ZERO MONTH: PHANTOM STRANGER #0
เรื่อง : Dan Didio
ภาพ : Brent Anderson
วางจำหน่าย: 5 กันยายน 2012
สำนักพิมพ์ : DC Comics
ต้นกำเนิดของชายแปลกหน้า
ผู้ต้องคำสาปให้ทนทุกข์ทรมานกับบาปที่ก่อชั่วกัปกัลป์
..
ข้าพเจ้าเลือกที่จะตาย ปรารถนาเพียงความตายและรสชาติอันหอมยวนของมัน
ดังนั้นข้าพเจ้าจึงพันเชือกแขวนคอตนเอง ด้วยเห็นว่าเป็นการชดใช้ที่สาสมต่อความน่าละอาย
แต่มันกลับยิ่งทำให้ทุกอย่างเลวร้าย
ข้าพเจ้าไม่อาจทนให้ใครมาชี้หน้าพิพากษา
ดังนั้น ข้าพเจ้าจึงพิพากษาตนเอง และรู้ดีแก่ใจถึงความผิดของตน
แต่แม้ความตาย ก็ยังคงไม่สาสมต่ออาชญากรรมที่ข้าพเจ้าก่อ
ข้าพเจ้าไม่เคยนึกว่าตนเองเป็นคนโฉดชั่ว หากแต่เพียงก่อบาปหยาบช้า แลข้าพเจ้าก็พร้อมตกนรกชั่วกัปกัลป์
ข้าพเจ้าหาได้คาดคิดไม่ว่าจะมีชะตากรรมที่เลวร้ายยิ่งกว่ารออยู่
“จงลุกขึ้นยืนแล้วก้าวออกมา”
ข้าพเจ้าถูกคุมตัวเข้ามาสู่โถงอันขรึมขลังคล้ายดั่งเป็นแห่งที่หลังความตาย หากแต่ขาดไปซึ่งความโอฬาร การประดับประดาก็ไม่คล้ายกับเป็นนรก ที่นี่ย่อมไม่ใช่นรก หากแต่เป็นดินแดนอื่นใดสักแห่ง
และในไม่ช้า ข้าพเจ้าก็ได้พบว่าตนกำลังอยู่ต่อหน้าสภาแห่งมนตรากร – – เหล่ามหาเวทย์ผู้มีหน้าที่พิพากษาผู้กระทำผิดต่อลิขิตแห่งสากลจักรวาล ไม่มีใครรู้ว่าพวกเขาเป็นใครหรือมาจากที่ไหน แต่เท่าที่รู้ก็คือพวกเขาจะตัดสินโทษแต่เพียงบุคคลที่บาปหนาที่สุดเท่านั้น ดังนั้น ข้าพเจ้าก็ควรจะภูมิใจ
แต่มันกลับทำให้ข้าพเจ้าหวาดกลัวมากกว่า
หากการปลิดชีวิตตนเองยังไม่เพียงพอจะชดใช้ความผิด
ข้าพเจ้าก็ไม่อยากคาดคิดว่าสิ่งที่รอข้าพเจ้าอยู่จะเลวร้ายเพียงใด
มีอีกสองคนที่รอรับการลงทัณฑ์อยู่ข้างกายข้าพเจ้า
ในโมงยามนั้นข้าพเจ้าหาได้สนใจไม่ว่าพวกเขาเป็นใครหรือทำผิดอันใด ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่ทำให้ข้าพเจ้ารู้สึกผิดตลอดมา
เพราะบาปที่พวกเขาได้ก่อ ส่งผลกระทบต่อโลกตราบกระทั่งปัจจุบัน
ข้าพเจ้าพร้อมรับคำตัดสินแล้ว
“พวกเจ้าไม่คู่ควรที่จะยืน คุกเข่าลง เจ้าคนบาปเอ๋ย!”
แต่เพื่อนร่วมทางของข้าพเจ้าผู้หนึ่งไม่คิดจะปฏิบัติตาม
ชายผู้หยิ่งทะนง: ไม่! ข้าจะไม่ก้มให้ใครทั้งนั้น!
เขาน่าจะรู้บ้างว่า ทางเลือกไม่ได้อยู่กับเขาอีก
“คุก เข่า ลง!”
..
แล้วองครักษ์ในผ้าคลุมสีเขียวด้านหลังก็บังคับให้ชายลึกลับผู้จองหองคุกเข่าลงได้
เหล่าองครักษ์ถูกสั่งให้ล่าถอย พวกมันค่อยๆ สูญสลายไปในอากาศ ข้าพเจ้าหวังอยากทำได้เช่นนั้นบ้าง
ข้าพเจ้ารู้ว่านาทีพิพากษามาถึงแล้ว
“พวกเจ้าทั้งสามคือคนบาปผู้โฉดชั่วที่สุดในประวัติศาสตร์แห่งมนุษยชาติ”
“พวกเจ้า เหล่าคนบาปทั้งสาม”
นึกทบทวนดู ข้าพเจ้าพลันนึกขันที่เหล่าตุลาการเลือกลงทัณฑ์ข้าพเจ้าเพียงเพราะความผิดจากความโลภ
บาปแสนหนักอึ้งยิ่งของข้าพเจ้าคือการทรยศสหายผู้สนิทสนมที่สุด
และเพื่อชดใช้ความผิดข้าพเจ้าจึงเลือกที่จะตายอย่างอัปยศ
ชายลึกลับ: ได้โปรดเถิด ท่านพ่อมด! ท่านพ่อมดทั้งหลาย! โปรดยกโทษให้ข้าดั่งที่เขาจะยกโทษด้วย!
แต่ความเจ็บปวดเช่นนั้น ข้าพเจ้าไม่นึกอยากจะลิ้มลองอีกแล้ว
ข้าพเจ้าร้องขอความเห็นใจ
“ความผิดของเจ้าเกินกว่าที่พวกเราจักยกโทษให้ได้ ความโลภของเจ้าทำให้โลกใบนี้ต้องจ่อมจมอยู่ในความมืดมิด”
..
แล้วพ่อมดก็ขว้างปาสิ่งหนึ่งใส่ชายลึกลับ
เหรียญเงิน! ของอันเป็นที่ระลึกแห่งความโลภของข้าพเจ้า!
ความเจ็บปวดจากเหรียญเงินที่ร้อยรัดทำให้ข้าพเจ้าหลับตาแน่น แดนพ่อมดค่อยๆ อันตรธานไปต่อหน้า
อันตรธานไปพร้อมกับความสงบสุขชั่วนิรันดร์ของข้าพเจ้า
เมื่อข้าพเจ้าลืมตา ข้าพเจ้ารู้สึกได้ถึงสัมผัสแห่งพื้นดิน บางอย่างเปลี่ยนไปหมดสิ้น
“เกิดอะไรขึ้น? ข้าอยู่ที่ไหน?”
สิ่งที่เปลี่ยนไปไม่ใช่พื้นดิน หากแต่เป็นข้าพเจ้า
“ข้ายังไม่ตาย… เป็นไปไม่ได้!”
ข้าพเจ้ายืนอยู่ใน “ทุ่งโลหิต” สถานที่อันเป็นดั่งภาพแทนบาปซึ่งถูกซื้อด้วยเหรียญเงินแห่งการทุรยศที่กำลังร้อยรัดอยู่รอบคอข้าพเจ้าในขณะนี้
“เป็นไปได้อย่างไร? นี่หรือคือการลงทัณฑ์?”
ชายลึกลับ: ข้าน้อมรับความผิด – – แต่ไยพวกท่านถึงพาข้ากลับมาที่นี่? เหตุใดไม่ให้ข้าตายกันเล่า?
“คนบาปเอ๋ย ชะตากรรมรอเจ้าอยู่”
ข้าพเจ้าไม่แน่ใจว่านั่นคือเสียงของพ่อมดหรือสิ่งอันยิ่งใหญ่ไปกว่านั้น ข้าพเจ้าไม่อยากนึกถาม
“เสื้อคลุมข้างๆ นั่น… จงสวมใส่มัน”
เพราะข้าพเจ้ารู้ดีว่าตนจะไม่ได้รับคำตอบ
ใจข้าพเจ้าถูกชะล้างชำระในสระแห่งความว่างวาย
ตอนนี้ ข้าพเจ้าจึงทำในสิ่งที่ได้รับบัญชา
ชายลึกลับ: เสื้อคลุมที่ถักทอขึ้นจากไหมหยาบๆ เช่นนี้ – – มันมีความสำคัญอันใด?
พลันข้าพเจ้าก็จดจำได้ว่ามันคือเสื้อคลุมของเขาซึ่งสูญหายไปในยามสิ้นใจ
เมื่อสวมใส่ ข้าพเจ้าก็รู้สึกเหมือนตัวเองกำลังเปลี่ยนไปตลอดกาล
ชาวบ้าน: ท่านเป็นใคร?
ชาวบ้าน: เหตุใดท่านจึงมีดวงตาเช่นนั้น?
“ไม่สำคัญดอก ข้านั้น… เป็นเพียงคนแปลกหน้า – สแตรนเจอร์”
ชาวบ้าน: คน… แปลกหน้า
“เจ้าจงสำนึกบาปด้วยการเดินไปให้ทั่วแดนดิน เดินไปกระทั่งบาปของเจ้าได้ชดใช้หมดสิ้น”
“และเมื่อถึงวันนั้น ผู้ยิ่งใหญ่จะรับเจ้าเข้าสู่ใต้อาณัติของเขา”
ข้าพเจ้าจึงเริ่มเดิน
เดินจนกระทั่งกาลสมัยเปลี่ยน และมันก็เปลี่ยนข้าพเจ้า อราเมอิคไม่ใช่ภาษาหลักของข้าพเจ้าอีกต่อไป แลเสื้อคลุมของข้าพเจ้าก็ถูกดัดแปลงให้ไม่สะดุดตา
แต่ข้าพเจ้าก็รู้ดีว่ามันคือการกระทำที่สูญเปล่า เพราะไม่มีผู้ใดในโลกจะรู้สึกถึงดำรงอยู่ของข้าพเจ้าอีกแล้ว กาลเวลาที่ผันผ่านรังแต่กัดเซาะความหวังในใจ บางที ข้าพเจ้าอาจจำเป็นต้องอยู่ในสภาพนี้ไปตลอดกาลอย่างไม่อาจเลี่ยง
ทันใดนั้น เสียงสวรรค์ที่ไม่เคยดังมานานแล้วก็พลันดังขึ้น
“มีชายผู้หนึ่ง…”
คนแปลกหน้า: ในที่สุด
“จงตามหาเขา และทำสิ่งที่เจ้าต้องทำ”
“ถึงเวลาต้องเปลี่ยนแปลงตนเองแล้ว”
ชายคนที่ว่าจะปลดปล่อยข้าพเจ้าอย่างนั้นหรือ? แล้วการช่วยเหลือเขามีประโยชน์อันใดต่อพระองค์?
คำตอบอยู่ตรงหน้า ข้าพเจ้ารู้ที่หมายดังว่าได้โดยสัญชาตญาณ
สถานีตำรวจกรุงก็อทแธม ชายคนนั้นรออยู่ข้างใน เขาคือตำรวจสืบสวน
ข้าพเจ้าเพียงสงสัย ว่าเขามีความสำคัญอย่างไร
เหตุใดกัน ข้าพเจ้าถึงต้องมาหา จิม คอร์ริแกน
จิม: ให้ตายเถอะหัวหน้า เกว็นหายไปกว่ายี่สิบสี่ชั่วโมงแล้วนะ เราควรจะออกตามหาตัวเธอ!
ฮ็อปกิ้นส์: ใจเย็นสิ จิม เราทำทุกอย่างที่ทำได้แล้ว อย่าให้ความโกรธของนายทำลายตัวนายเองสิ
จิม: ผมล่ะเย็นจนไม่รู้จะเย็นยังไงแล้ว! แม็คลอเรนอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้แน่ๆ! มันต้องมีเอี่ยวสักทางเพราะเราไปเจาะสันหลังพี่ชายมันตั้งสองนัด!
ฮ็อปกิ้นส์: ตอนนี้แม็คลอเรนอยู่ฟลอริด้า ไม่มีอะไรให้เราสาวถึงตัวมันได้เลย
จิม: ฟังผมสิวะ…
ฮ็อปกิ้นส์: ไม่ นายน่ะฟังฉัน: นายคือยอดนักสืบ – – ฝีมือพระกาฬ – – แต่นายมีชนักติดหลังเรื่องที่นายใช้กำลังเกินกว่าเหตุสองครั้ง และถ้ามีเรื่องอีกครั้ง นายก็เตรียมเสียตราไว้ได้เลย โทษทีนะจิม แต่เรื่องนี้นายอย่ายุ่งดีกว่า ลูกบ้าของนายอาจทำให้ตัวประกันตายได้
จิม: แน่ล่ะ ผมรู้มาตลอดชีวิตว่าในอกนี่มีความบ้าคลั่งที่ไม่อาจคุมได้เกาะกินอยู่ ผมเคยนึกว่างานตำรวจจะช่วยให้ผมควบคุมมัน แต่ไม่ใช่เลย เกว็นต่างหากล่ะครับ เธอเป็นคนเดียวทำให้ผมสงบลงอย่างที่ผมไม่เคยพบด้วยตนเอง โปรดเถอะหัวหน้า – – ขอให้ผมออกไปตามหาเธอ
ฮ็อปกิ้นส์: ไม่ได้หรอก จิมมี่ เธอต้องอยู่นี่
แล้วโทสะของจิมก็ระเบิดออกมาอีกครั้ง!
จิม: ลื้อเป็นใครกันถึงมาสั่งเอาสั่งเอาว่าอั๊วควรทำอย่างโน้นอย่างนี้!? ลื้อคิดว่าสั่งอั๊วได้เพราะอั๊วห้อยตราตำรวจใช่มั้ย? งั้นเอาไปเลย! อั๊วจะได้ไปตามทางสักที
ฮ็อปกิ้นส์: คอร์ริแกน!
ฮ็อปกิ้นส์: ฮ็อปกิ้นส์เรียก เพิ่มกำลังตำรวจในคดีลักพาตัวเกว็นโดลิน สเตอร์ลิ่งเป็นสองเท่า ผมต้องการเจ้าหน้าที่ทุกนายเท่าที่เป็นไปได้ เราต้องหาตัวคนผิดให้ได้โดยด่วน
ฮ็อปกิ้นส์: เพราะถ้าคอร์ริแกนเจอพวกมันก่อน… มีหวังพวกมันได้ไปพบพระเจ้าแน่ๆ
จิม: พูดมาสิ เบนนี่ ไอ้กุ๊ยหัวเสแบบลื้อมีสายอยู่ทุกที่นี่หว่า – – ลื้อต้องรู้จักไอ้พวกที่เพ่นพ่านบนถนนเส้นนี้ทุกคนอยู่แล้ว
เบนนี่: แกทำงี้ได้ไง! แกเป็นตำรวจไม่ใช่เรอะ!
จิม: อั๊วลาออกแล้วโว้ย ทีนี้อั๊วก็จะตั๊นหน้าลื้อแบบไร้เหตุผลได้ถ้าลื้อไม่พูดสิ่งที่อั๊วอยากรู้สักที
คนแปลกหน้า: เจมส์ คอร์ริแกน ความรุนแรงที่เจ้าใช้ไร้ความหมายนัก มันช่วยเจ้าไขปัญหาและตามหาตัวหญิงสาวของเจ้าไม่ได้ดอก ข้าต่างหากที่ช่วยเจ้าได้
จิม: ลื้อเป็นใครกันวะ? จู่ๆ ก็โผล่มาตอนที่อั๊วกำลังสืบคดี แถมยังทำตัว “น่าสงสัย” อีกต่างหาก
จิม: แต่ตอนนี้อั๊วไม่มีเวลาว่างพอจะ “สงสัย” หรือเค้นข้อมูลจากใคร
จิม: เพราะฉะนั้น บอกสิ่งที่ลื้อรู้มาเร็วๆ ไม่งั้นกระโหลกลื้อเป็นรูแน่!
คนแปลกหน้า: ข้าศึกษาเจ้าและนิสัยใจคอของเจ้าอย่างถ้วนถี่ ความโกรธของเจ้าล้วนแต่มาจากความเจ็บปวดและหวาดกลัว เจ้านั้นไม่ต่างอะไรกับคนจนตรอก
จิม: นี่อั๊วดูเหมือนคนจนตรอกเหรอวะ?
คนแปลกหน้า: แต่การกระทำของเจ้านั้นไร้ซึ่งความหมาย
ทันใด ชายแปลกหน้าก็กลายเป็นหมอกพุ่งผ่านกายนักสืบหัวแข็งไปราวปาฏิหารย์!
จิม: เฮ่ย!? ได้ไง!?
คนแปลกหน้า: ข้าแลเห็นอนาคตและสามารถผูกโยงมันมาปรากฏภาพในปัจจุบันได้
ด้วยฤทธิ์เดชอันแปลกประหลาด ภาพหญิงอันเป็นที่รักของนักสืบหนุ่มก็ปรากฏขึ้นบนน้ำที่เจิ่งนอง
จิม: นั่นเกว็นนี่หว่า! แกเล่นมายากลอะไรอยู่กันแน่?
คนแปลกหน้า: ข้ามิใช่นักมายากลแต่หนใด คู่หมั้นของเจ้ายังมีชีวิต แต่หากคิดจะช่วยเหลือนาง เราต้องรีบ
จิม: บอกหน่อย – – ทำไมฉันต้องเชื่อแก?
คนแปลกหน้า: เพราะข้าได้รับบัญชามาจากผู้ยิ่งใหญ่ที่อยู่เหนือสามัญสำนึก ชะตาได้นำพาเราสองคนมาร่วมทางกัน มรรคาสายนี้จะช่วยให้เราทั้งคู่หลุดพ้นจากทุกข์
นอกจากสิ่งที่เสียงสวรรค์สั่งการ ข้าพเจ้าหามีความสนใจในตัวมนุษย์แลปัญหาของพวกเขาอยู่ในสำนึกไม่ แต่พวกเขาไม่จำเป็นต้องรู้มันดอก
จิม: ไหงฉันต้องมานั่งงัดประตูด้วยวะ ทำไมเราไม่ใช้ผ้าคลุมเวทมนตร์ของนายถล่มแม่งให้ราบเลยล่ะ
คนแปลกหน้า: การกระทำครั้งนี้ มีความหมายต่อเจ้าเพียงผู้เดียว
เฉกเช่นที่ข้าพเจ้าต้องพาเขามา ข้าพเจ้าจำเป็นต้องให้เขาจัดการทุกอย่างด้วยตัวเองเท่านั้น
จิม: ฉันไม่เคยคิดจะมาค้นที่นี่เลยนะเนี่ย ที่นี่ถูกทิ้งร้างไปหลายปี…
จิม: และมันก็ร้างอยู่เหมือนเดิม! แกโกหก – – เกว็นไม่อยู่ที่นี่! แกกำลังเล่นเกมอะไรอยู่กันแน่วะ?
คนแปลกหน้า: ข้า… ข้าไม่รู้ แต่เธอควรจะอยู่ที่นี่
มือสังหาร: คอร์ริแกน ดีใจจริงๆ ที่แกโผล่หัวมา
จิม: พวกแกจัดฉาก!
มือสังหาร: นี่ของฝากจากคุณแม็คลอเรน!
ห่ากระสุนพุ่งเข้าร่างของจิม คอร์ริแกนและปลิดชีวิตอันยิ่งใหญ่ของเขาในพริบตา!
จิม: อ๊ากกกกก!
“ไม่! มันควรเป็นแบบนี้”
และโดยที่ไม่มีใครคาดฝัน ควันสีเขียวก็พวยพุ่งออกมาจากร่างที่แดดิ้นของคอร์ริแกน
..
“เจ้า… เจ้าต้อง… ชดใช้”
“นี่เป็นความผิดของเจ้า… เจ้าทรยศข้า!”
..
ข้อกล่าวหาจากร่างอันมหึมาตรงหน้าทำให้ชายแปลกหน้าร้อนรนและหวาดกลัว
“ไม่… ไม่จริง ข้าพเจ้าไม่ใช่คนเช่นนั้น… ไม่ใช่คนเช่นนั้นอีกแล้ว”
“โกหก!”
“ตอนนี้ข้าคือสเป็คเตอร์ และเจ้าจะได้ลิ้มรสความโกรธาของข้า!”
แต่เสียงสวรรค์ก็พลันเข้าขัดขวางพวกเขาทั้งคู่
“ไม่ใช่เขา ผู้อื่นต่างหากที่ต้องลิ้มรสชาตินั้น”
..
แล้วร่างของสเป็คเตอร์ก็มลายหายไปสิ้นพร้อมกับวาจาศักดิ์สิทธิ์ที่เงียบงัน
“ทำไมถึงเป็นเช่นนี้? ท่านปล่อยให้เรื่องเช่นนี้เกิดขึ้นได้อย่างไรกัน?”
แล้วเหรียญเงินเหรียญหนึ่งซึ่งร้อยอยู่รอบคอเขาก็ร่วงหล่น
..
ข้าพเจ้าเข้าใจแล้ว
หนี้เลือดจะถูกจ่ายยามที่ได้รับใช้ตามบัญชา ดั่งเป็นค่าธรรมเนียมบนมรรคาแห่งการไถ่ถอนบาป
นี่เป็นทางเดียวที่ข้าพเจ้าจะหนีพ้นจากอดีต แต่อดีตนั้นก็ได้นิยามตัวข้าพเจ้าไว้แล้ว
ข้าพเจ้ารู้แล้วว่าจากนี้ต้องทำอย่างไร แม้ว่ามันจะทิ่มแทงจิตวิญญาณของข้าพเจ้าเพียงไหนก็ตาม
ตราบกระทั่งข้าพเจ้าได้นามกลับมาอีกครั้ง
เท่าที่ทำได้คงมีเพียงรั้งและรอปะปนกับมวลหมู่มนุษย์ รั้งและรอในฐานะ
..
คนแปลกหน้า
..
ตอนต่อไป
การเจรจากับไตรก้อน!
..
คุยกันท้ายเล่ม
แอบผิดหวังกับเล่มนี้นิดๆ เพราะคิดไว้ว่ามันจะต้องแย้มเรื่อง TRINITY WAR ออกมาบ้างไม่มากก็น้อย แต่ไม่มีเลยครับ โฟกัสไปที่คนแปลกหน้าล้วนๆ แต่ที่ทดแทนกันได้ก็เห็นจะเป็นจิม คอร์ริแกน ตำรวจเหล็กผู้ที่อยู่กับจักรวาลดีซีมาแต่ครั้งยุคทองนี่แหละครับ
ก่อนอื่น ขอพูดถึงคนแปลกหน้าสักนิด คนแปลกหน้าพิศวง – แฟนธอม สแตรนเจอร์ เป็นตัวละครเก่าอีกตัวหนึ่งของดีซี ซึ่งผลุบๆ โผล่ๆ อยู่บนหน้ากระดาษบ่อยๆ ในบรรดาตัวละครสายเวทมนตร์อาจเรียกได้ว่าเขามีพลังเป็นอันดับต้นๆ ซ้ำยังเป็นอมตะไม่แก่เฒ่า แต่ก็เพราะความเป็นอมตะไม่แก่เฒ่านี่เองทำให้เราไม่อาจสืบสาวราวเรื่องหาต้นกำเนิดของเขาได้ ในจักรวาลไม่มีใครรู้เลยว่าเขาเป็นใคร เขาจึงดำรงอยู่โดยไม่มีต้นกำเนิด เป็นเพียงคนแปลกหน้าของผู้อ่านมานานเนิ่น กระทั่งหลังการยกเครื่องจักรวาลใหม่นี่แหละครับ ดีซีก็ได้ลากเอาคนแปลกหน้ามาเป็นตัวละครหลักของจักรวาล และสร้างต้นกำเนิดให้เป็นเรื่องเป็นราว
และมาคราวนี้ ดีซีก็เล่นกับของใหญ่ (ก็ไม่ใหญ่เท่าไหร่หรอก เพราะดีซีลากเทวดาต่างๆ มายำเล่นหลายครั้งแล้ว) ในอดีต คนแปลกหน้าเคยเป็นคนบาปมาก่อน และบาปนั้นก็ไม่ใช่อะไรอื่นนอกไปจากการทรยศสหายจนถึงแก่ชีวิตเพื่อแลกเหรียญเงินสามสิบเหรียญ แม้ว่าในเล่มศูนย์จะไม่ได้ขานชื่อของเขาออกมาตรงๆ แต่จากข้อมูลที่บอกใบ้ตามรายทาง ผู้ศึกษาพระคำภีร์ก็น่าจะร้องอ๋อกันแล้วว่าคนแปลกหน้าของเรา เดิมทีไม่ใช่ใครที่ไหน หากแต่เป็น ยูดาส อิสคาริโอท สาวกผู้ขายพระเยซูเจ้าด้วยความละโมภ คำใบ้ที่ดีซีโปรยไว้นั้นชัดเจนมากทั้งเรื่องเหรียญเงินคำสาป หรือทุ่งโลหิตสถานที่ที่ยูดาสแขวนคอตายเพื่อชดใช้บาปในใจตน
นอกจากยูดาส อิสคาริโอทแล้ว ในเล่มนี้ยังได้เผยตัวละครใหม่ที่จะมีบทบาทใหญ่ในจักรวาลต่อไป เขาคือจิม คอร์ริแกน บุรุษคนแรกที่ได้รับพรให้กลายเป็น สเป็คเตอร์ ดวงวิญญาณแห่งความอาฆาตของพระผู้เป็นเจ้า เมื่อย้อนกลับไปในยุคทองของวงการ จิมปรากฏตัวครั้งแรกใน MORE FUN COMICS #52 ในฐานะของตำรวจหนุ่มผู้ติดกับวายร้ายจนตายไป แต่ไปแล้วไม่ไปลับ เขากลับหวนคืนสู่แดนคนเป็นอีกครั้ง ในฐานะของวิญญาณแค้นแห่งพระเจ้า และคอยสังหารเหล่าคนชั่วช้าบนโลกให้สูญสิ้น อีกทั้งหลังจากนั้นไม่นานนัก จิมยังได้บรรจุเข้าเป็นสมาชิกหลักของ JSA – JUSTICE SOCIETY OF AMERICA อีกต่างหาก
แม้ว่าจิตสเป็คเตอร์นั้นจะมีร่างสถิตย์อื่นอยู่บ้างในประวัติศาสตร์จักรวาล แต่ชื่อของจิม คอร์ริแกนก็ยังคงวนเวียนอยู่กับสเป็คเตอร์อยู่ดี ในยุคหลังวิกฤติ สเปคเตอร์ได้เลือก คริสปัส อัลเลน ยอดตำรวจแห่งก็อทแธมเป็นร่างทรง ซึ่งการจะเป็นสเป็คเตอร์ได้นั้น ร่างทรงต้องถูกสังหาร และผู้ที่สังหารอัลเลนก็คือคอร์ริแกน ซึ่งถูกเขียนให้กลายเป็นตำรวจเลวนั่นเอง
ในเล่ม PHANTOM STRANGER #0 นี้ถือเป็นการเปิดตัวสเป็คเตอร์สู่จักรวาลใหม่ (แน่นอนอยู่แล้วว่าตัวละครขาประจำแห่งจักรวาลอย่างนี้ ยังไงก็ต้องปรากฏตัวขึ้นมาไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง แปลกอยู่หน่อยที่เขาเลือกคอร์ริแกน แทนที่จะเป็นอัลเลนหรือฮาล จอร์แดน) และดูเหมือนทิศทางของหัว PHANTOM STRANGER ก็คงจะเน้นไปที่การเปิดตัวตัวละครสำคัญอื่นๆ ของจักรวาล ดูจากเล่มต่อไปซึ่งจะเปิดตัวไตรก้อน จอมมารผู้เป็นบิดาของราเวน และจากปกเล่มที่ #3 ซึ่งจะปะทะกับแพนดอร่าผู้ลึกลับ เดาว่าอีกไม่นานคงจะต้องมีเหตุการณ์อะไรที่จะปูไปสู่เหตุการณ์ใหญ่ปีหน้าแน่ๆ
สำหรับเรื่องสปอยล์ ช่วงนี้ผมวุ่นมากกับเรื่องเรียนและงานจนแทบจะไม่มีเวลาทำสปอยล์เลย กว่าจะมีเวลาว่างก็คงเป็นเดือนหน้า ซึ่งก็ว่าจะกลับมาปั่นซีรี่ย์ที่ยังคั่งค้างให้ทันปัจจุบัน แต่ไม่มั่นใจเช่นกันว่าจะทำได้ครบถ้วนสมบูรณ์หรือไม่ จึงอยากจะบอกไว้ก่อนว่าถ้ามีท่านใดสนใจอยากจะสปอยล์ซีรี่ย์ที่ผมทำค้างไว้ก็สามารถนำไปสปอยล์ได้เลยนะครับ (เช่นคุณ Genesis ได้แปล EARTH-2 ต่อที่บล็อคของเขา และทำได้ดีเสียด้วย) ขอเว้นไว้แค่ ANIMAL MAN และ PHANTOM STRANGER สองซีรี่ย์นี้ผมคิดจะทำเองครับ
ขอบคุณที่ติชมครับ
เล่มนี้สนุกมากเลยนะครับ เล่าประวัติสเตรนเจอร์ที่ไม่เคยได้เปิดเผยมาก่อน
ไม่เข้าใจว่าทำไมที่ Comicvine ให้แค่ 3/5 เอง
มาแล้วๆๆๆๆ สุดยอด
พยายามเก็งว่าเหล่ามหาเวทย์ผู้พิพากษามีใครบ้าง มาแบบนานาชาติซะด้วย lol
ตอนปล่อย preview ห้าหกหน้าแรกมาก็รู้กันแล้วแหละ ว่าต้องเป็นยูดาส
แต่เหมือนจักรวาลเก่า ตัว Phantom Stranger มันดูจะเก่าแก่กว่านั้น
แบบไร้กาลเวลาหรืออยู่มาตั้งแต่กำเนิดจักรวาลไรงี้ซะอีก
มาเป็นตัวละครยุคไบเบิ้ลมันเลยดูธรรมดา โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับแพนดอร่า
ส่วนอีกคนเดาว่าใครกันบ้างครับ
ปล. เพิ่ม Tag zero month ให้เล่มอื่นในเครือทำตามด้วยเลยดีกว่า ^_^
ขอบคุณมากครับ
ดีใจที่ได้รู้ แล้วก็เสียใจที่ได้รู้เหมือนกัน… T^T
แต่จุดที่เซ็งจริงๆคือ ให้เห็ใบหน้าที่แท้จริงนี่แหละ เอามุมกล้องหลบๆหน่อยก็ได้
สนุกดีจริงๆครับ เล่าเรื่องที่มาของพี่แกทั้งเล่มเลย สเป๊คเตอร์นี่ใช้ชุดรูปแบบเก่าเลยไม่มีการเปลี่ยนแปลงใหม่เลยนะเนี่ย
Zero Mount ของบล็อกผมจอง Earth-2 กับ World’s Finest นะครับ เล่มอื่นๆเชิญท่านอื่นตามสบายเลย ^^
สปอย สักตอนสองตอน ล่ะดีแล้วล่ะครับ
ผมว่าก็สนุกดีอยู่ ได้ความรู้ด้วย ปกติพอจำได้อยู่หรอกว่า มีคนเป็นสเปคเตอร์ ก่อน อัลเลนมาคนหนึ่ง เพระาเคยอ่านเจอแวบแวบ
แต่เรื่อง ของ บุรุษแปลกหน้า เนี่ยไม่รู้จริงจริง ว่าตัวจริงคือใคร อยากจะถามเหมือนกันว่ามีคนเคยรู้บ้างไหม?
พอมาอ่านเล่มนี้ กระจ่างละ Dc ไม่เคยเฉลยจริงจริงสินะ ว่าพี่แกเป้นใครมาก่อน
มาเผิดเผยในจักรวาลนี้สินะ
ว่าแต่ สเป็คเตอร์กำเนิดง่าย ง่ายเลยหรอเนี่ย 5555 +
ว้าว ในที่สุดStrange ก็มีเนื้อเรื่องออกมาแล้วเว้ยยยย หลังจากโผล่แวบไปแวบมาอยู่นานมากกกก
แต่ Specture นี่….เอิ่ม….มาง่ายดีเนอะ!!
องค์รักษ์ผ้าคลุมสีเขียว นี่ใช่ Spectre รึเปล่า หรือแค่สีผ้าคลุมเหมือนกันเฉยๆ