DC Comic : Red Lantern 10 : Atrocitus Vs. Storm Watch

เรื่อง : Peter Milligan
ภาพ : Miguel Sepulveda
วางจำหน่าย: 4 กรกฎาคม 2012
สำนักพิมพ์ : DC Comics

ในขณะที่ Atrocitus กำลังตามหา Abysmus อดีตสิ่งที่เขาสร้างขึ้นที่คืนชีพกลับมาทำลายล้างองค์กรของเขา เขากลับได้พบกับสถานที่แปลกประหลาด ที่เป็นฐานทัพของกลุ่มที่เรียกตัวเองว่า “Storm Watch”

อีกด้านหนึ่ง Jack Moore Red Lantern ชาวโลกก็กำลังค่อยๆเรียนรู้การเป็น Red Lantern มากขึ้นเรื่อยๆ ในขณะที่ Bleez กำลังนำพวกเขาไปโจมตีำพวก Star Sapphires!

.
.
.
เปิดฉากมาที่เขตอวกาศ 1415

ในขณะที่พวก Red Lantern กำลังมุ่งหน้าไปยัง Zamaron ดาวหลักของ Star Sapphire จากการที่ Bleez คาดเดาว่าพวก Star Sapphire เกี่ยวข้องกับเหตุร้ายที่กำลังเกิดขึ้นกับ Red Lantern Corps

ทางด้าน Red Lantern หน้าใหม่อย่าง Rankoor (Jack Moore) ก็ตกเป็นเป้าการรุมทำร้ายจากพวก Red Lantern ตนอื่นๆ จน Bleez ต้องมาห้าม เพราะไม่อยากให้เสียพลังไปกับการกัดกันเองแทนที่จะไปสู้กับศัตรู

แต่ในขณะเดียวกัน Bleez ก็ดูจะดูแคลน Rankoor ที่ดูจะถอดใจจากการที่รู้ว่าสุดท้าย Red Lantern ทุกคนก็ต้องตายอยู่ดี

ตัดมาทาง Atrocitus ที่กำลังตามรอยคลื่นพลังบางอย่างที่อาจเป็นร่องรอยของสิ่งที่เขากำลังตามหา

Atrocitus : ข้ารู้สึกถึงบางอย่าง คลื่นพลังของเรดแลนเทิร์น แต่มันมีบางอย่างแปลกไป…มันทั้งบิดเบี้ยวและไม่สมบูรณ์เช่นเดียวกับเจ้าสารเลวอบิสมัสนั่น

Dex Starr : ออบบสส??

Atrocitus : มันชื่ออบิสมัส เด็กซ์สตาร์เอ๋ย มันคือผลงานแรกจากความพยายามสร้างเรดแลนเทิร์นของข้า เกิดมาพร้อมกับข้อผิดพลาด…ข้าจึงกลบฝังมันไว้ และมันก็คือผู้ที่กลับมาเพื่อฆ่าพวกเราทุกคน

Atrocitus : คลื่นพลังนั่นต้องเป็นของมันแน่! มันซ่อนอยู่ด้วยวิธีบางอย่าง…ในช่องว่าง…ที่อยู่นอกเหนือจากห้วงมิติปกติ ถ้างั้นล่ะก็…ข้าก็จะ…เผาผลาญกำแพงของมิติซะ…

ทันใดนั้น Atrocitus ก็พ่นเลือดเพลิงใส่ยังจุดที่เขาสัมผัสได้ถึงคลื่นพลังประหลาดนั้น และเลือดเพลิงก็เหมือนจะกระทบกับอะไรบางอย่างในที่ๆไม่มีอะไรอยู่เลย?!

ห้วงอวกาศตรงจุดนั้นบิดเบี้ยวจนเกิดเป็นช่องว่าง และเมื่อ Atrocitus เข้าไปในช่องว่างนั้น เขาก็พบกับยานอวกาศขนาดมหึมาลำหนึ่ง?!

Atrocitus ย่อมต้องไม่รู้ว่านี่คือ “The Eye Of The Storm” ฐานบัญชาการของ “Storm Watch” องค์กรลับ ที่คอยเฝ้าสอดส่องดูแลโลกอยู่เบื้องหลัง

(แสดงว่าที่นี่คืออวกาศแถวๆโลกสินะ)

ที่ภายในยาน

เหล่าสมาชิกของ Storm Watch กำลังตรวจสอบ Red Lantern Skallox ที่ซึ่งมาที่โลกและโดนพวกเขาจับกุมได้ (เหตุการณ์ใน Storm Watch เล่ม 9) ซึ่งพวกเขาที่ยังไม่รู้เรื่องของ Red Lantern ดีนักก็ได้ตรวจสอบ Skallox อย่างละเอียดในหลายๆแง่มุม รวมถึงตรวจสอบแหล่งที่มาพลังงานของแหวนพลังนี้ด้วย

แต่ทันใดนั้น Martian Manhunter (J’onn J’onzz) ก็รู้สึกถึงอะไรบางอย่างบุกรุกเข้ามาในห้วงมิติพิเศษที่ล้อมรอบฐานของพวกเขาอยู่

แน่นอนว่าผู้ที่บุกรุกเข้ามานั้นก็คือ Atrocitus นั่นเอง และเขาก็กำลังพังผ่านผนังยานที่มีสนามพลังป้องกันฉาบไว้อยู่อย่างง่ายดายราวกับฉีกเศษกระดาษ!!

ในเมื่อมีแขกไม่ได้รับเชิญมาเยือน ทางฝ่าย Storm Watch ก็ส่งสามกำลังหลักของทีมอันประกอบด้วย Martian Manhunter, Apollo (Neil Sinclair) และ Midnighter (Lucas Tren) มารับมือ!!

ทั้งสามคนเข้าปะทะกับผู้บุกรุกทันที แต่ขนาด 3 ต่อ 1 ก็ยังได้แค่สูสีเท่านั้น

สู้กันจนผนังยานทะลุไปเป็นแถบๆ แต่แค่นี้นั้นย่อมไม่อาจหยุด Atrocitus ไปได้

The Engineer (Angela Spica) หัวหน้าทีมได้เตือนให้พวก Apollo รู้ว่าหากเกิดความเสียหายขึ้นกับยานมากกว่านี้พวกเขาจะหลุดจาก Hyperspace และคนอื่นก็จะสามารถเห็นฐานทัพนี้ได้ และให้หาทางจัดการ Atrocitus ให้ได้โดยเร็ว

ทว่า…แม้พวกเขาทั้งสองคนจะมีแกร่งในระดับที่พอจะรับมือซุปเปอร์แมนซึ่งๆหน้าได้ แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะชนะศัตรูรายนี้ไปได้

ที่อีกด้านหนึ่ง Midnighter ที่ไม่แกร่งเท่าอีกสองคน ก็เลือกจะรับมือผู้บุกรุกอีกตัว และจัดการ Dex-Starr ไปได้สบายๆ

เมื่อชักรับมือไม่ไหว Martian Manhunter จึงเปลี่ยนวิธี และใช้พลังโทรจิตเชื่อมต่อเข้ากับจิตใจของ Atrocitus แทน

เขาได้เห็นความทรงจำของ Atrocitus ตั้งแต่อดีตอันแสนนาน จนมาถึงเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อเร็วๆนี้

ในที่สุด Martian Manhunter ก็สามารถทำให้ Atrocitus สงบลงได้บ้าง แต่การอ่านใจของ Atrocitus ก็ดูจะสร้างความเสียหายให้กับเขาพอดูเช่นกัน

แต่ในตอนนั้นเอง ความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการต่อสู้ขนานใหญ่ภายในยาน ก็ทำให้แหวนพลังสีแดงของ Skallox หลุดออกจากที่คุมขังและกลับไปหาเจ้าของของมันได้

Atrocitus : ข้ารู้แล้ว…ว่าศัตรูของข้าไม่ได้อยู่ที่นี่ ข้าสูญเสีย…ทั้งพลังและเวลาอันมีค่าไปเปล่าๆ

ทันใดนั้นก็มีร่างหนึ่งพังกำแพงเข้ามาถึงห้องที่พังเละเทะจากการต่อสู้

Skallox : ข้าจะต้องแก้แค้นให้ได้!

Atrocitus : สกัลล็อค? ที่เรียกข้ามาที่นี่คือสัญญาณจากแหวนของเจ้าเองนี่เองเรอะ มันถูกบิดเบือนโดยกำแพงมิติประหลาดที่ข้าทำลายเข้ามา

Skallox : พวกมันตัดมือของข้า ทำให้ข้าต้องพิการแบบนี้

Apollo : หลบข้างหลังฉันไว้ซะเอ็นจิเนียร์

Engineer : ไม่ต้องห่วง

Engineer : …ฉันควบคุมสถานการณ์ได้

ก่อนที่ Skallox จะทันถึงตัวพวก Storm Watch ก็ปรากฎประตูมิติขึ้นเบื้องหน้ามัน ทำให้มันพุ่งหายเข้าประตูมิติไป

Engineer : ถ้าคุณจะไปก็ไปได้ทุกเมื่อนะอโตรซิตัส ตามเพื่อนมือเดียวของคุณเข้าไปได้เลย

Atrocitus : จงรู้ไว้แล้วกัน : เราจะกลับมาอีก…ในตอนที่เราไม่มีเงื่อนไขเรื่องเวลาแบบนี้

Engineer : เราไม่รับฟังคำขู่จากพวกแลนเทิร์นหรอกนะ ไม่ว่าจะสีเขียวหรือแดงก็ตาม

Apollo : มันว่ามันจะกลับมาอีกนะ เราจัดการมันซะตอนนี้เลยดีกว่า

Engineer : อยู่เฉยๆไว้อพอลโล่ พวกนี้ไม่เป็นภัยต่อโลกหรอก

ทางฝ่าย Atrocitus ที่เข้าใจสถานการณ์ตอนนี้ดี ก็ยอมจากไปอย่างสงบ…สำหรับตอนนี้…

Atrocitus : วันนี้พวกแกได้สร้างศัตรูที่น่าสะพรึงกลัวขึ้นแล้ว เมื่อพลังของข้ากลับมาสมบูรณ์เหมือนเดิม…ข้าจะต้องกลับมาชำระแค้นแน่

Apollo : ฉันก็รู้อยู่น่ะนะว่าฉันเป็นเด็กใหม่ในทีมนี้ แต่ฉันก็จะขอพูดตรงๆล่ะ ว่าการปล่อยเจ้าสัตว์ร้ายนั่นไปมันเป็นเรื่องโง่มากๆ

Engineer : ฉันได้ตรวจสอบ DNA ของพวกนั้นแล้ว พวกนั้นกำลังมีอาการเซลตายอย่างรวดเร็วอยู่

Engineer : พวกนั้นมีเวลาเหลืออย่างมากก็ไม่กี่วันแล้วล่ะ และขออย่าได้ว่าฉันโง่อีกเชียวล่ะแอนดริว

พวก Atrocitus ถูกส่งห่างออกไปสามปีแสง

Skallox : มันต้องตาต่อตาฟันต่อฟันนะนายท่าน! นั่นเป็นวิถีทางของเราไม่ใช้หรือ? เราควรจะกลับไปแล้วทำลายพวกมันซะ

Atrocitus : เราไม่รู้ว่าเรามีเวลาเหลืออยู่แค่ไหน หรือกระทั่งว่าแหวนของพวกเราจะสามารถชาร์จพลังได้อีกหรือไม่ด้วยซ้ำ…

Atrocitus : พลังที่เรามีเหลืออยู่จะต้องถูกใช้…เพื่อตามหาเจ้าอบิสมัส และหากเป็นไปได้ก็จะต้องหาวิธีรักษาอาการของพวกเราด้วย

Atrocitus : นี่จะเป็นครั้งแรกในชีวิตอันยาวนานของข้าที่ข้าจำต้อง…ควบคุมสัญชาตญาณของข้า มันการกระทำที่สมเหตุสมผล

Atrocitus : แต่กระนั้น มัน…ก็ทำให้ข้ารู้สึกว่าตนเองไม่สมกับเป็นตัวข้าเอง ไม่สมกับเป็นเรดแลนเทิร์นเอาเสียเลย

ตัดมาที่ยานของพวก Storm Watch

พวกเขากำลังตรวจสอบข้อมูลที่รวบรวมมาได้จากการต่อสู้กับ Atrocitus

Martian Manhunter : ข้ายังรู้สึกหัวหมุน และเห็นภาพฝันร้ายอยู่เลย

Engineer : แต่อย่างไรก็ดี จิตใจของ Atrocitus ก็ให้ข้อมูลที่มีค่าเกี่ยวกับพวกกรีนแลนเทิร์นกับเรา ว่าพวกนั้นมันอันตรายอย่างที่เราคาดไว้ แต่ตอนนี้ฉันมั่นใจแล้วว่าเราจะสามารถวิเคราะห์เทคโนโลยีแหวนพลังของพวกนั้น และจะจัดการพวกนั้นได้เมื่อถึงเวลาที่เราต้องสู้กัน

ตัดมาที่เขตอวกาศ 1416

Rankoor ก็กำลังโดนพวก Red Lantern ตนอื่นๆเล่นงานอยู่ แต่ตอนนี้สถานการณ์กำลังจะเปลี่ยนไป

“เรากำลังใกล้จะถึงดาวของพวกสตาร์แซฟไฟร์แล้ว”
“ดาวของพวกกลุ่มปริศนาที่บลีซเชื่อว่าเป็นต้นเหตุของความตายที่เรากำลังเผชิญอยู่”
“แล้วมันก็เริ่มขึ้นอีกแล้ว มันก็แหงอยู่แล้วล่ะนะ”
“ฉันมันเป็นคนนอก เป็นเป้าหมายที่เห็นได้ง่าย”
“แต่ครั้งนี้ บางสิ่งมันขาดผึงลง และระเบิดอยู่ในหัวฉัน”
“ฉันลืมตัวตนของฉันไป”
“ฉันลืมตัวตนของแจ็ค มัวร์”
“ฉันกลายไปเป็นแรนคอร์”
“เป็นเรดแลนเทิร์น”

“หลังจากนั้น ฉันเห็นว่าสายตาที่พวกนั้นมองฉันมันเปลี่ยนไป แม้แต่บลีซก็ด้วย”
“บลีซดูจะสนใจมากกว่าคนอื่นๆเสียอีก”
“ฉันจะไม่โดนเล่นงานแบบสุ่มอีกแล้ว”
“ใช่แล้ว ฉันรู้ว่าฉันปลอดภัยมากขึ้นแล้ว จากที่ฉันได้แสดงพลังความโกรธของฉันให้พวกนั้นเห็น พวกนั้นก็ให้ความนับถือฉันตอบแทน”
“แต่นี่ฉันได้สูญเสียอะไรไปด้วยหรือเปล์ บางทีฉันอาจรู้สึก…ค่อยๆสูญเสียไปทีละน้อย เสียความเป็นแจ็ค มัวร์ไป”
“สูญเสีย…ความเป็นมนุษย์ไป”

ตอนต่อไป : Red Lantern ปะทะ Star Sapphire และ Atrocitus พบ Abysmus แล้ว!!