิบสองคนให้คุ้มกันบ้านของเขาตลอดเวลา”
“หนังสือพิมพ์เรียกเขาว่าพวกวิตกจริต”
“พวกนั้นคิดผิดเต็มๆเลย”
“หลังจากที่เขาตายไป ทั้งบริษัทของเขารวมสิทธิบัตรทุกอย่างถูกตกทอดให้กับลูกสาวอายุยี่สิบสามปีของเขาที่ชื่อแคสซี่ ซึ่งนั่นก็ทำให้ผู้ที่สนับสนุนเงินทุนแก่เขาอย่างลับๆนั้นไม่พอใจมาก”
“ฉันถูกสั่งให้จัดการให้แน่ใจว่าสายเลือดตระกูลวอชิงตันต้องสิ้นสุดลงในคืนนั้น ในภารกิจแรกในฐานะอาวุธของสภาของฉัน”
“ฉันรู้สึกถึงน้ำหนักของมีดในมือ แต่ฉันรู้หน้าที่ของฉัน ฉันฆ่าทาลอนไปคนหนึ่งแล้ว และฉันก็จะฆ่าอีก ไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงคนนี้ หรือใครก็ตามที่พวกเขาจะส่งฉันไปฆ่าต่อจากนี้”
“จนกว่าใจฉันจะด้านชาจนไม่เจ็บปวดอีกต่อไป”
“นั่นคือสิ่งที่ฉันบอกตัวเองน่ะนะ จนกระทั้งฉันมองลอดผ่านช่องประตู และเข้าใจในที่สุดว่าทำไมพวกนั้นถึงไม่ระบุชื่อแคสซี่ตรงๆออกมา”
“ฉันเข้าใจความหมายที่พวกนั้นต้องการให้ฉันจบสายเลือดของตระกูลนั้นเสีย”
“เธอชื่อซาร่าห์ วอชิงตัน ลูกสาวของแคสซี่ เธอเพิ่งอายุได้สองขวบเท่านั้นเอง”
“ตอนนั้นฉันตกตะลึงจนหายใจติดขัด ฉันรู้สึกเวียนหัว คลื่นไส้”
“ผู้หญิงกับลูกของเธอในห้องนั้นไม่ได้ทำความผิดใดๆ พวกเขาไม่ใช่หนูสกปรกที่ฉันได้การสัญญาเอาไว้”
“หากฉันทำมันลงไป ฉันจะกลายเป็นสิ่งที่เลวร้ายสุดจะบรรยาย แต่ฉันจะทำอะไรได้ล่ะ? ฉันรู้สึกว่าโลกทั้งโลกมันบีบตัวเข้ามาหาฉัน ฉันรู้สึกว่าตัวเองติดกับ”
Calvin หวั่นไหวจนลืมตัว ทรุดลงนั่งกับพื้น จนเกิดเสียงทำให้ Cassey ที่อยู่ในห้องรู้ตัว
“ฉันตัดสินใจอย่างรวดเร็ว”
“มันไม่มีเวลาจะอธิบาย ไม่มีเวลาที่จะหาวิธีที่นุ่มนวลกว่านั้น”
เพียงฝ่ามือเดียว Calvin ก็ซัด Cassey จนน็อคสลบไป
ด้วยมโนธรรมในใจ Calvin ตัดสินใจที่จะช่วยชีวิตสองแม่ลูกเอาไว้
“ภายหลังฉันก็คิดวิธีที่ดีกว่านั้นในการเอาพวกเขาออกจากอพาร์ตเมนท์ได้เป็นสิบๆวิธีเลย และแคสซี่ก็บอกฉันเพิ่มขึ้นอีกหลายสิบวิธีหลังจากนั้น”
“แต่ฉันก็รู้ว่าอีกไม่นานทางสภาจะต้องรู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น พวกนั้นจะต้องใช้ทุกอย่างที่มีในการตามล่าเราและกำจัดเราเสีย…”
“…ฉันจะต้องหนี”
ตัดมาที่สะพานในวันนั้น
Talon กำลังยืนมองพื้นน้ำอยู่บนตอม่อสะพาน แต่ทันใดนั้น Calvin ก็ย่องมาข้างหลังมันแล้วเอาโซ่ฟาดหัวมันจนลงไปกองกับพื้น!
Calvin : ที่นี้ฉันจะถามแกแค่ครั้งเดียวเท่านั้นนะ
Calvin : แกเอากางเกงฉันไปไว้ที่ไหน?
แล้ว Calvin ก็จับ Talon มัดโซ่ไว้กับตอม่อสะพาน ไปหากางเกงมานุ่ง และใช้อุปกรณ์ปฐมพยาบาลที่อยู่ในเข็มขัดเครื่องมือของมันรักษาแผลให้ตัวเอง
(ก็คงเรียงลำดับตามนี้ล่ะมั๊ง)
Talon : ฮี่ๆๆ…ตอนนี้ฉันเข้าใจแล้วว่าทำไมพวกนั้นถึงชอบแกนักน่ะ โรส
Calvin : แกหมายถึงชอบฉันพอที่จะฆ่าฉันทิ้งงั้นสิ
Talon : แกคิดจริงๆหรือว่าทั้งหมดนี้มันเพียงแค่เพื่อฆ่าแกงั้นหรือคาลวิน? แกอ่อนหัดขนาดนั้นจริงๆหรือไง? คำสั่งของพวกนั้นมันง่ายมากๆเลย พวกเขาต้องการแกกลับไปอยู่ในความครอบครอง ไม่ว่าจะอยู่หรือตายก็ตาม ภารกิจที่แกต้องทำให้กับสภาน่ะมันไม่จบง่ายๆหรอก
Calvin : แล้วฉันจะเป็นประโยชน์ให้กับพวกนั้นได้ยังไง ถ้าฉันไปนอนตายขึ้นอืดพุงทะลุอยู่ก้นแม่น้ำน่ะ?
Talon : เรื่องรถน่ะเป็นไอเดียของฉันเอง…เพราะอยากจะเห็นกับตาทำไมพวกนั้นถึงคิดว่าแกมีค่าขนาดนั้น
Talon : แล้วมันก็ไม่เสียหายอะไรที่จะเพิ่มความสนุกด้วยการเสียบพุงแกด้วยนี่จริงไหมล่ะ?
Calvin : เออ สนุกตายล่ะ
Talon : แกน่าจะได้ยินที่พวกนั้นพูดกันนะ พวกนั้นมีแผนอยู่ แผนการใหญ่เชียวล่ะ พวกนั้นจะปลุกแกขึ้นมาพร้อมกับพวกคนอื่นๆ และจะทำลายจิตใจของแกให้ทำตามคำสั่งของพวกเขา คืองี้ว่ะ…อำนาจของสภาน่ะแผ่ขยายไปไกลเกินกว่าความตายเสียอีก
Talon : แกคิดว่าแกเป็นอิสระแล้วล่ะสิ? แกมันโง่ คาลวิน ถึงแกจะเป็นจ้าวแห่งการหลบหนีที่เก่งที่สุดในโลก แกก็ไม่มีทางหนีจากเงื้อมมือของเราไปได้
Calvin : แต่นั่นก็ไม่สามารถหยุดไม่ให้ฉันลองพยายามดู…ใช่ไหมล่ะ?
“กว่าฉันจะรู้ความหมายของคำพูดของทาลอนคนนั้นก็อีกห้าปีต่อมา ห้าปีที่ฉันต้องอยู่กับความหวาดกลัวและความสงสัย”
“แต่ฉันก็สามารถสงบใจได้เสมอ สามารถมีชีวิตอยู่เพื่อมองดูอาทิตย์ขึ้นได้เสมอ”
“มันมีบางส่วนในตัวฉันที่ไม่ยอมให้ฉันยอมแพ้ ไม่ยอมให้ฉันหยุดวิ่ง”
“มันเป็นส่วนหนึ่งของฉันมานานเท่าที่ฉันจำได้เลยทีเดียว”
“มันคือสิ่งที่ฉันเป็น…”
“…ฉันคือนักหลบหนี ฉันเป็นชายผู้ถูกตามล่า”
“และไม่ว่าฉันจะชอบหรือไม่ก็ตาม ฉันคือทาลอน และจะเป็นตลอดไป”
“ฉันชื่อคาลวิน โรส”
“นี่คือเรื่องราวของฉัน”
สำหรับที่ท่านอยากทราบว่าแผนการของ Court of Owls คืออะไร เชิญอ่านได้ที่นี่
http://www.comics66.com/archives/tag/night-of-the-owls
ทารอน คนนี้ เป็นฝ่ายดี หรือ ไม่ดี อ่ะครับ
ขอบคุณมากครับ
จะมีหัว Talon เพิ่มอีกเล่มสินะเนี่ย
เป็นหัวใหม่ที่น่าสนใจมาก
อ่อ เก็ตละ หมอนี่เป็นทาลอนคนเดียวที่ยังไม่โดนฉีดยาให้เป็นอมตะใช่มั้ย แต่เค้าก็จบหลักสูตรรับภารกิจแรกมาแล้ว ทำไมยังไม่โดนฉีดยาอ่ะ
ทำออกมาได้น่านใจ พอสมควร หมอนี่คงเป็น แอนตี้ฮีโร่ส์ น้องใหม่สินะ
โอ๊ะ น่าสนใจนะ ทาลอน เล่มนี้ไม่ได้ใส่ชุดกับเขาเลยวุ้ย
แต่น่าจะมาแนว Anti-Hero แหงมเลย