กลับมาอีกครั้งกับการ Breakdown คราวนี้เป็นตัวอย่าง TV Spot สองอันแรก บทความนี้เป็นผลงานของ Kolonel ครับผมไม่ได้มีส่วนเอี่ยวนะเอามาลงแล้วจับภาพมาใส่อย่างเดียว 😀

Liberation

“การปลดปล่อยนครกอทแธม” ดูเหมือนจะเป็นเป้าหมายของเบน แต่ทำไมเขาจะต้องปลดมัน? เขาจะปลดปล่อยมันจากอะไร? จากกฏระเบียบ จากสิ่งที่เคยเป็น? ปลดปล่อยเมืองสู่ความวุ่นวายสับสน? หรือเขามีเป้าหมายๆคล้ายๆโจ๊กเกอร์ ซึ่งเป็นตัวร้ายภาคที่แล้ว? (เอาเข้าจริงเสียงพูดประโยคนี้ก็เหมือนเสียงโจ๊กเกอร์อยู่) หรือเขาจะปลอดปล่อยเมืองสู่ “ความอิสระที่แท้จริง” ในความหมายของเบนเองกัน?

ไม่รู้นะ ส่วนตัวแอบนึกถึงหนัง V for Vendetta ที่ V พยายามปลดแอกเมือง ออกจากการปกครองอย่างเผด็จการ แต่ในเมื่อกอทแธมนี้ไม่มีรัฐบาลเผด็จการ ประชาชนไม่ได้ถูกปิดหูปิดตา (ไม่เชิงหรอกเพราะยังถูกทำให้เข้าใจว่าแบทแมนเป็นอาชญากร ฮาร์วีย์ เดนท์เป็นฮีโร่อยู่เลย) แล้วเบนจะปลดมันทำไม?

The Game

ดูเหมือนเป้าหมายอีกอย่างของเบนคือการล่อให้แบทแมนออกมาร่วม “เกม” ซึ่งเขาได้สร้างขึ้นมาเพื่อบีบคั้นอัศวินรัตติกาลโดยเฉพาะ อย่างที่พูดไปในคราวที่แล้วว่าฉลาดแบบเบนน่าจะรู้ ว่าชีวิตของบรูซคือกอทแธม ดังนั้นถ้าเขาทำลายมันไปเรื่อยๆ คงจะได้เจอแบทแมนแน่

ทำไมเขาถึงอยากเจอแบทแมน ด้วยความแค้นหรือเปล่า? เพราะเทรลเลอร์ที่แล้ว เมื่อเจอกัน เขาก็ปล่อยให้บรูซทรมาณ และทิ้งท้ายคำพูดว่า “นายต้องได้รับโทษที่สาสมมากกว่านี้”

The Skin I Live In

จากบทเริ่มต้นของโฆษณาที่สอง งานเต้นรำของบรูซกับเซลิน่า ฝ่ายชายพูดเป็นนัยๆถึงชุดยั่วเย้าและแมวขโมย ส่วนฝ่ายหญิงก็ตอบไปอย่างไม่สะทกสะท้านและถามกลับไปอีกว่า “แล้วนายเองล่ะ แสร้งเป็นตัวอะไรอยู่?” ดูเหมือนทั้งสองคงรู้ว่าคนตรงหน้า มีอีกตัวตนหนึ่งใต้หน้ากาก แต่ไม่มีใครดูตกใจเลยว่ามีคนรู้ว่าตนเป็นใคร หรือเป็นเพราะทั้งคู่มันใจว่าคนตรงหน้า”รู้” แต่”รู้ไม่จริง”?

แต่ความจริงของแบทแมนกับแคทวูแมนนั้น คือสิ่งที่เรายังต้องรอดูต่อไป

Born and Rise in Hell on Earth

อัลเฟรดกล่าวโดยไม่หันไปมองคู่สนทนาอย่างมีนัยยะว่า “เกิดและเติบโตในนรกบนดิน” ส่วนตัวเราคิดว่าเขากำลังพูดถึงคุณหนูบรูซ ผู้เกิดและโตในนครกอทแธม ซึ่งเป็นนครแห่งบาป เปรียบเหมือนนรกบนดิน ไฟลุกโหมอยู่เสมอกาล ไม่เคยมีวันสงบสุข จนเมื่อใครบางคน ใส่เครื่องแบบและเดินไปในใจกลางนรก เพื่อหยุดผู้จุดไฟนั้น…

 

My Wife!?

ขาดไม่ได้กับมุขแถมถ้าย ที่คราวนี้แคทวูแมน หรือเซลิน่ายังคงเป็นคนเล่นเช่นเดิม โดยการไปบอกบริกรว่าเธอเป็นภรรยาของบรูซ แล้วจากนั้นก็ขับรถลัมโบกินีสุดหรูด้วยรอยยิ้มเผ่นไปแบบเนียนๆ ทิ้งให้เจ้าของตัวจริงงงเป็นค้างคาวตาแตกว่า “รถหายไปไหน?” และ “ตรูมีเมียตั้งแต่เมื่อไหร่กันวะ!?”

บทนี้แสดงให้เห็นถึงความฉลาดปนเจ้าเล่ห์ของตัวละคร ที่หลอกล่อผู้อื่นด้วยคำพูดง่ายๆ แต่ได้ผลชะงัด ซึ่งขาดว่าต่อๆไปคงมีอะไรแบบนี้โผล่มาในหนังอีกเป็นระยะๆ และเผลอๆ เธอจะเป็นตัวปล่อยมุขอะไรประมาณนี้ด้วยนี่ซิ! (ฮา)

บทความโดย

KOLONEL