Infinity Tie-In : Captain Marvel #15
เรื่อง : Kelly Sue DeConnick, Jen Van Meter
ภาพ : Patrick Olliffe, Drew Geraci, Andy Troy, Joe Quinones
วางจำหน่าย : 28 สิงหาคม 2013
สำนักพิมพ์ : Marvel Comics
ศึก Battle of Corridor เริ่มขึ้นแล้ว
และ 1 ใน 2 ผู้นำทัพ Avengers ก็คือเธอผู้นี้ Carol Denvers หรืออีกชื่อในนามฮีโร่
Captain Marvel!!
เริ่มเรื่องมาก็ช่วงเตรียมรอดักตุ๋ยซุ่มโจมตีเหมือนตอนต้นเรื่อง Avengers Assemble #18
(แน่นอน เพราะสองหัวนี้เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นพร้อมๆกันครับ)
ย้อนกลับไปช่วงประชุมก่อนเตรียมตัวออกรบ
Cap : อย่างที่เราเห็นกัน The Builders สามารถเป่าดาวให้เป็นฝุ่นได้ในเวลาไม่กี่วินาที แต่ถึงแม้โอกาสรอดของพวกเราจะน้อยนิด แต่เราก็มีทางออกที่แน่วแน่
Cap : นั่นคือเราจะยืนหยัดสู้เพื่อปกป้องโลก เราจะต่อสู้ร่วมกับเพื่อนร่วมอวกาศของเรา เราจะยืนหยัดไปด้วยกัน
“คำพูดของ Captain America (Steve Rogers) ล้วนจับใจทุกคนที่นี่ มันทำให้รู้สึกถึงความเป็นฮีโร่, ผู้ปกปักรักษา, นักรบ, เกียรติหน้าที่, การเสียสละ, และนู่นนี่นั่นอีกเยอะแยะ”
“ไม่มีใครรู้สึกว่าตัวเองมาที่นี่เพื่อเอาชีวิตมาทิ้งเลย พวกเขาล้วนมาเพื่อต่อสู้ เพื่อตอบโต้กลับ”
“ส่วนชั้นน่ะเหรอ ชั้นรู้สึก…”
“ไม่รู้สึกอะไรเลยสักกะติ๊ด คงเพราะความทรงจำของชั้นหายไปเนื่องจากการต่อสู้กับ Yon-Rogg”
(ที่มาเรื่องแคโรลสูญเสียความทรงจำ มีอธิบายไว้ที่ท้ายเล่มของ Avengers Assemble #18 แล้วครับ)
“เมื่อไม่มีความทรงจำ ก็เป็นเรื่องยากที่จะมีความรู้สึกเกี่ยวข้องกับใครๆ ชั้นมาที่นี่เพราะชั้นรู้ว่าชั้นควรจะมา และก็เพราะชั้นไม่รู้จะไปทำอะไรอย่างอื่นเช่นกัน แต่สำหรับเรื่องความกระหายชัยชนะ ความผูกพันน่ะเหรอ”
“ชั้นแกล้งทำเป็นว่ามีน่ะ”
และผู้ที่จะมาเป็นผู้ช่วยนักบินของเธอก็คือ Hawkeye (Clint Barton) นั่นเอง และนอกจากนี้เธอยังบอกให้คลินท์อีกด้วยว่ายานของเธอจะนำ Captain Universe ไปด้วย แนะบอกให้คลินท์ไปเรียกลูกเรือคนอื่นๆ ได้แก่ Starbrand, Nightmask, Abyss ส่วนเธอจะไปตามคนที่เหลือ ได้แก่ Cannonball และ Sunspot
แม่เจ้า ยานลำนี้มีแต่ตัวเมพๆ
ปัจจุบัน ยาน Quincruiser ทั้งสองอยู่ในตำแหน่งเตรียมโจมตีแล้ว
และในที่สุด สัญญาณบุกก็มา
Carol : เตรียมตัวลุย พี่น้อง
“ภาคพื้นดิน, กลางอากาศ หรือแม้แต่ในอวกาศ ถ้าหากมันเป็นการรบในระดับขนาดนี้ ไม่มีทางที่เราจะเห็นรูปการณ์ต่อสู้ทั้งหมดหรอก”
“เราต้องค่อยๆเชือดเฉือนอีกฝ่ายทีละนิด”
Clint : หันหัวสัก 3 องศาซิ เดี๋ยวพี่จัดให้เอง
จัดให้เต็มๆหนึ่งลำ แม่นสมชื่อจริงๆ
Cap : เป้าหมายกำลังรุมยำยานขนส่ง Spartax อยู่ ทิศ 8 นาฬิกาของเธอ
Carol : รับทราบ เรากำลังจะไปสมทบ
“เราเสียเปรียบด้านจำนวน”
Skrull Fighter : ยานรบ Skrull หมายเลข 9 เรียกยานโลกหมายเลข 2 เราต้องการความช่วยเหลือเพื่อตีขนาบข้าง
Carol : รับทราบ ยานรบสกรัลหมายเลข 9
“แต่แผนของเราแข็งแกร่งกว่า”
ด้วยความร่วมมือของสกรัลและแคโรล ทำให้สอยยานบิลท์เดอร์ได้อีกอย่างง่ายดาย
Skrull Fighter : คุณทำเหมือนมันง่ายจัง คงจะฝึกมาหนักสินะ ยานโลกหมายเลข 2
Carol : ขอบคุณ ยานรบหมายเลข 9 คุณเรียกเราได้จังหวะดีด้วยล่ะ
Cap : ยานอีกฝ่ายถูกทำลายแล้ว กดดันต่อไป คอยสนับสนุนยานให้อยู่ในตำแหน่ง และตรึงการเคลื่อนไหวข้าศึก
Carol : มาร์เวลเรียกลูกเรือ ได้เวลาเก็บกวาดแล้ว ช่วยเหลือผู้ที่บาดเจ็บ จัดการ Alephs ที่หลุดรอดเข้ามา เราจะคอยคุ้มกันเอง
“เราควบคุมเกมไว้ได้ ราวกับว่าศึกนี้เหมือนเกมเด็กเล่นไปเลย”
และก็ได้เวลาเหล่าลูกเรือจะออกไปลุยบ้างแล้ว ยกเว้นเจ้าแม่ ที่ยังนอนโหลแช่ยาดองฟื้นสภาพอยู่
Sunspot : จำที่เราคุยกันได้ใช่มะ
Starbrand : เรื่องไหนอ่ะ ให้รีแลกซ์ หรือว่าที่ว่าอวกาศมันสุโก้ยโคตร
Cannonball : นี่แหละเฟ้ย คือช่วงเวลาที่ความสุโก้ยจะเริ่ม
“นี่มันยิ่งกว่าการสื่อสารกันเสียอีก ต้องขอยินดีกับทุกๆคนด้วย นี่มันไม่ใช่แค่ความสำเร็จ แต่มันคือการร่วมแรงร่วมใจข้ามเผ่าพันธุ์ ข้ามดาวเลยนะเนี่ย ”
“และหลังจากนั้น ทุกๆอย่างมันก็เริ่มพังทลาย”
จู่ๆยานบิลท์เดอร์ก็โผล่ออกมาอย่างไม่มีที่มาที่ไปเต็มไปหมด
สถานการณ์เริ่มเปลี่ยน เหล่า Galactic Council เสียท่าซะแล้ว
“พวกบิลท์เดอร์มันพรางตัวอยู่ทุกที่เลย จำนวนตอนนี้น่าจะ 3 หรือบางทีอาจจะ 4 เท่าจากที่เราเห็นตอนแรกก็ได้ เราเสียกำลังพลมากมายมากในเวลาแค่ไม่กี่วินาที”
Carol : ถอนตัว! ลูกเรือของชั้น กลับเข้ายานซะ เดี๋ยวนี้ ย้ำอีกครั้ง ถอนตัว!
โชคดีที่ทุกคนสามารถกลับมายานได้โดยไม่มีใครเป็นอะไร แต่โชคร้ายกลับไปอยู่ที่ฝั่งแคปแทน
Carol : AV-2 ปลอดภัยแล้ว AV-1 ล่ะ
Cap : เราถูกโจมตี ไอพ่นไม่สามารถใช้งานได้ แล้วหน้าจอชั้นก็เห็นมันบุกมาเต็มไปหมดเลย คงต้องให้คุณช่วยแล้วล่ะ ถ้าทางนั้นเรียบร้อยแล้ว
Carol : ใกล้จะถึงแล้ว สตีฟ
แต่แคโรลไม่สามารถจะยิงสนับสนุนแคปได้ เพราะมีใครบางคนอยู่ในรัศมีปืน
Clint : เจส! เธอบังทางปืนอยู่
Carol : ชั้นเห็นแล้วล่ะ เธอต้องทำได้อยู่แล้ว เตรียมยิง สาม… สอง…
“Spider-Woman (Jessica Drew) เพื่อนรักของชั้น รวมทั้งยังเป็นแฟนเก่าของฮอคอายด้วย แต่ชั้นจะปล่อยอารมณ์ความรู้สึกมารบกวนการตัดสินใจของชั้นไม่ได้”
Carol : หนึ่ง!
ด้วยความเชื่อใจในตัวเจส เธอตัดสินใจยิงใส่ยานบิลท์เดอร์ทันที ส่วนก็สามารถกระโดดหลบออกนอกรัศมีกระสุนไปได้อย่างหวุดหวิด
“ดีจริงๆ ที่มันไม่ใช่ปัญหาอะไรมาก”
Cap : ยืนยัน เราได้ตัว Hulk แล้ว
Carol : แล้วเจสล่ะสตีฟ ได้ตัวเธอรึยัง
Cap : ยังเลย แต่สัญญาณวิทยุของเธอยังไม่หายไป เธอไม่น่าจะอยู่ไกลจากเรา และก็ เอ่อ แคโรล เราได้รับคำสั่งให้ถอยกลับ ชั้นจำเป็นต้องให้ Manifold พาพวกเราวาร์ปไปเสียแล้ว
Clint : โธ่ เจส
Carol : พวกเราจะตามหาเธอเอง แคป
Abyss : กำลังรบที่เหลือของเรากำลังถูกต้อนแล้วนะ
Carol : คำสั่งถอยร่นมาแล้ว แต่แนวกลุ่มยานตรงนี้ยังกลับไม่ได้ คงต้องเคลียร์เส้นทางก่อน
Carol : Spider-Woman เธอไปอยู่ที่ไหนกันเนี่ย
Cap : แคโรล เราจับสัญญาณของเจสได้แล้ว เธอยังมีชีวิตอยู่ แต่เธอกำลังปฏิเสธความช่วยเหลือของสหายของเราอยู่
หมายความว่ายังไง เจสยังไม่ตาย แต่เธอกลับไม่ยอมรับความช่วยเหลือ?
Cap : คุณเข้าไปช่วยหน่อยได้ไหม อย่างด่วนด้วย
Carol : ด่วนเหรอ ได้สิ เตรียมตัวรอได้เลย
เมื่อกลุ่มของแคโรลไปถึง สิ่งที่อยู่ตรงหน้าพวกเขาก็คือเจสกำลังจะทำร้าย Skrull ที่เข้ามาช่วยเหลือเธอ
(เจสเคยถูกสกรัลจับตัวไป และราชินีสกรัลก็ปลอมตัวเป็นเธอเพื่อมาบุกโลกใน Secret Invasion เหตุการณ์นี้ทำให้เธอเสียเครดิตตัวเธอเองพอสมควร ทำให้เธอเกลียดเผ่าพันธุ์นี้มาก)
Clint : หยุดนะเจส เขามาเพื่อช่วยชีวิตเธอนะ
อ้าว ตกลงเป็นเสียงอีตาคลินท์เหรอเนี่ย ใน Avengers Assemble #18 เข้าใจผิดว่าเป็นเสียงแคปเต็มๆ 😛
“ฮอคอายพูดแทนเราทั้งคู่ เพราะ… เพราะชั้น… ชั้นไม่มีจะพูด”
เป็นเพราะผลกระจบจากการที่แคโรลความจำเสื่อมนั่นเอง เมื่อเธอไม่มีความทรงจำเก่าๆเหลืออยู่ ก็เป็นเรื่องยาก ที่จะสามารถนึกอะไรออกมาพูดได้ทันท่วงที
ในที่สุดเจสก็ยอมซ้อนท้ายสกรัลแว๊นกลับไปหาแคป
เมื่อแคปได้ตัวเจสแล้ว แคปก็ไม่ลืมที่จะขอบคุณแคโรลด้วยการ… ชิ่งไปทันที!
Cap : แคโรล ยานของเราได้รับความเสียหาย ถ้าคุณไม่ต้องการพวกเรา เราจะถอยกลับแล้วนะ
ยานเอ็งไปเสียหายตอนไหนฟระ!! จำได้ว่าฟื้นสภาพไอพ่นแล้วไม่ใช่เหรอ!
Carol : ไปเลยแคป ทางนี้ขอคุ้มกันยานสปาร์แทกซ์ เสียก่อน ไว้เจอกันที่วงแหวนนะ
Cap : รับทราบ
พูดจบก็วาปกลับไปทันทีอย่างไร้เยื่อใย
แคโรลติดต่อยานสปาร์แทกซ์เพื่อเตรียมเข้าไปสนับสนุน แต่คำตอบที่ได้รับกลับมา คือยานสปาร์แทกซ์ไปต่อไม่ไหวแล้ว ลูกเรือทุกคนเริ่มสละยานกันหมด
จากนั้นเธอก็พบยาน Shi’ar ลำหนึ่งถูกโจมตี เธอจึงบินเข้าไปช่วยเหลือทันที แต่มันช้าไปเสียแล้ว
ยานลำนั้นระเบิดต่อหน้าต่อตา แรงระเบิดส่งผลกระทบสู้ยานควินครุยเซอร์ 2 เต็มๆ
ยานควินครุยเซอร์ถูกแรงระเบิดดันจนเริ่มเข้าสู่กระแสหลุมดำ
“มัน… มัน… มันมาแล้ว”
“มันอยู่ที่นี่”
แคโรลได้สติแล้ว พร้อมกับแววตาของเธอที่เริ่มเปล่งแสง
Carol : คลินท์ มานี่ เราสลบไปเพราะแรงระเบิด ยานของเราได้รับความเสียหาย
Carol : และเรากำลังเข้าสู่กระแสหลุมดำ ชั้นส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือไปยังยานของ Kree แล้ว
Carol : ทุกคนเข้าไปในยานหลบหนีซะ นี่คือคำสั่ง
Clint : แผนนี้มันจะเวิร์คเหรอ
Carol : พวกครีรออยู่ด้านนอก ใกล้ที่สุดเท่าที่พวกเขาจะใกล้ได้ ชั้นจะระเบิดยานลำนี้ทิ้ง เพื่อให้ยานหลบหนีมีแรงส่งเพิ่มเติมมากพอที่จะหลุดจากกระแสหลุมดำไปได้
Clint : ครบทุกคนแล้ว
Carol : งั้นก็ตานายแล้ว เข้าไปซะ
Clint : ชั้นว่าชั้นรอไปพร้อมกับเธอดีกว่านะ แคโรล
Carol : นั่นไม่ได้อยู่ในตัวเลือก ชั้นต้องอยู่เพื่อตั้งเวลาระเบิด ชั้นเอาตัวรอดในอวกาศได้ แต่นายไม่ใช่ และเราก็ไม่มีเวลาให้มาเถียงกันด้วย
Clint : ชั้นไม่ชอบเลยว่ะ
Carol : ชั้นก็ไม่แคร์เช่นกัน
เมื่อคลินท์ไปแล้ว เธอก็เตรียมตัวระเบิดยานทันที
“ชั้นมีเวลาแค่ไม่กี่วินาที บางที… ถ้าชั้นโชคดี สัญชาติญาณ, อดรีนาลีนของชั้นมันพลุ่งพล่านไปหมด และค่อยๆสงบลง”
แคโรลกดปุ่มระเบิดยานโดยไม่ลังเล แรงระเบิดพายานหลบหนีกระเด็นออกไปได้ตามแผน ส่วนเธอเองนั้น ก็ลอยเคว้งในอวกาศเพราะแรงระเบิดเช่นกัน
“ชั้นไม่รู้สึกอะไรแล้ว”
“ไม่รู้สึกอะไรเลย…”
“และจากนั้น…”
แววตาของแคโรลเริ่มเปล่งแสงอีกครั้ง ความนี้มันเจิดจ้ายิ่งกว่าเดิมเสียอีก
“ชั้นก็รู้สึกได้ถึงทุกสิ่งทุกอย่าง”
Captain Marvel เข้าสู่สถานะ Binary แล้ว!!
(Binary คือสถานะของแคโรลเมื่อได้พลังงานมากพอสมควร โดยเมื่ออยู่ในสถานะนี้ เธอจะสามารถสร้างพลังความร้อน, แสง, รังสี หรือแม้แต่การเข้าถึงพลังงานรูปแบบต่างๆเกือบทุกประเภทครับ)
Binary Mode นี่เท่ห์ดีแฮะ
ฝากฝังพี่ด้อม(playdom)เอาร่างนี้ลง MAA(marvel:avenger Aliance) ด้วยเถิดดดด ร่างเดิมกากเกิน~
Captain Marvel นี่มีพลังอะไรบ้างอ่ะครับ เเล้วเธอเก่งขนาดไหน สู้ Thor ได้มั้ย
เพิ่งเคยเห็นโหมดนี้นะเนี่ย – -*
Pingback: Avengers #19 – INFINITY Part 2