Fantastic Four #581 Blast form the past
เรื่อง : Jonathan Hickman
ภาพ : Steve Epting, Paul Mounts
วางจำหน่าย: 28 กรกฎาคม 2010
สำนักพิมพ์ : Marvel Comics
ชายปริศนาที่บุกเข้าตึก Baxter เมื่อหลายอาทิตย์ก่อน กำลังกระโดดข้ากาลเวลา
เรื่องราวเหตุการณ์ต่างๆได้โลดแล่น ผ่านตัวเขา
(ลองดูกันซิว่ามีอะไรคุ้นๆกันมั๊ยเอ่ย)
“เรามาตกลงกันได้รึยัง?”
“เฮียไม่ได้อยากยืนอยู่ตรงนี้มากไปกว่าผมหรอกนะ”
“ที่นี่แหล่ะ ที่ขั้นจะสร้างมันขึ้นมาใหม่”
ร่างของชายปริศนาได้ตกลงมายังพื้นที่ว่างสีขาว
????????: โอ๊ยยยยยย
??????: เป็นไง สำเร็จมั๊ย?
????????: อา ฮะ
ชายปริศนาคนเดิม กำลังพูดคุยอยู่กับ ผู้หญิงปริศนาอีกคนนึง
ชายปริศนาคนดังกล่าว
ได้แสดงผลงานของเขาตอนที่เขาใช้พลังบางอย่างกับ Franklin Richards ให้ดู
“พักซะ”
“…และจงจำไว้ว่าจริงๆแล้วเธอคืออะไร”
??????: ชั้นไม่ได้หมายถึง ตัวนาย ย่ะ
ที่แท้ชายปริศนาคนนนั้นก็คือ Franklin Richards จากอนาคตนั่นเอง!
(ถูกอย่างที่ผู้อ่านหลายคนเดาเอาไว้ครับ)
Franklin: เออ ชั้นรู้แล้วน่า
Franklin: เรื่องนั้นชั้นก็จัดการเรียบร้อยแล้ว
แล้วชายคนนั้นก็แสดงภาพตอนที่เขาเผยอนาคตบางอย่างกับ Valeria Richards
“ความหวังทั้งหมด อยู่ที่ Doom”
เมื่อชายปริศนาได้โชว์ผลงานของเขาให้ดู แต่หญิงปริศนาอีกคนดู
??????: เอามันให้แน่นะยะ
??????: เพราะว่าพวกเราจะต้องไม่ให้ตัวของพวกเรา………
ขณะที่ หญิงปริศนากำลังพูด เสียงหนึ่งก็ดังขัด
?????????: นี่ Valeria
?????????: Franklin ได้เล่นตามบทของตัวเองแล้วล่ะ
?????????: ตอนนี้จะสำเร็จหรือว่าล้มเหลวพวกเราก็คงได้แต่ยอมรับผลที่จะเกิดเท่านั้น
?????????: จากนี้ไปพวกเราก้าวต่อไปข้างหน้าอย่างแข็งขัน
?????????: ไอ้หลานเอ๋ย ความวิตกหรือความสงสัย มันเป็นของเด็กน้อยคนอื่นๆ
?????????: แต่ต้องไม่มีใน เด็กๆของตระกูล Richards
ใช่ครับ หญิงปริศนาคนนั้นก็ สาวมั่นฉลาดล้ำโลกอย่าง Valeria นั่นเอง!
Valeria: แล้วทำไมอยู่ๆ อาก๋ง (ปู่) ถึงเกิดฉลาดล้ำโลกขึ้นมาซะงั้นล่ะคะ?
Nathaniel: ของแบบนี้มันอยู่ในสายเลือดน่ะ
อาก๋งที่ว่าไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็น Nathaniel Richards พ่อของ Reed Richards Richards นั่นเอง!
เขามาพร้อมกับชุดพิเศษ ที่ไม่เหมือนกับที่เราเห็นใน S.H.I.E.L.D.
Nathaniel: ต้องรีบกันหน่อยแล้ว ดูเหมือนเวลาจะเริ่มเดินต้านพวกเราแล้ว
Nathaniel: เอาล่ะนะ พวกเธอรู้ใช่มั๊ยว่าต้องพูดอะไรบ้าง?
Nathaniel: เลือกคำพูดให้มันระวังหน่อยล่ะ
Valeria: ก๋งไม่ต้องห่วงหนูหรอก ห่วงตัวเองดีกว่าน่า
Nathaniel: ที่นี่ ชั้นตั้งใจจะมาเป็นแค่ผู้ช่วยเท่านั้นแหล่ะ
Nathaniel: เป็นแค่ตัวประกอบไม่ใช่พระเอก
Valeria: ไม่อ่ะ ก๋งผิดแล้ว
Valeria: หนูว่าตอนที่พวกเรากำลังแก้ไขอดีต
Valeria: ก๋งน่าจะโดดไปแก้ไขอนาคตบ้างน่าจะดีกว่านะคะ
Valeria: โชคดีค่ะ ก๋ง
ขณะที่ Valeria ออกไปทำหน้าที่ของตน Franklin ก็กำลังทำบางอย่าง
Nathaniel: Franklin นั่นเธอทำอะไรน่ะ
Franklin: ผมก็กำลังจะสร้างความจริงจิ๋วคลุมที่นี่ ตอนที่ทั้งสองคนไปทำธุระน่ะสิครับ
Franklin: ตอนที่พวกเราเสร็จงานกันแล้ว ไอ้เจ้านี่น่าจะเป็นทางออกฉุกเฉินของพวกเราได้
Nathaniel: เธอไม่ควรเสียเวลามาทำเรื่องแบบนี้นะไอ้หลาน
Franklin: เรื่องนี้คนตัดสินใจไม่ใช่ปู่นะ ตาเฒ่า
Franklin: อีกอย่าง พวกเราก็ควรจะลองมันซักตั้งไม่ใช่เรอะ?
Nathaniel Richards: แต่ Franklin ถ้าชั้นทำพลาดล่ะ….
Franklin: ผมเชื่อว่า ไม่พลาดหรอก
Franklin: ไปได้แล้ว!
ปู่ Nathaniel ก็เข้าสู่กระแสเวลา ส่วน Franklin ใช้พลังของตนคงสภาพความจริงของตนเอาไว้
มหาวิทยาลัยสเตต (State University) หลายปีก่อน
อาจารย์: อรุณสวัสดิ์คร้าบ อรุณสวัสดิ์
อาจารย์: ก็อย่างที่ทุกๆคนเห็นว่าครูได้เขียนคำถามหนึ่งไว้บนกระดาน
อาจารย์: อะไรคือ การกระทำที่ชอบธรรม?
อาจารย์: คำถามที่เราทั้งหมดทุกคนจะร่วมกันตอบนี้
อาจารย์: จะเป็นเรื่องที่พวกเราจะได้เรียนกันในเทอมนี้ครับ
อาจารย์: ตัวชั้นชื่อ ศาสตราจารย์ Brandt
อาจารย์: ขอต้อนรับทุกคนเข้าสู่วิชาจรรยาจริยปรัชญา (moral philosophy ethic) 201
(ห๊า ตัวยึกๆยือที่เอ็งเขียนนี่ มันเป็นวิชาปรัชญาเรอะ นึกว่าวิชาเคมี)
อาจารย์: เอาละ มีใครที่แจ๋วพอที่จะจะยกมือแล้วเสี่ยงตอบคำถามบ้างเอ่ย
????: ความชอบธรรมนั้นก็คือ
????: การกระทำเพื่อประโยชน์สูงสุด (Best interest)
????: ภายใต้แรงผลักดันส่วนตัวครับ (Sphere of Influence)
????: โดยแรกเริ่มนั้น ประโยชน์อาจจะเริ่มต้นที่ตนเองก่อน
????: จากนั้นก็จะขยายออกไปครับ
????: หากจะให้ผมเรียงลำดับก็จะเรียงได้แบบนี้ครับ
????: การกระทำที่ให้ประโยชน์สูงสุดแก่ครอบครัวเรา
????: การกระทำที่ให้ประโยชน์สูงสุดแก่เพื่อนเรา
????: จากนั้น การกระทำที่ให้ประโยชน์แก่ชุมชนของเรา
????: จนกระทั่งในตอนท้ายสุดน่าจะไปจบลงที่….
????: …การกระทำที่ให้ประโยชน์สูงสุดแก่มวลมนุษยชาติมั้งครับ?
อาจารย์: อ้า วิเศษมาก
อาจารย์: นาย Richards จะให้คำนิยามกับเราว่า
อาจารย์: “ความถูกต้องนั้นต้องเป็นความถูกต้องของมวลชน”
ที่แท้นักเรียนเมพไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็น Reed Richards หรือ Mr.Fantastic สมัยยังละอ่อนนั่นเอง
อาจารย์: และไม่ต้องห่วงนะ
อาจารย์: คลาสนี้ เรา ยอมรับ คำตอบแบบของเฮเกล (Hegel) ครับ
??????: ยอมรับครับ แต่คำตอบมันด้อยค่ามาก
Reed: ว่าไงนะ?
??????: หลักปรัชญานี้ผิดเพี้ยนเพราะตั้งอยู่บนสมมติฐานว่า
??????: ทุกๆคนนั้นมีความดีอยู่ในตนเองเหมือนๆกัน
??????: ซึ่งเป็นอะไรที่โง่มหาโง่อย่างมาก เลย
??????: ไอ้ การกระทำที่ชอบธรรม เพียงอย่างเดียว
??????: คือการกระทำเพื่อ ความอยู่รอด….การพัฒนา…
??????: การมีอำนาจ (ascendance)
Note
ยอร์ช วิลเฮล์ม ฟรีดดิช ฮีเกล (Georg Wilhelm Friedrich Hegel) เป็นนักปรัชญาชาวเยอรมันที่มีชื่อเสียงท่านหนึ่ง
เขาได้เขียนหนังสือเรื่อง ปรัชญาสิทธิ (Philosophy of Rights) ซึ่งน่าจะคล้ายกับที่ Reed Richards ตอบไปครับ
แนวคิดของเขามีอิทธิพลอย่างมากต่อคาร์ล มาร์กซ์ บิดาแห่งแนวคิดสังคมนิยม
อาจารย์: อ้อ นั่นเป็นแง่มุมที่น่าประหลาดใจสำหรับ
อาจารย์: วันและยุคสมัยนี้ดีนะ คุณ Von Doom
ที่แท้คนที่มีแนวคิดแบบหักดิบคนนี้ก็คือ Victor von Doom หรือ Dr.Doom ในปัจจุบันนั่นเอง
มิน่าถึคงได้คิดแต่อะไรแบบนั้น
Reed: ศจ. ครับ อันที่จริงมันก็แค่ความยะโสครับ
Reed: คำตอบของพวกคิดว่าตัวอยู่สูงกว่าคนอื่น
Reed: ฉะนั้นเรื่องนี้มันไม่ใช้เรื่องน่าประหลาดใจอะไรเลยครับ
Reed: นายคงคิดว่าตัวเองวิเศษวิโสกว่าคนอื่นมากเลยสินะ Victor?
Victor: วิเศษกว่าคนที่นี่เรอะ?
Victor: เรื่องนั้นมันแน่อยู่แล้ว
(นักเรียนอยู่ข้างหลังช่วยยันไอ้ Doom ให้ลงจูบพื้นที่ คนแปลหมั่นไส้!!)
เวลาต่อมาตอนเลิกเรียน Reed เดินออกจากห้อง
มาพบเพื่อนสนิทเขาและเพื่อนร่วมห้องของเขานามว่า
Benjamin Jacob เรียกสั้นๆว่า Ben Grimm หรือ The Thing สมัยยังเบบี้เฟช
Reed: ว่าไง เพื่อน Ben
Ben Grimm: ไงพ่อหัวไข่ งานเรียนเป็นไงมั่งแวร้?
Reed: อ้อ พ่อ Victor ก็ยังทำตัวเกรียนเหมือนปกตินั่นแหล่ะ
Ben Grimm: ถ้านายปรี๊ดแตกจนอยากให้ชั้นไปหวดก้นไอ้หมอซักป๊าปสองป๊าป ก็บอกกันได้นะว้อย
Ben Grimm: ว่าแต่แล้วสุดสัปดาห์นี้มีอะไรทำรึเปล่าวะ
Reed: ไม่รู้สิ อาจจะแวะไปที่แลปหน่อย
Reed: ชั้นเกิดไอเดียบรรเจิดนิดหน่อยกะว่าจะไป….
Ben Grimm: จงหยุดความคิดเมื่อกี้ ณ บัดเดี๋ยวนั้นเลย
Ben Grimm: สุดสัปดาห์นี้เอ็งไม่ต้องคิดจะไปเหยียบตึกนั้นเลยนะว้อย!!
Ben Grimm: ฟังนะไอ้เกลอ ชั้นรู้ว่านายน่ะมีปม
Ben Grimm: ที่ความหล่อของนายมันไม่หล่อเท่าแอ๊ด สมบัติเหมือนชั้น
Ben Grimm: แต่กระนั้น ชั้นก็พอจะรู้จักพวกสาวๆอยู่บ้างคนสองคน
Ben Grimm: เราไปปาร์ตรี๋กันให้หูหลุดกันเลยดีกว่า!!
Ben Grimm: มันจะต้อง….
ขณะที่ทั้งคู่เข้าห้องพักบางสิ่งบางอย่างก็เกิดขึ้น
ฟ้าวววววววววววววววววว!!
Ben Grimm: อะไรวะนั่น….
สิ่งที่ปรากฎตรงหน้าทั้งสองคือ ปู่ Nathaniel พ่อของ Reed Richards นั่นเอง
Reed: โอ้
Reed: …….
Reed: คุณพ่อรึครับ?
Nathaniel: ไง Reed
คุณพ่อ!!
Reed โผเข้ากอดผู้เป็นพ่อ โดยไม่รุ้สึกระแวงหรือสงสัยสิ่งที่เพิ่งเกิดขึ้นตรงหน้าเขา
ส่วน Ben ก็เกาแก้มเหมือนกำลังงงว่าอะไรฟระเนี่ย
Reed: โอ้ พระช่วย พ่อครับ
Reed: นี่มันนาน…
Nathaniel: พ่อรู้ลูก พ่อรู้
Nathaniel: ขอพ่อดูหน้าลูกให้ชัดๆหน่อยสิ
Nathaniel: คุณพระช่วย ลูกโตขึ้นมากเลยนะ กลายเป็นหนุ่มแล้วสิเนี่ย
Reed: แหม่ ก็นะครับ…
Ben Grimm: ไม่รู้สินะ แต่ใอ้การเป็นหนุ่มนี่
Ben Grimm: น่าจะหมายถึงการมีขนขึ้นที่นมกับพุงไม่ใช่เรอะ
Reed: อ้อ ใช่ครับพ่อ
Reed: เจ้านี่เพื่อนรักผมครับ Ben Grimm
Ben Grimm: สวัสดีครับ คุณ Richards
Nathaniel: ยินดีที่ได้รู้จักเธอ Ben
Ben Grimm: ถ้าคุณลุงไม่ว่าอะไรผมขอถามอะไรซักหน่อยสิครับ
Ben Grimm: ไอ้ชุดที่คุณลุงใส่อยู่นี่มันอะไรรึครับ?
Reed: แล้วก็คือ ไม่ใช่ว่ามันไม่ดีนะครับ ที่พ่อดูสุขสบายปึ๋งปั๋งดี
Reed: แต่ว่ามันดูเหมือน คุณพ่อไม่ได้แก่ลงเลยนะครับ
Nathaniel: นั่นก็เพราะพ่อไม่ได้แก่ลงน่ะสิ
Nathaniel: พ่อมาที่นี่เพราะมีเหตุให้มา Reed
Nathaniel: มีบางสิ่งเกิดขึ้น
ในอดีตเคยเกิดเหตุการณ์หนึ่งขึ้น
หลังจากที่พ่อจากบ้านไป…หลังจากที่พ่อจากลูกไป…
พ่อต้องทำภารกิจหนึ่งที่สำคัญและอันตรายอย่างมาก
เจ้าภารกิจนี้เอง พ่อพยายามจะหยุดชายคนหนึ่ง
ผู้มีจักรกลในร่าง…..เครื่องกลที่มีพลังงานควันตั้มเป็นตัวขับเคลื่อน
พวกพ่อต่อสู้กับชายคนนั้น แล้วจักรกลนั้นถูกทำลายเสียหาย
พ่อได้พยายามจะหยุดไม่ให้เครื่องนั้นระเบิด
แต่พ่อทำไม่สำเร็จ และในตอนที่ร่างเขาระเบิดกลับเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้น
เพราะว่าในตอนนั้นพ่อได้จับโดนเครื่องจักรนั้นในตอนที่มันระเบิด
พ่อได้กลายเป็นท่อส่งพลังงานที่ได้ระเบิดออกมา
มันได้เปลี่ยนความแก่ชราของตัวพ่อ
พ่อได้กลายเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีอายุยืนยาวมาก จนอาจเรียกว่าเป็น อมตะ ก็ได้
นี่แหล่ะคือเหตุผลที่ทำให้พ่อไม่แก่ลงเลย จากตอนที่ลูกได้พบพ่อ
นอกจากนั้นพ่อยังได้ความสามารถในการควบคุมเวลาได้เล็กน้อย
พ่อใช้ความพยายามอย่างมากในการศึกษาวิธีการใช้ประโยชน์จากความสามารถนี้
จนพ่อสามารถย้ายตัวเองจากยุคหนึ่งไปอีกยุคได้ เหมือนการกระโดดข้ามกาลเวลา
ซึ่งที่คือเหตุผลที่พ่อสามารถมายืนอยู่ที่นี่ในวันนี้ได้
ทว่าเหตุการณ์ที่สำคัญกว่านั้นก็คือการระเบิดนั้น
ได้ดึง Nathaniel ทุกๆคนที่มีอยู่ในทุกความจริงคู่ขนานให้มาอยู่ที่ความจริงเดียว
(เหตุการณ์นี้ก็คือเหตุการณ์ที่ เทสลาระเบิดตัวเอง ใน S.HI.E.L.D. ภาคแรก นั่นเองครับ)
แรงระเบิดได้พาพวกเราทั้งหมดข้ามเวลา…
ไปหยุดที่อนาคตในอีกหกพันปีข้างหน้า
ในช่วงเวลานั้นเอง โลกถูกปกครองโดยสิ่งมีชีวิตหนึ่ง ที่ชื่อว่า Immortus
(Immortus ก็ไม่ใช่ใครอื่นครับ พี่แกคือ Kang the conqueror นั่นเองครับ
แต่ที่น่าสนใจคือ เจ้า Kang เนี่ย ชื่อจริงชื่อ Nathaniel Richards ด้วยนะครับ)
Immortus นั้นมีพลังในการเปลี่ยนแปลงเวลาและมีทหารส่วนตัวเรียกว่า Auditor
มันยกตัวเป็นตำรวจที่คอยตรวสอบกาล-อวกาศ (Space-Time) ทั้งหมด
และยัง จัดการ ความผิดปกติ หรือสิ่งที่อาจจะเป็นอันตรายต่อ เวลา (T.I.M.E.) อันแสนจะศักดิ์สิทธิ์นั้น
ฉะนั้นการร่วงหล่นไปสู่เวลาเดียวของทุกความจริงของทุกคน
แถมทุกๆคนล้วนมีความสามารถในการท่องเวลาได้
ย่อมแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่านี่ต้องเป็นภัยอย่างหนึ่งแน่นอน
และในตอนนั้นแทนที่มันจะสั่งทำลายพวกเราทุกคน
ซึ่งพวกเราเองก็พร้อมที่จะสู้เพื่อเอาชีวิตรอด
แต่ Immortus ได้แสดงสันดานที่โหดร้ายและเจ้าเล่ห์ของมันออกมา
มันได้ยื่นข้อเสนอ ที่มันเรียกว่า การประนีประนอม แก่พวกเรา
ซึ่งช่วยให้พวกเราคนใดคนหนึ่งมีชีวิตรอดได้
ทว่ามันให้พวกเราเลือกกันเองว่า ใครที่จะอยู่รอดเป็นคนสุดท้าย
ผลที่ตามก็คือ ตัวชั้นทุกๆคนที่มีตัวตนอยู่ ต่างฆ่าตัวตายและไม่ก็ฆ่ากันเองเป็นห่วงโซ่
เราเรียกมันว่า The Great Hunt (การล่าครั้งใหญ่)
Nathaniel: และตอนนี้ตัวพ่อเหลือเพียงแค่สองคนเท่านั้น
Nathaniel: พ่อหนีมาหลายปี ปฎิเสธที่จะมีส่วนรับรู้
Nathaniel: ขณะที่ตัวพ่อคนอื่นๆใช้วิธีต่างๆฆ่าตัวพ่ออีกคน
Nathaniel: แต่เวลาที่จะหนีได้จบลงแล้ว
Nathaniel: แล้วก็ไม่มีทางหนีไปไหนอีกแล้ว
Nathaniel: เพราะงั้นก่อนที่พ่อจะไปเผชิญกับมัน
Nathaniel: พ่อจึงอยากจะพบลูกอีกซักครั้ง
Reed: ไม่นะพ่อ พ่อต้องบ้าไปแล้วที่คิดว่าผมจะปล่อยพ่อไปโดยที่ไม่ได้จะช่วยอะไรน่ะ
Nathaniel: นี่ Reed ถ้าพ่ออยากให้ช่วย เดี๋ยวพ่อกลับมาพบลูกทีหลังเอง
Nathaniel: แต่ตอนนี้พ่อยังไม่อยากได้
Reed: แล้วถ้าพ่อยังคิดว่าผมจะยอมเสียพ่อไปอีกรอบ พ่อก็บ้าละ
Reed: อีกอย่างผมพอจะรู้แล้วว่าใครที่พอจะช่วยเราได้
และคนที่ Reed ไปขอความช่วยเหลือก็ไม่ใช่ใครอื่นครับ เขาก็คือ…..
Victor คู่ปรับสุดเกรียนขงเขานั่นเอง
Victor: ชั้นอยากได้ยินแกพูดอีกรอบว่ะ
Reed: เออก็ได้ ป๋าข้ามเวลาของชั้นต้องการให้พวกเราช่วยสู้กับตัวป๋าจากอีกอนาคตนึง
Reed: แล้วการที่พวกเราจะช่วยได้หรือไม่ได้ เราต้องใช้อาวุธสุดล้ำซักอันสองอัน
Reed: ไอ้อันที่นายกำลังพัฒนาอยู่…..
Reed: แบบลับๆ
Reed: แบบที่ชั้นไม่น่าจะรู้
Reed: แต่ก็เจือกรู้ไปแล้ว
Victor: ใช่อันนั้นที่ไหน อีกประโยคน่ะ
Victor: ชั้นหมายถึงอีกประโยคนึงน่ะ
Reed: ได้โปรด
Victor: เออนี่สิ
Victor: ไอ้ความอ่อนน้อมแบบขี้ข้านี่มันเหมาะกับแกดีนะ Richards
Victor: แล้วก็ ถ้าไม่เห็นไอ้ชุดข้ามเวลาของป๋าแกด้วยตาตัวเองละก็
Victor: ชั้นคงจะตราหน้าแกไปแล้วว่าไอ้สตอเบอแหลนาธานตัวพ่อ
Victor: หรือไม่ก็คิดว่าแกคงถูกไอ้พิธีรับน้องโง่เง่านั่นล้างสมองจนเพี้ยน
Victor: เหมือนกับไอ้พวกผีเข้าดาดๆที่มักจะมีให้เห็นบ่อยๆ
Victor: ใน สถานศึกษา เพื่อความเป็น เลิศทางความรู้ แห่งนี้
Reed: สรุปเอ็งช่วยมั๊ยครับ?
Victor: พูดอีกรอบเด๊ะ!
ในเวลาต่อมา
Victor: โอเช ชั้นว่าพวกเราเตรียมข้าวเตรียวของกันพร้อมแล้ว
Victor: ชั้นให้แกลองของก่อนเลยละกัน Grimm
Ben Grimm ได้ชุดเกราะ….ขนาด…ยักษ์…มาใส่
Victor: ไอ้นี่คือชุดกลเสริมพลัง (Exoskeleton)
Victor: ไอ้ชุดที่เหมาะกับแกมากที่สุด
Victor: เพราะว่ามันไม่ต้องใช้สมองไหวพริบหรือคิดคำนวณอะไรให้ถูกถึงจะใช้ได้
Victor: ใช้แค่ วิ่ง โดด ต่อย แล้วก็เตะ จบ
Victor: ชั้นว่าเรื่องแค่นี้แกน่าจะทำเป็นนะ
Ben Grimm: เออ เอาเถอะเสด็จพี่เข้าใจดีว่าความเกรียนกวนบาทานั้น
Ben Grimm: เป็นนิสัยตามธรรมชาติของน้องVictorนะครับ
Ben Grimm: ฉะนั้นชั้นจะทำเป็นหูทวนลมให้ประโยคตะกี้ผ่านไปซะ
Ben Grimm: เพราะไอ้ชุดบ้านี่มันเด็ดสะระตี่จริงๆ ให้ตายสิโรบิน!!!
แล้ว Victor ก็ยื่นอุปกรณ์บางอย่างให้กับ Reed
Victor: อ่ะ ส่วนนี่ของแก
Reed: Ben นายแน่ใจนะว่านายไม่เป็นไรน่ะ
Reed: ถ้ามีอะไรแหม่งๆก็รีบบอกมาเลยนะเฮ้ย
Ben Grimm: ไม่มีอะไรฮะ ทุกอย่าง สบายหวิว สมบูรณ์ เหมือนยี่ห้อซอสซีอิ้วเลยอ่ะ
Ben Grimm: แค่มีชุดนี่ ชั้นก็พร้อมจะซัดกับพ่อจากอีกโลกของนายให้กลายเป็นขนมเปียกปูนแล้ว
Ben Grimm: ใช้ไปซักพักเดี๋ยวก็เฟี้ยว
Reed: เอ่อ Victor โทษนะ……
Reed: แต่แกไปหาไอ้ของที่ใช้ใส่พวกพลังงานนิวเคลียร์พวกนี้จากไหนเนี่ย?
Reed: นายไปขโมยมาเรอะ?
Victor: ก็ตอนช่วงฤดูใบไม้ร่วงที่ผ่าน
Victor: ชั้นไปกินข้าวกับ Oppenheimer (บิดาแห่งปรมาณู) มา
Victor: แล้วก็ค่อยๆอ่านใจพี่แกที่เหมือนหมูในอวยของชั้น
Victor: ไม่นานจากนั้น พวกเราก็ทานของหวานกัน
Victor: พี่แกก็ค่อยๆคลายความลับเล็กๆน้อยๆ
Victor: ที่พี่แกเก็บเอาไว้ในหัวอ่อนๆของออกมาจนหมด
Reed: เฮ้ย ทำได้ไงน่ะ?
Victor: ก็ด้วยความช่วยเหลือจากตัวต้นแบบของไอ้หน้ากากนี่
ในขณะที่ Reed ถาม Victor ก็เอาหน้ากากพิเศษของเขามาใส่เข้ากับหัวของตน
หน้ากากที่ดูๆแล้วมะล้ายคล้ายหน้ากากของ Dr.Doom ในปัจจุบันก็ไม่ปาน
Victor: แต่ในรุ่นใหม่นี้ ไม่เพียงแต่จะทำให้ชั้นอ่านใจได้เท่านั้น
Victor: ชั้นยังสามารถเข้าไปเปลี่ยนแปลงหรือควบคุมร่างกาย
Victor: เพื่อให้ทำตามที่ชั้นต้องการได้
Victor: เหมือนที่ซักวันชั้นจะทำกับมนุษย์ทุกคน
เมื่อ Victor พรรณาอุปกรอันแสนอันตรายของเขาจบ Natheniel ก็ใช้พลังของตนเปิดประตูมิติขึ้นมา
เอาล่ะ ได้เวลาไปกันแล้ว!!
เรื่องราวตัดมาที่ยุคปัจจุบัน
ที่ตึก Baxter
ระดับการสั่นสะเทือนของกาลเวลา (Timequake):
–ระดับสีแดง–
บางสิ่งบางอย่างกำลังจะโผล่ออกมาที่ข้างหลังของ Susan Strom Richards หรือ Invisible Woman
ตูมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมม!
“หวัดดีค่า”
Invisible Woman: เธอเป็น…..
Valeria: อ๊ะ อย่าเพิ่งขยับไปไหนนะคะ
Valeria: ขอความเป็นส่วนตัวแป๊ป
ว่าแล้ว Valeria ก็กางม่านพลังแบบเดียวกับที่ Franklin เคยใช้
คลุมพื้นที่ของห้องเพื่อไม่ให้ใครเข้ามา
Invisible Woman: เธอเป็นใคร? ต้องการอะไรกันแน่?
Valeria: หนูว่า เราสองคนมาคุยกั…
ตูมมมมมมมมมม!!!
ไม่ทันที่ Valeria จะพดอะไรต่อ Susan ก็ซัดพลังของเธอใส่จนติดกำแพง
Valeria: โอ้ยยยยยยยยยยยยยยยยยย
Invisible Woman: เอ้าพูดมาสิ
Valeria: จะพูดเลยมันก็ได้หรอกค่ะ แต่
Valeria: ถ้า แม่ จะไม่ว่าอะไรนะ
Valeria: ใจคอจะไม่คิดจะทำชาให้หนูดื่มหน่อยเหรอคะ?
คำพูดนั้น ทำให้ Susan ถึงกับอึ้ง
Invisible Woman: พระช่วย!?
Invisible Woman: นั่น Val เหรอ!?
ตัดกลับมาที่อนาคต
Nathaniel: เอาล่ะ มาถึงแล้ว
Nathaniel: ประตูเชื่อมนี้จะเปิดทิ้งไว้ประมาณสิบนาทีนะ
Nathaniel: ถ้าพ่อคิดว่าอาจจะเกิดอะไรที่อันตรายเกินไปขึ้นมา
Nathaniel: ถ้าพอบอกให้ลูกๆหนีไป หนูๆทั้งสามคนต้องรีบกลับมาที่นี่
Nathaniel: แล้วกระโดดกลับไปที่เดิมทันที
Nathaniel: เราเข้าใจกันดีแล้วใช่มั๊ย?
Reed: ชัดแจ๋วเต็มสองหูเลยครับพ่อ
Nathaniel: เอาล่ะ เราจะมุ่งไปกันทางนี้
Reed: ที่นี่ที่ไหนหรือครับ?
Nathaniel: ที่นี่คือ ซาก เมือง Cronopolis ที่ล่มสลาย
Nathaniel: ตัวพ่ออีกคนใช้เวลามากมายไปกับการเก็บรวบรวม
Nathaniel: อุปกรณ์จากช่วงเวลาต่างๆก่อนหน้ามากมาย
Nathaniel: ตัวพ่ออีกคนคิดว่าตัวเองคือ นักสะสม
Nathaniel: ผู้พิทักษ์และเก็บรวบรวมประวัติศาสตร์ของมวลมนุษยชาติ
Victor: อืม ตามทฤษฎีฟังดูมันก็ดีอ่ะนะ แต่พอทำเข้าจริงๆนี่ ดู…….
Ben Grimm: น่าสยองชวนอ้วก
Ben Grimm: คำที่แกกำลังนึกอยู่ คือคำว่า สยองชวนอ้วก
Reed: แล้วใครที่…
Reed: คุณพระช่วย นั่นมันอะไรน่ะ
Nathaniel: ตัวพ่ออีกคนเป็นคนบ้าวิกลจริตน่ะลูก
Nathaniel: แล้วนั่นก็เป็นที่ที่เขาอยู่
The Fortress
(ปราการ)
ซักพักต่อมา ทั้งหมดต่างเดินเข้าไปข้างใน The Fortress
Nathaniel: เอาล่ะ พ่อรู้สึกได้ว่ามันอยู่แถวๆนี้
Nathaniel: ระยะใกล้แบบนี้ พวกเราคงได้ฉะกันเร็วๆนี้แน่
Nathaniel: ทุกๆคนระวังตัวด้วยนะ
Ben Grimm: เฮ้ย! ไอ้น้อง
Ben Grimm: ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นอยู่ใกล้พี่เข้าไว้ล่ะ
Ben Grimm: เดี๋ยวพี่ระวังหลังให้เอง
Reed: ทางนี้ก็เหมือนกัน Ben
Victor: เฮ้ย พวกเอ็งสองคนช่วยหยุดสวีทกันหน่อยได้มะ?
Victor: ชั้นกำลัง……
Victor ใช้หมวกพลังจิตของเขาตรวจหาศัตรูแต่ทว่า…
Victor: โอ้ มันมาที่นี่แล้ว!
??? ?????: ถูกต้อง ชั้นมาแล้ว
“และตอนนี้ เรามาจบ The Great Hunt กันได้แล้ว”
Nathaniel ปะทะ Nathaniel!
Fantastic Four #582 The Great Hunt
บทสรุปของ The Great Hunt จะเป็นเช่นไร?
แล้ว Valeria มาหา Susan เพื่ออะไร?
เชิญอ่านต่อได้ที่หน้า 2 เลยคร้าบ!!
สนุกขิงๆ
ไอหลานพวกนี้ เก่ง เกรียน มีกึ๋น
-0-
สุดยอดครับ
สรุปตอนจบ ก็กลับไปสู่ก่อนจุดเริ่มต้น
….เปลั้ยนมุกบ้างได้มั้ย เบื่อคิด”ล้ำ”แล้วนะ= =”
อ่าน F4 แล้วยอมรับว่า มึนที่ สุด ใน หัวเรื่อง ทั้งหมดของ marvel แล้ว
อ่านข้ามแทบทุกช่องเลย555 งง ไม่เข้าใจภาษา
ตกลงนี่มันจักรวาลไหนฟะ นี่ถึงขั้นเอาอดีตเก่าๆ อย่างยุคตารี้ดกำลังเรียนมาเล่นใหม่อีกเรอะเนี่ย
จะว่าไป Nathaniel ก็ไม่ใช่พ่อรีด ทุกจักรวาลนะ พ่อจักรวาล Ultimate ชื่อ Gary Richards
ฮา มึนกันท่วนหน้าครับ อันที่เหตุการณ์นี้เป็นเหตการณ์ที่สำคัญกับเนื้อเรื่องช่วงหลังมากๆครับ
แต่เดี๋ยวติดตามเรื่องที่ผมสปอยไปนี้ ก็จะรู้เองครับ
@bankkung เรื่องนี้เป็นเนื้อเรื่องในจักรวาลหลักครับ เรียกว่าเป็น The untold story จะดีกว่า
@lucaman ถูกครัฟ แต่น่าสนใจที่ชื่อจริงของ เกรียน Reed ใน Ultimate ชื่อ Reed Nathaniel Richards ซะงั้นนะ รวมมิตรมันซะเลยฮา
ระดับของภัยพิบัติในเรื่อง FF นี่มันทำให้ Event ใหญ่อย่าง AVsX นี่มันกลายเป็นเรื่องจิ๊บจ๊อยไปเลยจริงๆแฮะ
สนุกมาก
ขอบคุณมากครับ
Hickman เขียนเรื่อง Time-Space เนียนมาก เจ้าพ่อไซไฟจริงๆ
แต่สงสัยว่าทำไมตอนเทสล่าระเบิด มันไม่ดึง รีด จาก อัลติเมท มาด้วยหว่า
แถมมาอยู่ในยุคที่ Immortus ครองโลกอีก อีกหน่อยมาร์เวลต้องเล่นอะไรเกี่ยวกับกำเนิดนาธาเนียลแห่งอนาคตคนนี้แหงๆ
นาธาเนียล –> Iron Lad –> Kang The Conqueror –> Immortus
ปล.คราวหน้าคุณ DOL แยกเป็น 2 โพสไปเลยก็ได้นะ ลงเต็มๆ เล่มอย่างนี้แท้ๆ ไม่ต้องกลัวมันดันตกหน้าหรอก 😀
มึนเลยสั้น ๆ (@_@
@doc_holiday พอดี ผมจะลงอีกเล่มนึงเลยครับ เลยกลัวว่า ถ้าลงไปเลย 3 เล่ม มันจะไปดันเรื่องคนอื่นตกน่ะครับ เลยรวบมันซะ 1 เล่ม จะได้ไม่เยอะเกิน ฮา