เรื่อง : Brian Azzarello, Jeff Lemire, Dan Jurgens, Keith Giffen
ภาพ : Jesus Merino and Dan Green
วางจำหน่าย: 14 พฤษภาคม 2014
สำนักพิมพ์ : DC Comics
เมื่อผู้กล้าสิ้นชีพลง ก็ต้องมีการจัดงานไว้อาลัยเพื่อเป็นเกียรติ์แก่เขา แต่คลื่นใต้น้ำกำลังก่อตัวขึ้นอย่างเงียบๆ
.
.
.
เปิดฉากมาที่ Firestorm กำลังบินไปยังสถานที่แห่งหนึ่ง
จิตทั้งสองของ Firestorm คือ Ronnie Raymond และ Jason Rush กำลังเถียงกันเรื่องที่ว่ามันเป็นความผิดของ Ronnie ที่ทำให้พวกเขาไปถึงที่เกิดเหตุสายเกินไป และเป็นเหตุให้เขาต้องมาในวันนี้
ไปยังงานศพของ Hero แห่งเมือง Seatle
ในบรรดาพวกที่มาร่วมงานศพก็มี มหาเศรษฐีหมื่นล้าน Mr.Terrific (Micheal Holt) และผู้ติดตามของเขาด้วย
และเมื่อคนเดินถนนมากมายจนรถไปต่อไม่ได้…
Mr.Terrific ก็ออกมาโชว์ตัวต่อสื่อมวลชน
ซึ่งแม้จะโดนคำถามชวนหาเรื่องเขาก็ตอบอย่างชิลๆไม่ทุกข์ไม่ร้อน
เมื่อผ่านฝูงนักข่าวมาได้ Mr.Terrific ก็พบกับ Aquaman (Arthur Curry)
(ชุดใหม่ดูดีไม่เลวนี่นะอาเธอร
โดย Aquaman แขวะ Mr.Terrific ว่าชอบทำตัวเด่นต่อหน้านักข่าวอยู่เรื่อย แต่ Mr.Terrific โต้ว่าเขาทำหน้าที่เป็นคนรับหน้าต่อสื่อมวลชนแทนพวกฮีโร่คนอื่นๆต่างหาก และเป็นเพราะเขาคอยออกหน้าให้ถึงทำให้ความเชื่อมั่นที่สังคมมีต่อพวกฮีโร่ยังคงมีอยู่ได้
แม้ Aquaman มีท่าทีไม่เห็นด้วยนักแต่ก็ไม่ได้เถียงเหมือนกัน
Mr.Terrific ดูออกว่าอีกฝ่ายไม่ชอบวิธีการทำงานของเขา และก็บอกออกมาตรงๆเหมือนกันว่าตัวเขาก็ไม่สนใจว่าอีกฝ่ายคิดยังไงกับเขาด้วยเหมือนกัน
ตัดมาที่ New York City
Batman Beyond (Terry Mcginnis) กำลังอยู่หน้าตึก Terrifitec บริษัทของ Mr.Terrific
Batman Beyond : มันอยู่ข้างในนี้สินะ
[ไม่ใช่ครับ ตอนนี้บราเธอร์อายอยู่บนวงโคจรเหนือพื้นโลกแล้ว แต่มันถูกสร้างขึ้นในตึกนั้น]
[เจ้าดาวเทียมนั่นมันหยุดการทำงานมาตั้งแต่สงครามครั้งที่ผ่านมา คาดว่าถูกกองทัพผู้รุกรานทำให้ใช้งานไม่ได้]
Batman Beyond : นี่นายล้อเล่นหรือเปล่าน่ะ? เรามาถึงผิดช่วงเวลาแต่ดันมาถูกที่งั้นรึ?
[คุณพูดตรงดีมากครับ]
Batman Beyond : ถ้าอย่างนั้นภารกิจของเราในตอนนี้ก็คือการทำให้แน่ใจว่าบราเธอร์อายจะไม่มีวันกลับมาทำงานได้อีก
[ก็คงจะเป็นเช่นนั้นล่ะครับ]
Batman Beyond : งั้นมาเริ่มกันเลย ระบบการป้องกันของเทอร์ริฟิเทคเป็นยังไงบ้าง?
[ยอดเยี่ยมแต่ล้าสมัย ผมไม่มีปัญหากับการผ่านมันไปแน่]
Batman Beyond : แล้วเราจะต้องมองหาอะไรกันล่ะ
[ก็สิ่งที่นักสืบที่ดีทุกคนเขามองหากันนั่นแหละครับนายท่านเทอร์รี่…เบาะแสไงครับ]
Batman Beyond : ฉันเป็นทหารนะไม่ใช่นักสืบ…นายต้องเป็นคนเล็งเป้าให้ฉันไปให้ถูกทางนะ A.L.F.R.E.D.
[เราสามารถจัดการเรื่องนั้นได้ครับ]
ตัดไปที่ Seattle งานศพของ Green Arrow ก็กำลังจะเริ่มขึ้น
ผู้ที่ขึ้นมากล่าวไว้อาลัยคือ Animal Man (Buddy Baker)
Animal Man : เมื่อตอนที่ผมได้พบกับโอลิเวอร์ ควีนครั้งแรกนั้น…ผมทนเขาไม่ได้เลยด้วยซ้ำ ผมคิดว่าเขามันก็แค่ลูกคนรวยที่หยิ่งยะโสเท่านั้นเอง
Animal Man : ให้ตายสิ…ผมคิดผิดถนัดเลย
Animal Man : เหล่าคนที่มารวมกันอยู่ที่นี่คือสิ่งที่ยืนยันได้ว่าโอลิเวอร์ ควีนเป็นคนแบบไหน
Animal Man : และกรีนแอร์โร่วเป็นฮีโร่ที่ยอดเยี่ยมเพียงไร
Animal Man : ในฐานะแอนิมอลแมน ผมอยู่ในจัสติสลีกส์ร่วมกับกรีนแอร์โร่ว และแม้ผมจะไม่ชอบเขาในช่วงแรก แต่ต่อมาเขาก็…กลายมาเป็นเพื่อนสนิทของผม
Animal Man : การผจญภัยที่เรามีร่วมกันในตอนที่อยู่ในลีกส์นั้น ได้พาเราไปยังหลายๆโลก…ที่เราไม่เคยแม้แต่จะคิดฝันถึง
Animal Man : แต่ไม่ว่าเราจะเดินทางไปไกลขนาดไหนก็ตาม หัวใจของโอลลี่ก็อยู่ที่นี่เสมอ ในเมืองที่เขาสละชีวิตปกป้องนี้…หัวใจของเขาอยู่บนท้องถนนของเมืองนี้…กับผู้คนของเขา
Animal Man : เขาอาจเกิดมาเป็นคนรวย แต่โอลลี่ก็สูญเสียทั้งหมดนั้นไปหลังจากมาเป็นกรีนแอร์โร่วได้ไม่กี่ปี แต่เขาก็ไม่ปล่อยให้มันมาขวางทางเขา
Animal Man : เขาสร้างฐานะกลับขึ้นมาใหม่ และเขาก็ไม่ได้ใช้มันเพื่อตัวเอง แต่ใช้มันเพื่อสร้างที่พักพิงนี้ รวมถึงอีกหลายๆแห่งทั่วเมืองนี้
Animal Man : เขาใช้สติปัญญาและเทคโนโลยีที่เขามีในการสร้างทรัพยากรให้ใช้ฟรีเพื่อคนในเมืองนี้และทั่วทั้งโลก
Animal Man : แต่ไม่ว่าเขาจะทำอะไรก็ตาม หรือไม่ว่าเขาจะตอบแทนสังคมเท่าไหร่ก็ตาม โอลลี่ก็ต้องเจอคนดูแคลนอยู่ดี
Animal Man : มีหลายคนที่ปรามาสเขาว่าไม่ใช่ซุปเปอร์ฮีโร่ “ของจริง” ว่าเขาเป็นแค่คนรวยที่ใช้เครื่องมือไฮเทคและลูกธนูพิเศษเท่านั้น
Animal Man : คนพวกนั้นไม่รู้จักโอลิเวอร์ ควีนเลยสักนิด
Animal Man : เมื่อตอนที่อโพโคลิปส์ได้ไล่ล่าผู้เหลือรอดจากอีกโลกคู่ขนานมายังโลกของเรา…โอลลี่คือผู้ที่รวมเราเข้าด้วยกัน ไม่ใช่เพียงแค่ในระหว่างสงครามเท่านั้น แต่เขายังทำต่อไปหลังจากนั้นด้วย เมื่อตอนที่ความแตกต่างกำลังจะแยกเราออกจากกัน
Animal Man : เขาไม่มีพลังพิเศษใดๆที่จะใช้ปกป้องตัวเอง ไม่มีร่างกายคงกระพันจะป้องกันเขา…แต่กรีนแอร์โร่วก็เป็นคนที่ออกมาเป็นคนแรกเสมอ
Animal Man : เขาทำเพื่อเมืองของเขา
Animal Man : เขาทำเพื่อผู้คนของเขา
Animal Man : โอลิเวอร์ ควีนอาจเริ่มจากการเป็นลูกคนรวยที่หยิ่งยะโส แต่ยามที่เขาตายเขาตายเยี่ยงลูกผู้ชาย…ที่มีความกล้าหาญ, ความเมตตา และมีเกียรติ์ยิ่งกว่าพวกเราคนไหนๆ
Animal Man : …ไม่ว่าลูกธนูกลแบบไหนก็มีทางทำแบบนั้นได้
เมื่อพูดไว้อาลัยจบ Animal Man ก็เดินลงจากเวที
ตัดมาที่สถานีตำรวจในเมือง Charlotte รัฐ North Carolina
จนท.FBI ชื่อ King Faraday กำลังขอข้อมูลจากตำรวจท้องที่อยู่
และเมื่อพูดไล่สารวัตรออกไปอย่างนิ่มๆแล้ว “Faraday” ก็กดเปิดวิทยุสื่อสารที่ติดอยู่ที่หู
Faraday : อย่างน้อยหมอนั่นก็ไม่ได้ถามฉันว่าฉันชื่อ “คิง ฟาราเดย์” จริงๆหรือเปล่า ฉันเกลียดนักเวลามีคนถามเรื่องพรรค์นั้น
[…………………]
Faraday : โชคร้ายสำหรับเราที่ “คนที่เราสนใจ” มันเก่งในเรื่องที่มันทำมาก
Faraday : ถึงอย่างนั้น ถ้าอย่างน้อยเป้าหมายของเจ้านั่นก็ทำเจ้านั่นเลือดออกได้สักนิด มันก็คงจะช่วยเราได้เยอะ…
[…………………]
Faraday : ไม่ ไม่มีอะไรนอกเหนือจากที่เรารู้แล้วเลย แต่กันไว้ก่อนก็ดีกว่าแก้
Faraday : ด้วยไวรัสตัวร้ายนี่ ข้อมูลคดีน่าจะเสียหายจนกู้คืนไม่ได้อีก
Faraday : มันเกือบจะง่ายไปหน่อยด้วยซ้ำน่ะนะ เพราะเมื่อมันดูเหมือนแฟลชไดร์ฟ มันก็ต้องเป็นแฟลชไดร์ฟ…ซะที่ไหนล่ะ!
[…………………]
Faraday : ใช่ พวกมันเป็นแบบนั้นจริงๆใช่ไหมล่ะ? เราทุกคนต่างก็ยอมรับความจริงที่เราถูกนำเสนอกันทั้งนั้นนี่จริงไหม?
เมื่อเสร็จเรื่องแล้ว “Faraday” ก็ทำการ “เคลื่อนย้าย” ออกไปท่ามกลางความตกตะลึงของเหล่าตำรวจที่ไม่รู้เรื่องเลย
[…………………]
Faraday : ไม่ละ ฉันไม่สนใจจะดูสีหน้าของเจ้าพวกนั้นหรอก ตอนนี้หลักฐานนิติเวชและข้อมูลทุกอย่างก็ถูกทำลายไปแล้ว ภารกิจเสร็จสิ้น
[…………………]
Faraday : ไม่รู้จักสนุกงั้นรึ? ฉันก็คงจะเป็นแบบนั้นจริงๆล่ะนะ ซึ่งฉันก็คิดว่านั่นเป็นเรื่องที่ดีแล้วล่ะ
[…………………]
Faraday : แน่ละที่นายต้องเห็นด้วย ว่ากันตรงๆแล้วนายก็ไม่มีทางเลือกมากนักหรอก
Faraday : ทีนี้ก็ทำตัวให้ดีๆแล้วอัพเดทที่อยู่ของกริฟเตอร์ให้ฉันทีซิ?
ตัดกลับไปที่งานศพ
พวกฮีโร่กำลังแบกโลงศพของ Green Arrow ไปใส่ในรถขนศพเพื่อนำไปส่งที่สุสาน
ในขณะที่เหตุการณ์กำลังถูกถ่ายทอดสดผ่านโทรทัศน์ คนที่ดูอยู่ก็มีความคิดต่างๆกัน
แต่ในขณะที่คนส่วนใหญ่แสดงความนับถือพวกฮีโร่ เจ้าของบาร์เหล้าคนหนึ่งกลับมีท่าทีไม่ค่อยประทับใจเท่าไหร่นัก
ขณะเดียวกันนั้นที่ Seattle
Firestorm ก็ถูก Arsenal (Roy Harper) อดีตลูกศิษย์ของ Green Arrow หาเรื่อง
Arsenal โทษว่าเป็นเพราะ Firestorm มาหลังจากที่เกิดเหตุไปแล้วกว่าชั่วโมงถึงทำให้ Oliver ต้องตาย ซึ่งเมื่อ Firestorm พยายามกลบเกลื่อนโดยโกหกว่าเขาทำภารกิจอื่นอยู่
แต่ก็โดนเปิดโปงว่าพวก JL ได้เช็คดูรูปแบบการใช้พลังของ Firestorm ดูแล้ว และพวกเขาก็รู้ด้วยว่ากว่า Firestorm จะรวมร่างกันมันก็หลังจากที่ Oliver ส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือไปนานแล้ว
ซึ่งความอับอายที่ถูกเปิดโปงและความจริงที่รู้ว่าตัวเองถูกเฝ้าดูก็ทำให้ Ronnie ฉุนขึ้นมา!
จนสุดท้าย Firestorm กับ Arsenal ก็วางมวยกัน
แต่ก่อนที่เรื่องจะไปกันใหญ่ คนหน้าใหม่คนหนึ่งก็มาห้ามไว้ (Superman?)
Firestorm จากไป ทิ้งเหล่าฮีโร่คนอื่นๆไว้เบื้องหลัง
ในคืนนั้น ที่บ้านของ Lois Lane
“ไม่มีคำพูดใดๆออกมาเลย”
“ฉันคือนักข่าวอิสระที่ประสบความสำเร็จสูงสุด บล็อค “The Fast Lane” ของฉันก็เป็นแหล่งข่าวที่ได้รับความนิยมและได้รับความเชื่อถือที่สุดในโลก”
“แต่กระนั้น…ในคืนอย่างคืนนี้…ฉันรู้สึกหมดเรี่ยวแรง ฉันรู้สึกว่าไม่มีคำพูดอะไรที่จะเขียนออกมาได้เลย”
“โอลิเวอร์ ควีน…กรีนแอร์โร่ว์ตายไปแล้ว และถึงฉันจะพยายามเต็มที่แล้วก็ตามฉันก็ไม่รู้จะเขียนอะไรดี”
“ฉันไปอยู่ที่นั่น ฉันอยู่ร่วมในงานศพ ได้รับอนุญาติให้เข้าไปอยู่ในวงในของสังคมซุปเปอร์ฮีโร่ พวกเขาต้องการให้ฉันเขียนเกี่ยวกับเขา พวกเขาอยากให้ฉันกล่าวไว้อาลัยให้กับชีวิตของเรา”
“แต่ฉันมีความรู้สึกอย่างหนึง เป็นความรู้สึกที่ฉันจะเจอเมื่อฉันรู้ว่าลึกๆแล้วบางอย่างมันไม่ค่อยถูกต้อง บางอย่างมันไม่ลงตัว…”
“เพอร์รี่เคยพูดไว้เสมอว่า อย่าไปเร่งมัน ถ้าเรื่องราวมันสมควรที่จะถูกบอกเล่าจริงๆล่ะก็ มันจะปรากฎตัวให้เห็นเอง”
ทันใดนั้นก็มีเสียงเคาะประตูห้องพักของ Lois
เมื่อเธอไปดูก็ไม่เห็นใคร แต่มีพัสดุจ่าหน้าถึงเธอ
และเมื่อเธอพัสดุนั้นดู เธอก็พบกับของสองสามอย่างที่ประกอบด้วย หัวธนูสีแดง, กลักไม้ขีดที่มีชื่อยี่ห้อ “Wounded Duck”, พีรามิดจำลองสีเขียว และมีโน๊ตเขียนไว้ว่า
[4238161052010]
[โลอิส ไปคนเดียว อย่าเชื่อใครทั้งนั้น]
“…แล้วมันก็เกิดขึ้นมาซะอย่างนั้น…เรื่องราวจริงๆได้เริ่มเปิดเผยตัวต่อฉัน”
โปรดติดตามตอนต่อไป
พอดีไม่ค่อยได้ตาม DC เท่าไร เลยอยากถามว่า Green Arrow ตายตอนไหนหรอครับ
@CrazySky
ในเล่มแรกของซีรีย์นี้ครับ
ปล.แต่จะเรียกว่า “ยังไม่ตาย” ก็ได้เหมือนกัน เพราะซีรีย์นี้เป็นเรื่องราวในอนาคตอีก 5 ปีข้างหน้า จากหัวเล่มอื่นๆ ซึ่งในอีเวนต์ที่เกี่ยวกับเวลาแบบนี้นั้น ตราบใดที่ยังไม่จบซีรีย์และยังไม่ถูกสรุปผลลัพธ์ให้แน่ชัดลงไปล่ะก็ สิ่งที่เกิดขึ้นในซีรีย์นี้ก็จะยังไม่ถูกนับว่าเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นในจักรวาลหลักครับ
@NetNN
อ่อ ขอบคุณครับ ถึงว่าไปไล่เปิดใน forever evil แล้วหาไม่เจอ