Brightest Day #6
เรื่อง : ฺ GEOFF JOHN และ PETER J. TOMASI
ภาพ : IVAN REIS, PATRICK GLEASON, ARDIAN SYAF,
SCOTT CLARK และ JOE PRADO
วางจำหน่าย: 21 กรกฏาคม 2010
สำนักพิมพ์ : DC Comics
ความลับที่แท้จริงของ Mera
ที่สวน Big Hendy ในเมือง California
มนุษย์ดาวอังคารผู้ลึกลับผู้ที่เดินทางมาก่อน J’onn J’onzz มาถึงโลกได้จ้องมองหนุ่มสาวที่อินเลิฟกันอยู่
บุคลิกฝั่งสาวของมันต้องการจะใช้ชีวิตแบบเดียวกับคู่นี้แต่อีกฝั่งเห็นว่าไม่ใช่เวลามาคิดเรื่องไร้สาระ เพราะมีภารกิจที่สำคัญรออยู่ J’onn J’onzz ได้กลับมาแล้วและพวกมันมีแผนอะไรซักอย่างกับเขา แต่ถึงแม้มันจะไม่ได้ชีวิตรักที่ต้องการ ก็ต้องห้ามคนอื่นได้ มันจึงฆ่าสองคู่รักที่ไม่รู้เรื่องอะไรกับเขาด้วย
สุดท้ายมันก็บอกแผนการที่จะดึงความสนใจจาก J’onn ได้ก็คือเล่นงานคนที่เป็นพวกเดียวกันกับ J’onn
ที่ Denver Colorado ซากห้องแลปเก่าของ ศาสตราจารย์ Erdel ผู้ที่พาเขามายังโลกนี้
J’onn ได้ลองสำรวจไปรอบตึกและพบว่าเกิดปฏิกิริยาแปลกกับทุกสิ่งที่เขาได้สัมผัสและใช้จิตสื่อสารกับมัน
ใช่แล้วทุกสิ่งที่เขาสัมผัสจะตาย ทั้งใบไม้ต้นไม้ได้กลายเป็นซากไปหมด
ที่ Georgetown ด้าน Boston กำลังใช้แหวนขาวชุบชีวิต Holly น้องสาวของ Dove อยู่แต่แหวนไม่ทำงาน
Hawk : ฉันนึกว่าแกเป็นคนสั่งแหวนอีก
Boston : ผมไม่ได้สั่งซะหน่อย
Hawk : ไม่เห็นมันส่องแสงเลย
Boston : บางทีถ้าคุณรู้จักหุบปากเสียบ้าง ผมอาจสั่งมันได้ก็ได้ เห็นไหมผมกำลังเพ่งสมาธิอยู่นะ เหมือนกับที่ กรีนแลนเทิร์น ทำ
Hawk : กรีน แลนเทิร์น น่ะเหรอ แกไม่ใช่พวกมันซะหน่อย
Dove : บอสตัน แหวนมันแตกต่างจากของพวก กรีน แลนเทิร์นนะ การใช้ความมุ่งมั่นคงไม่ได้ทำให้ควบคุมมันได้หรอก คุณบอกว่ามันเคลื่อนย้ายคุณไปทั่วทุกมุมโลก
Boston : จักรวาลต่างหากล่ะ ตั้งแต่แหวนพาผมไปที่ ควอด เพื่อไปเผชิญหน้ากับ แอนติ-มอนิเตอร์ มันก็ทำให้คิดได้ว่า ผมมีชีวิตยู่ และผมต้องมีชีวิตอยู่ให้ได้
Dove : งั้นความหมายของมันก็คือให้คุณเข้าใจชีวิตน่ะซิ คุณมีความสุขกับเรื่องอะไรบ้างตอนที่ยังมีชีวิตอยู่
Boston : นั้นมันนานมาแล้วนะ..
Boston : จนผมจำไม่ได้แล้ว
Dove : มันต้องมีบางอย่างที่ทำให้คุณมีความสุขซิ ตอนนั้นคุณเป็นนักกายกรรมใช่ไหม
Boston : ที่ทำก็เพื่อเงินเดือน
Dove : แล้วถ้าเป็นใครบางคนที่พิเศษกับคุณล่ะ
และแล้วแหวนก็ส่งเสียงออกมา
“เขารักชีสเบอร์เกอร์”
Hawk : “เขารักชีสเบอร์เกอร์” อะไรของมันฟ่ะแล้วมันเกี่ยวอะไรด้วย
Boston เริ่มนึกถึงช่วงที่เขามีชีวิตใช่เขารักชีสเบอร์เกอร์ มันทำให้เขารู้สึกอยากมีชีวิตอีกครั้งเพื่อได้ลิ้มรสของมัน ทันใดนั้นเองแหวนก็ส่องแสงขึ้นมาอีกครั้ง ที่สุสานของ Holly
แต่แล้วสิ่งที่พุ่งขึ้นมาไม่ใช่ร่างที่มีชีวิตของ Holly มันเป็นร่าง Black Lantern ของเธอ!
Holly : แกน่าจะปล่อยให้ฉันอยู่คนเดียว
Holly : เอาแหวนนั้นมาให้ฉัน พาฉันไปหาตะเกียงของมัน
Boston : ไม่ ถอยไป
ในที่สุดแหวนขาวได้ปล่อยพลังแสงออกมา เป็นร่างของ Don Hall เข้ามาโจมตี Holly จนร่างของเธอสลายไป
“ความเกลียดชังที่ผู้อื่นได้กล่าวไว้ ความตายมิใช่ความตาย”
Hawk : เกิดอะไรขึ้น น้องของ ดัวฟ ไปไหนแล้ว
Dove : สภาพหลุมของ ฮอลลี่ ไม่ได้ถูกขุดขึ้นมา
Boston : เพราะว่าเธอไม่ได้ขุดขึ้นมาจริงๆน่ะสิ มันเป็นแค่…
“คำเตือน”
Hawk : เตือนอะไรห่ะ เตือนไม่ให้เราชุบชีวิตคนตายน่ะเหรอ นั้นคือสิ่งที่แกทำกับฉันกับเดดแมน นะเว้ย ไอ้แหวนบ้า ทำไมกัน ทำไมม่ทำกับพี่ฉันกับน้องดัวฟ บอกซักอย่างมาซิเว้ยยย
“กิน ชีสเบอร์เกอร์”
Hawk : เอ่อ…อะไรนะ
Boston : ตอนนี้เกิดอะไรขึ้นกับผมละเนี่ย
Hawk : แกหิวไงพ่อคนฉลาดน้อย
Dove : เอ่ม บอสตั้น คุณได้ทานอะไรมาบ้างหรือยังตั้งแต่กลับมา
Boston : ก็ตั้งแต่เจ้าแหวนพาผมไปนู้นนี้ ก็แทบไม่ได้กินอะไรเลย
ที่มหาลัย Pittsburgh
ขณะที่ Jason เดินกลับบ้านเขาก็ได้ยินเสียงประหลาดดังขึ้นในหัว
“เฮ้ เจสัน”
Jason : อะไร
“โครงสร้างตอมมิคของหมากฝรั่งคืออะไรเหรอ”
พอ Jason หันไปมองดูเครนยกของที่อยู่ใกล้ๆก็พบว่ามันกลับจะกลายเป็น
หมากฝรั่งสีชมพูพร้อมที่จะถล่มลงมาซึ่งคนที่อยู่ด้านบนก็จะร่วงลงมาด้วย
Jason เห็นแล้วไม่ได้การเขาคิดว่าต้องมีคนช่วยและคนที่จะยื่นมือมาช่วยตอนนี้ก็มีแต่เขาเนี่ยแหละ
ทางด้าน Ronnie จู่ๆก็ได้ยินเสียงคนมาปลุกและสัญลักษณ์ Matrix ของ Firestrom ก็ปรากฏขึ้น
มารู้สึกตัวอีกที Ronnie กับ Jason ก็รวมร่างเป็น Firestorm ซะแล้ว
Jason รู้สึกปวดหัวอย่างหนัก Ronnie บอกว่าเป็นเพราะเขาเมานิดๆ แต่จะมัวเถียงไม่ได้คนร่วงลงมาแล้ว
Ronnie บินไปพยายามจะไปรับตัวชายก่อสร้างแต่ดันหวืด
แต่ด้วยความเร็วของ Firestorm ที่ไม่เร็วนักคงจะบินตามลงไปรับไม่ทัน
Ronnie : โอเค ฉันไม่ได้เร็วขนาดบินตามเขาทัน เราต้องใช้อะไรบางอย่างมารองรับเขา อย่างเช่นไอศครีมไง
Jason : ถุงลมดีกว่าไหมเนี่ย
Ronnie : เอ่อดีกว่า
Firestorm ได้สร้างถุงลมขึ้นมาเพื่อรองรับชายก่อสร้างได้ทัน แต่เมื่อกำลังลงไปถามว่าเป็นไงบ้าง
Ronnie กลับมึนหัวและอ๊วกเป็นเมือกสีดำออกมา
พอบินออกมาด้านนอก Ronnie ได้ยินเสียงคนอื่นคุยกับเขามาโดยตลอด
และตอนนี้เขาก็มึนหัวมากจนกระทั่งร่วงลงมายังพื้นหญ้าด้านล่าง
Ronnie พยายามสลัดเสียที่ดังขึ้นมาในหัวออก มันเอาแต่พูดถึงสิ่งที่เขาทำกับ Gen
ตรงนี้เองที่เขาหลุดพูดออกมาว่าเขามีความทรงจำของ Black Lantern ตอนที่ฆ่าเธอ
Jason : รอนนี่ย์ นายจำมันได้เหรอ ได้ไง ไม่มีใครจำเรื่องราวต่างๆได้ตอนที่ร่างเป็น แบลค แลนเทิร์น
Ronnie : ฉันสลัดภาพที่เธอกลัวออกจากหัวไม่ได้น่ะสิ ฉันขอโทษด้วย เจสัน
อยู่ดีก็มีเสียงแทรกขึ้นมากคราวนี้ Jason ได้ยินด้วย
“ใช่ มันเสียใจ เจส แต่กับฉันน่ะเหรอ ไม่รู้สึกอะไรเลย”
Jason : ใครพูดน่ะ
Ronnie : นายได้ยินด้วย
Jason : เอ่อ สิ
Ronnie : นึกว่าฉันบ้าได้ยินคนเดียวซะอีก
Jason : รอนนี่ ฉันว่ามีใครบางคนอยู่กับเราด้วย
ทะเลทางใต้ของสหรัฐอเมริกาหลังจาก Mera ได้บอกว่าที่แท้จริงเธอถูกส่งมาให้ฆ่า Arthur
เขาก็งงไปหมดและต้องการให้เธออธิบายความจริงมาทั้งหมด
Arthur : เราผ่านอะไรมาด้วยกันตั้งเยอะ ได้โปรดเมร่า บอกความจริงกับผม
Mera : ความจริงคือ…ฉันโกหกคุณตั้งแต่วันแรกที่เราพบกัน
จากนั้นเธอก็เล่าว่าแท้จริงแล้วเธอเป็นชนเผา Xebel ผู้ที่ทำสงครามกลางเมืองแบ่งแยกดินแดนกับชาว Atlantis และโดนเนรเทศออกไป ที่สามเหลี่ยม Bermuda พวก Xebel พยายามหนีออกมาจากที่นั้นแต่ก็ทำไม่เคยสำเร็จ พ่อของเธอราชาแห่ง Xebel จึงฝึกเธอ ให้เป็นอาวุธเพื่อทำการล้างแค้นชาว Atlantis ซึ่งในตอนแรกเธอก็เกลียดชังพวก Atlantis แบบไม่ได้ตั้งข้อสงสัยอะไร วันนึงพ่อของเธอได้เลือกให้เธอทำภารกิจที่สำคัญคือ ตามหาราชาแห่ง Atlantis แล้วฆ่าเขาซะ
วันที่เธอได้เจอกับ Arthur เธอก็ค้นพบว่าเขาไม่ได้เป็นอย่างที่ พ่อเธอได้บอกไว้ ความเกลียดชังของเธอได้หายไป Mera พยายามฝั่งตัวตนเก่าของเธอและใช้ชีวิตใหม่กับ Arthur เพราะเขาคือคนที่ทำให้ Mera มีความสุข
จนกระทั่ง Black Manta ได้ฆ่าลูกของเธอ ตั้งแต่นั้น Mera ก็โทษ Arthur มาตลอด
Mera : ฉันโทษคุณ แต่นั้นก็เป็นความผิดฉันด้วยเหมือนกัน แบลค แมนทา รู้จักคนของฉันก่อนที่เขาจะพบคุณเสียอีก การตายของลูกเราเป็นการแก้แค้นต่อคุณและต่อฉันด้วย
Arthur : แล้วผู้หญิงที่จู่โจมเราล่ะ
Mera : นั้นคือกลุ่มทหารของ เซเบล นำโดยคนที่มาแทนตำแหน่งฉัน ไซเรน น้องสาวของฉันเอง
ที่ The Still Zone ที่กักขัง White Martian
J’onn J’onzz ได้มาสำรวจที่นี่เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มี White Martian ตนไหนหลุดออกไปทำการฆาตกรรมครอบครัวนั้น ซึ่งคอมพิวเตอร์ยืนยันว่าไม่มี White Martian หลุดออกไปทุกอย่างเป็นปกติดี แล้วใครกันล่ะเป็นผู้ที่ทำ
J’onn จึงไปขอความช่วยเหลือจาก Oracle หรือ Barbara Gordon ที่ตอนนี้เฝ้า Batcave ทำหน้าที่คอยสนับสนุน Batgirl เขานำรูปที่เกิดเหตุให้เธอดูและขอโทษด้วยว่าภาพที่เห็นอาจจะสยองเกินไปแต่เธอกลับบอกว่าคืนที่เกิดเห็น Black Lantern โจมตี สถานีตำรวจ Gotham คืนนั้นก็สยองพอๆกันเธอยังรับได้เลยไม่เห็นต้องขอโทษ
เข้าเรื่อง J’onn สงสัยว่าทำไมการตายของครอบครัวนี้ไม่ถูกเปิดเผยต่อสื่อเท่าที่ควร Barbara บอกว่านี้คงเป็นคดี Sub File คดีที่มีคนใครบางคนไม่ยอมให้ถูกเปิดเผยต่อสื่อ และเก็บงำเอาไว้เหมือนฝั่งไปในเรือดำน้ำ
พอ J’onn ถามว่าทำไมล่ะพวกเขาถึงต้องปกปิด เธอตอบว่าเพราะคดีนี้เป็นฝีมือพวกเหนือมนุษย์ทำ บางทีพวกเขาอาจจะไม่รู้ด้วยว่า มันเกิดอะไรขึ้งถ้าออกสื่อไป จะทำให้คนกลัวเปล่าๆ ซึ่งส่วนใหญ่จะอำพรางคดีโดยการบอกว่า รถชน หรือจมน้ำ
แต่ J’onn ไม่อาจเพิกเฉยได้ เพราะวิธีการฆ่าเป็นอะไรที่เขาคุ้นเคยอย่างมาก
จากนั้นก็ขอร้องให้ Barbara ติดต่อไปที่ Titans Tower ให้หน่อย
เมื่อติดต่อไป Superboy รับสายพอดี J’onn ขอให้เขาช่วยบอกให้ Miss Martian มาคุยด้วยหน่อยแต่ Superboy บอกว่าเธอไม่อยู่ ไปเดินเล่นแถวๆ ทะเลทราย Tanami ใน Australia แต่เขาจะส่งตำแหน่งของเธอไปให้ พอได้รับเอกสารบอกตำแหน่งของ Miss Martian แล้ว J’onn ก็รีบเดินทางไปหาเธอ
J’onn : ขอบคุณมาก บาบาร่า
Barbara : ดีใจที่คุณกลับมานะ
J’onn : ผมก็หวังว่าแบบนั้น
Barbara : หวังว่าเหรอ
พอเดินทางมาถึง Tanami
J’onn ก็รีบเดินเข้าไปทักทาย Miss Martian ที่อยู่ด้านใน
J’onn : ขอโทษที่ขัดจังหวะ มิ’แกนน แต่ผมพยายามหาวิธีติดต่อคุณด้วยพลังจิตตั้งหลายชั่วโมงแล้ว แต่คุณก็ไม่…
แต่เดินเข้าไป J’onn ก็ต้องตกใจเพราะว่า Miss Martian…โดนเล่นงานซะเละ
….. ตอนต่อไป ความลับของ ตะเกียงสีขาว เหตุผลที่พวกเขาคืนชีพ …..
เรียบ เรียงโดย :
อยากอ่านเล่มต่อไปเร็วๆจัง
despite ตัวนี้ไม่ได้แปลว่าเกลียดชังนะครับ
ตรงนี้น่าจะแปลว่าแตกต่างจากที่ชาวบ้านเค้าพูดกันน่ะครับ : )
Despite what others have said – ไม่ว่าคนอื่นจะเคยพูดว่าอะไร
น่าจะประมาณนี้ฮะ
ขอบคุณค่า มาต่อเนื่องทันใจ ^^
ขอบคุณมากครับ มันส์มาก
โคตรมันส์ more more
เดียวจะตามแก้ให้นะครับ