FLASHPOINT: Deadman & the Flying Graysons #1

DC Comic : FLASHPOINT : Deadman & the Flying Graysons 01 : Life on the road

เรื่อง : J.T. Krul
ภาพ : Mikel Janin
วางจำหน่าย: 15 มิถุนายน 2011
สำนักพิมพ์ : DC Comics

คณะละครสัตว์จากอเมริกาที่ติดแหง็กอยู่ในยุโรป โดยที่ไม่สามารถกลับบ้านได้ ต้องออกเดินสายแสดงเพื่อหาเลี้ยงชีพ แต่ตอนนี้พวกเขากำลังจะโดนดึงเข้าไปสู่เรื่องยุ่งยาก เมื่อ 1 ในขั้วอำนาจใหญ่กำลังตามล่าตัว 1 ในสมาชิกของพวกเขา!!

ที่ Kufstein เมืองเล็กๆในประเทศ Austria

คณะละครสัตว์ Haley Circus ได้มาเปิดการแสดง

“ฉันไม่เคยเข้าใจว่าทำไมคนถึงชอบพวกตัวประหลาดกันนัก”

“ไม่เข้าใจว่าแม้แต่ว่าทำไมผู้คนถึงให้ความสนใจพวกนั้นเลยด้วยซ้ำ”

“ก็ในเมื่อพวกนั้นก็แค่นั่งอยู่เฉยๆ”

“ไม่ว่าจะบนเวที หรืออยู่ในโหล ไม่ว่าจะอยู่หรือจะตาย…มันต่างกันตรงไหน?”

“แต่เมื่อผู้คนเห็นเจ้าพวกนั้นไปแล้ว ก็จบแค่นั้น ความแปลกใหม่หมดไป ไม่มีใครกลับมาดูเป็นรอบที่สอง”

(คนซ้ายสุดคือ Rag Doll (Peter Merkel, Jr.) ใน Time-Line หลักเขาเป็นวายร้ายที่เปลี่ยนข้อต่อทุกส่วนของร่างกายเป็นของเทียม ที่ทำให้เขาสามารถบิดและดัดส่วนต่างๆได้อย่างชนิดที่มนุษย์ธรรมดาไม่มีทางทำได้)

(ตรงกลางคือ King Shark (Nanaue) เป็นมนุษย์ครึ่งฉลามที่สืบสายเลือดจากเทพเจ้าโบราณของชาวฮาวาย เคยเป็นศัตรูกับ Superboy)

(ส่วนคนขวาสุดนั้นจะพูดถึงในภายหลัง)

“คืองี้นะ…แค่ดูขนาดเต้นท์ก็รู้ได้แล้วว่าใครเป็นของแถม…”

“และใครคือตัวเรียกคนดูของแท้”

ในเต้นหลักของคณะละครสัตว์ เหล่านักกายกรรมเหินเวหา กำลังแสดงลีลากันอย่างเต็มที่

เหล่านักกายกรรมนั้นประกอบด้วย Deadman (Boston Brand) และทีม Flying Graysons ที่ประกอบด้วยพ่อแม่ลูก John, Mary และ Dick Grayson

(Deadman ใน Time-Line หลักเป็นนักกายกรรมที่โดนฆ่าตาย และเขาก็กลับมาในฐานะวิญญาณที่ไร้ร่าง และใช้วิธีเข้าสิงร่างของคนในการต่อสู้กับเหล่าร้าย ส่วนใหญ่มักจะทำงานร่วมกับพวกฮีโร่ที่ใช้เวทย์มนต์ได้ เพราะพวกนี้มักสามารถมองเขาที่เป็นร่างวิญญาณได้)

(Dick Greyson ใน Time-Line หลักนั้นหลังจากพ่อแม่ของเขาโดนวายร้ายฆ่าตาย เขาก็ถูกรับเลี้ยงโดย Bruce Wayne และต่อมาเขาก็มาเป็น Robin คนแรก ก่อนจะเปลี่ยนไปใช้ชื่อว่า Nightwing จนล่าสุดเขาก็ได้มาเป็น Batman แทน Bruce ในช่วงที่ Bruce โดน Darkseid ส่งไปติดอยู่ในยุคอดีต ซึ่งเขาก็เป็นมาจนถึงปัจจุบัน แม้ว่า Bruce จะกลับมาแล้วก็ตาม)

การแสดงอันน่าตื่นตาตื่นใจของ Flying Grayson นั้นทำให้คนดูเพลิดเพลินจนไม่อาจจะละสายตาไปจากพวกเขาได้

แต่แม้จะเป็นนักกายกรรมเหิญเวหาเหมือนกัน แต่สไตล์ของ Deadman กลับต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง

“พวกเกรย์สันวูบไปวูบมาเหมือนนักเต้นที่กำลังร่ายรำอยู่ ทำให้ผู้ชมยิ้มออกมาด้วยความเพลิดเพลิน”

“พวกนั้นคิดผิดไปแล้ว ไอ้การทำให้คนดูยิ้มน่ะมันเป็นงานของตัวตลกต่างหาก”

“และฉันก็ไม่ใช่ตัวตลกด้วย”

“ฉันต้องก่ารให้ผู้ชมร้องและอุทานออกมาด้วยความเสียวไส้”

“ให้พวกนั้นเห็นฉันเผชิญหน้ากับความเป็นความตาย…”

“และเดินหนีออกมาได้อย่างสง่างาม”

“นั่นแหละคือเกมที่ฉันเล่น”

“และฉันก็ชนะเสมอมา”

เมื่อการแสดงจบลง คณะละครสัตว์ก็เตรียมไปต่อ ซึ่งนายกเทศมาตรีของเมืองนี้ก็มาคุยกับหัวหน้าคณะ

Mayor : แหม…คุณไม่ได้พูดเกินจริงเลยนะเนี่ย โชว์ของคุณนี่สุดยอดจริงๆ

Haley : ขอบคุณครับ การทำได้ดีกว่าที่คนดูคาดคิดไว้ เป็นสิ่งที่เราถนัดอยู่แล้วครับท่านนายกเทศมนตรี

Mayor : มันดีมากเลยนะที่ได้เห็นผู้คนยิ้มออกได้อีกครั้ง ตั้งแต่สงครามเริ่มขึ้น มันก็ดูเหมือนกับว่าเมฆดำมันปกคลุมอยู่เหนือพวกเรา แย่หน่อยที่คุณอยู่นานกว่านี้ไม่ได้

Haley : เมืองอื่นๆก็สมควรที่จะได้รับความสนุกแบบเดียวกันนี้เหมือนกันล่ะครับ แล้วก็เราอยากจะเคลื่อนย้ายไปเรื่อยๆด้วย โดยเฉพาะในสถานการณ์แบบนี้

Mayor : อย่างผมนี่ไม่คิดว่าจะสามารถทำตัวให้ชินกับการเดินทางไปเรื่อยๆแบบคุณได้นะ ผมมันเป็นพวกคนติดที่เสียมากกว่า ก็อย่างที่คุณเห็นนี่แหละ แล้วคุณไม่คิดว่าจะลงหลักปักฐานบ้างหรือ…แบบว่าให้มีที่ๆคุณจะเรียกว่าบ้านบ้างน่ะ?

Haley : เรามีบ้านอยู่แล้วครับท่านนายกเทศมนตรี เรามีกันและกัน

Haley : คณะละครสัตว์นี้ก็คือบ้านของเราล่ะครับ

ขณะที่คนในคณะละครสัตว์กำลังเก็บข้าวของกันอยู่ ครอบครัว Greyson ก็เข้าช่วยคนอื่นอย่างไม่มีการเกี่ยงงอน

แต่เมื่อ Boston Brand เดินผ่านมา

Boston : พวกนายทำอะไรอยู่น่ะ? ฉันนึกว่าพวกนายเก็บของกันเรียบร้อยแล้วเสียอีก

John : ของเราเองน่ะเสร็จแล้วล่ะ แต่ยังมีงานอื่นให้ทำอีกตั้งเยอะนี่

Mary : ทำไมนายไม่มาช่วยอีกแรงล่ะบอสตัน? ทุกคนต่างก็เหนื่อยกันทั้งนั้น นี่มันเป็นเวลาที่ต้องช่วยเหลือกันนะ

Boston : ฉันไม่ยอมเสี่ยงที่จะทำให้ชุดแสดงของฉันฉีกขาดหรอก หรือถ้ามือฉันบาดเจ็บมันก็จะยิ่งแย่ไปกว่านั้นอีก

Boston : ถ้าไม่มีเดดแมน คณะละครสัตว์นี่ก็ไปไม่รอดแน่ แล้วถ้าเป็นอย่างนั้นเราจะมีอะไรกินกันล่ะ?

(ไม่ต้องแปลกใจกับนิสัยของ Boston หรอกครับ เพราะใน Time-Line หลักนั้น ต้องรอให้ตานี่ตายไปรอบก่อนโน่นแน่ะถึงจะเป็นคนดีขึ้นมาได้)

Dick : เขาควรจะระวังคอเขาไว้บ้างนะ เพราะถ้าหน้าเขาใหญ่กว่านี้ล่ะก็ได้คอหักตายกันแน่

John : อย่าไปสนใจเลยลูก บอสตันก็แค่ทำตัวอย่างเคยเท่านั้นแหละ

Mary : คุณพูดอย่างกับว่านั่นใช้เป็นข้ออ้างได้อย่างนั้นแหละ

Mary : เขาเป็นคนเห็นแก่ตัว หลงตัวเอง แล้วก็อีโก้แรงสุดๆ ฟังดูอาจหนักไปหน่อยแต่บอสตันเขาก็มีครบหมดนั่นจริงๆ

John : เขาเป็นนักแสดงเดี่ยว อยู่คนเดียวตลอดเวลา ไม่เคยแบ่งปันประสบการณ์แก่กันและกันเหมือนกับที่เราทำ ไม่เคยที่จะสามารถพึ่งพาใครได้ พ่อแม่เขาก็ตายหมดแล้ว แถมยังเป็นลูกโทนด้วย

Dick : เดี๋ยวสิพ่อ…ผมก็เป็นลูกโทนเหมือนกันนะ แต่ผมไม่เหมือนบอสตันเสียหน่อย

Mary : ก็เพราะลูกเป็นลูกของพวกเราไงล่ะ

John : เราช่วยดึงให้ลูกเป็นคนติดดินอยู่เสมอไงล่ะ

Dick : แหงล่ะพ่อ แต่ไอ้ติดดินที่ว่ามันอยู่สูงจากพื้นไปสี่สิบฟุตน่ะนะ

คณะละครสัตว์ Haley Circus ออกเดินสายการแสดงอยู่ในยุโรป ส่วนที่ยังหลงเหลือจากการทำลายล้างของ Atlantis ที่จมยุโรปส่วนตะวันตกไป ซึ่งพวกเขาพยายามจะเลือกอยู่ในแผ่นดินให้ลึกเข้าไว้ เพื่ออยู่ห่างจากจุดปะทะระหว่าง Atlantis และ Amazon ให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้

ขณะกำลังเดินทาง สมาชิกคนหนึ่งของคณะละครที่ชื่อ Kent Nelson ดูเหมือนกำลังคิดอะไรบางอย่าง รวมถึงพูดอะไรแปลกๆออกมา

Kent : สายฟ้าสามารถผ่าซ้ำที่เดิมได้จริงๆนั่นแหละแบรี่…

เขาเห็นภาพนิมิตร ของสิ่งที่เกิดขึ้นในเวลานี้ และห้วงเวลาอื่นที่ต่างออกไป…

“สงครามอมาซอนที่กำลังจะกลืนกินโลกใบนี้”

“โชคชะตาหนึ่งถูกละเลยไป”

“ฮีโร่ผู้หนึ่งเดิมพันทุกสิ่งเพื่อการเกิดใหม่อีกครั้ง”

“กลุ่มผู้กล้าที่ไม่มีวันได้มารวมกัน”

“และวิญญาณหลงทางดวงหนึ่งที่ได้พบที่ๆเขาสมควรอยู่”

Kent : …เธอพูดถูกนะแมรี่ เขาเหมือนนกโรบินจริงๆนั่นแหละ

(Doctor Fate (Kent Nelson) ใน Time-Line หลักเขาเป็นจอมเวทย์ระดับสูง อยู่ในทีม Justice Society of America พลังเวทย์ของเขามีต้นกำเนิดมาจาก Helmet of Nabu ที่เขาสวมอยู่)

หลังจากนั้น คณะก็มาเปิดการแสดงในเมือง Kalisz ประเทศ Poland

ขณะที่ทุกคนทำงานเพื่อเตรียมสถานที่ แม้แต่ Boston ก็ยังเข้ามาช่วยด้วย แต่เมื่อเขาเหลือบไปเห็น Kent กำลังนั่งอยู่เฉยๆ

เมื่อเห็นว่า Kent กำลังหลับอยู่ Boston ก็เอื้อมมือจะไปจับหมวกของเขา

แต่ทันใดนั้นจู่ๆมือของ Kent ก็คว้าข้อมือของ Boston พร้อมกับมีเสียงขึ้นในหัวเขา พร้อมด้วยภาพนิมิตรบางอย่าง

{เจ้าจะถูกหลอกหลอน}

{ความตายจะตามหลอกหลอนเจ้า บอสตันแบรนด์}

Boston : มะ…เมื่อกี้มันอะไรกันน่ะ? ฉันได้ยินเสียง ฉัน..ฉัน…

Boston : นั่นมันดิค เขา….

Boston : ช่างหัวนายไปเถอะเคนท์ นายจัดการกับโปสเตอร์ของนายเอาเองแล้วกัน…เจ้าตัวพิลึกเอ๊ย

ตัดกลับไปที่ Kufstein

เมืองกำลังถูกโจมตี

มันเป็นฝีมือของหน่วยรบชาว Amazon!!

พวกมันกำลังตามหา Helmet of Nabu?!

นี่มันเรื่องอะไรกันแน่?!

ตัดกลับมาที่ Poland

Boston กำลังคุยกับ Dick ก่อนการแสดงจะเริ่ม

Boston : ฉันไม่เข้าใจนายเลยนะดิค

Dick : ฉันมันคนง่ายๆจะตายไป นายเห็นยังไงก็เป็นอย่างนั้นนั่นแหละ

Boston : นายเป็นคนเก่ง เก่งมากๆเลยด้วย

Dick : ฟังดูเหมือนนายกำลังชมฉันอยู่นะเนี่ย ใจเย็นๆหน่อยไหมบอสตัน นายพูดไม่สมกับเป็นนายเลยนี่

Boston : ถึงจะเทียบกับฉันไม่ได้ก็เถอะ แต่นายเป็นคนมีพรสวรรค์นะ

Dick : นั่นแหละค่อยฟังดูสมเป็นนายหน่อย

Boston : นายสามารถจะทำได้ดีกว่านี้อีกมาก เหมือนกับฉันนี่ แสดงแบบไม่ต้องมีตาข่าย และไม่ต้องแสดงร่วมกับพ่อแม่ของนายด้วย พวกนั้นอายุมากแล้วนะ พวกเขาจะเป็นตัวถ่วงนาย

Dick : ฉันไม่ยักเห็นเป็นแบบนั้นนะ

Boston : ถ้างั้นนายก็คงตาบอดไปแล้วล่ะ

Dick : ในตอนที่ฉันขึ้นไปอยู่บนนั้นน่ะนะบอสตัน ทุกครั้งที่โดด ทุกครั้งที่จับมือกัน…ครอบครัวของฉันก็จะอยู่ตรงนั้นเพื่อฉันเสมอ ฉันไม่เคยโดดเดี่ยว นายคิดว่าที่นายไม่กลัวอะไรเป็นเพราะนายแสดงเดี่ยวงั้นเหรอ? มันอาจเป็นเพราะว่านายกลัวที่จะให้คนอื่นกระโดดร่วมกับนายก็ได้

Dick : หรือไม่นายก็อาจจะกลัวว่าจะไม่มีใครยอมรับนายก็ได้

Haley : ท่านสุภาพสตรีแสะสุภาพบุรุษ! และเด็กๆทุกเพศทุกวัย! ขอต้อนรับทุกท่านสู่การแสดงที่ตื่นตาตื่นใจที่สุดบนโลกนี้!

Mary : โอเค ตระกูลเกรย์สันทั้งหลาย เราจะแสดงกันยังไง?

John : ด้วยความสง่างาม

Mary : เราจะบินกันยังไง?

Dick : ให้เหมือนกับนก

Mary : แล้วเราจะกลับลงพื้นกันยังไง?

ทั้งสามคน : ลงด้วยกัน

Haley : จงเตรียมตัวที่จะตื่นเต้น! จงเตรียมตัวที่จะตกตะลึง!

Haley : จงเตรียมตัวที่จะสนุกจนหลุดโลกไปเลย!

โดยไม่มีใครรู้ จากบนฟ้าเบื้องบน เหล่านักรบ Amazon ที่ดุร้ายกำลังดิ่งลงมาแล้ว!!

โปรดติดตามตอนต่อไป : กับการแสดงครั้งสุดท้ายของตระกูลเกรย์สัน!!

12 thoughts on “FLASHPOINT: Deadman & the Flying Graysons #1

  1. jame

    แปลว่าDoctor Fateยังจำได้จากภาพนิมิตอีกคนแล้ว

    คราวนี้ บอสตันคงตายอีกรอบแหงมๆ

    ที่บอกว่าฮีโร่ที่จะมาช่วยมีอยู่แค่หายากจากคำทำนายถ้าจะจริงแฮะ

  2. Gothic

    พอมาอ่านเล่มนี้ผมเริ่มเดาทาง Flashpoint ได้แฮะ

    ประมาณว่าทุกอย่างไม่สามารถแก้กลับไปได้เหมือนเดิมอย่างสมบูรณ์ เลยต้องกลับไปยังจุดเริ่มต้นเพื่อเริ่มต้นประวัติศาสตร์ใหม่ทั้งหมด(รีบูท)

    แล้วถ้ากระแสตอบรับดีก็ปล่อยไป แต่ถ้าไม่ดีก็ทำเป็นว่ามีบางคนระลึกชาติได้

  3. Boatmaster

    ปกแหวกแนวมากครับ ชอบเลยๆๆ

    ปล. ดราม่าอีกแล้ว ครอบครัวเกรย์สันจะตกมาตายหรือไม่ เอวังด้วยประการเ่ช่นนี้

  4. 13Hatesong

    ชอบลายเส้นจัง
    ชอบตัวละคร ทั้งบอสตัน ทั้ง ตระกูลเกรย์สัน เท่มากๆ

  5. GhostRider

    FLASH POINT – คงจะมีเส้นเวลาของบางคนที่กลับไปเส้นเวลาเดิมไม่ได้อีกแล้ว แต่บางคนยังเห็นเส้นเวลาอื่น หรือ นิมิต หรือ ภาพแว้บแว้บ
    ยังมี Key point อยู่ที่นักท่องเวลาที่ชื่อ Booster gold และ Barth Allen ผมว่าสองคนนี้มาแน่ๆ

  6. BlueWing

    เป็นอย่างที่คิดไว้จริงๆ Diana ตัดหัว Mera แล้วเอาหมวกมาใส่เย้ย Arthur

  7. hellboy_bank

    เห็นด้วยกะคุณ Gothic ครับ แต่ผมจะรู้สึกดีมากเลยถ้ากระแสตอบรับดีแล้วปล่อยไปเลย

  8. ggg3

    มีลางสังหรณ์ว่า พ่อแม่ดิค มันจะตายตอนหน้าแฮะ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *